[CR] ลักพาตัวสาวเรียกค่าไถ่ @ FUKUOKA [Day5_เฮ่วโล่ว SAGA ฉันจะคิดถึงนาย]

Previously on Lak.Par.Tua     

        ณ เวลา 22.00น. ของคืนหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัด เสียงจิ้งหรีดที่ร้องเป็นทำนอง ไร้เสียงผู้คน อากาศเย็นๆ ช่างเป็นคืนที่น่าจะเป็นฝันหวานของใครหลายๆคน ได้มีเงามืดสีดำน่ากลัวของชายผู้หนึ่งค่อยๆย่างกรายเข้ามาอย่างช้าๆ  และได้ปลดล็อคกุญแจราวกับเป็นบ้านของตัวเอง และเริ่มย่องเข้าบ้านหญิงสาวรายหนึ่ง โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ลักลอบเก็บเสื้อผ้าของเหยื่อ และค่อยๆเข้าไปลักพาตัวหญิงสาวขึ้นรถ หญิงสาวตกใจมาก เลยสู้ใจขาดดิ้น คาราเต้ เทควอนโด้ มวยไทย หย่งชุน นางจัดทุกท่วงท่าดั่งกับว่าเมียพี่บัวขาวเข้าสิง แต่ชายลึกลับผู้นั้นมีไหวพริบที่แรงกล้า รับทุกหมัด โดนทุกทีน ที่นางโถมเข้าใส่ จนนางเหนื่อยไปเอง และก็ถึงเวลาที่จะทรมานหญิงสาวอย่างโหดร้ายทารุณ โดยการเอาชอคโคแลตล่อให้กินตลอดทางจนถึงสนามบิน.....

        เมื่อถึงสนามบิน นางเริ่มรู้ตัวว่ากำลังโดนลักพาตัว!! นางรีบยัดช็อคโคแลตใส่ปากหมด แล้วดิ้นรนพยายามจะหนีชายลึกลับผู้นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทว่านั่นก็ช้าไปเสียแล้ว.........
Day1 Bangkok--> Fukuoka--> Oita : http://ppantip.com/topic/34829929
Day2 Oita--> Yufuin : http://ppantip.com/topic/34832694
Day3 Oita--> Kitsuki--> Fukuoka : http://ppantip.com/topic/34836486
Day4 Fukuoka--> Kumamoto : http://ppantip.com/topic/34842632
Day5 Fukuoka--> Saga : http://ppantip.com/topic/34846782
Day6,7 Canal City and The end of Kidnapper : http://ppantip.com/topic/34852976


Day5: Fukukoka--> Saga
    
        ถ้าใครเคยดูซีรีย์เรื่อง Stay ซากะ....ฉันจะคิดถึงเธอ คงจะเห็นภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่พี่หมูได้พาน้องจุกของผมพาเที่ยวรอบเมืองเล็กๆ แต่ของจริงไม่เล็กอย่างจังหวัด Saga เป็นธรรมชาติที่เราคิดว่าต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ซึ่งสายธรรมชาติอย่างผมพูดเลยว่า “ยังไงก็จะไป” .....ต้องบอกก่อนเลยว่า ตอนแรก ไม่มีอะไรพวกนี้อยู่ในหัวสมองเลย และวันนี้ต้องเป็นวันที่เราจะไป Huis Ten Bosch ที่จังหวัดนางาซากิกัน แต่หลังจากได้ดูซีรีย์เรื่องนี้ คงต้องเลื่อน Huis Ten Bosch ไว้คราวหน้าซะแล้ว....ห๊ะ!!! อะไรนะ!? ใครตามรอยซีรีย์? ม่ายมี๊!!!

        “เห้ย! ตื่นนนนนนน 6โมงครึ่งแล้ว ตื่นโว้ยยยยยย” เสียงนางตะโกนพร้อมเอาเท้าเขี่ยพุงผม....สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ ชิ๊บหายล่ะ วันนี้ต้องตื่นเช้าไป Saga นิ ซึ่งเป็นวันที่ไปตายเอาดาบหน้ามากที่สุดแล้ว เพราะว่า ที่ที่จะไปคือ แหลมฮาโดะ กับ ภูเขาคางามิยาม่า ซึ่งรายละเอียดและวิธีไปน้อยมากถึงมากที่สุด แถมอยู่ห่างกันไกลโขด้วย เอาว่ะ ตายเป็นตาย!! (แต่ตอนนี้...เมิงลุกออกจากเตียงก่อน)

