ขอฝากกระทู้เก่าด้วยนะคะ
ออกเดินทางสู่ปิล็อก สังขละ ทองผาภูมิ
http://ppantip.com/topic/34829509/comment54-1
ถึงเวลาชมพูพันธ์ทิพย์ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรกำแพงแสน 2559
http://ppantip.com/topic/34838119
แว้นไปดูดอกไม้ที่วังน้ำเขียว แล้วชม คอนเสิร์ต Chill Music On The Hill #6
http://ppantip.com/topic/34851109
ไปพักใจ ที่สีชัง
http://ppantip.com/topic/34853335
สวัสดีเพื่อนชาวพันทิพย์ทุกท่านเลยนะคะ ได้ดูของเพื่อนๆๆมาคราวนี้ตัวเองก็ขอรีวิวการท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง ทริปนี้ไปแบบชิวๆๆ ไม่เน้นเรื่องเที่ยวเท่าไร ไปพักผ่อนเป็นหลัก ก็เริ่มการเดินทางกันเลย ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการก่อนนะคะ ชื่อบอมคะ แต่ชื่อบอมดูโหดไปนิด1 บอมหรือคาร์บอม (ที่แปลว่าระเบิด) 55 โดยส่วยตัวชอบประเทศญี่ปุ่น ชอบดูเซเลอร์มูล ชอบทานซูชิ เลยอยากมีชื่อเป็นญี่ปุ่น เลยเป็นที่มาของ ชื่อบอมมิโกะ บอมเองเป็นสาวประเภทสองคะ ชีวิตก็เจออะไรหลายๆๆอย่าง ทั้งดีและไม่ดี เพราะก็เค้าใจนะคะว่าเพศอย่างเราเองสังคมก็ยังไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไร กระเทยสวยๆๆเท่านั้นหรือคนที่มีความสามารถจริงๆๆที่จะถูกยอมรับ เป็นกระเทยไม่พอยังไม่สวย อ้วนและดำอีก อะไรจะขนาดนั้นนะคุณบอมมิโกะ ไปไหนมาไหนก็มักจะถูกนินทา ใช้สายตามองอย่างน่ารังเกลียด บางทีก็โดนด่าไอ้กระเทยควาย เหมือนจะชินนะ แต่ก็แอบเสียใจทุกๆๆครั้ง ว่าเราทำอะไรผิด ทำไมถึงเจอคนมาดูถูกหรือรังเกลียด แต่ก็ชั่งมันเถอะ ปล่อยว่าง เราห้ามความคิดใครไม่ได้เน้อ ก็ทำตัวเองให้ดีที่สุดและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สังคม ทำงานสุจริต ไม่ดูถูกคน ก็สบายใจและ และอีกสิ่งที่ตัวบอมมิโกะเองชอบคือ การท่องเที่ยว เที่ยวได้ทุกรูปแบบ ไปได้ทุกทาง จะมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถทัวร์ เรือ เครื่องบิน ไปหมดคะ ขอให้ไปถึงจุดมุ่งหมายได้ เห็นอ้วนๆๆแบบนี้ ไม่เป็นภาระใครแน่นอนค่ะ และครั้งนี้ก็เดินทางด้วยรถทัวร์คะ ไปแบบง่ายๆๆสบายๆๆ
การเดินทางในครั้งนี้
เราเดินทางไป-กลับ ด้วยรถประจำทางของสมบัติทัวร์คะ
กล้องถ่ายภาพ ก็ถ่ายจากโทรศัพท์ samsung s4 zoom ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ ไม่แต่งภาพใดๆๆ
ชุดสวยจัดเต็ม
รองเท้านินจาสั่งทำพิเศษ3 คู่ ยี่ห้อ cs choes
https://www.facebook.com/cs.thaininja?fref=ts
เริ่มการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้แว้นไป แต่ครั้งนี้เราใช้บริการรถประจำทาง บริษัทสมบัติทัวร์ค่ะ ที่ใช่บริษัทนี้เพราะ
1 อยู่ริมถนนวิภาวดี ไปมาสะดวก หาแท็กซีง่าย
2 เปลี่ยนคนขับ 2 คน ในระยะทางที่ไกล ซึ่งเราว่าปลอดภัยดี
3 ตรงแต่เวลาดี รถใช้ความเร็วตามที่กำหนด
4 มีการแวะพักที่กำแพงเพชร ไม่ต้องนั่งรถยาว
