ขออนุญาตเกาะกระแสสักหน่อยเถอะ อย่าว่างั้นงี้เลย(นานๆเข้ามาทีนึง) เพราะอ่านไปทางไหนก็เจอแต่กระทู้นี้
จึงขออนุญาตแสดงความคิดเห็นสักหน่อยแม้จะไม่ตรงกับใคร แต่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวในกรณีนี้
การที่คุณสรยุทธ เป็นนักเล่าข่าวคนดัง ก็เหมือนเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว และการที่ต้องคดีจนมีคำพิพากษาออกมาแล้ว
แม้จะเป็นศาลชั้นต้น ในกระบวนการยุติธรรมยังสามารถต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้อีก2ขั้นในชั้นอุทธรณ์และฎีกา
แม้ว่าในตัวอย่างอื่นๆจะมีการหยิบยกมาว่ากรณีนั้นกรณีนี้ทำไมยังทำงานกันไปอยู่ได้อีก คดียังไม่สิ้นสุดสุดท้ายไม่เป็นไร
ขออนุญาตยกคำสอนทางพุทธศาสนาของหลวงปูชามาข้อหนึ่ง ที่ว่า ขอให้ใช้ตาที่มีอยู่มองกลับมาที่ตัวเราเองว่าได้ทำผิดอะไร
ทำอะไรไม่ถูก แล้วจึงทำการแก้ไขให้ถูกต้องเสีย อย่าเอาตาที่มีอยู่มองออกไปข้างนอกที่คนอื่นๆรอบข้าง ว่า คนนั้นก็ทำผิดยังงั้นยังงี้
ท่านสอนให้มองที่ตัวเองแล้วแก้ไข อย่าไปมองคนอื่นแล้วเอามาเป็นข้ออ้างแก้ตัวให้ตนเองเลย (ความจริงท่านไม่ได้บอกสอนแบบนี้ เปะๆหรอก
แต่ผมได้สรุปความแล้ว คำสอนของท่านหลวงปู่ชาให้คนใช้ตาที่มีมองกลับที่ตนเอง และทำความดีแก้ไขในสิ่งที่ทำผิด ยังคงเป็นทำนองนี้ครับ)
สิ่งที่คุณสรยุทธได้ต่อสู้ทางคดีพิสูจน์ความจริงกันอยู่นี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาไปแล้วชั้นหนึ่งแล้ว และกำลังรอจะพิสูจน์ต่อในชั้นอุทธรณ์
ข้อสำคัญที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นคือ คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับอาชีพสื่อสารมวลชนที่คุณกำลังปฎิบัติงานอยู่ ไม่ใช่คดีอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องเรื่องสื่อเลย
จากที่ได้อ่านกระทู้ทั้งหลายทราบว่าคุณสรยุทธยังคงมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวเล่าข่าวเมื่อเช้านี้อยู่เหมือนเดิม แม้จะอ่านข่าวคดีตนเองด้วยก็ตาม
ในความเห็นของผม คุณสรยุทธ มาเล่าข่าวตอนเช้าวันนี้ น่าจะมาปฎิบัติหน้าที่สัก 10 นาที โดยอธิบายปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วขอลาผู้ชม
แฟนรายการเล่าข่าวชั่วคราว เพื่อไปดำเนินกระบวนการต่อสู้ทางคดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป แล้วมีคนใหม่มาแทน จะเป็นใครก็แนะนำไปเลย
แล้วให้คนใหม่เข้ามาแทนที่อ่านข่าวเล่าข่าวไปแทน เช่นนี้คุณสรยุทธก็จะได้มีเวลาไปจัดการเรื่องคดี และเป็นการรักษาจรรยาบรรณ
ของสื่อสารมวลชนอย่างดี ไปทำเพียงหน้าที่ผู้บริหารของบริษัทไร่ส้ม อยู่เบื้องหลังของรายการ เพียงแค่ชั่วคราว แบบนี้น่าจะสง่างาม
อีกทั้งเป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานที่ดีในวงการสื่อสารมวลชนบ้านเราต่อไปครับ
ปล 1 แม้จะผ่านวันนี้ไปแล้ว แต่คุณสรยุทธ ยังมีรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ช่วงเย็น ก็สามารถลาผู้ชมในช่วงนั้นก็ได้ครับ
2 เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ท่านผู้ใดไม่เห็นด้วยผมก็เคารพในความคิดและวิจารณญาณของท่าน
3 สำหรับคุณสรยุทธ ท่านจะรับฟังหรือไม่รับฟัง สนใจหรือไม่สนใจข้อเสนอแนะ เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของท่านเต็มที่เลยครับ