        “สวัสดีครับ ผม นายฟุกุโอกะ ณ คิวชู วันนี้จะมารายงานสภาพอากาศ ณ ปัจจุบันกัน เช้านี้ก็ยังมีลมหนาวกรรโชกแรงพัดมาทางฝั่งตะวันออกของภูมิภาคคิวชู ซึ่งอุณหภูมิโดยรอบตัวเมืองฟุกุโอกะ ต่ำสุดอยู่ที่ 0องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ 8องศาเซลเซียส ส่วนผู้ใด ที่ต้องการจะไป Karatsu จังหวัด Saga เช้าวันนี้ นอกจากจะมีลมโคตรหนาวกรรโชกมาจากฝั่งฟุกุโอกะแล้ว อุณหภูมิ ยังดิ่งลงอย่างน่าใจหาย ต่ำสุดอยู่ที่ -2องศาเซลเซียส สูงสุด 9องศาเซลเซียส ขอให้ผู้คนเตรียมรับมือกับความหนาวที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย... ใครพร้อมเป็นสิงห์อมควัน ลุยยยยยย!”

        ขณะที่ฟังรายงานสภาพอากาศ ก็แต่งตัวเซทผมคัดเบ้ากรีดตาละเลงอายชาโดว์จูบลิปสติก กันสวยเด้งกันทุกคนแล้ว ก็เริ่มออกเดินทาง วันนี้ ออกเดินทางเร็วกว่าทุกวัน เพราะว่า การเดินทางวันนี้ ทรหดและโคตรโหดมาก (ใครใจไม่แข็ง ข้ามไปวันต่อไปเลยฮะ..........อุ้ยยย เก๊าย๊อเย่น! อ่านให้จบก่อนสิฮะ)

        ระหว่างที่กำลังเดินทางไปสถานี ขอรายงานผลการลักพาตัวก่อนสักเล็กน้อยฮะ...วันที่ 5 ของการลักพาตัว...ครอบครัวของหญิงสาวน่าจะเริ่มตัดใจ และปล่อยให้หญิงสาวไปผจญกับชะตาชีวิตตามยถากรรมของตัวเอง ถึงได้ตัวกลับไป วันๆก็เอาแต่กินกับนอน สร้างภาระอันหนักอึ้งให้กับครอบครัวเธอเป็นอย่างมาก ครอบครัวเธอจึงลงมติกันว่า ทิ้งนางไว้ที่นู่นน่าจะเป็นผลดีกับครอบครัวมากกว่า แต่ภาระหนักอึ้งมาตกที่คนลักพาตัวอย่างผม ไหนๆ ครอบครัวนางก็ทิ้งล่ะ ผมก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องลักพาตัวนางอีกต่อไป เดี๋ยวจะทิ้งที่ข้างๆ...........อ่าว ถึงสถานีละ เดินทางก่อนละกัน

        เริ่มแรกเรานั่งรถไฟจากที่กบดานไปยังสถานีใหญ่อย่าง Hakata ก่อน ซึ่งนี่เป็นวันสุดท้ายที่บัตรเบ่งจะทำงาน วันนี้แหล่ะ ต้องใช้ให้คุ้ม ก็เบ่งกับพนักงานและนั่งรถไฟมาถึงสถานี Hakata พอมาถึงปุ๊บ เราก็เดินออกสถานี Hakata ออกมา เลี้ยวขวานิดหนึ่งจะเจอทางลงใต้ดิน ก็สไลด์ตัวลงไปเลยฮะ เพื่อจะไปนั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Meinohama…..... รถไฟใต้ดิน จะใช้บัตรเบ่ง 5​days northern Kyushu pass ไม่ได้นะฮะ จ่ายเงินอย่างเดียว พอดีมีพกบัตร suica มาด้วย ในนั้นมีเงินเหลือในบัตรจากที่เที่ยวครั้งที่แล้ว เลยไม่ต้องไปซื้อบัตรใหม่ ก็เลยแตะบัตรเข้าไปอย่างสวยงามเลย (ใครจะมาเที่ยวที่นี่ รบกวนศึกษาก่อนนะฮะ ว่าบัตรไหนใช้กับที่นี่ได้บ้าง ซึ่งบัตร suica ที่ผมพกมา มันยังครอบคลุมอยู่)

Cr. tiewyeepoon

        ระหว่างที่นั่งใต้ดิน.........”หิวอ่ะ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนะ จะปล่อยให้อดตายหรือไง” นางมองด้วยหางตาแล้วพูดขึ้นมาลอยๆ (ตั้งแต่เช้าอะไรกันแฟ้! ตอนนั้นเพิ่ง 9โมงเองนะ ยัยหมูคุโรบูตะเอ้ยยย!)  “ค้าบบบบๆ” ผมตอบสั้นๆ นอกนั้นคิดในใจหมดเลย ฮ่าๆๆ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง สถานี Meinohama ซักที แล้วก็เดินไปหาของกินยัดปากนางซะ จะได้เลิกบ่น ที่สถานีนี้จะมีห้างติดสถานีเลย เลยออกไปหาของกินข้างนอกก่อน ไปได้ ขนมปัง+กาแฟ มาให้นางได้อิ่มท้องรวมถึงตัวผมด้วย แฮ่ๆ


เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้าไปสถานี นั่งรถไฟสาย Chikuhi Line ไป สถานี Karatsu ต่อทันที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1ชม.

