จากเด็กนอกเมือง สู่การใช้ชีวิตเมืองนอก กับ 3 โครงการ 3 สถานที่ : Work and Travel – Work Experience – Au Pair (ตอนที่ 2)

ตอนที่ 2 : Work Experience 1 ปีที่ โตรอนโต แคนาดา

Part I & II ตามลิ้งค์นี้จร้า
http://ppantip.com/topic/34845283

Part III : ความประทับใจ (หลายๆอย่าง) เมื่อไปถึงแคนาดา

พอลงจากเครื่องปุ๊บ เราก้อต้องตรงดิ่งไปยัง Hostel ในตัวเมืองที่ทางเอเจ้นจัดเตรียมไว้ให้ (วิธีเดินทางเข้าตัวเมืองแบบประหยัดคือต้องขึ้นรถเมล์จากสนามบิน โตรอนโต ต่อด้วยเมโทร หรือรถไฟใต้ดินบ้านเรานั่นแหละคะ รวมทั้งหมด $2)
เนื่องด้วยกระเป๋า 2 ใบ 20 โลใบนึง และ 15 โลอีกใบนึง พอไปถึงจุดที่จะต้องหิวกระเป๋าขึ้นเพื่อที่จะไปขึ้นรถเมล์ดันไม่มีบันไดเลื่อน (เอ๊ะ หรือเราหาไม่เจอ) เราก็ยืนตั้งสติแบบงึกๆงักๆนิดนึง ไม่ถึง 10 วิ ก็มีหนุ่มหล่อรูปร่างกำยำ มาถามว่าให้ช่วยมั้ย (เรายังแอบงง ว่าหน้าช้านนี่แสดงออกว่า Need Help ขนาดนั้นเลยหรา 55+)
ตอนแรกก็กลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพ แต่เนื่องด้วยนั่งเครื่อง จากเชียงใหม่ – อินชอน, เกาหลี – โตรอนโต, แคนาดา รวมเวลาราวๆ 20+ ชม ที่ลอยอยู่บนฟ้า ไม่นับเวลานั่งรอต่อเครื่องที่สนามบินอินชอน ทำให้เราตอบ Yes, pleaseไปโดยไม่รู้ตัว อิอิ สิ้นสุดคำตอบเท่านั้นแหละค่า นางหิ้วขึ้นบันไดให้เราทั้งสองใบเลย (โว๊วววว รูปหล่อน้ำใจงาม พี่ปลื้มมมม) หลังจากนั้นก้อเริ่มประทับใจชาวแคนาดาจนโงหัวไม่ขึ้น 55+ เวอร์ไป
ความประทับใจที่สอง เนื่องจากเราเพิ่งไปถึง ยังไม่มีตังเหรียญ (เครื่องบนรถเมล์ทอนไม่ได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่เค้าจะใช้บัตรเมโทรกันค่ะ) คนขับรถเมล์ใจดี เห็นชะนีน้อยหิ้วกระเป๋ามาด้วย 2 ใบใหญ่ จะไล่ลงรถก้อกะไรอยู่ นางเลยบอกว่า ไม่ต้องจ่ายก้อได้ นางยังแหย่เล่นว่า คราวหน้าค่อยจ่ายดับเบิ้ลละกัน เราเลยได้ขึ้นฟรีไปโดยปริยายอิอิ
หรือถ้าใครอยากจะต่อแท๊กซี่ไปก็ได้นะคะ เราแอบถามเพื่อนที่เจอที่โฮสเทล คนที่ต่อแท๊กซี่จากสนามบินมาจนถึงโฮสเทล เค้าบอกว่าค่าแท๊กซี่ $40 ไม่รวมทิป (เค้ามีธรรมเนียมการให้ทิปคล้ายๆเมกาเลยค่ะ คือต้องทิปอย่างน้อย 15% ไม่อย่างนั้นถือว่าเสียมารยาท และอาจจะโดนด่าด้วยก็เป็นได้)

นี่เป็นบัตรเมโทร รายสัปดาห์สำหรับบุคคลทั่วไป ก็จะระบุวันที่เริ่มและสิ้นสุดไว้เรียบร้อย (หากเป็นนักเรียน/นักศึกษา จะถูกกว่านี้ค่ะ)