สมบัติทัวร์ ผู้ดำเนินธุรกิจขนส่งผู้โดยสารสาธารณะของประเทศไทย เริ่มให้บริการขนส่งผู้โดยสารมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2485 ในนาม "เต็กเชียง" จนเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 จึงได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทในนาม "บริษัท เทพสมบัติ จำกัด" และเปลี่ยนชื่อทางการค้าเป็น "สมบัติทัวร์" ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี บนเส้นทางธุรกิจให้บริการขนส่งผู้โดยสาร บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพงานบริการ และต้องการยกระดับคุณภาพธุรกิจบริการขนส่งผู้โดยสารของเมืองไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่านานาประเทศทั่วโลก
บริษัทฯ มีการขยายกิจการครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 29 เส้นทาง ด้วยความพร้อมในทุก ๆ ด้าน และศักยภาพทั้งหมดที่มีรวมถึงการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการขนส่งและการบริการผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ด้วยสโลแกนของพวกเรา “สมบัติทัวร์ มิตรแท้เพื่อนเดินทาง”
เราใช้บริการรถ vip เชียงใหม่รอบ 21.30 เพื่อนๆๆสามารถดูรอบรถได้ที่นี้ค่ะ
http://www.sombattour.com/th/schedule/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88
มาถึงที่สมบัติทัวร์แต่เนิ่ดๆๆ
คนพร้อม กระเป๋าพร้อม รองเท้าพร้อม ก็พร้อมลุยได้เลยค่ะ ถึงเวลา 21.30 เราก็ขึ้นรถ ออกเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ เราจะแวะพักรับประทานอาหารที่จุดจอดรถของสมบัติก่อนที่จังหวัดกำแพงเพชร เรานั่งรถ vip อาหารที่ได้ทานก็จะเป็นแบบบุตเฟต์ ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายมานะค่ะ เนื่องด้วยลืมเอาพาว์เวอร์แบงค์มา เลยต้องเซฟแบตในโทรศัพท์ เพราะถึงเชียงใหม่เราก็จะไปม่อนแจ่มเลย เลยจำเป็นต้องเก็บแบตไว้ เมื่อถึงเชียงใหม่ก็จะมีคุณน้าของเพื่อนมารับ ซึ่งคืนนี้เราจะพักกันที่ขุนช่างเคี่ยน เราก็เลยไปเที่ยวกันก่อน สถานที่จะไปกันที่ม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียงแค่ 40 นาทีเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้ง หนองหอย อ.แม่ริม ม่อนแจ่ม มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ โดยรอบ มองเห็นทิวเขาสลับกันไปไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านก็จะเป็นไร่ปลูกพืชต่างๆของโครงการหลวง บนยอดม่อนแจ่มมีพื้นที่ ไม่มากนักสามารถเดินชมได้จนทั่วได้อย่างสบาย ม่อนแจ่ม"อยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย เดิมที่บริเวณนี้ชาวบ้าน เรียกว่ากิ่วเสือเป็นป่ารกร้าง ต่อมาชาวบ้านเข้ามาแผ้วถางและปลูกผิ่น จนในท้ายที่สุดโครงการหลวงมาขอซื้อพื้นที่เข้า โครงการหลวงหนองหอย เมื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหลวง คุณแจ่ม-แจ่มจรัส สุชีวะ หลานของ ม.จ. ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงบริเวณม่อนแจ่มให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะในลักษณะ ของแค้มปิ้งรีสอร์ท
