สวัสดีค่ะ
เราไปขอวีซ่าอิตาลีมาเมื่อวันที่ 23 กุมภา 59
จะมาแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวที่วุ่นวายที่สุดที่เคยขอมา (หมายเหตุ : เคยไปขอมาแค่จีน ญี่ปุ่น และออสเตรีย)
ตอนแรกเราก็งงๆว่าจำเป็นต้องขอวีซ่าผ่าน VFS รึเปล่า ไปขอที่สถานทูตเองได้ไม๊
เพราะว่าแอบงกค่าดำเนินการ
แต่ศึกษาข้อมูลแล้ว เหมือนเค้าให้ขอได้แค่ที่ VFS ก็เลยต้องขอที่นี่
โทรไปถามว่าต้องจองคิวไม๊ เพราะเคยไปขอของ Austria ที่ VFS นี่แหละ ต้องจองคิวผ่านเน็ต พอถึงเวลาก็เข้าไปยื่นๆได้เลย รวดเร็วดี
นึกว่าจะเหมือนๆกัน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าไปเที่ยวแค่ไม่กี่คน (เราไปกับเพื่อน 2 คน) ก็ walk-in ได้เลย ไม่ต้องจองคิว
ถึงวันที่เล็งว่าจะไปขอวีซ่า ก็ไปที่ตึกสีลมคอมเพลกซ์ ชั้น 15
จริงๆแล้วเราไปถึงก่อนเพื่อน จะกดคิว เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าจะยื่นพร้อมกันต้องรอให้อีกคนมาก่อนถึงกดคิวได้ (กลัวเราเอาคิวไปขายหรืออย่างไร??)
เราก็เลยรอให้เพื่อนมาถึงก่อน แล้วค่อยกดคิว
กดคิวประมาณ 10 โมงเช้า ได้คิวที่ 181 ... ช็อค !!!
แต่ 10 โมงนี่คือเช้าสุดที่จะมากดกันได้แล้วค่ะ เพราะเพิ่งลงเครื่องไฟล์ทเช้าสุดมาจากต่างจังหวัด
อ่ะไม่เป็นไรเข้าไปเช็คดูซิ คิวที่เท่าไหร่แล้ว เข้าไป 10 โมง คิวที่ 40 นิดๆ อืมม... นั่งดูลู่ทางซักพัก คิวขยับไปช้ามาก
ลงไปกินข้าว เวิ่นเว้อ ขึ้นมาอีกทีเที่ยง คิวยังอยู่ที่ 60 กว่าๆ เริ่มลางไม่ดีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ได้ยื่นวันนี้ทุกคนแน่นอน!
รอแล้วรออีก รอแล้วรออีก รอไปเรื่อยๆ ทุกคนก็นั่งเบื่อกันเต็มที่นั่ง เริ่มชวนกันคุยว่ามากันกี่โมง ได้คิวที่เท่าไหร่
สรุปเลยละกันค่ะ เรามา 10 โมง คิวที่ 181 ได้ยื่นตอนหกโมงกว่า
คนที่มา 6 โมง ได้ยื่นบ่ายสอง (และ เอกสารไม่ครบ ต้องออกไปกดคิวใหม่ ได้ยื่นอีกทีทุ่มกว่าๆ)
คนที่มา 8 โมง ได้คิว 160 ได้ยื่นสี่โมงกว่าๆ
จะเห็นได้ว่ามัน flow ช้ามาก และระบบไม่ดีเลย คนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกไปไหน กลัวโดนเรียกข้ามคิว แล้วจะให้มาต่อคิวใหม่ก็ไม่ไหวแล้ว
กลายเป็นว่านั่งรอกันเงก ตั้งแต่เช้ายันเย็น
ยิ่งเวลาผ่านไป ก็มีเสียงบ่นมาจากทางนู้นที ทางนี้ที ให้ได้ฮาเป็นระยะ เช่น 'นี่ถ้านั่งเครื่องนี่ถึงอิตาลีไปแล้วนะเนี่ย!' "เกิดมาไม่เคยพบเคยเจออะไรอย่างนี้!!"
ช่วงหกโมงที่ทุกคนเริ่มหงุดหงิดสุดๆ
น้องเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเดินแจกใบเช็คเอกสาร ให้เราเรียงเอกสารตามนั้น เพื่อความรวดเร็ว
(มีเสียงบ่นลอยมาว่า ทำไมไม่แจกตั้งแต่แรกล่ะ!!)
