สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ได้นะครับ ไปเที่ยวแล้วค่อยไปทำ แต่ก่อนทำต้องพยายามลดหรือหยุดใช้พวกครีมบำรุงต่างๆก่อน รวมถึงอาหารเสริมด้วย เพราะว่าวิตามินบางตัวมันจะทำให้ทั้งเลือดแข็งตัวช้า และสูบฉีดดีขึ้น ทำให้เลือดออกเยอะได้ ถ้าไม่ติดอะไรก็ตามนั้นเลย ของผมเอเจนซี่พาไปทำที่ รพ เอบีครับ พี่ที่พาไปเค้าบอกว่าเวลาเลือก รพ ให้เลือกจากที่เค้าฮิตและทำตลาดในประเทศเค้าเป็นหลัก เพราะคุณภาพฝีมือและทรงจมูกจะดูสวยเข้าที่เข้าทรงมากกว่า จะเรียกว่าไงดี แบบเทสบ้านเค้าอ่ะมันจะเข้ามือหมอมากกว่า ราคาก็ไม่แพงครับถ้าเทียบคุณภาพที่ได้และความน่าเชื่อถือ คือไปทำถึงที่ สบายใจไปได้เยอะ เคสหลุดน้อยมากเท่าที่ผมหาดูนะ ของผมไปทำจมูกนี่แหละ ทรงสวยมาก เรียวยาว เข้ากับรูปหน้า คือทำออกมาเป็นทรงผู้ชาย ไม่หวาน แต่ออกมาสวย รพ นี้ผมตามๆดูงานเค้าอยู่ ละก็สนใจอยู่แล้ว ตอนที่ดีลดีลไว้กับคุณแหม่ม แต่คนที่ไปรับที่สนามบินจะเป็นพี่อีกคน ของ Ksst แต่เค้าก็ดูแลตั้งแต่เจอกันจนส่งกลับบ้านคือเทคแคร์ดีมาก อาหารการกิน คอยถ่ายรูปรายงานคุณแหม่มตลอด จ่ายทีเดียวจบ ไม่ต้องจ่ายจุกจิก ไปทำเองเสียมากกว่าเยอะครับ ลองทักไปปรึกษาคุณแหม่มแกดูก่อน เพจ '' รับปรึกษาศัลยกรรมเกาหลี จากประสบการณ์จริง 수술By MNP Amethyst ''
ความคิดเห็นที่ 25
ที่เกาหลีมีโรงพยาบาลดังๆหลายที่เลย ลองหาข้อมูลโรงพยาบาลอื่นดูบ้างหรือยังคะ ตอนเราไปทำก็พยายามติดต่อไว้หลายโรงพยาบาลเหมือนกัน แต่มีขั้นตอนยุ่งยากนิดหน่อยเพราะเราไม่ค่อยเก่งภาษา ต่อรองราคาไม่เก่งด้วย สุดท้ายเลยตัดสินใจปรึกษากับเอเจนซี่แล้วเทียบราคาดู ซึ่งราคาที่ได้จากเอเจนซี่ที่ให้เรามาเป็นราคาที่ถูกกว่า แถมเค้ายังช่วยประสานงานด้านเอกสารจองตั๋ว จองที่พักให้ทุกอย่าง มีล่ามกับรถรับส่งที่สนามบินให้ด้วย เรารู้สึกว่าคุ้มมากแล้วก็สะดวกไม่ยุ่งยากเหมือนกับที่ติดต่อเอง ช่วยลดเวลาในการเตรียมตัว ไม่ต้องเสียเวลามาเครียดเรื่องเอกสาร 555 ทำให้เราได้จองวันผ่าตัดได้เร็วขึ้น แถมยังได้เอกสารรับรองจากโรงพยาบาลเพื่อใช้ยื่นที่ตม.อีกด้วย ผ่านฉลุยเลย ไม่ต้องมานั่งลุ้น
