❤ ไม่ว่าสนามจะเลือกฉันหรือไม่...แต่ฉันเลือกจะไปสนามนี้ ❤ "Tarawera Ultramarathon" New Zealand ✿

นักวิ่งทุกคนล้วนมีสนามแข่งขันที่ใฝ่ฝันเป็นของตัวเอง
ยิ่งเป็น"นักวิ่งTrai"(นักวิ่งวิบากในป่า)ด้วยแล้ว
การได้ไปวิ่งในสถานที่สวยๆท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นั่นคือความใฝ่ฝันของพวกเราเลยล่ะค่ะ

อุ๊บอิ๊บเองก็เป็นนักวิ่งTrail แต่อาจไม่ใช่นักวิ่งที่มีโอกาสไปมาหลายสนามทั่วทุกมุมโลก
แต่อิ๊บว่าบางสนามที่อิ๊บไป ก็เป็นความฝันของนักวิ่งTrailบางคนอยู่เหมือนกัน
ฮ่องกง...ฟิลิปปินส์...มาเลเซีย...ญี่ปุ่น...เนปาล...หรือแม้แต่บ้านเราเอง "ประเทศไทย"


ทุกสนามมีความแตกต่างกันทั้งทางสภาพภูมิศาสตร์ สภาพอากาศ
อย่างที่บอกค่ะ...แม้ประสบการณ์การไปสนามแข่งของ ออ.จะไม่ได้กว้างขวางนัก
แต่ละสนามที่ไปก็หลากหลายพอที่จะแยกแยะให้เข้าใจกันได้

สนามที่จัดดีเวอร์...ทุกอย่างเป๊ะ...เป็นระเบียบ...ครบ...ยิ่งใหญ่
ไปจนถึงสนามเล็กๆ...จริงใจ...อบอุ่น...วิ่งไปตามงบลงทุนที่มี...นักวิ่งต้องดูแลตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่

บางงานริบบิ้นนำทางผูกซะจนแอบคิดว่า "จะเอาใจนักวิ่งไปไหน  เรียงกันเป็นแถวพริ้วไสวเหมือนวิ่งอยู่ในงานปีใหม่"
แต่บางงานนี่แทบไม่มีริบบิ้นเลย  เรียกได้ว่า หลงทางจนเบื่อ หลงแล้วหลงอีก ทำอย่างกับเราเป็นเจ้าของพื้นที่  มีเรดาห์นำทางส่วนตัวงั้นแหละ

++++

ตามนั้นค่ะ
ธรรมชาติของงานที่ยิ่งใหญ่  มักจะไม่ได้รับบรรยากาศของความอบอุ่น  แต่ทุกอย่างคือ "มาตรฐาน"
เวลารับของ(เบอร์วิ่ง ชิพจับเวลา ฯลฯ)
ตรงเวลาเป๊ะ/ทีมงานมีระเบียบ/ใช้เวลาไม่นาน
งานExpo
มีหลากหลายแบรนด์ที่สนับสนุนมาเปิดบูธสินค้า เดินกันสนุกเลือกสรรสินค้าได้เสียทรัพย์กันถ้วนหน้า
Briefingชี้แจงรายละเอียดการแข่ง
สถานที่สะดวกสบายกว้างขวาง ตรงเวลา บรรยายได้ดีเพื่อนักวิ่งเข้าใจและปฎิบัติถูกต้องตามกฏกติกาที่สุด
จุด Start/Finish
ยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้าง สมกับงานที่ผู้คนลงทุนเดินทางมาร่วมแข่งขันจากทั่วทุกมุมโลก
Check point
อาหาร น้ำ เกลือแร่พร้อม แต่ละจุดจะบอกนักวิ่งล่วงหน้าด้วยว่า พอวิ่งมาถึงมีอะไรบริการให้นักวิ่งบ้าง
Drop bag จุดฝากกระเป๋า
ให้นักวิ่งฝากกระเป๋าสัมภาระส่วนตัวก่อนstart แล้วทีมงานจะนำไปไว้ตามจุด CP ที่ระบุ กระเป๋าจะหาง่ายและปลอดภัย
(บางงานมีหลายจุด/บางงานมีจุดเดียว/บางงานไม่มีเลย แล้วแต่ระดับความโหด)
รถพยาบาล การรักษาความปลอดภัย
มีแทบจะทุก CP  มียาทุกชนิด พยาบาลอยู่ดูแลตลอด ตามเส้นทางมีป้ายเตือนจุดระวังอันตรายไว้ชัดเจน