แล้วเราก็พบว่า... รายละเอียดมันไม่เหมือนกับที่ลงไว้ในเว็บ ...
อันนี้จากในเว็บค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/DocumentInAppData_200515.pdf
นี่คือที่น้องเค้าแจก
ขอซูมตรงภาษาไทย
ของที่เพิ่มคือ มันจะมีใบ check-list ด้วยค่ะ แต่อันนี้ขอตรงเคาน์เตอร์ได้ แต่เราว่าถ้าจะให้ดีก็ปริ้นท์แล้วเขียนมาก่อนจะเร็วกว่าค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/checklist_TH_110614.pdf
****เขียนแค่หัวด้านบน และเซ็นต์ชื่อ ไม่ต้องเช็คถูกค่ะ เจ้าหน้าที่จะติ๊กเอง
แล้วเราก็เจอความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงของเรา... นั่นคือหนังสือรับรองการเงินค่ะ!
เตรียมไม่ครบ! ก็นึกว่าเช็คดีแล้วนะ แต่มาพลาดเอาตรงนี้ ฮือออ
เหตุเพราะว่าปลายปีก่อนเราเพิ่งไปขอของออสเตรียมา แล้วตอนนั้นใช้แค่สำเนา book bank อันนี้ก็เลยนึกว่าเหมือนๆกัน.. ผิดไปแล้ว..
** ต้องใช้ 'สำเนา book bank' และ 'bank cerficiate หนังสือรับรอง' ทั้ง 2 อย่างค่ะ
** อัพเดทไม่เกิน 7 วันค่ะ ในเว็บเขียนว่าไม่เกิน 15 วัน ตรงนี้โดน reject กันไปหลายคนเลย ทำไมไม่อัพเดทข้อมูลหน่อยล่ะ!
สรุปเราก็โดนเจ้าหน้าที่ตีกลับค่ะ ตอนนั้นคือ เฮ้ย!! เอาเวลา 8 ชั่วโมงของชั้นคืนมานะ!!
เจ้าหน้าที่บอกให้มายื่นใหม่พรุ่งนี้ โหย ให้มาต่อคิวใหม่อีกวันนึงเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว
ถามเค้าว่า มีรับเอกสารไว้ แล้วให้มายื่นเพิ่มเติมได้ไม๊ เจ้าหน้าที่บอก ไม่มีค่ะ -_-"
เลยถามว่า งั้นเดี๋ยววิ่งไปธนาคาร กลับมายื่นอีกทีได้ไม๊ เจ้าหน้าที่บอก จะทันเหรอคะ (เอ่อ..) แต่ถ้าทันก็กลับมายื่นกับเค้าได้เลย
เราก็เลยลองดูก่อน ปัญหาคือ ของเราเป็นธนาคารกรุงไทย ซึ่งที่ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ไม่มีธนาคารนี้
เราก็มาจากต่างจังหวัด ไม่รู้ที่ทาง ลำบากเหลือเกิน
ถามทางไปอันใกล้ๆ เดินไปแถวๆตึกยูไนเต็ด หรืออะไรซักอย่าง เอ้า! ธนาคารปิดแล้ว ฮ่วย
สรุปว่าพุ่งตัวไปที่ MBK ขอ bank certificate มาได้ ระหว่างทางก็กลัว VFS ปิดไปก่อน
กลับมาถึงประมาณ 19.45 โอ้ย ยังไม่ปิด ได้ยื่นเป็นคนสุดท้าย เกือบตายค่ะ
กว่าจะเสร็จ 2 ทุ่ม สลบ...
