เธอๆ ให้เราพาไปดูพลุปีใหม่ที่ Sydney กันม๊ะ

สวัสดีปีใหม่ 2016 ทุกท่าน

วันนี้มีเวลาว่าง มาเล่าประสบการณ์ที่ไปนั่งๆ นอนๆ รอเคาท์ดาวน์ที่ซีดนีย์สักหน่อย



เราเคยไปเคาท์ดาวน์ที่ลอนดอนตอนที่เรียนอยู่ที่นั่นปี 2010 ตอนนั้นสัญญากะตัวเองว่า ไม่เอาอีกแล้ว คือแบบตอนรอมันน่าเบื่อมากกกก... ตอนนั้นโชคดีของเราที่ไปรอตอน 6 โมงเย็นแล้ว ยังพอมีที่ให้ดู (แต่ผู้คนเยอะและ crazy มาก) รอไม่กี่ชั่วโมงพลุก็มา (6 ชั่วโมงเบาๆ)

แต่มาคราวนี้ ตัดสินใจมาดูอีกที อยู่ออสเตรเลียมาจะขึ้นปีที่ 4 แล้วค่า (มาเรียน) แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาเคาท์ดาวน์ที่นี่ ที่ซีดนีย์นี่ดี มีที่ให้ผู้คนได้ไปนั่งชมบรรยากาศพลุวันปีใหม่ได้มากมายหลายจุดกันเลย เลือกเอาเลยว่าอยากไปนั่งดูแบบไหน หน้า ข้าง หลัง Harbour bridge หรือ Opera House ก็ตามใจ

ไปดูแผนที่กัน!!



++เราหารูปของปีนี้ไม่เจอแล้ว เลยไป google เจอภาพของปี 2009++

------------------


การเดินทางของเรา

คือเราอยู่ที่ Darling Harbour เราก็เดินทางง่ายๆ ไปขึ้นเรือข้ามฟาก ที่ใช้บัตรเดินทาง Opal แทปได้เลน ค่าข้ามฟากก็ประมาณ $3.xx จำไม่ได้ว่าเท่าไรแน่ แต่ไม่แพงค่ะ ต้องเลือกเรือลำที่จะไป Circular Quay แต่ไม่ได้ไปลงที่นั่นนะคะ เรือเราจะผ่านไปลงที่ Blues Point Road, McMahons Point



ตอนแรกเราตัดสินใจจะไปดูใต้สะพาน Harbour bridge แต่ก็เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย นั่งเรือข้ามฟาก (ferry) ไปจบลงที่ blue point reserve หมายเลข 37 ค่ะ เป็นที่ที่เค้าจัดให้เราสามารถไปตั้งแคมป์ได้ และปลอดแอลกอฮอล์

ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ: http://www.sydneynewyearseve.com/vantage-points/blues-point-reserve/

ที่ Blue Point Reserve นี้ เขียนในเว็ปไซต์ไว้ว่า เปิดเวลาเที่ยงของวันที่ 31 ธันวาคม และปิดเวลาตี 1 ของวันที่ 1 มกราคมค่ะ แต่เค้าจำกัดจำนวนคน คือถ้าคนจำนวนครบตามที่เค้ากำหนดไว้แล้ว (ไม่ได้แปลว่า คนต้องเต็มปาร์คนะคะ) เค้าก็จะปิดไม่ให้เข้า เพื่อไม่ให้คนเบียดกันเดินไปค่ะ (ประมาณ 6โมงเย็น กลุ่มคนที่นั่งรอข้างๆ บ่นๆว่า เพื่อนเข้ามาในปาร์คไม่ได้แล้ว เพราะเค้าปิดประตูแล้ว แปลว่าจำนวนคนเต็มตามที่กำหนดแล้ว)

เรากว่าจะได้ออกเดินทางก็เกือบบ่าย 3 โมงแล้ว ตอนแรกกะว่าจะไปตั้งแต่เที่ยง แต่ไม่ไหว เดินเล่นในเมืองนิดหน่อยตอนเช้าก็เหนื่อยมาแล้ว กลับมานอนพักที่โรงแรม จนออกมาขึ้นเรือข้ามฟากตอนบ่ายสามโมง อากาศร้อนมาก เกือยบจะเป็นลม (แค่เดินมาที่ท่าเรือก็เหนื่อยละ) ไปรอที่ท่าเรือประมาณ 12 นาที เรือ Circular Quay ที่จะอ้อมไปส่งเราที่ McMahons Point ก็มาถึง (จริงๆ มีเรือตรงไป Circular Quay จอดรออยู่แล้ว แต่พอไปถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็บอกว่า เรือนี้ไม่อ้อมไป McMahons Point ก็เลยตั้งรอลำต่อไป)