ส่วนตัวเราทำโหนกแก้ม + กรามคาง กับ Dr. Kim Num Ho แล้วก็ปรับกล้ามเนื้อตากับ Dr. Ahn Tae Joo ที่ Seoulface21 เปลี่ยนชื่อมาจาก Gyalumhun ไม่ได้ทำที่โรงพยาบาลไอดีนะคะ แต่ที่นี่ก็มีคุณหมอเก่งแบบเฉพาะทางเหมือนกัน ลืมบอกไปว่าเราใช้บริการกับ srsurgeryreview ค่ะ ที่เราตัดสินใจเลือกไม่ใช่เพราะว่าแค่ราคาถูกที่สุดนะคะ แต่เป็นเพราะเราติดตามเค้ามานาน เห็นเค้ามีส่งลูกค้าหลายโรงพยาบาล และมีเคสรีวิวเยอะมาก มีการดูแลใส่ใจลูกค้าคือดีย์ แรกๆคิดว่าเอเจนซี่จะแพงกว่าการ walk in แต่พอเปรียบเทียบหลายๆอย่างแล้วประหยัดกว่าไปเองอีก ตัดสินใจไม่ผิดเลย
พอไปถึงเกาหลีเราได้เจอล่ามแล้วก็คุณหมอ คุณหมอน่ารักมากไม่ว่าจะมีกี่คำถามคุณหมอก็อธิบายให้เข้าใจทุกคำถาม ล่ามก็พยายามแปลภาษาแพทย์ให้เป็นภาษาที่เราเข้าใจได้ง่ายที่สุด เป็นกันเองมาก พอเสร็จก็ไปตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด ที่นี่เช็คทุกอย่างละเอียดยิบเลย เสร็จแล้วก็พบกับวิสัญญีแพทย์ที่จะวางยาสลบ ซึ่งจะมาถามประวัติการทำศัลยกรรม ประวัติแพ้ยา โรคประจำตัว (อันนี้เราต้องบอกให้ละเอียดนะคะเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง) จากนั้นคุณหมอก็จะวางยาสลบ จำได้ว่าอยู่ดีๆภาพก็ตัดไปเลย พอตื่นมาอ่าว!! ผ่าเสร็จแล้วร๋อ?? 555 หลังตื่นมาคือชิวมากไม่เวียนหัวไม่อ๊วกเลย ไม่มีสายเดรนเลือดด้วย แต่หน้าบวมนิดหน่อย หลังผ่าตัดเรานอนที่โรงพยาบาล 1 คืน พอเช้าทีมงานของเอเจนซี่ก็จะมาคอยดูแล พากลับที่พัก สั่งอาหารให้ เราพักฟื้นที่เกาหลี 10 วัน ทำทรีทเม้น ฉายแสง ฉีดยาลดบวมตามที่แพทย์นัด เสร็จแล้วมีเวลาว่างก็ไปเดินเที่ยว ชอปปิ้ง เน้นเดินเยอะๆ เวลาจะไปไหนทำอะไร กังวลตรงไหนเราก็ปรึกษาเอเจนซี่คุยทุกอย่างเหมือนเพื่อนคนนึงเลย 555 อุ่นใจมากๆค่ะ
พอช่วงที่กลับไทยก็ยังมีการตามอาการกันเป็นระยะ จนถึงทุกวันนี้ 3 ปีกว่าแล้วหน้าเราไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ก็ยังมีทักทายกับทางเอเจนซี่ตลอด เพราะเรามีแพลนอยากแก้จมูกเพิ่ม และก็จะทำที่เกาหลีแน่นอนค่ะเพราะเรามั่นใจในฝีมือของหมอเกาหลี น่าจะประมาณนี้แหละร่ายสะยาวเลยเรา555 หวังว่าข้อมูลที่แชร์จะเป็นประโยชน์นะคะ
