เราเดินทางกันมาจนถึง Wurzburg กันแล้วแต่ยังไม่ได้ออกเดินเที่ยว
พวกเรามีเวลากับเมืองนี้เพียงแค่ครึ่งวันก็ต้องออกเดินทางต่อ ซึ่งการใช้เวลาใน Wurzburg เพียงแค่นี้
นับเป็นเรื่องขำขันของเพื่อนร่วม Hostel ของเรามาก ไมใช่ว่าเราจะไม่เสียดาย
แต่แผนการเดินทางได้กำหนดไปแล้ว จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก
ว่าแล้วก็ไปเดินเที่ยว Wurzburg กันดีกว่าค่ะ
ย้อนรอยการเดินทางได้ที่นี่ค่ะ
Germany :Love at first drive#1 (Frankfurt - Heidelberg - Rothenburg ob der Tauber)
http://ppantip.com/topic/34435393
Germany : Love at first drive#2 (Around Rothenburg ob der Tauber)
http://ppantip.com/topic/34442966
Germany : Love at first drive#3 (Rothenburg odt-Dinkelsbühl-Nördlingen-Landsberg am Lech)
http://ppantip.com/topic/34459357
Germany : Love at first drive#4 (Landsberg am Lech - Schongau - Peiting - Schwangau - Fussen)
http://ppantip.com/topic/34470191
Germany : Love at first drive#5 (Hohenschwangau Castle - Neuschwanstein Castle - Wieskirche)
http://ppantip.com/topic/34516848
Germany : Love at first drive#6 (Linderhof Castle - Ettal Abbey - Garmisch-Partenkirchen - Mittenwald)
http://ppantip.com/topic/34561512
Germany : Love at first drive#7 (Oberammergau-Prien am Chiemsee-Reit im Winkl-Shönau am Königssee)
http://ppantip.com/topic/34629581
Germany : Love at first drive#8 (Königssee-St.Bartholomä-Munich)
http://ppantip.com/topic/34660250
Germany : Love at first drive#9 (Around Munich)
http://ppantip.com/topic/34713934
Germany : Love at first drive#10 (Munich-Regensburg)
http://ppantip.com/topic/34755758
Germany : Love at first drive#11 (Regensburg-Bamberg-Nürnberg)
http://ppantip.com/topic/34792005
Germany : Love at first drive#12 (Nürnberg-Wertheim Village Outlet Shopping-Würzburg)
http://ppantip.com/topic/34807592
แวะไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กได้ที่นี่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
Würzburg เป็นเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่งซึ่งเป็นประตูสู่ถนนสายโรแมนติก
เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสไตล์บารอคที่สวยที่สุดในเยอรมนี
อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงในเขต Franconian
นั่นเป็นเพราะตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มของแม่น้ำ Main แต่เดิมพวก Celt ได้เป็นผู้ค้นพบ Würzburg ประมาณ 650 ปีก่อนคริสตกาล
และได้ก่อสร้างป้อมปราการไว้บริเวณที่เป็นป้อมและปราสาท Marienberg ในปัจจุบัน
จนกระทั่งประมาณปี ค.ศ.686 ได้มีนักบวชชาวไอริส จำนวน 3 คน นำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่
จากนั้น Würzburg ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายศาสนามาโดยตลอด
จนกระทั่งในปี ค.ศ.1631 กษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน (Gustav Adolf of Sweden)
ได้บุกรุกเข้ามายึดครองได้สำเร็จจนกระทั่งในปี ค.ศ.1945 Würzburg ได้ตกเป็นเป้าหมายหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยถูกโจมตีทางอากาศ (air raid) ทำให้โบสถ์ มหาวิหาร และสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากถูกทำลายจนได้รับความเสียหายมาก
