[CR] รีวิว "เขาคิชฌกูฏ" กับ ขสมก.


กระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก หากผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ

การเดินทางครั้งนี้ เริ่มจากอยากไป เขาคิชฌกูฏ แต่ไม่มีรถส่วนตัว และขับรถไม่เป็น และไปกัน 2 คน จึงไม่คุ้มที่เหมารถตู้ไป

ดังนั้นจึงหาข้อมูล ทั้งในพันทิป และ ใน google มากมาย จึงไปพบกับทัวร์ไหว้พระเขาคิชฌกูฏ ของ ขสมก.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

โทรไปสำรองที่นั่ง โอนเงินเสร็จ ก็รอวันออกเดินทาง ซึ่งเราเลือก วันอังคาร ที่ 1 มีนาคม 2559

เช้าวันที่ 1/3/59 เวลา 6.00 น. เราเดินทางถึง อู่รถบางเขน


นำใบโอนเงินมารับตั๋วได้ที่โต๊ะนี้เลยค่ะ


นี่คือรถที่เราจะใช้ในการเดินทาง วันนี้ มี 3 คันค่ะ


นี่คือบรรยากาศในรถค่ะ สบายๆไปอีกแบบ ไม่อุดอู้เหมือนรถตู้


6.30 น. ล้อหมุน ออกเดินทางกันเลย พี่พนักงานจะแจกป้ายนี้ ให้เราคล้องคอไว้ตลอดนะคะ เผื่อหลง ต่างๆนาๆ


ระหว่างทาง รถจะจอดให้แวะ 2 ครั้งนะคะ ครั้งแรกแวะให้เขาห้องน้ำ ครั้งที่สองแวะให้ทานข้าวเช้า ประมาณ 8.00 น.
เวลา 10.40 น. เราได้มาถึงวัดแรก คือ วันเขาสุกิม ที่นี่ให้เวลาเดินชม และทำบุญ ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ


ที่วัดเขาสุกิม จะมีรถราง พาขึ้นไปด้านบน ส่วนใครไม่ขึ้นรถรางก็เดินขึ้นไปได้ค่ะ ไม่ไกล แต่เหนื่อยพอควร เพราะยังไม่ได้วอร์มร่างกาย ฮ่าาา


และนี่คือพวกเราเอง สองสาว พวกเราเลือกเดินขึ้นไปค่ะ


แต่ขากลับ ขอลองนั่งรถราง ลงมาบ้าง เพราะจะถึงเวลานัดแล้ว รถออก 12.00 น.


13.00 น. เดินทางมาถึงอีกหนึ่งวัด คือวัดกระทิง เพื่อกราบไว้หลวงพ่อเขียน




เราสามารถซื้อดอกไม้ธูปเทียนที่จะนำไปไหว้บนเขาคิชฌกูฏ ได้จากที่นี่เลยค่ะ ชุดละ 100 บาท


ที่วัดกระทิง เราใช้เวลาไม่มากค่ะ แปบเดียว และเดินทางต่อไปวัดพลวง
13.30 น. ถึงวัดพลวง ค่ะ ลงรถที่ ศาลา เพื่อต่อรถกะบะ เพื่อขึ้นเขาคิชฌกูฏ ... ใกล้ความจริงแล้ว


และรถกะบะ ก็มารับพวกเรา รถหนึ่งคันนั่งได้ 12 คน ค่ะ
*** คำเตือน *** ตอนที่นั่งรถกะบะ แนะนำให้เก็บสัมภาระทั้งหมดใส่กระเป๋า เพราะทางเป็นลูกลัง และคดเคี้ยวมาก เสี่ยงต่อการทำของหล่นได้ง่าย ดังนั้นเก็บไว้ในกระเป๋าก่อนนะคะ แต่เราแอบเซลฟี่เป็นที่ระลึกนิดนึง
ค่ารถกะบะที่พาขึ้นไป นี้ 200 บาท พี่พนักงานจะเรียกเก็บในรถค่ะ รถพาเราขึ้นไปต่อเดียวถึงเลยค่ะ แต่ถ้าใครขับรถมาเอง จะต้องนั่งรถกะบะสองต่อค่ะ