ส่วนตัวเราทำโหนกแก้ม + กรามคาง กับ Dr. Kim Num Ho แล้วก็ปรับกล้ามเนื้อตากับ Dr. Ahn Tae Joo ที่ Seoulface21 เปลี่ยนชื่อมาจาก Gyalumhun ไม่ได้ทำที่โรงพยาบาลไอดีนะคะ แต่ที่นี่ก็มีคุณหมอเก่งแบบเฉพาะทางเหมือนกัน ลืมบอกไปว่าเราใช้บริการกับ srsurgeryreview ค่ะ ที่เราตัดสินใจเลือกไม่ใช่เพราะว่าแค่ราคาถูกที่สุดนะคะ แต่เป็นเพราะเราติดตามเค้ามานาน เห็นเค้ามีส่งลูกค้าหลายโรงพยาบาล และมีเคสรีวิวเยอะมาก มีการดูแลใส่ใจลูกค้าคือดีย์ แรกๆคิดว่าเอเจนซี่จะแพงกว่าการ walk in แต่พอเปรียบเทียบหลายๆอย่างแล้วประหยัดกว่าไปเองอีก ตัดสินใจไม่ผิดเลย
พอไปถึงเกาหลีเราได้เจอล่ามแล้วก็คุณหมอ คุณหมอน่ารักมากไม่ว่าจะมีกี่คำถามคุณหมอก็อธิบายให้เข้าใจทุกคำถาม ล่ามก็พยายามแปลภาษาแพทย์ให้เป็นภาษาที่เราเข้าใจได้ง่ายที่สุด เป็นกันเองมาก พอเสร็จก็ไปตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด ที่นี่เช็คทุกอย่างละเอียดยิบเลย เสร็จแล้วก็พบกับวิสัญญีแพทย์ที่จะวางยาสลบ ซึ่งจะมาถามประวัติการทำศัลยกรรม ประวัติแพ้ยา โรคประจำตัว (อันนี้เราต้องบอกให้ละเอียดนะคะเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง) จากนั้นคุณหมอก็จะวางยาสลบ จำได้ว่าอยู่ดีๆภาพก็ตัดไปเลย พอตื่นมาอ่าว!! ผ่าเสร็จแล้วร๋อ?? 555 หลังตื่นมาคือชิวมากไม่เวียนหัวไม่อ๊วกเลย ไม่มีสายเดรนเลือดด้วย แต่หน้าบวมนิดหน่อย หลังผ่าตัดเรานอนที่โรงพยาบาล 1 คืน พอเช้าทีมงานของเอเจนซี่ก็จะมาคอยดูแล พากลับที่พัก สั่งอาหารให้ เราพักฟื้นที่เกาหลี 10 วัน ทำทรีทเม้น ฉายแสง ฉีดยาลดบวมตามที่แพทย์นัด เสร็จแล้วมีเวลาว่างก็ไปเดินเที่ยว ชอปปิ้ง เน้นเดินเยอะๆ เวลาจะไปไหนทำอะไร กังวลตรงไหนเราก็ปรึกษาเอเจนซี่คุยทุกอย่างเหมือนเพื่อนคนนึงเลย 555 อุ่นใจมากๆค่ะ
พอช่วงที่กลับไทยก็ยังมีการตามอาการกันเป็นระยะ จนถึงทุกวันนี้ 3 ปีกว่าแล้วหน้าเราไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ก็ยังมีทักทายกับทางเอเจนซี่ตลอด เพราะเรามีแพลนอยากแก้จมูกเพิ่ม และก็จะทำที่เกาหลีแน่นอนค่ะเพราะเรามั่นใจในฝีมือของหมอเกาหลี น่าจะประมาณนี้แหละร่ายสะยาวเลยเรา555 หวังว่าข้อมูลที่แชร์จะเป็นประโยชน์นะคะ
ความคิดเห็นที่ 31
จริงๆ มีโรงพยาบาลดังๆ และทำสวยในเกาหลีเยอะมากนะคะ นอกจาก รพ.ไอดี ก็จะมีเช่น รพ.บาโนบากิ รพ.วิว แต่ละที่ก็จะมีสไตล์และเทคนิคเฉพาะของตัวเอง ต้องดูรีวิวและเลือกให้ตรงกับที่เราชอบด้วยค่ะ
แนะนำให้ไปกับทางเอเจนซี่อาจจะได้ราคาถูกกว่าค่ะ เพราะบางเจ้าเค้าอาจจะได้ดีลพิเศษอะไรกับทางโรงพยาบาล ราคาก็จะถูกลงไปอีก แถมยังมีคนช่วยดูแลเรื่องเอกสาร นัดหมาย และการเดินทางด้วย สะดวกกว่ามากค่ะ