สรุปอีกทีค่ะ : การตรวจเช็คเอกสารก็จะแตกต่างกันไปในเจ้าหน้าที่แต่ละคน แต่เราว่าถ้าจะให้ดีก็เตรียมให้ครบๆไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
เอกสารก็เอาตามอันที่เค้าแจกเรา (ที่เราลงรูป) น่าจะชัวร์สุดค่ะ เรียงตามนั้นเลย
- เห็นที่มีปัญหากันที่สุดก็ book bank ไม่อัพเดท หรือไม่ก็ไม่ได้ขอใบรับรอง
- ทะเบียนบ้านแปล เคยอ่านในกระทู้เก่าๆ บางคนบอกใช้บ้าง ไม่ใช้บ้าง ของเราเจ้าหน้าที่เก็บไปด้วยค่ะ อัน xerox ทะเบียนบ้านตัวจริงก็เก็บไปด้วย
- ใบรับรองการทำงาน อันที่ลงในเว็บบอกว่าต้องมีตราประทับด้วย แต่ของเพื่อนเราไม่มีตราประทับ (หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ลืมประทับ) เค้าก็ปล่อย ผ่านนะคะ (เอ้า ทีงี้ให้ผ่าน ฮ่วย แต่ในใบที่แจกมันก็ไม่ได้เขียนรายละเอียดอื่นๆไว้อ่ะนะคะ)
- ปริ้นท์ checklist แนบไปเลยก็ดีค่ะ ถึงจะมีให้ขอได้ก็เหอะ แต่เตรียมไว้ก่อนจะได้เร็วๆ
- เอกสารทุกอย่าง ภาษาอังกฤษหรืออิตาลีค่ะ
- มีที่ถ่ายเอกสารอยู่หน้าห้องยื่นเลย 3 บาท
comments :
- เป็นเอเย่นต์รับยื่น น่าจะจัดการระบบได้ดีกว่านี้ เพราะเราก็จ่ายเงินค่าบริการ แต่ต้องมารอทั้งวัน ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ยิ่งตอนเย็น ทุกคนหงุดหงิดมาก เริ่มขึ้นเสียงกันตอนเอกสารมีปัญหา คนที่รอคนอื่นๆในห้องก็เครียดตามอีกว่า ของชั้นจะโดนอะไรไม๊..
- บริษัทจัดระบบไม่ดี พนักงานที่เป็นหนังหน้าไฟก็ต้องรองรับอารมณ์ผู้รับบริการที่โกรธเกรี้ยว เฮ้อ... เหนื่อย
ยังไงถ้าใครจะไปยื่น ก็ขอให้คิวน้อยๆนะคะ สู้ๆค่ะทุกคน~~
//เฮ้อเหนื่อย..
Review ขอวีซ่าอิตาลี กับ VFS (คิวยาวมากๆ) & อัพเดทเอกสารที่ต้องใช้
เราไปขอวีซ่าอิตาลีมาเมื่อวันที่ 23 กุมภา 59
จะมาแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวที่วุ่นวายที่สุดที่เคยขอมา (หมายเหตุ : เคยไปขอมาแค่จีน ญี่ปุ่น และออสเตรีย)
ตอนแรกเราก็งงๆว่าจำเป็นต้องขอวีซ่าผ่าน VFS รึเปล่า ไปขอที่สถานทูตเองได้ไม๊
เพราะว่าแอบงกค่าดำเนินการ
แต่ศึกษาข้อมูลแล้ว เหมือนเค้าให้ขอได้แค่ที่ VFS ก็เลยต้องขอที่นี่
โทรไปถามว่าต้องจองคิวไม๊ เพราะเคยไปขอของ Austria ที่ VFS นี่แหละ ต้องจองคิวผ่านเน็ต พอถึงเวลาก็เข้าไปยื่นๆได้เลย รวดเร็วดี
นึกว่าจะเหมือนๆกัน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าไปเที่ยวแค่ไม่กี่คน (เราไปกับเพื่อน 2 คน) ก็ walk-in ได้เลย ไม่ต้องจองคิว
ถึงวันที่เล็งว่าจะไปขอวีซ่า ก็ไปที่ตึกสีลมคอมเพลกซ์ ชั้น 15
จริงๆแล้วเราไปถึงก่อนเพื่อน จะกดคิว เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าจะยื่นพร้อมกันต้องรอให้อีกคนมาก่อนถึงกดคิวได้ (กลัวเราเอาคิวไปขายหรืออย่างไร??)
เราก็เลยรอให้เพื่อนมาถึงก่อน แล้วค่อยกดคิว
กดคิวประมาณ 10 โมงเช้า ได้คิวที่ 181 ... ช็อค !!!