ด้านหลังก็จะเป็นแบบนี้



รูปตัวอย่างบัตรเมโทร แบบ เดือน Unlimited ขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน รถราง และรถเมล์ค่ะ)มีทั้งแบบ 1 วัน 1สัปดาห์ และ 1 เดือนค่ะ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากผ่านมาหลายปี หาในเนตได้เลยค่ะ) หรือถ้าหากไม่ได้ใช้บ่อยก็ ครั้งละ $2 ค่ะ



พอไปถึงที่ Hostel ก็ทำการเช็คอิน ได้เลย เพียงแค่โชว์พาสปอร์ต ของเราให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นเค้าก็จะแจ้งว่าเราอยู่ห้องไหน เตียงไหน ตอนเช็คอินเค้าจะรู้ทันทีเลยว่า เรามากับโครงการนี้นะ เค้าก็จะแจ้งกำหนดการคร่าวๆประมาณว่า พุ่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่มารับกี่โมง เตรียมเอกสารอะไรมาบ้าง แล้วให้มารอที่ล๊อบบี้ จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาปฐมนิเทศในเช้าวันถัดไปค่ะ

เข้าไปถึงก็เจอล๊อบบี้ สำหรับเช็คอินเลยค่ะ



นี่เป็นรูปด้านหน้า Hostel นะคะ ดูจากภายนอกมันคือตึกแถวธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ แต่ข้างในจัดไว้เป็นสัดส่วน ตามแบบฉบับ Hostel ในเครือของ HI Hostel (Hostel นี้ที่ไทยก็มีนะคะ)



ในโฮสเทลก็จะมีคอมพิวเตอร์ โต๊ะสนุก และห้องนั่งเล่นไว้ให้ใช้ค่ะ



นี่เป็นภาพห้องครัวค่ะ สามารถใช้ได้ แต่ต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้เสร็จนะคะ



ป้ายบอกทางเก๋ๆ ก่อนถึงห้องครัวค่ะ



ภายในโฮสเทลก็จะแยกเป็นชาย/หญิง นอนห้องละ 4 คน ห้องน้ำรวมค่ะ



ชั้นบนนี้เป็นเตียงเรา รกไปนิด อิอิ (รูมเมทหาย สงสัยนางไปเที่ยวละ)



เก็บของเสร็จ ก็รูมเมทก็กลับมาพอดี นางชวนไปขึ้นตึก CN Tower แลนมาร์คของที่นี่ค่ะ



ข้างๆก็จะเป็นสนามแข่งเบสบอล ค่ะ



ภายใน CN Tower  คนก็จะชอบมาถ่ายมุมนี้กันค่ะ เนื่องจากมันมองลงไม่แล้วสูงพอสมควร ทดสอบความกล้ากัน



ไหนๆก็มาถึงแล้ว เราก็เอากะเค้าซะหน่อย หวาดเสียวใช้ได้



Teen ผู้ร่วมทริปค่ะ อิอิ (คนที่พักในโฮสเทลเดียวกันค่ะ)



วิวจากยอด CN Tower





ถ่ายกะรูมเมทซะหน่อย เพื่อเป็นที่ระทึก อิอิ (สวยมุมมืดตลอด TT )



จากนั้นเดินต่อไปอีกนิด ก็จะเป็นโรงเบียร์ค่ะ



แก้วเล็กเค้าเอาให้ชิมฟรีค่ะ เลือกได้เลยว่าเราอยากชิมตัวไหน เค้าก็จะเปิดจากก๊อกสดๆให้เลย แต่ก่อนอื่นเค้าก็จะให้โชว์ ID หรือสำหรับเราก็ Passport โล้ดค่า (อายุไม่ถึงเกณฑ์ ไม่ให้กินจ่ะ อดไป อิอิ)
ปล ตัว Hops ขวาสุดรสชาติดีสุด (เราว่านะ)



ชิมเบียร์พอเป็นกระสัย ก็กลับไปพักผ่อน

อันนี้เป็นโบสถ์หน้าที่พักค่ะ เห็นว่าสวยดี เลยจัดซักรูป



แป๊บนะคะ เดะมาต่อ Part IV : เช้าวันปฐมนิเทศ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่