ใช้เวลาประมาณ 20 นาที (13.50 น.) เราก็ขึ้นมาถึง ลานพระสีวลี (จุดที่ 1)
*** จากจุดนี้ไป ใครจะอธิษฐานขออะไร ก็เริ่มอธิษฐานได้เลยนะคะ คนละ 1 อย่างเท่านั้น ทุกจุดทุกที่ ให้อธิษฐานขอเหมือนกันหมดค่ะ ***



ในถุงดอกไม้ ธูปเทียน ที่เราซื้อมา จะมีผ้าสามสีอยู่ ให้เอามาผูกที่ พระแม่ธรณีบีบมวยผม ค่ะ
ผู้หญิง ผูกฝั่งซ้าย(ของแม่ธรณี) หรือผูกที่มวยผม
ผู้ช้าย ผูกฝั่งขวา(ของแม่ธรณี) อย่าผูกเป็นเงื่อนตายนะคะ


และเราก็เริ่ม เดินขึ้นเขาคิชฌกูฏกันค่ะ โดยพี่พนักงาน นัดพวกเราให้ลงมาที่ลานพระสีวลี ตอน 16.00 น.
ดังนั้น เรามีเวลาอยู่บนเขา 2 ชม.ค่ะ  ลุยกันเลย ทางขึ้นจะมี ถุงดิน ถุงทราย นำขึ้นไปด้วยนะคะ


วิวระหว่างทางค่ะ เซลฟี่เล็กน้อย ตามประสาวัยรุ่น ยิ้ม



เดินมาได้สักพัก สัก 400 เมตร (ประมาณการนะคะ) เราจะมาถึงลานเมตตา นั่งพักแถวนี้แปบนึงค่ะ เริ่มเหนื่อย ยิ้ม



ระฆังระหว่างทาง จากลานเมตตาขึ้นไปค่ะ


หายเหนื่อยแล้ว เดินกันต่อค่ะ ระหว่างทางจะผ่าน รอยเสื้อใหญ่ เลยแวะชมสักหน่อยค่ะ



พอเราเดินมาเจอคำว่า ประตูสวรรค์ นี่คือใกล้ความเป็นจริงแล้วค่ะ ใกล้ถึงจุดหมายของเราแล้ว


เย้ๆๆๆๆๆ เราก็มาถึง รอยพระพุทธบาทแล้วค่ะ สวย สมกับที่พวกเราตั้งใจมาจริงๆค่ะ
วันธรรมดา คนไม่เยอะเลย สบายมากค่ะ ไม่ต้องแย่งกัน ***แนะนำให้มาวันธรรมดานะคะ***



นี่คือรอยพระพุทธบาทค่ะ จะมีสองอันนะคะ อันเล็กคือจำลองมา ส่วนอันนี่คือของจริงค่ะ


หลังจากสักการะรอยพระพุทธบาทเรียบร้อยแล้ว เราก็ลุยกันต่อ เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวค่ะ เราสามารถของเห็นรอยพระพุทธบาทจากที่นี่ด้วยค่ะ



เราตัดสินใจเดินต่อไปลานอินทร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุงของเขานี้ค่ะ ถ้าจะไปผ้าแดงต้องผ่านลานนี้ก่อนนะคะ
แต่พวกเราไม่ไปผ้าแดงค่ะ เพราะกลัวจะลงมาไม่ทันเวลานัด


ที่ลานอินทร์ มีพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ด้วยค่ะ


เดินผ่านทางนี้เผื่อที่จะลงทางลัดค่ะ


เดินไปถึงร้านขายมาม่า จะมีป้ายบอก ทางไปห้องน้ำ และ วงเล็บ ทางลัดไปลานเมตตา ทางซ้ายมือ ส่วนถ้าตรงไปจะไปผ้าแดงค่ะ
( ลืมถ่ายรูปป้ายมาค่ะ )
พี่พนักงานบอกมาว่ามีทางลัดจาก ลานอินทร์ ลงมายัง ลานเมตตา แบบไม่ต้องผ่านรอยพระพุทธบาท
ลัดจริงๆค่ะ ลัดแบบว่าทางจะดูน่ากลัวและอันตรายต่อการลื่นล้มมากค่ะ ต้องเอามือจับต้นไม้กิ่งไม้ตลอดทาง เพื่อความปลอดภัย
ทางนี้ใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้น ก็ถึงลานเมตตาแล้วค่ะ