มีผู้คนเสียชีวิตหลายพันคน หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวชาวเมืองได้ร่วมกันบูรณะ
และสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ซึ่งแรงงานสำคัญก็คือพลเมืองที่เป็นหญิง เนื่องจากผู้ชายถ้าไม่เสียชีวิตจากสงครามก็จะถูกจับไปเป็นเชลย
หากจะเปรียบเทียบความเสียหายจากสงครามครั้งนั้น Würzburg ได้รับความเสียหายยิ่งไปกว่า Dresden เสียอีก
และในปี ค.ศ.1814 Würzburg ได้ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Bavaria
หมดเวลาสำหรับ Wurzburg แล้วค่ะ จำเป็นต้องออกเดินทางต่อกันเสียที
มาดูแผนเดินทางวันนี้กันก่อน
จุดหมายแรกก็คือ Bad Homburg vor der Höhe เมืองนี้สำคัญอย่างไร ไปดูกันค่ะ
Bad Homburg มาเป็นที่รู้จักก็เมื่อมีการค้นพบสิ่งที่เรียกว่า “ตาน้ำ” หรือน้ำใต้บาดาลซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เป็นอย่างดี
ชื่อเสียงของเมืองโด่งดังขึ้นเมื่อครั้งที่กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 ของอังกฤษได้เคยมาประทับสรงน้ำแร่
จนกระทั่งพระเจ้าไกเซอร์เฟรเดอริกที่ 1 เมื่อครั้งยังคงเป็นมกุฏราชกุมารและพระวรชายาผู้ซึ่งเป็นพระธิดาของพระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งอังกฤษ
ได้เสด็จมาที่เมืองนี้และได้มีดำริที่จะสร้างให้เมืองนี้เป็นเมืองแห่งสปาหลวง
เพื่อให้เจ้านายปรัสเซียได้แปรพระราชฐานมาประทับพักผ่อนและสรงน้ำแร่เพื่อให้พระวรกายแข็งแรง
จึงเป็นจุดกำเนิดให้เจ้านายปรัสเซียองค์อื่นๆ และพระสหายอีกหลายพระองค์แปรพระราชฐานมาที่นี่
แต่ละพระองค์ได้สร้างอนุสรณ์ประจำรัชกาลเพื่อครอบบ่อน้ำแร่นี้ไว้เป็นที่ระลึก
ความนี้ทรงทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แพทย์ประจำพระองค์เองก็กราบทูลเสนอให้พระองค์เสด็จไปเยือน
เนื่องจากเห็นว่าพระองค์มีพระอาการประชวรมานานแล้ว เมื่อเสด็จไปพักผ่อนตามหัวเมืองพระอาการก็จะดีขึ้น ทรงพระสำราญดี
แต่เมื่อกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจใหม่หรือฤดูกาลแปรเปลี่ยนก็กลับไปทรงประชวรอีก เป็นอยู่หลายครั้งหลายคราว
และครั้งนั้นพระอาการกำเริบหนัก แพทย์ประจำพระองค์สันนิษฐานว่าน่าจะมีผลมาจากพระโรคที่เป็นอยู่นั้นเกิดมาแต่อากาศร้อนชื้น
จึงควรเสด็จแปรพระราชฐานไปรักษาในพื้นที่ที่อากาศที่เหมาะกับพระโรคในขณะนั้น ซึ่งก็มีแต่เพียงประเทศแถบยุโรปเท่านั้น
จากพระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” พระองค์ได้ทรงเล่าไว้ว่า เมื่อพระองค์ได้เสด็จไปที่ Bad Homburg
พระองค์ได้มีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านิภานภดลฯ เล่าถึงทัศนียภาพและประวัติความเป็นมาของเมืองนี้
ตลอดจนการให้การต้อนรับเป็นอย่างดีจากไกเซอร์วิลเลียมที่ 2 โดยจัดแพทย์ชาวเยอรมันรวม 4 คนร่วมกันดูแลถวายการรักษา
ซึ่งยังทรงเล่าด้วยว่าน้ำที่ใช้ในการรักษานั้นมีความร้อนถึง 33 องศา ให้แช่เพียงคอ ห้ามใช้ล้างหน้า แช่นานประมาณ 12 นาที
และเมื่อขึ้นมาแล้วห้ามเช็ดตัว ให้เอาผ้าห่อคลุมพระองค์ไว้แล้วให้ประทับบนเก้าอี้ยาวเพื่อให้พระวรกายแห้ง
จากนั้นจึงฉลองพระองค์และออกไปประทับตากแดดต่ออีกประมาณ 5 นาที
ที่แห่งนี้มีความเป็นไทยให้เราได้ไปเยือนค่ะ