แต่ 10 โมงนี่คือเช้าสุดที่จะมากดกันได้แล้วค่ะ เพราะเพิ่งลงเครื่องไฟล์ทเช้าสุดมาจากต่างจังหวัด
อ่ะไม่เป็นไรเข้าไปเช็คดูซิ คิวที่เท่าไหร่แล้ว เข้าไป 10 โมง คิวที่ 40 นิดๆ อืมม... นั่งดูลู่ทางซักพัก คิวขยับไปช้ามาก
ลงไปกินข้าว เวิ่นเว้อ ขึ้นมาอีกทีเที่ยง คิวยังอยู่ที่ 60 กว่าๆ เริ่มลางไม่ดีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ได้ยื่นวันนี้ทุกคนแน่นอน!
รอแล้วรออีก รอแล้วรออีก รอไปเรื่อยๆ ทุกคนก็นั่งเบื่อกันเต็มที่นั่ง เริ่มชวนกันคุยว่ามากันกี่โมง ได้คิวที่เท่าไหร่
สรุปเลยละกันค่ะ เรามา 10 โมง คิวที่ 181 ได้ยื่นตอนหกโมงกว่า
คนที่มา 6 โมง ได้ยื่นบ่ายสอง (และ เอกสารไม่ครบ ต้องออกไปกดคิวใหม่ ได้ยื่นอีกทีทุ่มกว่าๆ)
คนที่มา 8 โมง ได้คิว 160 ได้ยื่นสี่โมงกว่าๆ
จะเห็นได้ว่ามัน flow ช้ามาก และระบบไม่ดีเลย คนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกไปไหน กลัวโดนเรียกข้ามคิว แล้วจะให้มาต่อคิวใหม่ก็ไม่ไหวแล้ว
กลายเป็นว่านั่งรอกันเงก ตั้งแต่เช้ายันเย็น
ยิ่งเวลาผ่านไป ก็มีเสียงบ่นมาจากทางนู้นที ทางนี้ที ให้ได้ฮาเป็นระยะ เช่น 'นี่ถ้านั่งเครื่องนี่ถึงอิตาลีไปแล้วนะเนี่ย!' "เกิดมาไม่เคยพบเคยเจออะไรอย่างนี้!!"
ช่วงหกโมงที่ทุกคนเริ่มหงุดหงิดสุดๆ
น้องเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเดินแจกใบเช็คเอกสาร ให้เราเรียงเอกสารตามนั้น เพื่อความรวดเร็ว
(มีเสียงบ่นลอยมาว่า ทำไมไม่แจกตั้งแต่แรกล่ะ!!)
แล้วเราก็พบว่า... รายละเอียดมันไม่เหมือนกับที่ลงไว้ในเว็บ ...
อันนี้จากในเว็บค่ะ http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/DocumentInAppData_200515.pdf
นี่คือที่น้องเค้าแจก
ขอซูมตรงภาษาไทย
ของที่เพิ่มคือ มันจะมีใบ check-list ด้วยค่ะ แต่อันนี้ขอตรงเคาน์เตอร์ได้ แต่เราว่าถ้าจะให้ดีก็ปริ้นท์แล้วเขียนมาก่อนจะเร็วกว่าค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/checklist_TH_110614.pdf
****เขียนแค่หัวด้านบน และเซ็นต์ชื่อ ไม่ต้องเช็คถูกค่ะ เจ้าหน้าที่จะติ๊กเอง
แล้วเราก็เจอความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงของเรา... นั่นคือหนังสือรับรองการเงินค่ะ!
เตรียมไม่ครบ! ก็นึกว่าเช็คดีแล้วนะ แต่มาพลาดเอาตรงนี้ ฮือออ
เหตุเพราะว่าปลายปีก่อนเราเพิ่งไปขอของออสเตรียมา แล้วตอนนั้นใช้แค่สำเนา book bank อันนี้ก็เลยนึกว่าเหมือนๆกัน.. ผิดไปแล้ว..
** ต้องใช้ 'สำเนา book bank' และ 'bank cerficiate หนังสือรับรอง' ทั้ง 2 อย่างค่ะ
** อัพเดทไม่เกิน 7 วันค่ะ ในเว็บเขียนว่าไม่เกิน 15 วัน ตรงนี้โดน reject กันไปหลายคนเลย ทำไมไม่อัพเดทข้อมูลหน่อยล่ะ!
สรุปเราก็โดนเจ้าหน้าที่ตีกลับค่ะ ตอนนั้นคือ เฮ้ย!! เอาเวลา 8 ชั่วโมงของชั้นคืนมานะ!!