บน ม่อนแจ่ม สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก ด้านหนึ่งมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์ทิวทัศน์ของ อ.แม่แตง และอ.แม่ริม เป็นอย่างดี ในวันที่ฟ้าเปิดเป็นใจมาก สามารถมองเห็นไกลถึงดอยหลวงเชียงดาวและขุนเขาเขตในจังหวัดเชียงรายเลยที เดียว แต่ที่พิเศษยิ่งกว่านั่นก็คือ ย่ำยามราตรีในคืนเดือนมืด เมื่อแหงนหน้ามองฟ้าที่นี่จะงดงามไปด้วยทะเลดาว เต็มฟาก ฟ้า ส่วนเมื่อก้ม มองลงไปยังเบื้องล่างจะเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างจากทั้งสองอำเภอ
บรรยากาศวิว ที่ดูสุดลูกตา แต่วันนี้มี่หมอกเยอะไปหน่อย
ดอกฝิ่นเป็นพืชที่ผิดกฏหมาย แต่ถ้าปลูกเพื่อนความสวยงามก็ไม่เป็นไร ดอกของมันสวยมาก
สิ่งที่น่าสนใจซึ่งเป็นไฮไลต์ของการมาเที่ยวม่อนแจ่ม คือ การได้แคมปิ้ง ชมวิวสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมแปลงพืชผักและ ผลไม้ เมืองหนาว ที่นี่ มีร้านค้า ร้านอาหารไว้คอยให้บริการ นั่งดื่มกาแฟ หรือจะทานอาหาร นั่งชมวิว ทานอาหารและกาแฟ บนกระท่อม ไม้ไผ่ ที่อยู่ติดริมเขาได้บรรยากาศดีมาก ส่วนบ้านนพักก็จะเป็นกระท่อม ทำจากไม้จำพวกไผ่ มุงหลังคาด้วยหญ้าคา สำหรับให้ บริการนักท่องเที่ยว มีห้องน้ำในต้ว หรืออยากกางเต้นท์ก็มีสถานที่จัดเตรียมเอาไว้ให้
ความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูก ชั่งสวยงามยิ่ง อากาศก็เย็นสบาย
เอารถเก่ามาตกแต่งแล้วปลูกต้นไม้ก็ดูเก๋ดีไม่เบา
ใครที่ชอบการถ่ายรูปที่นี้ก็มีที่ให้เราได้ถ่ายรูปได้เต็มที่เลย
เป็นไงละค่ะ ดิฉันพยายามขนาดไหน
ทั้งคนและดอก เข้ากัน กลมกลืนได้ดี
ทานอาหารไปชมบรรยากาศไป มื้อนี้คงทานอร่อยไม่เบา
อากาศเย็นๆๆก็จิบชาสมุนไพรสักหน่อย บอกเลยต้องลอง
บริเวณใกล้ ๆ ม่อนแจ่ม จะมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยภายในมีแปลงผักและงานวิจัย ผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค, แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ให้ได้ชื่นชม หรือจะไปเดินศึกษาธรรมชาติ ณ ดอยม่อนล่อง ซึ่งเป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอก บนหน้าผา 1,460 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง ชมพรรณไม้และดอกไม้ป่าหลากหลาย แต่ถ้าใครกลัวหลง ที่นี่ก็มีไกด์ท้องถิ่น และมัคคุเทศก์น้อย ของหมู่บ้านชาวเขา บริการนำเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวเขา ติดต่อสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 053- 939173 , 081-9509767
สตอเบอรี่ถังนี้ ราคาแสนถูก 800 บาทเอง
เกรฟกู๊ดเบอรี่ หรือเรียกอีกชื่อว่า ต้นโทงเทงฝรั่ง สุดยอดเบอรี่ที่มีวิตามินสูง
วิถีชีวิตของคนบนนั้น ดูแล้วอดยิ้มไม่ได้