เอเจนซี่มีหลายเจ้าต้องเลือกดูดีๆ ดูรีวิวเยอะๆ พี่สาวเราเค้าไปทำจมูก+ตา กับเอเจนซี่คุณแป้ง @queensurgery กลับมาแล้วชมไม่หยุดว่าเจ้านี้ดูแลดีมาก ทุกอย่างจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ 😄
แนะนำให้ไปกับทางเอเจนซี่อาจจะได้ราคาถูกกว่าค่ะ เพราะบางเจ้าเค้าอาจจะได้ดีลพิเศษอะไรกับทางโรงพยาบาล ราคาก็จะถูกลงไปอีก แถมยังมีคนช่วยดูแลเรื่องเอกสาร นัดหมาย และการเดินทางด้วย สะดวกกว่ามากค่ะ
เอเจนซี่มีหลายเจ้าต้องเลือกดูดีๆ ดูรีวิวเยอะๆ พี่สาวเราเค้าไปทำจมูก+ตา กับเอเจนซี่คุณแป้ง @queensurgery กลับมาแล้วชมไม่หยุดว่าเจ้านี้ดูแลดีมาก ทุกอย่างจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ 😄
ความคิดเห็นที่ 22
เคยลองปรึกษากับเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีโดยตรงบ้างหรือยังค่ะ เอาจริงๆกว่าจะถึงขั้นตอนไปขึ้นเขียงให้หมอทำที่โรงพยาบาลเกาหลี ดีเทลค่อนข้างเยอะ ลองติดต่อผ่านเอเจนซี่เทียบราคากับติดต่อเอง จะรู้ว่ามันไม่ได้ต่างกันมาก แต่ได้ความสะดวก เช่น ล่ามเวลาคุยกับหมอหรือสิ่งที่คุณหมอเขาแนะนำอะไรมา หรืออย่างน้อยๆ มีปัญหา ตม. อย่างน้อยก็มีคนดูแลอุ่นใจกว่า
อย่างเรามีแก้จมูก ตา และก็คาง เจ็บทีเดียวที่เกาหลี แต่เป็นที่โรงพยาบาลบาโนบากิ ไม่ได้ทำที่ไอดีเหมือนกัน เราติดต่อผ่านเอเจนซี่นะ เพราะไปเองไม่รอดแน่ๆ ก่อนไปทำมีติดต่อประเมินค่าใช้จ่ายกับเอเจนซี่ประมาณ 4 - 5 เจ้า ราคาเบ็ดเสร็จไม่ต่างกันค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะมีรายละเอียดที่เราต้องแจ้งกับเอเจนซี่ พวกประวัติคร่าวๆและมีเอกสารที่เราจะต้องเตรียม โรงพยาบาลที่เราอยากทำซึ่งเขาก็จะมีให้เลือกแหละ และสุดท้ายก็คือ งบประมาณเบื้องต้นที่เรามี ไปทำที่ไหนและหมอคนไหน อันนี้คือสิ่งที่เหมือนกันๆนะ จะไปแตกต่างนิดหน่อยเรื่องของ หลังจากที่ทำแล้ว ไปพักที่ไหน หรือจะมีโปรแกรมพาไปเที่ยวไหนที่ไหนบ้าง อันนี้แล้วเอเจนจะจัดให้เรา ส่วนราคาเขาจะจัดมาเป็นก้อนเดียวเลย รวมค่าทำ ตั๋วไปกลับ ค่าที่พัก ค่ายา ครบหมดแล้ว
