[CR] เมื่อเจ้าของสุนัขผู้มากเรื่อง เจอกับบริการของ Dogssotell.....ที่ซึ่งเป็นมากกว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยง

กระทู้รีวิว
เราเขียนกระทู้นี้เพราะต้องการขอบคุณ Dogssotell จากใจจริงๆที่สามารถเลี้ยงและให้ความรักแก่ทาโร่ สุนัขของเราได้อย่างจริงใจและเป็นธรรมชาติตลอดระยะการฝากเลี้ยงที่ผ่านมา  Dogsotell ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม ที่รับฝากเลี้ยงและสระว่ายน้ำเท่านั้น ที่นี่ยังรับสอนสุนัขเชิงบวกโดยมีครูฝึกมืออาชีพระดับเทพมาร่วมทีม มีสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์เกษตรเข้ามาดูแลทุกเย็น ทำให้เราและครอบครัวสบายใจ

ต้องขอท้าวความก่อนว่า เราฝังใจกับความรักและความรู้สึกผิดที่มีต่อ “ดุ๊กดิ๊ก” สุนัขตัวแรกของครอบครัว เรารักดุ๊กดิ๊กมาก ดุ๊กดิ๊กเป็นสุนัขพันธุ์ทางสีน้ำตาล มีคนนำเขามาทิ้งที่โรงเรียน เขาเดินอยู่ริมถนน ผิวหนังดูแห้งๆ เราคิดว่าเขาเป็นขี้เรื้อน เลยพากลับมาบ้าน มาหาหมอ รักษาต่อจนหายขาด แล้วทุกคนในบ้านและญาติๆก็เลี้ยงเขาตลอดมา ทุกคนที่บ้านรักเขา ปล่อยให้เขาเดินเล่นที่สนามหรือเข้าออกนอกบ้านอย่างที่เขาต้องการ แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กและไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องสุนัขมากพอ ไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อน คิดว่าให้ความรัก ให้อาหาร พาหาหมอและให้อิสระ ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้วในหน้าที่ของความเป็นเจ้าของดุ๊กดิ๊ก

ดุ๊กดิ๊กจากเราไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2557 ด้วยอายุ 14 ปี หลังจากที่เขาจากไป เราเริ่มหันกลับมามองตัวเองว่าแท้จริงแล้ว เราทำหน้าที่เจ้าของหรือเพื่อนให้กับเขาอย่างไม่ดีเต็มที่ เราให้เวลาเขาไม่มากพอ เขามีของเล่นน้อยชิ้นและไม่ได้รับการฝึกใดๆ อยู่ไปเรื่อยๆ อยู่ตัวเดียวในบ้าน มีฝูงบ้างไม่มีฝูงบ้าง อาหารที่กินมีหลากหลาย บางอย่างก็ไม่ดีกับสุขภาพสุนัขแต่เราก็ไม่ได้เข้มงวดกับตัวเราหรือคนรอบข้างในการดูแลดุ๊กดิ๊กให้ถูกต้องตามหลัก

โดยรวม ดุ๊กดิ๊กโตมาในช่วงที่เรากำลังโต กำลังหมกหมุ่นกับทางเลือกในชีวิตของตัวเอง ในช่วงที่ครอบครัวเราเองก็ใช้เวลาหลักๆไปกับที่ทำงาน เขาโตมากับการรอคอยเจอครอบครัวตอนเช้ากับตอนเย็น โตมากับความรักที่มาพร้อมกับความเหงา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถึงแม้เราจะรักเขาแต่เรามีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เราต้องปรับความเข้าใจและหาความรู้เพิ่ม และถ้ามีโอกาสมีสุนัขอีกเราต้องทำให้ดีกว่าเดิมเพราะจริงๆนอกเหนือจากอาหาร อิสระ สุขภาพและความรักแล้ว สุนัขต้องการการฝึกฝน ต้องการหน้าที่ ต้องการขอบเขตในถิ่นนั้นๆที่เขาอยู่ รวมถึงกิจกรรม และการเข้าสังคมด้วย