นี่คืองานใหญ่  มีมาตรฐาน  ปัญหาต่างๆจึงเกิดขึ้นน้อยมากๆเมื่อเทียบกับงานขนาดเล็ก

เยี่ยม

แต่ใช่ว่า “งานเล็กๆ” จะแย่ไปซะทุกอย่างนะคะ  (บางงาน ออ.เองกลับชอบเสียด้วยซ้ำ)
เวลารับของ(เบอร์วิ่ง ชิพจับเวลา ฯลฯ)
ไปถึงคนจัดยังนั่งงมๆกันอยู่  นักวิ่งรอแป๊ปนะ (แฮร่...)
งานExpo
ไม่มี  ใครขาดอะไรก็ไปหาเอาเอง ซึ่งมีขายที่ไหนก็ไม่รู้ 5555
Briefingชี้แจงรายละเอียดการแข่ง
บางงานก็ไม่มี (บอกผ่าน website) บางงานก็นั่งถามกันง่ายๆวันรับเบอร์วิ่งนั่นแหละ
จุด Start/Finish
ป้ายไวนิลธรรมดา บอกว่าข้าคือจุด Start
จุดCheck point
มีขนมปังแห้งๆไม่กี่แผ่น แยมเหลวๆ เนยถั่วเฟะๆ น้ำเปล่า น้ำอัดลมบ้าง(ก็บุญละ)
Drop bag จุดฝากกระเป๋า
ไม่มีอ่ะ  อยากใช้อะไรระหว่างทางบ้าง ก็แบกเองไปนะ T^T
รถพยาบาล การรักษาความปลอดภัย
มีบางจุด (แต่เราต้องพกยาเองติดตัวไว้อยู่แล้ว ชัวร์กว่าค่ะ)

หัวใจออ.ว่ามันก็น่ารักดี อบอุ่นดี  นักวิ่งก็มีกันไม่กี่คน
ผู้จัดก็ลงมาคุยได้กับทุกคน เฮฮา เหมือนงานเล็กๆที่พวกเรามาวิ่งสังสรรค์อมยิ้ม16

ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
จะมีงานไหนที่ทั้ง “สถานที่สวย...ปลอดภัย...ยิ่งใหญ่...แต่ยังคงอบอุ่น”
ออ.ยกให้งานนี้
"Tarawera Ultramarathon" ประเทศ  New Zealand


พระอาทิตย์มาทำความรู้จักสนามนี้กันค่ะ

2 กพ.ที่ผ่านมา ออ.เดินทางไปแข่งวิ่งระยะ 100 Kmที่งานนี้กับโค้ชด้วยการสนับสนุนจากทางเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว
เหตุผลที่เราไปเพราะสนามนี้เป็นสนามที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามของธรรมชาติมาก
และอีกอย่างคือยังไม่เคยมีคนไทยร่วมลงแข่งขันเลยสักครั้ง

เราต้องเดินทางไปกันก่อนตั้งแต่คืนวันอังคารที่ 2 เพื่อไปปรับตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งในวันที่ 6 ที่จะมาถึง

การสมัคร การเดินทาง ที่พัก...ทุกอย่างโค้ชเป็นคนวางแผนและจัดการทั้งหมด
ออ.เองมีหน้าที่ฟังและเรียนรู้เพียงอย่างเดียวอมยิ้ม21

จริงๆแล้วหลายงานที่ไปกันมา โค้ชก็จัดการทุกครั้ง
แต่งานนี้ ออ.สังเกตได้เลยว่า โค้ชมีความสุขมากที่ได้เล่ารายละเอียดของงานให้ฟัง
หัวใจ

ออ.รับรู้ได้ถึงความน่ารักของผู้จัดผ่านการเล่าของโค้ชอมยิ้ม22
โค้ชบอกว่า...เค้าเขียนรายละเอียดใน Facebook Fan Page ของงานได้ตลกมาก
วิธีเดินทางมายังสถานที่แข่งให้ทำยังไง (โบกๆรถข้างทางนะ บอกเค้าว่าจะมานี่ๆๆ ถ้าเค้าไปทางเดียวกันเค้าก็พาเรามาส่งเอง 5555)
เดินทางจากสนามบินมายังไง
ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง (ไว้ค่อยบอกนะ...ดูหน้างานก่อนวันแข่งละกันว่าจะให้เอาอุปกรณ์ไรไปบ้าง =*= )
เค้าอธิบายไว้ได้ชิลมาก สบายมาก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่างานนี้จะเป็นงานใหญ่ระดับ Ultra trail world tour กันเลย
ดอกไม้

