ถ้าเราเห็นหน้าจอตั้งแต่ทางขึ้นลงที่ระดับถนนเลย เราจะได้รู้ว่าควรจะวิ่งหรือจะเดินชิว ๆ ไปก่อน เช่น เห็นว่า อีก 5 นาที ขบวนต่อไปจะมา จะได้เริ่มวิ่งตั้งแต่หน้าบันไดระดับถนนเลย (สำหรับคนที่อยากจะทันขบวนนี้นะครับ ใครไม่รีบก็เดินชิว ๆ ต่อไปได้) หรือถ้า1 นาที ขบวนถัดไปจะมาถึง จะได้เดินชิว ๆ เพราะยังไงก็ไม่ทัน

กับ ขออนุญาติแสดง คหสต. นิดหนึ่ง เรื่องตู้หยอดเหรียญซื้อตั๋ว ทั้ง 3 ระบบของไทยเรา เข้าใจว่า ระดับผู้บริหาร คงน่าจะเคยไปดูงานที่ ฮ่องกง หรือ ญี่ปุ่นมาบ้าง ที่ญี่ปุ่น ตู้หยอดเหรียญเค้าจะเป็นแบบโยนเหรียญลงไปเลย จะเหรียญชนิดไหนกี่เยนที่เครื่องรับได้ ก็โยนลงไปได้เลย ไม่ต้องมาหยอดทีละเหรียญ ๆ แล้วเครื่องจะทำการแยกราคาให้เอง ไม่ต้องเสียเวลาหยอดทีละเหรียญ และเวลาใส่แบงค์เข้าไป ถึงทั้งสองประเทศนี้จะทอนออกมาเป็นเหรียญล้วน ๆ แต่ ที่ฮ่องกงจะมีช่องปิดที่รองรับเหรียญทอนไว้ก่อนแล้วพอเหรียญทอนมาครบ เราแค่สอดมือเข้าไปในช่องเหรียญทอนก็ตกใส่มือเลย หรือที่ ญี่ปุ่น จะมีช่องรับเหรียญทอนช่องเดียวทอนครบเอามือเดียวโกยจากช่องเล็ก ๆ นั้นได้เลย หรือ เรื่องระดับการรับเหรียญโดยสารและเงินทอน (อันนี้สำหรับ MRT นะครับ) เค้าอยู่ในระดับเฉลี่ย ๆ ที่ เอวที่จะหยิบเหรียญได้ง่าย ๆ ไม่ใช่อยู่ในระดับหัวเข่าเหมือนของเรา ที่จะรับเหรียญทีต้องก้มคำนับเครื่องหยอดเหรียญ หรือบางคน ถึงกับต้องนั่งยอง ๆ เพื่อรับเหรียญแล้วก็โกย ๆ เงินทอนที่ตกกระจายเต็มพื้นที่ช่องเงินทอนกัน เชื่อว่าคงมีหลายคนต้องเสียเวลาโกย ต้องคำนับเครื่องก่อนที่จะได้เหรียญโดยสารหรือเหรียญทอนกัน แล้วทำให้เสียเวลาในแต่ละคน สะสม ๆ กันทุกคน หางแถวก็เลยยาวเหยียดกันตามสภาพที่หลาย ๆ คน ต้องจำใจยืนรอคิวกันไปครับ ต่อไปสำหรับ BTS นะครับ ช่วยทำตู้รับแบงค์ได้สักทีเถอะครับ ถึงจะบอกว่ามีบัตรแรบบิตแล้ว ทาง MRT ก็มีบัตรเติมเงิน เค้ายังมีตู้ที่รับแบงค์ได้ สู้เค้าหน่อยครับ ทั้งหมดถ้าเอาข้อดีของแต่ละประเทศมารวมกัน น่าจะช่วยประหยัดเวลาเข้าคิวไปได้ครับ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผู้ใช้บริการตัวน้อย ๆ อยากขออนุญาติแสดงความเห็นเพื่อพัฒนาครับผม ขอบคุณนะครับ