[CR] ลักพาตัวสาวเรียกค่าไถ่ @ FUKUOKA [Day4_Hi! Kumamoto]

Previously on Lak.Par.Tua (ยังจะเล่น)        

        ณ เวลา 22.00น. ของคืนหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัด เสียงจิ้งหรีดที่ร้องเป็นทำนอง ไร้เสียงผู้คน อากาศเย็นๆ ช่างเป็นคืนที่น่าจะเป็นฝันหวานของใครหลายๆคน ได้มีเงามืดสีดำน่ากลัวของชายผู้หนึ่งค่อยๆย่างกรายเข้ามาอย่างช้าๆ  และได้ปลดล็อคกุญแจราวกับเป็นบ้านของตัวเอง และเริ่มย่องเข้าบ้านหญิงสาวรายหนึ่ง โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ลักลอบเก็บเสื้อผ้าของเหยื่อ และค่อยๆเข้าไปลักพาตัวหญิงสาวขึ้นรถ หญิงสาวตกใจมาก เลยสู้ใจขาดดิ้น คาราเต้ เทควอนโด้ มวยไทย หย่งชุน นางจัดทุกท่วงท่าดั่งกับว่าเมียพี่บัวขาวเข้าสิง แต่ชายลึกลับผู้นั้นมีไหวพริบที่แรงกล้า รับทุกหมัด โดนทุกทีน ที่นางโถมเข้าใส่ จนนางเหนื่อยไปเอง (เจ็บชิบ!!) และก็ถึงเวลาที่จะทรมานหญิงสาวอย่างโหดร้ายทารุณ โดยการเอาชอคโคแลตล่อให้กินตลอดทางจนถึงสนามบิน.....

โดยอาวุธในการลงมือคือ:
-    Canon
-    Fuji XA-2
-    Iphone6
-    Chocolates

        เมื่อถึงสนามบิน นางเริ่มรู้ตัวว่ากำลังโดนลักพาตัว!! (สงสัยจะเจอช็อคโคแลตรสยาชา) นางรีบยัดช็อคโคแลตใส่ปากหมด แล้วดิ้นรนพยายามจะหนีชายลึกลับผู้นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทว่านั่นก็ช้าไปเสียแล้ว.........

Day1 Bangkok--> Fukuoka--> Oita : http://ppantip.com/topic/34829929
Day2 Oita--> Yufuin : http://ppantip.com/topic/34832694
Day3 Oita--> Kitsuki--> Fukuoka : http://ppantip.com/topic/34836486
Day4 Fukuoka--> Kumamoto : http://ppantip.com/topic/34842632
Day5 Fukuoka--> Saga : http://ppantip.com/topic/34846782
Day6,7 Canal City and The end of Kidnapper : http://ppantip.com/topic/34852976



Day4: Fukuoka--> Kumamoto

        รายงานสภาพอากาศเช้านี้: อุณหภูมิลงลงอย่างน่าใจหาย เนื่องจากมีลมโคตรหนาวมรสุมพัดผ่านทางตอนใต้ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะจังหวัดฟุกุโอกะ แบบไร้แสงแดดให้พึ่งพิง เหลือแค่ 4องศาเซลเซียสเท่านั้น ดังนั้น ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ (บอกตัวเอง)

        วันที่4 ของการลักพาตัว ณ จุดนี้ ชักไม่แน่ใจล่ะ ว่าใครลักพาตัวใคร ใครเป็นนายใครเป็นทาส นางมาถึงจุดนี้ได้ยังไง แล้วทำไมฉันต้องตกเป็นเบี้ยล่างหล่อนด้วย แต่ วันนี้แหล่ะฉันจะทำให้หล่อนรู้ว่าหล่อนอยู่ในสถานะใด...

