ต่อเนื่องจากกระทู้แรก แบกเป้เที่ยวแดนจิงโจ้ 6 วัน 2 เมือง Melbourne & Sydney ที่ http://ppantip.com/topic/34703077
และ ทริปออสเตรเลีย วันที่สี่ ออกไปเยี่ยมชมธรรมชาติใกล้เมืองซิดนีย์ ที่ Blue Mountain ที่ http://ppantip.com/topic/34844743

วันนี้จะมีภารกิจหลักของทริปนี้อย่างหนึ่งนั่นคือไปชมพลุรับปีใหม่ 2015 กัน และอีกสิ่งหนึ่งที่เรายังไม่รู้ นั่นคือเป็นวันที่เราต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการตั้งหน้าตั้งตาคอย ว่าแล้วก็ออกเดินทางกัน

วันนี้ตามโปรแกรมเดิม เริ่มจากเข้าไปชมภายในของ Opera House ในช่วงเช้า แล้วสักประมาณบ่าย 3 ก็จะเตรียมตัวเข้าไปชมพลุที่ Mrs.Macquaries Chair กัน โปรแกรมสบายๆ เราเลยไม่ค่อยต้องรีบร้อนมากนัก เราออกจากโรงแรมประมาณ 8 โมงเช้า เดินถ่ายรูปข้างทางกันไปเรื่อยๆอย่างชิลล์ๆสบายอารมณ์



เราถ่ายรูปรอจนเรือมารับประมาณ 8.40 น. นั่งมาประมาณ 20 นาที เรือก็พาเรามาถึงที่ McMahon’s Point ตอน 9 โมง เราลงเรือที่นี่เพื่อถ่ายรูป Opera House โดยมี Harbour Bridge เป็นฉากหน้า ที่นี่นับเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยอีกแห่งหนึ่ง เสียดายเช้านี้ฟ้าไม่ค่อยใส




ขณะถ่ายรูปเราเห็นนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์ที่นี่ตั้งแต่เมือคืน เริ่มเอะใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าเค้าวางแผนหาจุดถ่ายพลุได้ดี ถ่ายรูปอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เรือ CHARLOTTE ก็มารับพาเราลอดใต้ Harbour Bridge



ระหว่างลอดสะพาน แอบเห็นแผงไฟที่จะเปิดโชว์ช่วงจุดพลุคืนนี้


เรือพาเราเลียบข้าง Opera House และ The Rock เพื่อไปขึ้นท่าเรือที่ Circular Quay



เรามาถึง Circular Quay เวลา 9.40 น. จากนั้นเราก็เดินต่ออีก 20 นาทีเพื่อไปยัง Opera House ระหว่างทางเราเห็นนักท่องเที่ยวมาที่นี่กันเยอะมาก พร้อมกับเห็นเริ่มกั้นพื้นที่กันบ้างแล้ว ไอ้เราก็นึกว่าคนมาเที่ยวชม Opera House เหมือนเราเยอะแฮะ


พอเข้าไปติดต่อข้างใน office ที่ชั้นล่าง เพื่อจะแลกตั๋วเข้าขมภายใน Staff บอกว่าวันนี้ Opera House ปิด!!!!!! เนื่องจากจะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับการจุดพลุคืนนี้ แสดงว่าคนที่มากันเยอะๆนี่ก็ไม่ได้เข้ามาชมข้างใน เค้าเริ่มเข้ามาจับจองพื้นที่ชมพลุกันตั้งแต่เช้าเลย เท่านั้นแหละ งานเข้าแล้วเรา

ตอนแรกตามแผน เราจะเข้าไปเตรียมชมพลุตอนบ่าย 3 พอถาม Staff บอกว่าบ่าย 3 เนี่ยเค้าจะปิดทางเข้าแล้ว ถ้าคนเข้าไปเยอะอาจจะปิดก่อนด้วย จะต้องรีบไปตั้งแต่ตอนนี้เลย เท่านั้นแหละเราต้องรีบจ้ำอ้าวกลับโรงแรมเพื่อเอาอุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับคืนวันนี้ ต้องรีบทำเวลาสุดๆ ไม่ชิลล์แล้วเรา