ส่วนเอเจนเราคือ Beauti Fly เป็นเจ้าที่มี Certified Medical Travel Professional (CMTP) เค้าเคลมว่าเป็นเจ้าเดียวในเกาหลีเลยนะ เอาจริงๆเจ้านี้ราคาไม่ได้ถูกที่สุดนะ แต่ตัดสินใจเลือก เพราะคุยรู้เรื่องและดูใส่ใจดีค่ะ เราแค่ต้องเตรียมวงเงินในบัตรให้พร้อม เรื่องอื่นคือปล่อยให้รันตามตารางเขาเลย ณ วันที่ขึ้นเครื่องจากไทย เอเจนก็ส่งคนดูแลแนะนำจนเราถึงที่เกาหลี ส่วนตัวเราไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะเคยผ่านการทำจมูกที่ไทยมาก่อน แต่ครั้งนี้มาแก้ที่เกาหลี ตอนคุยกับคุณหมอ จะมีทีมที่ปรึกษาคนเกาหลีของเอเจนซี่เข้าไปร่วมฟังด้วย ณ ตอนนี้แนะนำว่า ถ้าเราอยากบอกปัญหาว่าเราอยากเปลี่ยนเป็นแบบไหนๆ มีแบบให้หมอดูด้วยก็ดี เอาให้เต็มที่เลย ในระหว่างนี้พี่ที่เป็นล่ามแปลให้ก็สะดวกดีค่ะ หลังจากนั้นส่วนทีมของเอเจนเขาก็จะมาประชุมสรุปอีกทีว่า ล่ามที่แปลกับที่ทีมเกาหลีรับฟังอยู่ด้วย เขาพูดตรงกันมั้ย และเอาให้ความเข้าใจเรากับหมอตรงกัน 55555+ ก่อนจะให้เข้าผ่าตัด หลังทำเสร็จ ยอมรับว่าระบมทั้งหน้าเลย เพราะทำหลายอย่างพร้อมกัน แต่ก็จะมียาลดบวมให้ ทางเอเจนจะดูแลเราจนถึงก่อนวันกลับไทย เขาจะพาเราไปเที่ยว 1 วัน อันนี้ก็แล้วแต่เรานะ ว่าไหวไม่ไหว แต่เราไปเพราะไหนๆก็เสียตังมาแล้วเอาสะหน่อย ไปทั้งที่ยังพันผ้า บวมๆแบบนั้นแหละ และวันกลับเขาก็จะแนะนำให้เราไป Tax Refund ที่สนามบินเป็นขั้นตอนสุดท้าย ได้คืนมา 8%
ช่วงที่กลับไทยพักฟื้นที่บ้าน เขาก็มีมาถามไถ่เป็นระยะ มีแจ้งว่าถ้าเคสมีปัญหา ทางที่ปรึกษาคนเกาหลีของเอเจนจะติดต่อกับโรงพยาบาลให้เลย ไม่ต้องรอล่าม แต่เคสโชคดีค่ะ เราไม่เจอปัญหาอะไร แค่บวมๆ ถ้านับเวลาที่หน้าเข้าที่จริงๆก็ 2 เดือนเต็มๆ บอกตามตรงว่า รู้สึกคุ้มค่าเจ็บ ความลำบาก และเงินที่จ่ายไป โดยเฉพาะจมูก รู้สึกชอบหน้าตัวเองมากขึ้น อยากอวยหมอที่เกาหลีคือเก่งจริง ถ้า จขกท. จะทำทั้งทีและไม่ได้ติดเรื่องงบประมาณ ก็เชียร์ไปทำที่เกาหลีเลยค่ะ
อย่างเรามีแก้จมูก ตา และก็คาง เจ็บทีเดียวที่เกาหลี แต่เป็นที่โรงพยาบาลบาโนบากิ ไม่ได้ทำที่ไอดีเหมือนกัน เราติดต่อผ่านเอเจนซี่นะ เพราะไปเองไม่รอดแน่ๆ ก่อนไปทำมีติดต่อประเมินค่าใช้จ่ายกับเอเจนซี่ประมาณ 4 - 5 เจ้า ราคาเบ็ดเสร็จไม่ต่างกันค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะมีรายละเอียดที่เราต้องแจ้งกับเอเจนซี่ พวกประวัติคร่าวๆและมีเอกสารที่เราจะต้องเตรียม