        ติ๊งหน่อง....ติ๊งหน่องงงง นาฬิกาจากในมือถือของใครสักคนดังสนั่นลั่นห้อง (นาฬิกาปลุก หรือกริ่งฟ่ะ) ผมสะดุ้งตื่นมาพร้อมกับความเหน็บหนาวในตัวบ้านหลังใหญ่ที่มีฮีทเตอร์เพียง 2ตัวในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ส่วนทางเดินไปห้องน้ำหนาวจับใจไร้ความเมตตาใดๆทั้งสิ้น พยายามแงะร่างตัวเองที่นอนขดอย่างกับลูกหมาชิวาว่าแสนน่ารัก ออกจากเตียงไปปิดนาฬิกาปลุก แต่ทำไมมันยากเย็นซะเหลือเกิน เป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุดของการลักพาตัวครั้งนี้เลยก็ว่าได้ แต่จะทำไงได้ เรื่องลักพาตัว(เที่ยว)สำคัญกว่า เลยกระเ-สือกกระสนวิ่งไปเข้าห้องอาบน้ำ เปิดน้ำร้อนราดใส่ผิวอันแห้งกร้าน ทั้งแดงทั้งแสบ แล้วรีบวิ่งเข้าห้องนอนรับลมอุ่นจากฮีทเตอร์เพื่อแต่งตัว.... มีคนไม่อาบน้ำอีกแล้ว (คุณก็รู้ว่าใคร) นางเอาน้ำลูบหน้าเสร็จแล้ววิ่งเข้าห้องแต่งตัวทันที...จ๊ะ เอาที่สบายใจเลย

        หลังจากแต่งตัวเสร็จ โฮสก็แวะเข้ามาทักทาย ถามสารทุกข์สุกดิบว่าเป็นไงบ้าง อยู่กันได้หรือเปล่า ต้องการอะไรเพิ่มไหม “ฮีทเตอร์!!” นางเปิดประเด็นก่อนเลย ฉันกำลังอ้าปากพูดพอดี โฮสหัวเราะเบาๆพร้อมกับบอกว่า ช่วงนี้อากาศหนาวมาก เดี๋ยวเย็นนี้ ผมเอามาให้เพิ่มนะ ....ขอบคุณนะค้าบบบบ

        เอาล่ะ! เข้าเรื่อง! เริ่มจากตรงไหนก่อนดี! Hakata เน๊อะ......หลังจากนั่งรถไฟสาย Kagoshima line จาก Togo มาสถานีใหญ่อย่าง Hakata ที่คนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ผิดกับสถานีที่เราพักสุดๆ ขณะที่กำลัง งงๆ ก็หันไปเห็นร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง... เอ๊ะ! Family Mart เรียกเราทำไมกันนะ งั้นเดินเข้าไปทักหน่อยละกัน ไปได้ข้าวปั้นกับกาแฟไว้กินรองท้องในรถไฟแทนซะงั้น หลังจากนั้นก็ไปนั่งรอรถไฟที่ชานชลา พร้อมซัดข้าวปั้นซดกาแฟรอเวลารถไฟมากับอากาศที่ใครตบหน้าตุ๊ยท้องก็ไร้ความรู้สึก.......

        .........ปู๊นๆๆๆ เสียงที่ดังสนั่นพร้อมความเร็วแสงของรถไฟซึ่งมาหยุดตรงหน้าเราพอดี นี่สินะ รถไฟความเร็วสูง Shinkansen เพิ่งจะเคยได้นั่งตัวเป็นๆก็ตอนนี้ล่ะ แล้วเราก็ย่างก้าวเข้าไปด้านใน เป็นรถไฟที่ดูหรูหรา ที่นั่งกว้างขวาง เบาะเอนได้โดยที่ไม่กระทบกับคนข้างหลัง หน้าต่างที่มีฝาสามารถเปิด-ปิดได้ ความสะอาดและเป็นระเบียบของรถไฟ Shinkansen ช่างน่านับถือจริงๆ.....


        Shinkansen ขบวนนี้วิ่งไปถึงสถานี ​Kumamoto โดยใช้เวลาเพียง 38 นาทีเท่านั้น เร็วเว่อร์! พอถึงสถานี Kumamoto ปุ๊บ ก็เดินขึ้นเข้ามาในตัวสถานี โว้ววววว สถานีใหญ่มากกกก คนก็เยอะมากกกก! สมแล้วที่เป็นเมืองท่องเที่ยวของจังหวัด ส่วนสัญลักษณ์ของ Kumamoto คือ หมีคุมะมงที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ นั่นเอง แล้วยัยนี่ไปยืนทำอะไรตรงรูปปั้นหมีฟ่ะ!