2 ชั่วโมงต่อมา เวลา 12.30 น. เราก็กลับมาอยู่บนเรือมุ่งหน้าไปยัง Circular Quay อีกครั้งหนึ่ง ไม่วายที่จะออกมาถ่ายรูปสะพาน ตอนนี้ฟ้าเปิดแล้ว


จาก Circular Quay เราเดินเลียบไปตาม Macquarie St. ข้าม Expressway และเลียบไปตามถนน Hospital Rd เพื่อไปต่อแถวเข้าประตูที่เปิดแห่งเดียวเพื่อเข้าสู่ Mrs. Macquaries Pt. เราใช้เวลาเดินร่วม 1 ชั่วโมงเป็นการเดินต่อเนื่องที่ยาวนานมากและต้องรีบด้วยเพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีคิวยาวแค่ไหน และประตูจะปิดเมื่อไหร่


เวลา 13.30 เรามาถึงบริเวณ The Domain ซึ่งเป็นที่ตั้งแถวคนที่จะเข้าไปชมพลุ แถวยาวมากๆพับหลายชั้น จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายเข้าแถว เพราะหลายคู่ให้หนุ่มเข้าแถวส่วนสาวๆนั่งรอหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้


พ้นจากแถวหลายพับด้านนอกก็ยังต้องเดินเรียงแถวเข้าไปข้างในอีกยาวมาก


เดินแถวผ่าน Art Gallery ด้วย สวยดี แต่เวลานี้คงไม่มีอารมณ์อยากเข้าไปชมด้านใน


เราใช้เวลาเดินอยู่ในแถวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึง Security ก่อนเข้าสวน เราผ่านด่านมาได้ตอนบ่าย 3 พอดี เฮ้อเหนื่อยเลยเรา

พอเข้ามาก็เจอฝูงชนมานั่งเรียงรายจับจองพื้นที่ดีๆทั้งร่มและวิวดีๆก่อนหน้าเราจำนวนมหาศาล แสดงว่าเค้ามาเข้าคิวรอกันก่อนเรานานมากแล้ว ดีนะที่ไหวตัวทัน ไม่งั้นอาจไม่มีโอกาสได้เข้ามา


ว่าแล้วเราก็ต้องพยายามหาพื้นที่ที่เราพอจะแทรกตัวเข้าไปนั่งกันได้ เพื่อรอเวลาจนถึงเที่ยงคืน เราได้ที่นั่งไม่ค่อยดีนัก เป็นทางลาดค่อนข้างชันลักษณะเป็นเนินเขา ไม่มีร่มให้หลบเลย ร้อนสุดๆ

จากตรงที่เรานั่ง วิวตรงหน้าค่อนข้างเป็นมุมปิด และตอนจุดพลุคนต้องยืนดูกันเยอะเป็นแน่ ไม่น่าจะตั้งขาตั้งกล้องถ่ายพลุสวยๆได้ เลยออกไปสำรวจพื้นที่รอบๆสักหน่อย

ตรงจุดชมวิวที่ Mrs. Macquaries Point ได้เห็นวิวของอ่าวซิดนีย์ เรียงรายไปด้วยเหล่าเรือยอร์ชส่วนตัวที่ลอยตัวอยู่รอชมพลุ Countdown อย่างเป็นส่วนตัว น่าอิจฉาสุดๆ


Close Up เข้าไปส่อง Opera House ใกล้ๆ Back ด้วย Harbour Bridge ซึ่งทั้ง 2 อย่างจะเป็น Foreground ที่สวยงามสำหรับพลุตระการตาคืนนี้

ที่จุดนี้ Security ไม่ให้อยู่นาน เพราะต้องการให้ทุกคนสามารถมาชื่นชมภาพงามๆได้ทั่วถึงกัน จึงต้องเดินหาจุดถ่ายพลุต่อไป

เดินสำรวจรอบแรก ไม่สามารถหาที่ตั้งขาตั้งกล้องเหมาะๆเพื่อเตรียมถ่ายพลุได้เลย เนื่องจากที่ดีๆโดนจองหมดแล้ว ได้แต่ถ่ายวิวแบบเดินผ่านๆ เลยเก็บวิวไว้หน่อยแล้วเดินกลับไปที่จุดนั่งพักก่อน



จุดสนใจอย่างหนึ่งคือเรือสวยๆ รูปร่างแปลกตาหลากหลาย ลำนี้ดูคล้ายๆในหนังเรื่อง Water World สวยดี