ทุกวันนี้บางครั้งก็ยังน้ำตาซึมเวลาคิดถึงดุ๊กดิ๊ก ทั้งรักทั้งรู้สึกเสียดายโอกาส แต่ไม่เป็นไร เราต้องให้โอกาสตัวเอง ทุกคนในบ้านใช้เวลานานกว่าจะพอทำใจเรื่องดุ๊กดิ๊กได้และพร้อมที่จะมีสมาชิกสุนัขตัวใหม่  

1 ปีหลังจากดุ๊กดิ๊กจากไป “ทาโร่” ลูกสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ก็เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน การมีเขาทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไป  เขาเปรียบเหมือนศูนย์รวมความรักของสมาชิกในบ้าน ทำให้มีความสนใจและทำกิจกรรมร่วมกัน

ด้วยความที่เรามองว่าสุนัขเป็นคนในครอบครัว เป็นบุคคลคนหนึ่ง (non-human person) ไม่ได้เพียงเป็นสัตว์หรือเพียงทรัพย์สินของเรา ทาโร่จึงเป็นเหมือนลูก เหมือนเพื่อน ที่เขาก็มีสิทธิ์ มีความต้องการของตัวเอง เรามีหน้าที่บาลานซ์ทั้งเขาทั้งเราให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

สิ่งที่เราตั้งใจทำคือทาโร่ต้องได้ออกกำลังกายทุกวันเพราะเป็นธรรมชาติของเขาที่ต้องได้ปลดปล่อยพละกำลังอันมากมาย เราจึงพาเขาเดินรอบๆบริเวณบ้านทุกเช้าเย็น จูงสายจูงเดินเที่ยวตามที่ต่างๆในละแวกบ้าน เดินสายพาน (ลงทุนซื้อมาเลย) นั่งรถเที่ยวชมบ้านเมือง ผู้คนและเพื่อนสุนัข ไปว่ายน้ำสัปดาห์ล่ะ 1-2 ครั้ง

ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายก็ต้องมีการเล่นของเล่นที่ไปกระตุ้นความคิดและการเคลื่อนไหวของเขา เช่น ปาลูกเทนนิสหรือจานบิน แย่งเชือกชักกะเย่อ หรือตุ๊กตาล้มลุกที่ใส่อาหารเม็ดไว้ข้างใน พอเขาใช้เท้าเขี่ย ตุ๊กตาจะล้มและอาหารจะหลุดออกมาเป็นรางวัลให้เขา

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราอยู่กับเขาตลอด ทุกวันเราได้กอดและลูบตัวเขาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง กอดเขาชมเขาทุกครั้งที่เขาทำดี ทำถูก

ปลอกคอของทาโร่ต้องมีป้ายชื่อ “ทาโร่”พร้อมเบอร์ของเราติดเอาไว้เสมอ (สลักข้อมูลลงบนสายปลอกคอเพราะถ้าเป็นห่วงคล้องเฉยๆอาจหลุดหายได้) ฝังไมโครชิปไว้ตั้งแต่เขาอายุ 3-4 เดือน เหล่านี้มีเผื่อไว้ในยามฉุกเฉินที่เขาหลุดออกจากบ้าน

อาหารที่ให้เขากินต้องเป็นอาหารสำหรับสุนัข เหมาะสมกับวัยของเขา ต้องมีผัก มีผลไม้และขนมคบเคี้ยวของสุนัข เช่น แครอท แตงกวาหั่นเป็นแท่ง น้ำผลไม้ปั่นแช่แข็งเป็นก้อนๆ และเขาควรได้พบสัตวแพทย์ตามกำหนดอายุ เพื่อฉีดวัคซีนตรวจสุขภาพร่างกายและดวงตา ตรวจป้องกันเห็บหมัดพยาธิ ที่ผ่านมาเขาได้พบหมอเสมอทั้งตามคลินิคและโรงพยาบาล