[CR] Germany : Love at first drive#13 (Würzburg-Bad Homburg vor der Höhe-Köln)
พวกเรามีเวลากับเมืองนี้เพียงแค่ครึ่งวันก็ต้องออกเดินทางต่อ ซึ่งการใช้เวลาใน Wurzburg เพียงแค่นี้
นับเป็นเรื่องขำขันของเพื่อนร่วม Hostel ของเรามาก ไมใช่ว่าเราจะไม่เสียดาย
แต่แผนการเดินทางได้กำหนดไปแล้ว จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก
ว่าแล้วก็ไปเดินเที่ยว Wurzburg กันดีกว่าค่ะ
ย้อนรอยการเดินทางได้ที่นี่ค่ะ
Germany :Love at first drive#1 (Frankfurt - Heidelberg - Rothenburg ob der Tauber)
http://ppantip.com/topic/34435393
Germany : Love at first drive#2 (Around Rothenburg ob der Tauber)
http://ppantip.com/topic/34442966
Germany : Love at first drive#3 (Rothenburg odt-Dinkelsbühl-Nördlingen-Landsberg am Lech)
http://ppantip.com/topic/34459357
Germany : Love at first drive#4 (Landsberg am Lech - Schongau - Peiting - Schwangau - Fussen)
http://ppantip.com/topic/34470191
Germany : Love at first drive#5 (Hohenschwangau Castle - Neuschwanstein Castle - Wieskirche)
http://ppantip.com/topic/34516848
Germany : Love at first drive#6 (Linderhof Castle - Ettal Abbey - Garmisch-Partenkirchen - Mittenwald)
http://ppantip.com/topic/34561512
Germany : Love at first drive#7 (Oberammergau-Prien am Chiemsee-Reit im Winkl-Shönau am Königssee)
http://ppantip.com/topic/34629581
Germany : Love at first drive#8 (Königssee-St.Bartholomä-Munich)
http://ppantip.com/topic/34660250
Germany : Love at first drive#9 (Around Munich)
http://ppantip.com/topic/34713934
Germany : Love at first drive#10 (Munich-Regensburg)
http://ppantip.com/topic/34755758
Germany : Love at first drive#11 (Regensburg-Bamberg-Nürnberg)
http://ppantip.com/topic/34792005
Germany : Love at first drive#12 (Nürnberg-Wertheim Village Outlet Shopping-Würzburg)
http://ppantip.com/topic/34807592
แวะไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กได้ที่นี่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Würzburg เป็นเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่งซึ่งเป็นประตูสู่ถนนสายโรแมนติก
เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสไตล์บารอคที่สวยที่สุดในเยอรมนี
อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงในเขต Franconian
นั่นเป็นเพราะตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มของแม่น้ำ Main แต่เดิมพวก Celt ได้เป็นผู้ค้นพบ Würzburg ประมาณ 650 ปีก่อนคริสตกาล
และได้ก่อสร้างป้อมปราการไว้บริเวณที่เป็นป้อมและปราสาท Marienberg ในปัจจุบัน
จนกระทั่งประมาณปี ค.ศ.686 ได้มีนักบวชชาวไอริส จำนวน 3 คน นำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่
จากนั้น Würzburg ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายศาสนามาโดยตลอด
จนกระทั่งในปี ค.ศ.1631 กษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน (Gustav Adolf of Sweden)
ได้บุกรุกเข้ามายึดครองได้สำเร็จจนกระทั่งในปี ค.ศ.1945 Würzburg ได้ตกเป็นเป้าหมายหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยถูกโจมตีทางอากาศ (air raid) ทำให้โบสถ์ มหาวิหาร และสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากถูกทำลายจนได้รับความเสียหายมาก