หนาวนี้ที่ขุนช่างเคี่ยน
ขอฝากกระทู้เก่าด้วยนะคะ
ออกเดินทางสู่ปิล็อก สังขละ ทองผาภูมิ http://ppantip.com/topic/34829509/comment54-1
ถึงเวลาชมพูพันธ์ทิพย์ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรกำแพงแสน 2559 http://ppantip.com/topic/34838119
แว้นไปดูดอกไม้ที่วังน้ำเขียว แล้วชม คอนเสิร์ต Chill Music On The Hill #6 http://ppantip.com/topic/34851109
ไปพักใจ ที่สีชัง http://ppantip.com/topic/34853335
สวัสดีเพื่อนชาวพันทิพย์ทุกท่านเลยนะคะ ได้ดูของเพื่อนๆๆมาคราวนี้ตัวเองก็ขอรีวิวการท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง ทริปนี้ไปแบบชิวๆๆ ไม่เน้นเรื่องเที่ยวเท่าไร ไปพักผ่อนเป็นหลัก ก็เริ่มการเดินทางกันเลย ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการก่อนนะคะ ชื่อบอมคะ แต่ชื่อบอมดูโหดไปนิด1 บอมหรือคาร์บอม (ที่แปลว่าระเบิด) 55 โดยส่วยตัวชอบประเทศญี่ปุ่น ชอบดูเซเลอร์มูล ชอบทานซูชิ เลยอยากมีชื่อเป็นญี่ปุ่น เลยเป็นที่มาของ ชื่อบอมมิโกะ บอมเองเป็นสาวประเภทสองคะ ชีวิตก็เจออะไรหลายๆๆอย่าง ทั้งดีและไม่ดี เพราะก็เค้าใจนะคะว่าเพศอย่างเราเองสังคมก็ยังไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไร กระเทยสวยๆๆเท่านั้นหรือคนที่มีความสามารถจริงๆๆที่จะถูกยอมรับ เป็นกระเทยไม่พอยังไม่สวย อ้วนและดำอีก อะไรจะขนาดนั้นนะคุณบอมมิโกะ ไปไหนมาไหนก็มักจะถูกนินทา ใช้สายตามองอย่างน่ารังเกลียด บางทีก็โดนด่าไอ้กระเทยควาย เหมือนจะชินนะ แต่ก็แอบเสียใจทุกๆๆครั้ง ว่าเราทำอะไรผิด ทำไมถึงเจอคนมาดูถูกหรือรังเกลียด แต่ก็ชั่งมันเถอะ ปล่อยว่าง เราห้ามความคิดใครไม่ได้เน้อ ก็ทำตัวเองให้ดีที่สุดและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สังคม ทำงานสุจริต ไม่ดูถูกคน ก็สบายใจและ และอีกสิ่งที่ตัวบอมมิโกะเองชอบคือ การท่องเที่ยว เที่ยวได้ทุกรูปแบบ ไปได้ทุกทาง จะมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถทัวร์ เรือ เครื่องบิน ไปหมดคะ ขอให้ไปถึงจุดมุ่งหมายได้ เห็นอ้วนๆๆแบบนี้ ไม่เป็นภาระใครแน่นอนค่ะ และครั้งนี้ก็เดินทางด้วยรถทัวร์คะ ไปแบบง่ายๆๆสบายๆๆ
การเดินทางในครั้งนี้
เราเดินทางไป-กลับ ด้วยรถประจำทางของสมบัติทัวร์คะ
กล้องถ่ายภาพ ก็ถ่ายจากโทรศัพท์ samsung s4 zoom ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ ไม่แต่งภาพใดๆๆ
ชุดสวยจัดเต็ม
รองเท้านินจาสั่งทำพิเศษ3 คู่ ยี่ห้อ cs choes https://www.facebook.com/cs.thaininja?fref=ts
เริ่มการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้แว้นไป แต่ครั้งนี้เราใช้บริการรถประจำทาง บริษัทสมบัติทัวร์ค่ะ ที่ใช่บริษัทนี้เพราะ
1 อยู่ริมถนนวิภาวดี ไปมาสะดวก หาแท็กซีง่าย
2 เปลี่ยนคนขับ 2 คน ในระยะทางที่ไกล ซึ่งเราว่าปลอดภัยดี
3 ตรงแต่เวลาดี รถใช้ความเร็วตามที่กำหนด
4 มีการแวะพักที่กำแพงเพชร ไม่ต้องนั่งรถยาว