พอเรือมา คนก็เยอะมาก หลายคนคงไปลงที่ท่าเรือเพื่อรอดูพลุเหมือนกันนะจ้า รอข้ามฟากนี้ดี เพราะนอกจากจะพาเราข้ามฟาก เราก็ยังได้เห็นบรรยากาศของ Harbour bridge แบบใกล้ๆ และ Opera House แบบไกลๆ ได้อีกด้วย



------------------


และแล้วเราก็มาถึง McMahons Point

ตกใจเบาๆ ว่ามีผู้คนมารอดูพลุกัน ลงหลักปักฐานกันเรียบร้อย เป็นจำนวนมากกกกกกกก แล้วววว โอ้ววว!!!มีทั้งตั้งเต้น ปูเสื่อนอนรอ เอาเก้าอี้ชายหาดมานั่ง มีทั้งชาวต่างชาติหัวทองและเอเชียหัวดำ เจอกลุ่มคนเยอรมนี จัดเบียร์กันไปตั้งแต่หัววัน ส่วนชาวใต้หวันก็ดูหนัง ตบไพ่กันไปหลายยก





ส่วนเรา และเพื่อนๆ อีก 2 คน เดินหาที่ทางจะมาที่นึง เอา Beach towel ปูเสร็จ ก็ลงหลักปักฐาน กางร่มเตรียมนอน แต่มันร้อนมากค่า เราก็เลยตัดสินใจเดินหาที่ทางอื่น จนไปเจอจุดนึง ร่มๆ หน่อย ก็เลยย้ายไปไม่กลับมา แต่ทำเลดีอยู่ ก็เลยปูผ้าแล้วนอนเลยค่ะ ไม่สนใจไร เหลือเวลาอีกตั้ง 8-9 ชั่วโมง แบบว่าไม่มีไรทำ เอาอูโน่ไปเล่นก็แล้ว กินแซนวิชก็ ต่อคิวเข้าห้องน้ำก็แล้ว แลละกลับมานอนรอ …. ชีวิตดี้ๆ >,<

พอเวลาหกโมง คนก็เริ่มเก็บเต้นท์กันแล้วค่ะ แดดร่ม ลมตก อากาศเย็นสบายๆ บางคนก็ไปซื้อพิซซ่ามากิน ส่วนเราก็เอาแซนวิชที่เตรียมมาออกรองท้อง และรอต่อไป



พูดถึงเรื่องห้องน้ำ ที่นี่เตรียมห้องน้ำแบบเคลื่อนที่เอาไว้ให้ด้วยนะคะ แต่เพราะคนเยอะมาก เตรียมไว้มากแค่ไหนก็ไม่เคยพอ เวลาเฉลี่ยของการรอเข้าห้องน้ำ คือเร็วสุด 20 นาทีค่ะ เพื่อนเราทำได้ในช่วงเวลาประมาณทุ่มนึง ส่วนเราเข้าตอน 4 ทุ่ม รอประมาณ 45 นาที ห้องน้ำใช้ได้ค่ะ สะอาดระดับหนึ่ง แต่ตอนกลางคืนไม่มีไฟ ต้องใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถือเอา กลิ่นไม่ค่อยมาก แต่มีกลิ่นเพราะว่ามีผู้ชายแอบไปฉี่ข้างหลังห้องน้ำ แอบอี๋หน่อยๆ แต่ถือว่ามีการจัดเตรียมดีค่ะ

แม้ว่าจะมีคนมากมายหลักพัน หลักหมื่น แต่ไม่รู้สึกถึงความหนาแน่นของผู้คนเลยค่ะ ทุกคนนั่งอย่างสบาย เคลื่อนย้ายสะดวก นี้อาจจะเป็นเพราะเค้าคำนวณมาดีแล้วว่าจำนวนผู้คนที่รับได้คือเท่าไร ที่จะไม่ทำให้คนอึดอัด

ช่วงรอเราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ค่ะ







------------------


พลุน้อยกำลังจะมา

และแล้วเวลาที่น่าตื่นเต้นก็มาถึง ที่ออสเตรเลียเนี่ย เวลาจุดพลุ เค้าจะจุด 2รอบค่ะ รอบแรกตอน 3 ทุ่ม เรียกว่ารอบสำหรับเด็กคือ เอาไว้ให้เด็กน้อยดู ดูเสร็จแล้ว จะได้เข้านอนไม่ดึกมาก เป็นพลุรอบๆเล็กๆ ประมาณ 8-10 นาที ถึงจะเป็นรอบเล็กๆ แต่ก็สวย แบบน่ารักๆ นะคะ ไปดูพลุกันเลยนะคะ