มีผู้คนเสียชีวิตหลายพันคน หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวชาวเมืองได้ร่วมกันบูรณะ
และสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ซึ่งแรงงานสำคัญก็คือพลเมืองที่เป็นหญิง เนื่องจากผู้ชายถ้าไม่เสียชีวิตจากสงครามก็จะถูกจับไปเป็นเชลย
หากจะเปรียบเทียบความเสียหายจากสงครามครั้งนั้น Würzburg ได้รับความเสียหายยิ่งไปกว่า Dresden เสียอีก
และในปี ค.ศ.1814 Würzburg ได้ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Bavaria
หมดเวลาสำหรับ Wurzburg แล้วค่ะ จำเป็นต้องออกเดินทางต่อกันเสียที
มาดูแผนเดินทางวันนี้กันก่อน
จุดหมายแรกก็คือ Bad Homburg vor der Höhe เมืองนี้สำคัญอย่างไร ไปดูกันค่ะ
Bad Homburg มาเป็นที่รู้จักก็เมื่อมีการค้นพบสิ่งที่เรียกว่า “ตาน้ำ” หรือน้ำใต้บาดาลซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เป็นอย่างดี
ชื่อเสียงของเมืองโด่งดังขึ้นเมื่อครั้งที่กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 ของอังกฤษได้เคยมาประทับสรงน้ำแร่
จนกระทั่งพระเจ้าไกเซอร์เฟรเดอริกที่ 1 เมื่อครั้งยังคงเป็นมกุฏราชกุมารและพระวรชายาผู้ซึ่งเป็นพระธิดาของพระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งอังกฤษ
ได้เสด็จมาที่เมืองนี้และได้มีดำริที่จะสร้างให้เมืองนี้เป็นเมืองแห่งสปาหลวง
เพื่อให้เจ้านายปรัสเซียได้แปรพระราชฐานมาประทับพักผ่อนและสรงน้ำแร่เพื่อให้พระวรกายแข็งแรง
จึงเป็นจุดกำเนิดให้เจ้านายปรัสเซียองค์อื่นๆ และพระสหายอีกหลายพระองค์แปรพระราชฐานมาที่นี่
แต่ละพระองค์ได้สร้างอนุสรณ์ประจำรัชกาลเพื่อครอบบ่อน้ำแร่นี้ไว้เป็นที่ระลึก
ความนี้ทรงทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แพทย์ประจำพระองค์เองก็กราบทูลเสนอให้พระองค์เสด็จไปเยือน
เนื่องจากเห็นว่าพระองค์มีพระอาการประชวรมานานแล้ว เมื่อเสด็จไปพักผ่อนตามหัวเมืองพระอาการก็จะดีขึ้น ทรงพระสำราญดี
แต่เมื่อกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจใหม่หรือฤดูกาลแปรเปลี่ยนก็กลับไปทรงประชวรอีก เป็นอยู่หลายครั้งหลายคราว
และครั้งนั้นพระอาการกำเริบหนัก แพทย์ประจำพระองค์สันนิษฐานว่าน่าจะมีผลมาจากพระโรคที่เป็นอยู่นั้นเกิดมาแต่อากาศร้อนชื้น
จึงควรเสด็จแปรพระราชฐานไปรักษาในพื้นที่ที่อากาศที่เหมาะกับพระโรคในขณะนั้น ซึ่งก็มีแต่เพียงประเทศแถบยุโรปเท่านั้น
จากพระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” พระองค์ได้ทรงเล่าไว้ว่า เมื่อพระองค์ได้เสด็จไปที่ Bad Homburg
พระองค์ได้มีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านิภานภดลฯ เล่าถึงทัศนียภาพและประวัติความเป็นมาของเมืองนี้
ตลอดจนการให้การต้อนรับเป็นอย่างดีจากไกเซอร์วิลเลียมที่ 2 โดยจัดแพทย์ชาวเยอรมันรวม 4 คนร่วมกันดูแลถวายการรักษา
ซึ่งยังทรงเล่าด้วยว่าน้ำที่ใช้ในการรักษานั้นมีความร้อนถึง 33 องศา ให้แช่เพียงคอ ห้ามใช้ล้างหน้า แช่นานประมาณ 12 นาที
และเมื่อขึ้นมาแล้วห้ามเช็ดตัว ให้เอาผ้าห่อคลุมพระองค์ไว้แล้วให้ประทับบนเก้าอี้ยาวเพื่อให้พระวรกายแห้ง
จากนั้นจึงฉลองพระองค์และออกไปประทับตากแดดต่ออีกประมาณ 5 นาที
ที่แห่งนี้มีความเป็นไทยให้เราได้ไปเยือนค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น