โรงพยาบาลที่เราอยากทำซึ่งเขาก็จะมีให้เลือกแหละ และสุดท้ายก็คือ งบประมาณเบื้องต้นที่เรามี ไปทำที่ไหนและหมอคนไหน อันนี้คือสิ่งที่เหมือนกันๆนะ จะไปแตกต่างนิดหน่อยเรื่องของ หลังจากที่ทำแล้ว ไปพักที่ไหน หรือจะมีโปรแกรมพาไปเที่ยวไหนที่ไหนบ้าง อันนี้แล้วเอเจนจะจัดให้เรา ส่วนราคาเขาจะจัดมาเป็นก้อนเดียวเลย รวมค่าทำ ตั๋วไปกลับ ค่าที่พัก ค่ายา ครบหมดแล้ว
ส่วนเอเจนเราคือ Beauti Fly เป็นเจ้าที่มี Certified Medical Travel Professional (CMTP) เค้าเคลมว่าเป็นเจ้าเดียวในเกาหลีเลยนะ เอาจริงๆเจ้านี้ราคาไม่ได้ถูกที่สุดนะ แต่ตัดสินใจเลือก เพราะคุยรู้เรื่องและดูใส่ใจดีค่ะ เราแค่ต้องเตรียมวงเงินในบัตรให้พร้อม เรื่องอื่นคือปล่อยให้รันตามตารางเขาเลย ณ วันที่ขึ้นเครื่องจากไทย เอเจนก็ส่งคนดูแลแนะนำจนเราถึงที่เกาหลี ส่วนตัวเราไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะเคยผ่านการทำจมูกที่ไทยมาก่อน แต่ครั้งนี้มาแก้ที่เกาหลี ตอนคุยกับคุณหมอ จะมีทีมที่ปรึกษาคนเกาหลีของเอเจนซี่เข้าไปร่วมฟังด้วย ณ ตอนนี้แนะนำว่า ถ้าเราอยากบอกปัญหาว่าเราอยากเปลี่ยนเป็นแบบไหนๆ มีแบบให้หมอดูด้วยก็ดี เอาให้เต็มที่เลย ในระหว่างนี้พี่ที่เป็นล่ามแปลให้ก็สะดวกดีค่ะ หลังจากนั้นส่วนทีมของเอเจนเขาก็จะมาประชุมสรุปอีกทีว่า ล่ามที่แปลกับที่ทีมเกาหลีรับฟังอยู่ด้วย เขาพูดตรงกันมั้ย และเอาให้ความเข้าใจเรากับหมอตรงกัน 55555+ ก่อนจะให้เข้าผ่าตัด หลังทำเสร็จ ยอมรับว่าระบมทั้งหน้าเลย เพราะทำหลายอย่างพร้อมกัน แต่ก็จะมียาลดบวมให้ ทางเอเจนจะดูแลเราจนถึงก่อนวันกลับไทย เขาจะพาเราไปเที่ยว 1 วัน อันนี้ก็แล้วแต่เรานะ ว่าไหวไม่ไหว แต่เราไปเพราะไหนๆก็เสียตังมาแล้วเอาสะหน่อย ไปทั้งที่ยังพันผ้า บวมๆแบบนั้นแหละ และวันกลับเขาก็จะแนะนำให้เราไป Tax Refund ที่สนามบินเป็นขั้นตอนสุดท้าย ได้คืนมา 8%
ช่วงที่กลับไทยพักฟื้นที่บ้าน เขาก็มีมาถามไถ่เป็นระยะ มีแจ้งว่าถ้าเคสมีปัญหา ทางที่ปรึกษาคนเกาหลีของเอเจนจะติดต่อกับโรงพยาบาลให้เลย ไม่ต้องรอล่าม แต่เคสโชคดีค่ะ เราไม่เจอปัญหาอะไร แค่บวมๆ ถ้านับเวลาที่หน้าเข้าที่จริงๆก็ 2 เดือนเต็มๆ บอกตามตรงว่า รู้สึกคุ้มค่าเจ็บ ความลำบาก และเงินที่จ่ายไป โดยเฉพาะจมูก รู้สึกชอบหน้าตัวเองมากขึ้น อยากอวยหมอที่เกาหลีคือเก่งจริง ถ้า จขกท. จะทำทั้งทีและไม่ได้ติดเรื่องงบประมาณ ก็เชียร์ไปทำที่เกาหลีเลยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 21