กรณีนักเล่าข่าวคนดัง
จึงขออนุญาตแสดงความคิดเห็นสักหน่อยแม้จะไม่ตรงกับใคร แต่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวในกรณีนี้
การที่คุณสรยุทธ เป็นนักเล่าข่าวคนดัง ก็เหมือนเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว และการที่ต้องคดีจนมีคำพิพากษาออกมาแล้ว
แม้จะเป็นศาลชั้นต้น ในกระบวนการยุติธรรมยังสามารถต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้อีก2ขั้นในชั้นอุทธรณ์และฎีกา
แม้ว่าในตัวอย่างอื่นๆจะมีการหยิบยกมาว่ากรณีนั้นกรณีนี้ทำไมยังทำงานกันไปอยู่ได้อีก คดียังไม่สิ้นสุดสุดท้ายไม่เป็นไร
ขออนุญาตยกคำสอนทางพุทธศาสนาของหลวงปูชามาข้อหนึ่ง ที่ว่า ขอให้ใช้ตาที่มีอยู่มองกลับมาที่ตัวเราเองว่าได้ทำผิดอะไร
ทำอะไรไม่ถูก แล้วจึงทำการแก้ไขให้ถูกต้องเสีย อย่าเอาตาที่มีอยู่มองออกไปข้างนอกที่คนอื่นๆรอบข้าง ว่า คนนั้นก็ทำผิดยังงั้นยังงี้
ท่านสอนให้มองที่ตัวเองแล้วแก้ไข อย่าไปมองคนอื่นแล้วเอามาเป็นข้ออ้างแก้ตัวให้ตนเองเลย (ความจริงท่านไม่ได้บอกสอนแบบนี้ เปะๆหรอก
แต่ผมได้สรุปความแล้ว คำสอนของท่านหลวงปู่ชาให้คนใช้ตาที่มีมองกลับที่ตนเอง และทำความดีแก้ไขในสิ่งที่ทำผิด ยังคงเป็นทำนองนี้ครับ)
สิ่งที่คุณสรยุทธได้ต่อสู้ทางคดีพิสูจน์ความจริงกันอยู่นี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาไปแล้วชั้นหนึ่งแล้ว และกำลังรอจะพิสูจน์ต่อในชั้นอุทธรณ์
ข้อสำคัญที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นคือ คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับอาชีพสื่อสารมวลชนที่คุณกำลังปฎิบัติงานอยู่ ไม่ใช่คดีอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องเรื่องสื่อเลย
จากที่ได้อ่านกระทู้ทั้งหลายทราบว่าคุณสรยุทธยังคงมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวเล่าข่าวเมื่อเช้านี้อยู่เหมือนเดิม แม้จะอ่านข่าวคดีตนเองด้วยก็ตาม
ในความเห็นของผม คุณสรยุทธ มาเล่าข่าวตอนเช้าวันนี้ น่าจะมาปฎิบัติหน้าที่สัก 10 นาที โดยอธิบายปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วขอลาผู้ชม
แฟนรายการเล่าข่าวชั่วคราว เพื่อไปดำเนินกระบวนการต่อสู้ทางคดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป แล้วมีคนใหม่มาแทน จะเป็นใครก็แนะนำไปเลย
แล้วให้คนใหม่เข้ามาแทนที่อ่านข่าวเล่าข่าวไปแทน เช่นนี้คุณสรยุทธก็จะได้มีเวลาไปจัดการเรื่องคดี และเป็นการรักษาจรรยาบรรณ
ของสื่อสารมวลชนอย่างดี ไปทำเพียงหน้าที่ผู้บริหารของบริษัทไร่ส้ม อยู่เบื้องหลังของรายการ เพียงแค่ชั่วคราว แบบนี้น่าจะสง่างาม
อีกทั้งเป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานที่ดีในวงการสื่อสารมวลชนบ้านเราต่อไปครับ
ปล 1 แม้จะผ่านวันนี้ไปแล้ว แต่คุณสรยุทธ ยังมีรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ช่วงเย็น ก็สามารถลาผู้ชมในช่วงนั้นก็ได้ครับ
2 เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ท่านผู้ใดไม่เห็นด้วยผมก็เคารพในความคิดและวิจารณญาณของท่าน
3 สำหรับคุณสรยุทธ ท่านจะรับฟังหรือไม่รับฟัง สนใจหรือไม่สนใจข้อเสนอแนะ เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของท่านเต็มที่เลยครับ