ทาโร่ได้เข้าสังคม เจอผู้คน เพื่อนสุนัข พื้นผิวหลากหลายประเภทเช่น พื้นปูน ดิน ทราย หญ้า ลูกรัง ตามสถานที่ต่างๆ เช่น Dog Cafe ห้างที่มีพื้นที่สำหรับสุนัข ทะเล ชายหาด ถนนลูกรังและอื่นๆ และเมื่อฉีดวัคซีนครบก็ได้ไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำสำหรับสุนัข กิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้โลกของลูกสุนัข

สุนัขต้องได้รับการฝึกคำสั่งต่างๆเพื่อให้เขารู้จักขอบเขตและหน้าที่ การฝึกต้องแบบค่อยเป็นค่อยเป็น และใช้การฝึกเชิงบวกเท่านั้น คือชมเชยเมื่อทำถูก ไม่ให้ความสนใจเมื่อทำผิด อาจใช้เสียงดุบ้างเป็นบางกรณี ที่สำคัญคือห้ามใช้ความรุนแรงทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นตี ฉก จก กระตุกหรืออื่นใดก็ตาม  ตอนเริ่มต้น เราฝึกคำสั่งพื้นฐานให้ทาโร่ นั่ง หมอบ คอย คอย..กินได้ ด้วยตนเองที่บ้าน โดยให้อาหารเม็ดเป็นรางวัล

ทาโร่มีปัญหาเรื่องการเห่า เขาจะเห่าทุกครั้งที่เห็นบ่อน้ำ สระน้ำ อยากจะลงเล่นน้ำทุกครั้ง หรือ ถ้าอยากออกจากห้องหรือเข้าห้องใครก็จะเห่าไม่หยุดทำให้เราตัดสินใจพาเขาเข้าโรงเรียนฝึกสุนัข โรงเรียนแห่งแรกที่เขาได้เข้าเรียนมีแนวคิดและวิธีการฝึกที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง เราจึงมองหาโรงเรียนแห่งใหม่

เราเองก็ต้องหาความรู้ความเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับสุนัขเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเรื่องท่าทาง อาหาร โรคภัย รวมถึงการฝึกสุนัข ครูฝึกสุนัขที่เราชอบแนวคิดและอ่านบทความเขาประจำมีอยู่สามสี่ท่านคือ Victoria Stilwell (https://positively.com), Pippa Matthison (http://www.thelabradorsite.com) และ Patricia Mccornell http://www.patriciamcconnell.com/theotherendoftheleash/  แล้วก็นำแนวทางบางส่วนของ Cesar Millan มาปรับใช้ โดยรวมคือการฝึกเชิงบวก งดการฝึกแบบกายวิภาค นอกจากนี้ยังมีนิตยสารออนไลน์และเวบไซท์ที่คิดว่าเป็นประโยชน์มากคือ http://thebark.com และ http://www.dogilike.com

นอกจากนี้ถ้าทาโร่แข็งแรงพอ เราก็อยากให้ทาโร่ช่วยเหลือเพื่อนสุนัขด้วยกัน เริ่มต้นที่บริจาคเลือดที่โรงพยาบาลสัตว์ หรือ บริจาคร่างกายของเขาเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่เมื่อวันสุดท้ายของเขามาถึง ปกติเราเองก็ช่วยเหลือสัตว์และสุนัขจรมาเรื่อยๆและสนใจเรื่องสิทธิและกฎหมายคุ้มครองสัตว์มาก ถ้าทาโร่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับเราตรงนี้ได้ด้วยก็คงจะดีมากไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