ถ้าทำจมูกกับคาง โรงบาลอื่น ทำได้สวยๆมีเยอะมากค่ะ แนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบหลายๆโรงบาล ดูรีวิวแล้วดูว่าเคสที่โครงหน้าคล้ายๆเรา เค้าทำมันตรงกับที่เราอยากได้ไหม
ส่วนงบประมาณ แน่นอนว่าเราต้องเอารพ.ในงบที่เราไหว ถ้าให้แนะนำเราว่าถ้าหาเอเจนซี่ที่เค้าดีล รพ.ไว้หลายๆรพ. ให้เค้าช่วยเหลือให้หารพ.ที่เหมาะกับปัญหาของเราและงบที่เรามี แบบนี้ดีกว่า
จากประสบการณ์ของเราเอง ที่มีความรู้เกี่ยวกับ รพ.ศัลยกรรมที่เกาหลี รู้อย่างเดียวคือ ถ้าได้ไปทำหน้าที่เกาหลีแล้วสวย เราอยากทำจมูกกับคางเหมือนจขกท.นี่แหละ อย่างแรกที่เราทำเลยคือ หาเอเจนซี่ค่ะ คุยหลายเจ้ามากกกกกกก ทั้งเจ้าที่รับเฉพาะรพ. ทั้งที่รับหลายๆรพ. สุดท้ายเราตัดสินใจให้ RYN Plastic surgery ช่วยดูแลให้ ตั้งแต่เลือกรพ.ในเกาหลีเลย เค้าจะถามก่อนว่าเราอยากทำอะไร มีงบเท่าไร แล้วก็ถามพวกประวัติการทำศัลยกรรม ประวัติทางการแพทย์เบื้องต้น พร้อมรูป ให้หมอประเมิน แล้วเค้าจะส่งรพ.ที่น่าสนใจมาให้เลือก พร้อมราคาค่าเสียหาย555 ซึ่งอันนี้ก็ถูกแพงแล้วแต่รพ. แต่จากที่ไปสืบราคามา เอเจนซี่ไม่บวกราคาเพิ่มนะ เป็นราคา Net จากรพ.เลย สุดท้ายเราเลือกทำที่รพ.JW เพราะชอบทรง ราคาก็อยู่ในงบด้วย
ตอนทำก็ไม่เจ็บอย่างที่คิด ชิวมากกกก ก่อนผ่าตัดก็มีคุยขั้นตอนต่างๆกับคุณหมอ โดยที่มีล่ามมาแปลให้ เอาจนเราสบายใจ พร้อมแล้วเค้าถึงเริ่มผ่าตัด ทำสวยเสร็จ วันถัดมา ช็อปแหลกจ้าาา เอเจนซี่เค้ามีแนะนำที่เที่ยวเพียบ
ส่วนอาหารการกิน ไม่ต้องห่วงว่า ผ่าตัดเสร็จจะหาของกินยาก เอเจนซี่เค้ามีเตรียมอาหารช่วยลดบวมมาให้ด้วย กินไปยาวๆ 7 วัน
รวมๆแล้วประมาณเดือนกว่า แผลก็เริ่มหายเป็นปกติ ไม่ช้ำแล้ว จะบอกว่าทรงสวย มงลง จมูกดูหวานรับกับหน้ากับคาง ใครก็ชมว่าทำมาแล้วสวย จนหลังๆมีเพื่อนที่รู้จักไปทำตามตั้งหลายคน
ยังไงก็ลองดูค่ะ ถ้าไม่รู้จะเลือกรพ.ไหนจริงๆ ให้หาตัวช่วยเลย หาเอเจนซี่แนะนำดีๆ อาจจะได้ข้อมูลแน่นกว่าหาเอง เอเจนซี่เขาไม่ได้คิดค่าปรึกษาหรือค่าบริการอะไรอยู่แล้ว แล้วงบจะไม่บานปลายด้วย ถ้าเราไม่ช้อปปิ้งแหลก เอาความสบายใจของเราดีกว่า เพราะไปทำต่างประเทศ ให้มีคนดูแลจะดีกว่า เตรียมเงินให้พร้อม ใครจะใช้บัตรก็เตรียมวงเงินให้พร้อม มีผ่อน 0% ยาวๆไป 10 เดือน เอเจนซี่ที่เราใช้ เขาไม่ได้ชาร์จเพิ่ม