โค้ชเปิด Youtube งานแข่งนี้ให้ ออ.ดู
ออ.ถึงกับกรีดร้องและตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันเดินทางเลยล่ะค่ะ
มันสวยมากจริงๆ!!!
ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้

พระจันทร์

( รัชชี่  ... ออ ... โค้ชรอน  คนไทย 3 คนที่ไปแข่งขัน  ออกเดินทางพร้อมกันและเที่ยวบินเดียวกันค่ะ ^^ )
เราเดินทางคืนวันอังคารบินมาถึงNew Zealandวันพุธช่วงกลางวัน (ใช้เวลาเดินทางราวๆ 13 ชม. //เวลาที่นั่นอยู่หน้าประเทศไทย 6 ชม.)
มาถึง Auckland แล้วเราต้องต่อเครื่องเล็กเพื่อไปเมือง Rotorua ต่อ(ถ้าหากไม่ต่อเครื่องบิน เราสามารถนั่งรถบัสไปได้เช่นกัน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ถึงRotoruaค่ะ)
Air New Zealand คือสายการบินเล็กที่เราเลือกใช้บริการบินต่อ  เราเดินจากอาคารใหญ่ไปยังอาคารที่ใช้เดินทางภายในประเทศ
เดินไกลพอสมควร แต่ไม่มีทางหลงแน่นอนเพราะเค้าทำทางไว้ให้เดินได้ชัดเจน (แต่ก็มีบริการรถบัสรับ-ส่งเช่นกันค่ะ)
เดินมาถึงอาคารโดยสารภายในประเทศ ทุกอย่างเล็กและสะดวกสบาย เรา Check in ผ่านตู้ที่ตั้งเรียงรายอยู่
เอากระเป๋าไปโหลด และไปนั่งรถที่ lounge สักพักก่อนถึงเวลาบิน




นั่งเครื่องบินเล็ก เล็กจริงๆค่ะ มองเห็นห้องเครื่องเลยล่ะ
กัปตันทำหน้าที่เองทุกอย่าง ตั้งแต่ต้อนรับยันปิดประตู) ใช้เวลาประมาณ 40นาทีมาถึง
นั่งรถตู้ต่ออีกนิดหน่อยไปถึงโรงแรม

ดอกไม้พระอาทิตย์
โรงแรมที่ ออ.พัก อยู่ติดกับ "Te Puia" สถานที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของที่นี่เลยค่ะ
ใครมาถึง Rotorua ไม่เข้า Te Puia ถือว่ายังมาไม่ถึง ( 555 อันนี้ ออ.คิดเอง )
จากโรงแรมเรา มองออกไปก็เห็นน้ำพุร้อนพุ่งฟู่ๆอยู่ใกล้ๆเลย (สวยมากกกกก)

(นี่คือภาพที่ถ่ายจากข้างโรงแรมค่ะ)

ออ.มองหน้าโค้ช พยายามสื่อว่า “อยากเข้าไป” 5555อมยิ้ม07
โค้ชบอกว่าไม่ต้องห่วง เราได้เข้าไปแน่นอน เพราะว่าวันพฤหัสที่จะถึง
ทางงานแข่งจะให้พวกเราได้เข้าไปวิ่งเล่นข้างในกันฟรี!! ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย!!!!

พาพันดี๊ด๊า

กรี๊ดดดดดดดดดด..คือดีอะไรอย่างเน๊!!!!!อมยิ้ม22
ค่าเข้าชม Te Puia ไม่ใช่น้อยๆเลยค่ะ
เริ่มต้นที่ 50 เหรียญไปจนเกือบ 200 เหรียญ (แล้วแต่กิจกรรมที่จะเข้าไปทำ)

นักวิ่งทุกคนจะได้เข้าไปวิ่งข้างในฟรีในเวลา 17:00 ของวันพฤหัส (ซึ่งสถานที่จะปิดแล้ว ก็จะเหลือแค่พวกเรานักวิ่งเท่านั้น!! คือดีงาม)หัวใจยิ้ม