ผมบอกแล้วววว นางเป็นภาระจริงๆด้วย หลังจากนั้นอิ่มท้อง นางก็เริ่มแกล้งคน (ทำอะไรให้เกียรติคนลักพาตัวบ้าง)


        หลังจากที่นางกลั่นแกล้งผมทุกวิถีทางเสร็จแล้ว ก็มาถึงสถานี Karatsu ซักที เป็นสถานีที่ไม่ได้ใหญ่มาก ดูเก่าๆ และค่อนข้างจะชนบทมาก ผู้คนก็ช่างน้อยซะเหลือเกิน ไม่ได้ครึกครื้นเหมือนสถานีใหญ่ๆ แต่ครั้งนี้ ผมกับไม่ได้รู้สึกใจแป้วๆ เหมือนครั้งที่ไป ปราสาทคิทซึกิ เท่าไหร่ เพราะว่าในซีรีย์มันได้อธิบายภาพไว้ชัดเจนในสายตาผมอยู่แล้ว (ก็บอกไม่ได้ตามรอยซีรีย์ไงเล่า!!)
[img]http://f.ptcdn.info/476/040/000/o37o7shpkb3Q8ql8Cc5-o.jpg[/img}

        “แต่ของสวยๆงามๆ มันไม่ได้เห็นกันง่ายๆหรอกนะ” ประโยคซ้ำๆซากๆที่ผมกำลังจะพิมพ์แล้วชะงัก เอ๊ะ! นี่เราพิมพ์ไปกี่ครั้งแล้วนะ พิมพ์ไปบ่อยๆกลัวโดนด่าจัง แต่ช่างเถอะ "มีคนด่าดีกว่าไม่มีคนอ่าน" ในตัวสถานีจะมี Tourist Information อยู่ เลยเดินเข้าไปถามว่าจะไป แหลมฮาโดะ (Hado cape/Hado Misaki) ไปโดยวิธีไหนได้บ้าง เค้าก็อธิบายมาว่าไปได้ 4วิธี

1.    รถบัส (อันนี้เค้าแนะนำที่สุด)
2.    เช่ารถขับไปเอง (ถ้าเรามีเงินมากพอ+ ขับรถเป็น+ อ่าน GPS ที่คงจะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นออก)
3.    เหมาแท็กซี่ (อันนี้คำนวณดูแล้วค่อนข้างแพง ไป-กลับ น่าจะโดนไป 5000-6000เยน)
4.    เดิน/วิ่ง (อันนี้ เค้าโคตรไม่แนะนำ เพราะว่าคุณจะแห้งเหี่ยวตายก่อนจะไปถึง)

        เราก็เลยเลือกเดินครับ.............เดินไปขึ้นรถบัสที่ศูนย์รถบัส Oteguchi Bus Center โดยพี่พนักงานที่ Tourist Information เค้าให้ลายแทงพิกัดศูนย์รถบัสมาให้......

ไม่ต้องตกใจฮะ ลายมือไก่เขี่ยของผมเอง

        พอเราเดินมาถึง Oteguchi Bus Center ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 10นาที ก็จะเป็นตึกแบบนี้ฮะ (ลวกๆอีกแล้วนะฮะ เพราะรถบัสเค้าจะออกแล้ว)


        พอเราเดินเข้าไปข้างใน ก็จะเจอ Counter ขายตั๋ว พร้อมมีพนักงานนิสัยดีอยู่ด้านในคอยให้บริการ....”พี่ฮะ! ผมจะไปแหลมฮาโดะ แล้วก็จะไปภูเขาคางามิยาม่า จะทันไหมฮะ” ผมโพล่งขึ้นมาหน้าเค้าท์เตอร์ที่พี่พนักงานเค้านั่งทำงานอยู่ เค้านั่งทำหน้าอึ้ง+ตกใจ ไอ่หั๋มนี่มันเป็นใคร!? แล้วเค้าก็หยิบแผนที่ขนาดใหญ่กลางให้ผมดู ตอนนี้เราอยู่ Karatsu ถ้าคุณจะไปแหลมฮาโดะ คุณต้องนั่งรถบัสป้ายหมายเลข 2 ที่อยู่ข้างหน้าคุณนี่ ไป ซึ่งค่ารถบัสคุณต้องเสีย 2 ต่อ
        ต่อแรก สถานี Oteguchi bus center – Yobuko = 750 เยน ใช้เวลา 45 นาที
        ต่อสอง สถานี Yobuko – Hado Misaki = 420 เยน ใช้เวลา 20นาที (นั่งคันเดิมต่อไปเลย)
ราคารวม 1,170 เยน (1ชม.เศษๆ)