เวลา 17.30 น. ออกไปเก็บภาพทิวทัศน์โดยรอบอีกครั้ง



เลยจากจุดชมวิวลงไปเป็นท่าเทียบเรือเล็กๆ ได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง มีช่างภาพมาตั้งขาตั้งกล้องรออยู่พอสมควร


เดินขึ้นจากท่าเทียบเรือ มองย้อนกลับมาเห็นเหล่ามนุษย์จำนวนมากที่มารอชมโอกาสพิเศษเหมือนกับเรา มหาศาลจริงๆ


เดินอ้อมมาทางด้านหลังนิดเดียว ได้เห็น Landmark สำคัญซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Park นี้ นั่นคือ Mrs Macquaries Chair นั่นเอง

ตามประวัติบอกว่าเก้าอี้หินนี้ถูกสั่งให้แกะสลักโดยสามีของเธอซึ่งเป็นผู้ว่าราชการในขณะนั้น เนื่องจากเธอชอบมานั่งชมวิวของอ่าวที่ตำแหน่งนี้เป็นอย่างมาก


ประมาณ 1 ทุ่มตรง ท้องฟ้ายังไม่มืด แต่อากาศเริ่มหายร้อนบ้างแล้ว เป็นช่วงเวลาของการปิคนิคอาหารเย็น ระหว่างนั้นก็มีเครื่องบินมาบินโชว์เพื่อกระตุ้นบรรยากาศว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว


พอสัก 3 ทุ่ม Opera House และ Harbour Bridge เริ่มเปิดไฟ ร้านอาหารเบื้องล่างซึ่งต้องจองล่วงหน้าถึงจะเข้าไปใช้บริการได้ก็เริ่มเปิดเพลงสร้างบรรยากาศ ผู้คนที่มารอชมพลุเริ่มมีความเคลื่อนไหว



จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน เริ่มมีการ Count Down และพลุก็ถูกจุดขึ้นประเดิมด้วยภาพสวยๆภาพนี้ เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย

พลุสวยๆถูกจุดอย่างอลังการต่อเนื่อง ประกอบกับเสียงดนตรี และภาพหลอดไฟใส่”ใจ”ไว้ข้างใน คุ้มค่ากับที่รอมาทั้งวัน

ตั้งหน้าตั้งตาถ่ายต่อไป

ยังคงใส่ไม่ยั้งต่อไป คุ้มค่าที่รอมาเป็นเวลานาน และสมกับที่เป็น Destination ในการมาชม Count Down Firework ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึงของโลกเลยจริงๆ

ในช่วงท้ายเริ่มมีการระดมยิงพลุอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้าสว่างไสวไปด้วยพลุรูปแบบต่างๆ

อย่างกับว่ามีอะไรเหลือเอามาจุดซะให้หมด เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว

เป็นเวลา 12 นาที หลังจากยิงสลุดชุดใหญ่ ทุกอย่างก็กลับมาสู่ความสงบเงียบดังเดิม จบการ Count Down 2015 อย่างประทับใจผู้ชมทุกคน


การแสดงพลุจบไปแล้ว แต่การผจญภัยคืนนี้ยังไม่จบ ขากลับโรงแรมไม่ต้องคิดถึงเรื่องการขึ้นรถไฟหรือเรือเลย เนื่องจากผู้คนจำนวนมหาศาลเดินมาเจอกันจากทุกทิศทาง

เราเดินออกมาจาก Park ผ่าน The Domain ที่เราเข้าแถวตอนเข้ามา เดินตัดผ่าน Hyde Park มาเข้าถนน Market St. เดินมาเรื่อยๆมุ่งหน้า Darling Harbour และข้ามสะพานคนเดินที่เรามองเห็นจากหน้าต่างห้องนอนนั่นเอง

ระหว่างอยู่บนสะพานมองมาที่โรงแรม เห็นเรือลำเดิมที่มีซานตาครอสเกาะอยู่ และ Riverside Mall เปิดไฟสวยดี เลยเก็บภาพสวยๆ และขอทิ้งไว้เป็นภาพสุดท้ายของค่ำคืนวันขึ้นปีใหม่ 2015



Good Bye Old Year 2014


Happy New Year 2015