งั้นรอไปก่อนละกัน  มองผ่านโรงแรมไปก่อน วันพฤหัสค่อยเข้าไปลัลล้าข้างใน

ดอกไม้ดอกไม้
ที่ New Zealand ทุ่ม-สองทุ่มยังสว่างโล่ แถม ออ.กับโค้ชก็ยังปรับเวลาไม่ได้
สองสามทุ่มยังเดินออกจากโรงแรมไปSuper marketกันอยู่เลย
โค้ชบอกว่า ประเทศนี้ร้านค้าปิดไวนะ  17:00-18:00 ก็ปิดกันหมดแล้ว (ซึ่งก็จริง)
เราเดินจากโรงแรมเข้ามาในตัวเมืองประมาณ 2 Km ซึ่งพนักงานโรงแรมบอกแล้วบอกอีกว่าไม่ควรเดินค่ะ  มันไกลมากกก...เดินไม่ไหวหรอก
เค้าคงไม่รู้จักพวกนักวิ่งอัลตร้ามั้งว่า 2 กิโลนี่ถือว่าจิ๊บๆกันมาก ^^


บ้านเรือนที่เมืองนี้สังเกตดูไม่มีอาคารสูงเลยค่ะ  มองออกไปเห็นภูเขาด้านหลังได้กว้างๆ
โล่งและสบายตามาก  อากาศก็เย็นสบายดี ( ดึกๆมาหนาวพอสมควร )

เราเดินๆวิ่งๆไปตามทาง อากาศเย็นสบายไปในตัวเมืองเล็กๆที่ร้านรวงปิดไปแล้ว
เหลือเพียงร้านอาหารบางร้านที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่เท่านั้น
เดินเล่นสักพักก็ไปหามื้อเย็นทานกัน
นี่คือมื้อแรกของการมาถึงที่นี่ค่ะ

ร้านสเต็กที่เค้าบอกว่า เนื้อของเค้าอร่อยที่สุดแล้ว ... ออ สั่งไก่ทอด ส่วนโค้ชรอนสั่งเนื้อ
และสุดท้าย ... ออ ก็แย่งโค้ชทานไปตามระเบียบ

เพี้ยนกิน

ก่อนกลับเราแวะไป Super market ที่เราเล็งไว้แล้วว่าปิดตอนเที่ยงคืน
Supermarket นั้นมีชื่อว่า“Countdown”
และหลังจากนั้น ... ทุกวันเราสองคนก็ชอบชวนกันไป Countdown แม้จะไม่ใช่วันปีใหม่ก็ตาม อมยิ้ม16

ดาวดาวดาว

พระอาทิตย์วันพุธผ่านไป  เริ่มต้นใหม่เช้าวันพฤหัส (วันนี้แล้วที่จะได้เข้า Te Puia) เย้เย~~
เช้าๆเราสองคนก็เข้าไปเดินเล่นในเมืองเช่นเคยค่ะ  ในเมืองไม่มีอะไรมาก
ร้านค้าเปิดแล้ว แต่พวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตาไปแค่ร้านขายอุปกรณ์กีฬาวิ่ง
เท่าที่หาข้อมูล ก็มีเพียงไม่กี่ร้าน เราก็ไปซะหมดทุกร้าน ^___^

ร้านสุดท้ายอยู่ออกมาไกลจากตัวเมือง เราจึงต้องนั่งรถ bus เพื่อไปถึง
และร้านนั้นก็อยู่ใกล้จุด Start งานแข่ง นั่นคือ Redwoods, Whakarewarewa Forest
เราสองคนจึงไม่พลาดที่จะเดินเข้าไปบริเวณนั้นเพื่อแอบลองดูว่าเส้นทางคร่าวๆเป็นยังไง

สมใจพวกเราจริงๆค่ะ  สวยงามมากกกกกกกกกก แทบจะอยากวิ่งกันวันนั้นเลย ><




แน่นอนค่ะ  พวกเราวิ่งกันจริงๆ
นี่แค่จุด Start นะ...
100 Km ของวันพรุ่งนี้จะสวยงามขนาดไหน

"ชักจะรอไม่ไหวแล้วสิ"
อมยิ้ม07อมยิ้ม07อมยิ้ม07

เดี๋ยวมาต่อนะคะ ... งดงามมากจริงๆค่ะ อมยิ้ม22
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่