นับวันเรายิ่งรักและผูกพันกับทาโร่ เรารักเขาเหมือนลูกคนนึง

ปีที่ผ่านมาหลังจากฝนตกครั้งใหญ่ทำให้มีน้ำท่วมขังสนามหญ้าในบ้านของเรา ทำให้สนามเฉอะแฉะเป็นดินโคลนและหลังคาบ้านรั่วร้าว จึงตัดสินใจซ่อมแซมปรับปรุงบ้านและสนามหญ้า พร้อมทั้งทำท่อระบายน้ำรอบบ้านใหม่ทั้งหมด ผลกระทบจากการปรับปรุงบ้านและสนามหญ้าทำให้ทาโร่ไม่มีที่วิ่งเล่น บ้านเต็มไปด้วยอุปกรณ์ก่อสร้าง อิฐ หิน ปูน ทราย ดิน ทุกคนจึงมีความเห็นว่าเพื่อความสุขและความปลอดภัยของเขาควรให้เขาไปพักที่อื่นชั่วคราว

เราตระเวณหาที่รับฝากเลี้ยงสุนัขระยะยาว แต่เป็นอย่างที่สมาชิกเห็นว่าเรามีเงื่อนไขมากพอสมควรเรื่องการเลี้ยงสุนัข การจะฝากเลี้ยงสุนัขแบบระยะยาวและให้วิธีการเลี้ยงดูเป็นไปตามเงื่อนไขของเรานั้นหาแทบไม่มี

แต่แล้วเราก็โชคดี Dogssotell ทำได้

โดยปกติเราใช้บริการของที่นี่พาทาโร่ไปว่ายน้ำและฝากเลี้ยงระยะสั้น 2-3 วัน เราเห็นวิธีการทำงานและความเมตตาต่อสุนัขของที่นี่ เราจึงตัดสินใจทดลองพาทาโร่มาฝากเลี้ยงระยะยาว ไหนๆก็ฝากระยะยาวแล้ว เผื่อให้ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่เกิดประโยชน์มากที่สุด เราเลยให้ทาโร่เรียนฝึกคำสั่งพิเศษเพิ่มเติม เช่น สวัสดียกสองขา คาบตระกร้า ฝึกอยู่คนเดียว ฝึกอยู่ที่มืดที่แคบ ฝึกการไม่กลัวเสียงดัง และทบทวนคำสั่งพื้นฐานเดิม

ครูฝึกที่นี่เป็นทีมที่มีประสบการณ์และความรู้ขั้นเทพและใช้วิธีการฝึกเชิงบวกเท่านั้น ให้รางวัล คำชมเชย ให้ขนมให้คำชม ไม่มีการตี จก ฉกหรือกระตุกโซ่แต่อย่างใด โซ่ Choke มีไว้เพื่อทำให้เกิดเสียงเพื่อให้สุนัขเข้าใจว่านี่คือการฝึกเท่านั้น ไม่มีการกระตุกแรงๆหรือกระตุกค้างแต่อย่างเด็ดขาด (เราเน้นตรงนี้มากเพราะเรามองการฝึกแบบกายวิภาคว่ามีความเสี่ยงหลายประการกับสุนัขหลายๆพันธุ์)

ห้องพักของสุนัขทุกตัวที่นี่จะได้รับการทำความสะอาดทุกวันและเปิดประตูระบายอากาศเสมอ กรณีของทาโร่จะเปลี่ยนห้องพักบ้างเพื่อเป็นการฝึกการปรับตัว ทุกห้องพักในตัวบ้านเป็นห้องกระจกมีแอร์และมีแสงสว่างจากภายนอกเข้าถึง สุนัขสามารถมองเห็นสุนัขอีกตัวและได้กลิ่นสุนัขอีกตัวเสมอเพื่อความรู้สึกว่ามีฝูงและไม่โดดเดี่ยว ข้อดีของการอยู่ที่นี่ที่ดีมากอีกประการคือ ทาโร่ได้เจอเพื่อนสุนัขหลากหลายประเภทและอายุเป็นประจำทุกวัน Dogssotell จะประเมินว่าสุนัขตัวไหนน่าจะเข้ากันได้ ทำกิจกรรมอะไรร่วมกันได้บ้าง ว่ายน้ำหรือวิ่งเล่นสนาม หรือออกเที่ยวนอกสถานที่ สระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบเกลือและมีขนาดใหญ่พอสมควรที่ทั้งคนและสุนัขพันธุ์ใหญ่ประมาณ 3-4 ตัวสามารถว่ายรวมกันได้อย่างไม่ชนกัน ทุกครั้งหลังว่ายน้ำจะมีบริการอาบน้ำเป่าขนพร้อมไปในตัว