        แต่ถ้าคุณจะไปภูเขาคางามิยาม่า คุณต้องไปขึ้นอีกชานชลาหนึ่งด้านหลัง ซึ่งคุณต้องนั่งรถบัสไปลงสถานี Kagamiyama Iriguchi และคุณต้องนั่งรถแท็กซี่ต่ออีกหน่อยเพื่อขึ้นภูเขาไปจุดชมวิว

        ซึ่งถ้าไปแหลมฮาโดะ จะไปซ้ายมือ ถ้าไปภูเขาคางามิยาม่าจะอยู่ขวามือ คือผมต้องเลือกแล้วสินะ ว่าจะไปที่ไหน เพราะถ้าไปทั้ง 2ที่ คงต้องเที่ยวที่ละ ชม. พอ

        สุดท้ายผมก็เลือกที่จะไปชมวิวทิวทัศน์ติดทะเลพร้อมความหนาวระดับ -2 พร้อมถ่ายรูปกับหัวใจที่แหลมฮาโดะแทน ฮือๆๆ วันหลังจะตามมาเก็บนะ นายคางามิยาม่า (ต้องตามเก็บอีกหลายที่เลยนะ)

        พนักงานใจดีกดซื้อบัตรที่ตู้ข้างๆเค้าเตอร์ให้เลย จะได้บัตรมาคนละ 2 ใบ (ไป-กลับ เป็น4ใบ) ใบหนึ่ง คือถึงแค่ Yobuko อีกใบจาก Yobuko ถึงแหลมฮาโดะ ถ้าไม่ได้แวะที่ Yobuko ก่อน ก็ยิงยาวไปแหลมเลย ตอนลงก็ยื่นให้พี่โชเฟอร์ทั้ง 2ใบ

        ก่อนออกจากสถานี Oteguchi Bus Center พนักงานยื่นตารางรถบัสไป-กลับ แต่ละที่ไว้ให้ เลยลองแหวกๆ ออกมาดูขำๆ เอิ่บ...รถบัสไม่ได้วิ่งทุกๆ 10นาทีเหรอ ทำไมทิ้งช่วงนานจัง ใครพลาดรอบนี้ มีอีกทีอีกประมาณ 1ชม. ข้างหน้านะฮะ คงเพราะรถบัสมีน้อย และเค้าจอดแวะทุกป้าย กว่าจะมาถึงคงต้องใช้เวลา ดังนั้นถ้าจะต่อภูเขาคางามิยาม่าด้วยหมดสิทธิ์เลย
    
        (ในขณะที่ผมนั่งพิมพ์จนถึงตอนนี้ ผมก็เดินไปหาตารางเวลารถบัสไป-กลับ แหลมฮาโดะ อ่าว เห้ยยยยย!!! หายไปไหนแว้ ควักกระเป๋ากล้องออกมาดู...ไม่มี! รื้อกระเป๋าเดินทาง....ไม่มี!! ดูซองเอกสาร....ไม่มี!!! ในกระเป๋าเสื้อโค้ท....ไม่มี!!!! คิดไว้แล้วว่าตารางรถบัสจะเอากลับมาแชร์ให้เพื่อนๆดู เพราะว่ายังไม่เห็นมีใครแชร์ข้อมูลนี้กัน กลัวว่าจะจัดเวลากันไม่ถูก ตอนนี้ พิมพ์ไปร้องไห้ไป ขอโทษค้าบบบบ T_T)

        ในที่สุดก็มาถึง ลงป้ายรถเมล์นี้เลย เป็นป้ายเล็กๆที่มีความหมายมาก เลยถ่ายเก็บไว้ เพราะป้ายเล็กๆนี้ จะต้องเป็นป้ายที่เราต้องรอรถบัสเพื่อนั่งกลับ น่าจะเป็นป้ายเกือบสุดท้าย เพราะเห็นรถบัสขับเข้าไปข้างในอีก (แต่นี่ก็สุดขอบเกาะแล้วนะ)


        ยังหรอกฮะ! ยังไม่ถึง ต้องเดินไปอีก ประมาณ 5 นาที ถึงจะถึงแหลมฮาโดะตัวจริงเสียงจริง แต่อากาศดีมากกกกกก นี่สินะเมืองชนบทที่ผู้คนไม่ค่อยมีใครรู้จักกัน ผู้คนช่างน้อยซะเหลือเกิน มีแต่พวกลุงๆป้าๆ มาเดินเล่นกัน (หรือพวกเราจะแก่แล้ว!?)
ชื่อสินค้า:   Northern Kyushu
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่