สมบัติทัวร์ ผู้ดำเนินธุรกิจขนส่งผู้โดยสารสาธารณะของประเทศไทย เริ่มให้บริการขนส่งผู้โดยสารมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2485 ในนาม "เต็กเชียง" จนเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 จึงได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทในนาม "บริษัท เทพสมบัติ จำกัด" และเปลี่ยนชื่อทางการค้าเป็น "สมบัติทัวร์" ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี บนเส้นทางธุรกิจให้บริการขนส่งผู้โดยสาร บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพงานบริการ และต้องการยกระดับคุณภาพธุรกิจบริการขนส่งผู้โดยสารของเมืองไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่านานาประเทศทั่วโลก
บริษัทฯ มีการขยายกิจการครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 29 เส้นทาง ด้วยความพร้อมในทุก ๆ ด้าน และศักยภาพทั้งหมดที่มีรวมถึงการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการขนส่งและการบริการผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ด้วยสโลแกนของพวกเรา “สมบัติทัวร์ มิตรแท้เพื่อนเดินทาง”
เราใช้บริการรถ vip เชียงใหม่รอบ 21.30 เพื่อนๆๆสามารถดูรอบรถได้ที่นี้ค่ะ http://www.sombattour.com/th/schedule/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88
มาถึงที่สมบัติทัวร์แต่เนิ่ดๆๆ
คนพร้อม กระเป๋าพร้อม รองเท้าพร้อม ก็พร้อมลุยได้เลยค่ะ ถึงเวลา 21.30 เราก็ขึ้นรถ ออกเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ เราจะแวะพักรับประทานอาหารที่จุดจอดรถของสมบัติก่อนที่จังหวัดกำแพงเพชร เรานั่งรถ vip อาหารที่ได้ทานก็จะเป็นแบบบุตเฟต์ ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายมานะค่ะ เนื่องด้วยลืมเอาพาว์เวอร์แบงค์มา เลยต้องเซฟแบตในโทรศัพท์ เพราะถึงเชียงใหม่เราก็จะไปม่อนแจ่มเลย เลยจำเป็นต้องเก็บแบตไว้ เมื่อถึงเชียงใหม่ก็จะมีคุณน้าของเพื่อนมารับ ซึ่งคืนนี้เราจะพักกันที่ขุนช่างเคี่ยน เราก็เลยไปเที่ยวกันก่อน สถานที่จะไปกันที่ม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียงแค่ 40 นาทีเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้ง หนองหอย อ.แม่ริม ม่อนแจ่ม มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ โดยรอบ มองเห็นทิวเขาสลับกันไปไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านก็จะเป็นไร่ปลูกพืชต่างๆของโครงการหลวง บนยอดม่อนแจ่มมีพื้นที่ ไม่มากนักสามารถเดินชมได้จนทั่วได้อย่างสบาย ม่อนแจ่ม"อยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย เดิมที่บริเวณนี้ชาวบ้าน เรียกว่ากิ่วเสือเป็นป่ารกร้าง ต่อมาชาวบ้านเข้ามาแผ้วถางและปลูกผิ่น จนในท้ายที่สุดโครงการหลวงมาขอซื้อพื้นที่เข้า โครงการหลวงหนองหอย เมื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหลวง คุณแจ่ม-แจ่มจรัส สุชีวะ หลานของ ม.จ. ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงบริเวณม่อนแจ่มให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะในลักษณะ ของแค้มปิ้งรีสอร์ท