        การเดินทางในเมืองใหญ่ๆอย่าง Kumamoto นั่นง๊ายแสนง่าย จะมีรถรางที่วิ่งรอบเมืองอย่างรถ Tram ใว้ให้บริการ รถ Tram นี้จะวิ่งผ่านจุดท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kumamoto Castle, Suizenji park, Shimotori Shopping Arcade และ บลาๆๆ

        รถ Tram จะมี 2สายคือ สายสีแดง A และสายสีน้ำเงิน B......
        สาย A จะวิ่งจากสถานี Tasakibashi ไปจนถึง Kengunmachi
        สาย B จะวิ่งจากสถานี Kamikumamoto station ไปจนถึง Kengunmachi


        บนตัวรถรางจะมี สาย A หรือ B บอกอย่างชัดเจน สนนราคา 150เยน ตลอดสายสำหรับผู้ใหญ่ และ 80เยน ตลอดสายสำหรับเด็ก แต่ถ้าใครจะไปเที่ยวหลายๆที่ในเมืองนี้ แนะนำว่า ซื้อ One day pass สำหรับ รถTram เลยจะคุ้มกว่าในราคาแค่ 400เยน ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ Tourist Information ที่พอเดินขึ้นบันไดมาจาก Shinkansen จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ และยังมีล็อกเกอร์สำหรับฝากของอีกด้วย

        
        ยังไม่หมดเพียงเท่านี้! เรามีโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ One day pass วันนี้ จะได้รับส่วนลด 100เยน ในการเข้าชมปราสาทคุมาโมโต้ รวมไปถึง ค่าเข้าชมตำหนักของท่านโฮโซกาว่าอีกด้วย โดยการฉีกบัตรเล็กๆข้างล่างยื่นให้พนักงานตอนจะจ่ายเงินเข้าปราสาทได้เลย ส่วนวิธีการใช้บัตร one day pass นี้ ก็ทำเหมือน Fukuoka tourist city pass จุดธูป แล้วเริ่มขูดได้เล๊ยยยย....


        เอาล่ะ! หลังจากออกทะเลมาได้สักพัก ก็กลับเข้าเรื่องของเราดีกว่า เราออกจากสถานี ​Kumamoto มาข้างนอกก็จะเจอ............ เดี๋ยวๆๆ นั่นนางเป็นบร้าาาาอะไรเนี่ย!!!


        ต่อๆๆๆ ออกจากสถานีมา ก็จะมาเจอรถ Tram ที่จอดอยู่หน้าสถานีเลย ดูจากแผนที่ ตอนนี้เราอยู่สถานีที่3 ของสาย A รีบวิ่งขึ้นสิฮะ เพราะคนใช้บริการรถ Tram ค่อนข้างเยอะพอสมควร ส่วนจุดหมายที่เราจะไปเซย์ไฮเป็นที่แรก นั่นคือ ปราสาทคุมาโมโต้!!!


        ในระหว่างที่นั่งรถ Tram ข้างในค่อนข้างอบอุ่น เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะทำร่างกายของเราให้อุ่นก่อนออกไปเจอแรงลมคูลลิ่งเฟรช ข้างนอกอีกครั้ง นั่งรถ Tram มาไม่นาน ก็มีเสียง “Next Station! Kumamoto Castle!, Kumamoto Castle!” เย้ ถึงซักที สถานี Kumamoto Castle ซึ่งเป็นสถานีที่ 10 เตรียมตัวลงประตูหน้า พร้อมยื่นบัตรเบ่งโชว์มิสเตอร์โชเฟอร์แล้วลงได้เลย รถรางจะจอดอยู่ตรงเกาะกลางของถนน หลังจากเราลงแล้วก็เดินข้ามมาฝั่งซ้ายเลย...แต่เดี๋ยวก่อน อย่างที่บอกไว้เมื่อตอนที่แล้ว ของสวยๆงามๆ มันไม่ได้มาง่ายๆหรอกนะ เดินสิครับ เดิน เดินเข้าไปอีก....