พวกเราสองคน ก็เดินลงมาถึง ลานพระสีวลี เวลา 15.40 น. นั่งรอรถกะบะ เพื่อจะลงไปวัดพลวง รอด้านข้างลานพระสีวลี จะมีพี่พนักงานเรียกอยู่ตรงนั้น

รถทัวร์จะออกเวลา 17.00 น. ก่อนจะถึงเวลาก็ซื้อ น้ำ ซื้อส้มตำกินกันค่ะ ของฝากต่างๆ

ขากลับ รถจะจอด 2 ครั้ง เช่นกันคือ จอดให้เข้าห้องน้ำ และ จอดให้ทานอาหารเย็น และถึง กทม. 21.30 น. ค่ะ (ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาจะเลทไปอีกนะคะ เพราะรถติดด้วย คนเยอะด้วย)


  สรุปรายละเอียด ค่าใช้จ่ายหลักๆ สำหรับทิปนี้นะคะ
       ค่ารถทัวร์ไหวะพระเขาคิชฌกูฏ 479 บาท
       ค่ารถกะบะ 200 บาท
       ค่าดอกไม้ ธูปเทียน 100 บาท
       *** รวม 779 บาท ค่ะ ***
       ส่วนค่าทำบุญอื่นๆ แล้วแต่ศรัทธาค่ะ

  สรุปชื่อสถานที่ที่ไป
       1. วัดเขาสุกิม
       2. วัดกระทิง
       3. วัดพลวง
       4. ลานพระสีวลี (เขาคิชฌกูฏ)
       5. ลานเมตตา (เขาคิชฌกูฏ)
       6. รอยพระพุทธบาท (เขาคิชฌกูฏ)
       7. จุดชมวิว (เขาคิชฌกูฏ)
       8. ลานอินทร์ (เขาคิชฌกูฏ)
       9. ผ้าแดง (เขาคิชฌกูฏ) *** ไม่ได้ไปค่ะ ***

   สิ่งที่ต้องเตรียมไป
       1. หมวก
       2. รองเท้าผ้าใบ
       3. น้ำดื่ม
       4. อาหาร (เพราะบนเขา ของกินแพงมากค่ะ)
       5. เสื้อแขนยาวกันหนาว (เพราะบนรถ แอร์เย็นมากค่ะ)
       6. แว่นกันแดด (อันนี้แล้วแต่บุคคลเลยค่ะ แต่บางทีใส่แล้วอาจจะหาทางเดินยากนิดนึง)    
       7. ยาดมต่างๆ (เวลาเดินเหนื่อยดมแล้วจะมีแรงขึ้นค่ะ)
       8. กล้องถ่ายรูป มือถือ (ไว้เก็บภาพวิวที่สวยงามค่ะ)

ข้อเสียของเที่ยวกับขสมก.
คือเราต้องตรงเวลากับที่พี่พนักงานนัดค่ะ ไม่งั้นเพื่อนร่วมทางคนอื่นต้องมานั่งรอเราค่ะ ถ้าคนไม่ครบเขาจะไม่ออกรถค่ะ ดังนั้นถ้าเที่ยวกับขสมก. ต้องรักษาเวลาเพื่อส่วนรวมค่ะ เวลาเดินบนเขาอาจจะน้อยหน่อยนะคะ อาจจะไม่เพียงสำหรับบางคน ถ้าใครที่อยากอยู่บนเขานานๆ แนะนำเหมารถเดินทางเองจะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าใครไม่ได้จะอยู่บนเขานานมาก ก็ใช้บริการของ ขสมก. ได้ค่ะ

** แก้ไข เพิ่มข้อเสียค่ะ **

พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ

ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบนะคะ หวังว่ากระทู้นี้ จะช่วยให้สำหรับคนที่หาข้อมูลเพื่อจะไปเขาคิชฌกูฏ ไม่มากก็น้อยค่ะ
ใครสงสัยอะไร สอบถามได้นะคะ
ชื่อสินค้า:   ทัวร์ไหว้พระเขาคิชฌกูฏ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่