บน ม่อนแจ่ม สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก ด้านหนึ่งมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์ทิวทัศน์ของ อ.แม่แตง และอ.แม่ริม เป็นอย่างดี ในวันที่ฟ้าเปิดเป็นใจมาก สามารถมองเห็นไกลถึงดอยหลวงเชียงดาวและขุนเขาเขตในจังหวัดเชียงรายเลยที เดียว แต่ที่พิเศษยิ่งกว่านั่นก็คือ ย่ำยามราตรีในคืนเดือนมืด เมื่อแหงนหน้ามองฟ้าที่นี่จะงดงามไปด้วยทะเลดาว เต็มฟาก ฟ้า ส่วนเมื่อก้ม มองลงไปยังเบื้องล่างจะเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างจากทั้งสองอำเภอ
บรรยากาศวิว ที่ดูสุดลูกตา แต่วันนี้มี่หมอกเยอะไปหน่อย
ดอกฝิ่นเป็นพืชที่ผิดกฏหมาย แต่ถ้าปลูกเพื่อนความสวยงามก็ไม่เป็นไร ดอกของมันสวยมาก
สิ่งที่น่าสนใจซึ่งเป็นไฮไลต์ของการมาเที่ยวม่อนแจ่ม คือ การได้แคมปิ้ง ชมวิวสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมแปลงพืชผักและ ผลไม้ เมืองหนาว ที่นี่ มีร้านค้า ร้านอาหารไว้คอยให้บริการ นั่งดื่มกาแฟ หรือจะทานอาหาร นั่งชมวิว ทานอาหารและกาแฟ บนกระท่อม ไม้ไผ่ ที่อยู่ติดริมเขาได้บรรยากาศดีมาก ส่วนบ้านนพักก็จะเป็นกระท่อม ทำจากไม้จำพวกไผ่ มุงหลังคาด้วยหญ้าคา สำหรับให้ บริการนักท่องเที่ยว มีห้องน้ำในต้ว หรืออยากกางเต้นท์ก็มีสถานที่จัดเตรียมเอาไว้ให้
ความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูก ชั่งสวยงามยิ่ง อากาศก็เย็นสบาย
เอารถเก่ามาตกแต่งแล้วปลูกต้นไม้ก็ดูเก๋ดีไม่เบา
ใครที่ชอบการถ่ายรูปที่นี้ก็มีที่ให้เราได้ถ่ายรูปได้เต็มที่เลย
เป็นไงละค่ะ ดิฉันพยายามขนาดไหน
ทั้งคนและดอก เข้ากัน กลมกลืนได้ดี
ทานอาหารไปชมบรรยากาศไป มื้อนี้คงทานอร่อยไม่เบา
อากาศเย็นๆๆก็จิบชาสมุนไพรสักหน่อย บอกเลยต้องลอง
บริเวณใกล้ ๆ ม่อนแจ่ม จะมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยภายในมีแปลงผักและงานวิจัย ผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค, แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ให้ได้ชื่นชม หรือจะไปเดินศึกษาธรรมชาติ ณ ดอยม่อนล่อง ซึ่งเป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอก บนหน้าผา 1,460 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง ชมพรรณไม้และดอกไม้ป่าหลากหลาย แต่ถ้าใครกลัวหลง ที่นี่ก็มีไกด์ท้องถิ่น และมัคคุเทศก์น้อย ของหมู่บ้านชาวเขา บริการนำเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวเขา ติดต่อสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 053- 939173 , 081-9509767
สตอเบอรี่ถังนี้ ราคาแสนถูก 800 บาทเอง
เกรฟกู๊ดเบอรี่ หรือเรียกอีกชื่อว่า ต้นโทงเทงฝรั่ง สุดยอดเบอรี่ที่มีวิตามินสูง
วิถีชีวิตของคนบนนั้น ดูแล้วอดยิ้มไม่ได้