ส่วนงบประมาณ แน่นอนว่าเราต้องเอารพ.ในงบที่เราไหว ถ้าให้แนะนำเราว่าถ้าหาเอเจนซี่ที่เค้าดีล รพ.ไว้หลายๆรพ. ให้เค้าช่วยเหลือให้หารพ.ที่เหมาะกับปัญหาของเราและงบที่เรามี แบบนี้ดีกว่า
จากประสบการณ์ของเราเอง ที่มีความรู้เกี่ยวกับ รพ.ศัลยกรรมที่เกาหลี รู้อย่างเดียวคือ ถ้าได้ไปทำหน้าที่เกาหลีแล้วสวย เราอยากทำจมูกกับคางเหมือนจขกท.นี่แหละ อย่างแรกที่เราทำเลยคือ หาเอเจนซี่ค่ะ คุยหลายเจ้ามากกกกกกก ทั้งเจ้าที่รับเฉพาะรพ. ทั้งที่รับหลายๆรพ. สุดท้ายเราตัดสินใจให้ RYN Plastic surgery ช่วยดูแลให้ ตั้งแต่เลือกรพ.ในเกาหลีเลย เค้าจะถามก่อนว่าเราอยากทำอะไร มีงบเท่าไร แล้วก็ถามพวกประวัติการทำศัลยกรรม ประวัติทางการแพทย์เบื้องต้น พร้อมรูป ให้หมอประเมิน แล้วเค้าจะส่งรพ.ที่น่าสนใจมาให้เลือก พร้อมราคาค่าเสียหาย555 ซึ่งอันนี้ก็ถูกแพงแล้วแต่รพ. แต่จากที่ไปสืบราคามา เอเจนซี่ไม่บวกราคาเพิ่มนะ เป็นราคา Net จากรพ.เลย สุดท้ายเราเลือกทำที่รพ.JW เพราะชอบทรง ราคาก็อยู่ในงบด้วย
ตอนทำก็ไม่เจ็บอย่างที่คิด ชิวมากกกก ก่อนผ่าตัดก็มีคุยขั้นตอนต่างๆกับคุณหมอ โดยที่มีล่ามมาแปลให้ เอาจนเราสบายใจ พร้อมแล้วเค้าถึงเริ่มผ่าตัด ทำสวยเสร็จ วันถัดมา ช็อปแหลกจ้าาา เอเจนซี่เค้ามีแนะนำที่เที่ยวเพียบ
ส่วนอาหารการกิน ไม่ต้องห่วงว่า ผ่าตัดเสร็จจะหาของกินยาก เอเจนซี่เค้ามีเตรียมอาหารช่วยลดบวมมาให้ด้วย กินไปยาวๆ 7 วัน
รวมๆแล้วประมาณเดือนกว่า แผลก็เริ่มหายเป็นปกติ ไม่ช้ำแล้ว จะบอกว่าทรงสวย มงลง จมูกดูหวานรับกับหน้ากับคาง ใครก็ชมว่าทำมาแล้วสวย จนหลังๆมีเพื่อนที่รู้จักไปทำตามตั้งหลายคน
ยังไงก็ลองดูค่ะ ถ้าไม่รู้จะเลือกรพ.ไหนจริงๆ ให้หาตัวช่วยเลย หาเอเจนซี่แนะนำดีๆ อาจจะได้ข้อมูลแน่นกว่าหาเอง เอเจนซี่เขาไม่ได้คิดค่าปรึกษาหรือค่าบริการอะไรอยู่แล้ว แล้วงบจะไม่บานปลายด้วย ถ้าเราไม่ช้อปปิ้งแหลก เอาความสบายใจของเราดีกว่า เพราะไปทำต่างประเทศ ให้มีคนดูแลจะดีกว่า เตรียมเงินให้พร้อม ใครจะใช้บัตรก็เตรียมวงเงินให้พร้อม มีผ่อน 0% ยาวๆไป 10 เดือน เอเจนซี่ที่เราใช้ เขาไม่ได้ชาร์จเพิ่ม
แสดงความคิดเห็น
ศัลยกรรมที่เกาหลีครับ