เข้าช่องทางนี้แล้วเดินตรงสุดแล้วเลี้ยวซ้าย เสร็จแล้วก็ ยิงตรงยาวๆๆๆเลยฮะ


        หลังจากเดินยาวๆมา และแล้วก็มาถึงแยกถนนใหญ่ เอ๊ะ!! นั่นผู้ใดกัน ใส่หมวกทรงสูงหันหลังให้เราอยู่ เลยเดินไปแอบมองหน้านิดหนึ่ง อ่ออออ อนุสาวรีย์ท่าน คาโต้ คิโยมาสะ นั่งอยู่บนแท่นพร้อมโบกธงอะไรก็ไม่รู้ ในชุดเกราะที่ดูเด่นสง่า อยู่ตรงกลางแยกพอดี


        ท่านคาโต้ คิโยมาสะ เป็น 1 ใน 3 แม่ทัพฝีมือดี ที่ทำสงครามกับราชวงศ์โชซอน ด้วยความเก่งกาจของท่านคาโต้ ทำให้โชซอนต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด และได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นไดเมียวปกครองเมืองคุมาโมโต้ นอกจากจะมีฝีตรงมือแล้ว เอิ่บ..หมายถึงฝีมือแล้ว (เฮ้อ! มุขตอนอากงอาม่าจีบกันใหม่ๆ ก็กล้าเอามาเล่นเน๊อะ) ท่านคาโต้ยังเป็นสถาปนิก ออกแบบสร้างป้อมปราการและปราสาทคุมาโมโต้ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกด้วย....

        เมื่อเดินมาจนเห็นแผ่นหลังท่านคาโต้แล้ว ก็หักขวา เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ ทางด้านขวาจะเป็นปราสาทคุมาโมโต้แล้ว ที่เหลือก็แค่หาทางเข้าให้เจอ เดินไปสักพักก็จะเจอทางเข้า Hazekata gate ใครจะเข้าประตูนี้ก็ได้ แต่ไม่แนะนำฮะ เดินเลยไปอีกหน่อย ก็จะเจอทางเข้าปราสาทคุมาโมโต้อันยิ่งใหญ่ พร้อมกรุปทัวร์อีกจำนวนมหาศาล หลั่งไหลเข้ามาชื่นชมปราสาทนี้อย่างไม่ขาดสาย สนนราคาค่าเข้าปราสาท 500เยน ใช้บัตรลด เหลือ 400 เยนแจ่มแจ๋วไปเลย เปิดตั้งแต่ 8:30-17:00 เป็นต้นไป


        ก่อนที่จะเข้าไปชมปราสาท เรามาเรียนวิชาประวัติศาสตร์กันก่อนดีกว่า เริ่มมมม... ปราสาทคุมาโมโต้ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ จังหวัดคุมาโมโต้ สร้างในปี ค.ศ. 1601 โดยเจ้าเมืองคาโต้ คิโยมาสะ เป็นผู้ออกแบบ และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1607 และต่อมา ตระกูลโฮโซกาว่าได้เข้ามาปกครองแทน ในปี ค.ศ. 1877 ได้เกิดเพลิงไหม้ทำให้ปราสาทเสียหายเกือบทั้งหมด T_T และได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1960 โดยภายในตัวปราสาทสร้างด้วยไม้โดยไม่ใช้ตะปูเลย ทำให้แข็งแรงคงทนและอยู่มาตราบจนทุกวันนี้.......เลิกคลาสสสส!!!

        หลังจากเรียนวิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจบ ก็เดินเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นกัน... รากฐานที่ทำจากหินก้อนใหญ่ทับๆกัน ภายในปราสาทที่ค้ำด้วยไม้โดยไม่ใช้ตะปูเลย มีป้อมปราการล้อมรอบปราสาท รวมทั้งสีของตัวปราสาท ช่างดูน่าเกรงขามยิ่งนัก นี่แหล่ะ!! พื้นที่เก็บภาพ! คว้ากล้อง! เตรียมยก! เอิ่บ..ทัวร์ลง T_T นั่งรอก็ได้...

        ตอนที่มาปราสาทคุมาโมโต้ เป็นช่วงหน้าหนาว ต้นไม้ก็จะมีแต่กิ่งก้านแห้งเหี่ยวแทบทุกต้น แนะนำว่าควรมาช่วงที่มีดอกซากุระคู่กับปราสาท จะสวยงามมากกว่านี้แน่ๆ แต่คนเที่ยวก็จะเยอะกว่านี้ด้วยเช่นกัน...ทำใจ

อย่างเช่นรูปนี้ ถ้ามาช่วงดอกซากุระกำลังบาน คงจะสวยมากกกกกก (หาเรื่องกลับมาอีกดีกว่า)
ชื่อสินค้า:   Northern Kyushu
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่