เจ้าหน้าที่บอกให้มายื่นใหม่พรุ่งนี้ โหย ให้มาต่อคิวใหม่อีกวันนึงเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว
ถามเค้าว่า มีรับเอกสารไว้ แล้วให้มายื่นเพิ่มเติมได้ไม๊ เจ้าหน้าที่บอก ไม่มีค่ะ -_-"
เลยถามว่า งั้นเดี๋ยววิ่งไปธนาคาร กลับมายื่นอีกทีได้ไม๊ เจ้าหน้าที่บอก จะทันเหรอคะ (เอ่อ..) แต่ถ้าทันก็กลับมายื่นกับเค้าได้เลย
เราก็เลยลองดูก่อน ปัญหาคือ ของเราเป็นธนาคารกรุงไทย ซึ่งที่ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ไม่มีธนาคารนี้
เราก็มาจากต่างจังหวัด ไม่รู้ที่ทาง ลำบากเหลือเกิน
ถามทางไปอันใกล้ๆ เดินไปแถวๆตึกยูไนเต็ด หรืออะไรซักอย่าง เอ้า! ธนาคารปิดแล้ว ฮ่วย
สรุปว่าพุ่งตัวไปที่ MBK ขอ bank certificate มาได้ ระหว่างทางก็กลัว VFS ปิดไปก่อน
กลับมาถึงประมาณ 19.45 โอ้ย ยังไม่ปิด ได้ยื่นเป็นคนสุดท้าย เกือบตายค่ะ
กว่าจะเสร็จ 2 ทุ่ม สลบ...
สรุปอีกทีค่ะ : การตรวจเช็คเอกสารก็จะแตกต่างกันไปในเจ้าหน้าที่แต่ละคน แต่เราว่าถ้าจะให้ดีก็เตรียมให้ครบๆไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
เอกสารก็เอาตามอันที่เค้าแจกเรา (ที่เราลงรูป) น่าจะชัวร์สุดค่ะ เรียงตามนั้นเลย
- เห็นที่มีปัญหากันที่สุดก็ book bank ไม่อัพเดท หรือไม่ก็ไม่ได้ขอใบรับรอง
- ทะเบียนบ้านแปล เคยอ่านในกระทู้เก่าๆ บางคนบอกใช้บ้าง ไม่ใช้บ้าง ของเราเจ้าหน้าที่เก็บไปด้วยค่ะ อัน xerox ทะเบียนบ้านตัวจริงก็เก็บไปด้วย
- ใบรับรองการทำงาน อันที่ลงในเว็บบอกว่าต้องมีตราประทับด้วย แต่ของเพื่อนเราไม่มีตราประทับ (หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ลืมประทับ) เค้าก็ปล่อย ผ่านนะคะ (เอ้า ทีงี้ให้ผ่าน ฮ่วย แต่ในใบที่แจกมันก็ไม่ได้เขียนรายละเอียดอื่นๆไว้อ่ะนะคะ)
- ปริ้นท์ checklist แนบไปเลยก็ดีค่ะ ถึงจะมีให้ขอได้ก็เหอะ แต่เตรียมไว้ก่อนจะได้เร็วๆ
- เอกสารทุกอย่าง ภาษาอังกฤษหรืออิตาลีค่ะ
- มีที่ถ่ายเอกสารอยู่หน้าห้องยื่นเลย 3 บาท
comments :
- เป็นเอเย่นต์รับยื่น น่าจะจัดการระบบได้ดีกว่านี้ เพราะเราก็จ่ายเงินค่าบริการ แต่ต้องมารอทั้งวัน ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ยิ่งตอนเย็น ทุกคนหงุดหงิดมาก เริ่มขึ้นเสียงกันตอนเอกสารมีปัญหา คนที่รอคนอื่นๆในห้องก็เครียดตามอีกว่า ของชั้นจะโดนอะไรไม๊..
- บริษัทจัดระบบไม่ดี พนักงานที่เป็นหนังหน้าไฟก็ต้องรองรับอารมณ์ผู้รับบริการที่โกรธเกรี้ยว เฮ้อ... เหนื่อย
ยังไงถ้าใครจะไปยื่น ก็ขอให้คิวน้อยๆนะคะ สู้ๆค่ะทุกคน~~
//เฮ้อเหนื่อย..