ในช่วงเวลาท่ารจุดพลุนั้นไม่มีการเบียดเสียดยัดเยียดกันเลยนะคะ มีที่ว่าเหลือเฟือให้เราขยับเขยื้อน เคลื่อนย้าย ตำแหน่งที่เราอยู่ มีคนยืนบัง เราก็สามารถย้ายไปยืนข้างๆ หรือวิ่งไปข้างหน้าเพื่อไปถ่ายรูปพลุได้โดยง่าย คนที่นี่ก็ใจดี ขยับให้เพื่อนๆ ดูพลุกันอย่างใจดีค่ะ

เมื่อพลุเด็กจบแล้ว ก็จะมีผู้ปกครองบางส่วนจะพาลูกๆกลับบ้านไปนอน ส่วนเราก็กลับมานอนต่อในจุดปูผ้าของเรา ระหว่างเวลารอ ก็มืดๆ ค่ะ คงจะตบไพ่กันไม่ได้ เลยตัดสินใจ ไปต่อคิวเข้าห้องน้ำดีกว่า รอตั้งแต่สามทุมกว่าๆ กว่าจะได้เข้าก็สี่ทุ่ม นี่ถือว่าเร็วมากๆนะคะ บางคนรอนานมาก (แล้วแต่คิวและแถว)

กลับมานอนรอต่อ ผู้คนก็เริ่มย้าย กลุ่มคนที่นั่งข้างๆ หายไปไหนกัน อ้าว!! เราเดินไปดูได้นิ ว่าตรงไหนทำเลดีกว่า พอใกล้จะถึงเวลา เราก็ขยับขยายเข้าไปข้างหน้าอีก ในระหว่างนั้น เค้าก็เปิดฉายไฟไปที่ตีนสะพานไปเรื่อยๆ เป็นภาษาต่างๆค่ะ ในช่วงนี้เราก็ถ่ายรูปกลางคืนไปเรื่อยๆ







------------------


พลุใหญ่มาแล้ววว

จนในที่สุดก็ถึงเวลานับเค้าท์ดาวน์กันแล้วววว

ไปดูพลุกันเลยค่า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ภาพนิ่งก็มีจ้าาา















เห็นว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่มีน้ำตกด้วยนะคะ







------------------


เกร็ดความรู้สำหรับพลุปีนี้ที่ค่ะ :

1. ธีมงานของปีนี้คือ City of Colour ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ความมีสีสันของชายหาด สวนสาธารณะ และถนนหลากสีสัน รวมทั้ง ความแตกต่างหลากหลาย ทางวัฒนาธรรม และประวัติศาสตร์

2. ตระกูลที่ทำพลุปีใหม่ให้ซีดนีย์ รุ่นนี้เป็นรุ่นลูกรุ่นที่ 8 แล้วจ้า ออกแบบโดย Ziggy Zegler และ เพลงซาวแทรกซ์ผลิตโดย Alex Gooden (แต่ฝั่งเราไม่ค่อยได้ยินเพลงเท่าไรเลย)

3. ใช้เวลาในการวางแผนและทำทั้งหมด 15 เดือน (นี่ออกแบบข้ามปีกันเลยหรือเนี่ย?)

4. ใช้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 350 คนในการทำความสะอาด (ถือว่าน้อยมากสำหรับเมืองใหญ่ แปลว่ามีการจัดการที่ดีมากค่ะ)

5. มีขยะทั้งหมด 50 ตันจากการจัดงานครั้งนี้

6. ใช้รถคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ถึง 14 ตู้เพื่อขนย้ายพลุทั้งหมด

7. งานนี้นำมาถึงซึ่งเงินจำนวนมาหาศาลถึง 133 ล้านดอลล่าห์ออสเตรเลียเข้าสู่เศรษฐกิจของชุมชน (แต่ไม่ได้บอกแฮ๊ะว่า ลงทุนไปเท่าไร ? )

8. มีคนมาร่วมงานนี้มากกว่า 1 ล้านคน

9. งานนี้มีคนเฝ้ารอดูถึง 1 พันล้านคน (เบาๆ >'< )

(ที่มา:http://www.sydneynewyearseve.com/about/)


ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปีใหม่อย่างเป็นทางการค่ะ

------------------



// ภาพตัดมา //

ส่วนขากลับก็ซอมบี้ดีๆนี่เอง เรือ ferry ที่นั่งมา จะเปิดอีกทีก็ 8โมงเช้าวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ให้เดินไปถึงรถไฟจ้า แล้วคือแบบคนเยอะมากกกก

  



นึกว่าซอมบี้บุกเมือง


กว่าจะถึงที่พักก็ตีหนึ่งกว่าเกือบตีสอง หลับสบายยยยย ….

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๙

Happy New Year 2016 from Down Unda!


กล้องที่ใช้ :

- ยังเป็นมือใหม่นะคะ ถ้าถ่ายรูปไม่สวน ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ค่ะ
- เราใช้ Panasonic Lumix GM1 ค่ะ ส่วนที่เห็นเป็นแสงระยิบระยับ เพราะใช้โหมด Glittering illuminations จ้ะ

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่