หลายครั้งที่ทาโร่ไม่สบายเล็กๆน้อย ทีมงาน Dogssotell ก็จะรีบพาทาโร่ไปหาหมอ ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม รวมทั้งสำรองจ่ายค่ารักษาล่วงหน้าให้ก่อน ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยอะไรเลย ค่าน้ำมันรถ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไม่เคยอยากจะรับ ครอบครัวเราต้องขอร้องให้รับบ้าง หลังจากพบหมอ Dogssotell ก็เป็นคนป้อนยาทาโร่ทุกมื้อ เล่นกับทาโร่ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ที่ดียิ่งไปกว่านั้นคือที่นี่มีสัตวแพทย์เป็นหุ้นส่วนสำคัญ คุณหมอจะเข้ามาดูแลสุนัขทุกตัวทุกเย็น ทาโร่โชคดีเสมือนมีหมอประจำตัวดูแล ล่าสุดข้อศอกเขาด้านขวาอักเสบและมีถุงน้ำปูดออกมาเพราะชอบใช้ศอกขวาท้าวลงพื้นก่อนหมอบทุกครั้ง เพราะน้ำหนักตัวมากและซุกซนจึงเกิดการอักเสบ คุณรักก็กระวีกระวาดหาปลอกแขนมาใส่รองกันไว้ให้

ทุกวันจะมีรูปส่งมาทางไลน์ตามช่วงเวลาที่ทาโร่ทำกิจกรรมประจำวัน ตื่นนอน ขับถ่าย วิ่งเล่นในสนาม ว่ายน้ำ เล่นกับทีมงาน จะเข้านอน ทุกอย่างอย่างไม่ขาด เวลาเราอยู่ต่างประเทศและเวลาห่างจากเมืองไทย 6 ชั่วโมง บางครั้งมันเป็นเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มของทางต่างประเทศแต่มันคือ ตี  3  ตี 4 ของเมืองไทยคุณรักก็จะส่งรูปมาในไลน์เพราะกำลังพาทาโร่ออกมาขับถ่ายที่สนาม

ด้วยความที่บ้านเราอยู่ซอยนนทบุรี 48 ซอยเดียวกับทางร้าน ใกล้กันมัน เลยทำให้ครอบครัวเราสามารถไปเยี่ยมทาโร่ได้บ่อยๆและทุกครั้งที่ไปเยี่ยมทาโร่ ห้องพักก็ยังสะอาดเสมอเหมือนเดิม ทาโร่เล่นสนามและเขาดูมีความสุขและติดทีมคุณรักมากและห่วงเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ บางครั้งมากกว่าเจอเจ้าของเสียอีก

ณ วันนี้เราพูดได้เต็มปากว่าเราวางใจและรู้สึกขอบคุณ Dogssotell อย่างมาก ที่ให้บริการเปี่ยมคุณภาพจากใจและอยู่บนพื้นฐานความรู้เรื่องสุนัขเป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นให้การดูแลสุนัขโดยไม่นึกถึงค่าตอบแทน ถ้าไม่มี Dogssotell ครอบครัวเราต้องหนักใจเป็นอย่างมาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ








ชื่อสินค้า:   Dogssotell
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่