ขอเกรินก่อนเลยว่าเรื่องราวที่จะเล่าทั้งหมดคือเรื่องจริง
ประสบการ์ณจริงที่เกิดกับเรา และคนในครอบครัว
ขอแทนตัวเองว่าน้ำนะคะ (ชื่อสมมุติ)
ครอบครัวน้ำมี ห้าคน พ่อ แม่ พี่สาว2คน และน้ำเป็นคนสุดท้อง
ใช้วิจารณญาณในอ่านนะคะ จะเชื่อไม่เชื่อและแต่คุณ
ปลูกบ้านสร้างศาล
เรื่องนี้พ่อแม่เล่าให้ฟังค่ะ ตอนที่เรื่องเกิดนั้นน้ำเพิ่งได้ขวบนิดๆ
พ่อแม่ได้ซื้อที่ดินแถวย่านสุขุมวิท
จนเมื่อมีเงินเก็บมากพอจึงเริ่มมีการปลูกบ้านขึ้น
ช่วงที่กำลังก่อสร้างไม่มีอะไรที่ผิดปกติ
จนกระทั้งวันที่ทำบุญบ้านแล้วเข้าไปอยู่อาศัย วันแรกที่อาศัยในบ้าน
ตอนที่พ่อนอนหลับ พ่อฝันว่ามีผู้ชาย รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง
หน้าตาดุดัน มายืนอยู่ตรงหน้า แล้วบอกว่า
“ที่ตรงนี้เป็นที่ของกู พวกเอ็งมาอยู่บนที่ของกู”
พูดซ้ำๆอยู่หลายครั้งจนพ่อตกใจตื่น แต่พ่อคิดว่าเป็นแค่ฝันร้าย จึงไม่ได้สนใจอะไร
แต่จนพ่อฝันแบบนี้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ พ่อเลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่ฝันให้แม่ฟัง
แม่เลยคิดว่าคงเป็นเจ้าที่เจ้าทาง จึงตัดสินใจสร้างศาลพระภูมิ และศาลตายายให้เพื่อความสบายใจ
และทำบุญถวายอาหารคาวหวาน หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อย
พ่อก็ไม่เคยฝันถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย
พวกเราทุกคนในบ้านจึงคิดว่าบ้านของเรามีเจ้าที่คุ้มครอง
เวลาไปไหนมาไหนหลายๆวัน ก็จะยกไหว้บอกกล่าวเจ้าที่ทุกครั้ง
ฝากให้ท่านช่วยดูแลบ้านค่ะ
ปล. หมาที่บ้านห่อนตอน 4 ทุ่มกว่าทุกคืน ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า
ตอนเด็กๆได้ยินหมาห่อนเหมือนวิ่งขึ้นห้องทันทีเลยค่ะ
แต่พอโตมาก็ชินแล้ว
คนงานรับจ้าง
เรื่องนี้แม่เล่าให้ฟังนะคะ
พ่อแม่ทำกิจการขายขนมส่ง จึงต้องจ้างคนงานมาช่วยผลิตและมาช่วยเลี้ยงลูก
ตอนนั้นมีลูกจ้างอยู่ 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด อาศัยพักอยู่ในบ้านเดียวกัน
มีอยู่ช่วงนึงของที่บ้านหายบ่อยเป็นพวกเงินเล็กๆน้อยๆ ไม่กี่บาท
แม่เลยไม่ได้ใส่อะไรใจนัก จนกระทั่งวันที่ลูกจ้างจะขอลากลับบ้าน
ไปช่วยพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดเกี่ยวข้าว พอกลับต่างจังหวัดไปกันจนหมด
แม่จะเอาพวกเครื่องประดับมาทำความสะอาดจึงพวกว่ามีสร้อยทอง หายไป1 เส้น
น้ำหนัก 2 บาท แม่เลยมั่นใจว่าโดนคนงานขโมยของเข้าให้แล้ว
แต่ไม่รู้ว่าคนไหนเอาไป จนวันที่ถึงกำหนดที่คนงานต้องกลับมาทำงาน
แต่กลับกันมาแค่ 2 คน อีกคนหายไปเลย แม่เลยมั่นใจ 100% ว่าคนนี้แหละเอาทองไป
แม่เลยไปจุดธูปบอกกับเจ้าที่ว่าคนงานคนนี้ ถ้าขโมยทองไปจริง ก็ขอให้เอากลับมาคืน
ผ่านไป 1 อาทิตย์
คนงานคนนั้นกลับมาจริงๆ ค่ะ กลับมาร้องห่มร้องไห้ หวาดกลัวแบบตัวสั่นเลย
มากราบขอขมาแม่ แล้วเอาทองที่ขโมยไปกลับมาคืน
แล้วก็เล่าให้แม่ฟังว่า เค้าฝันร้ายทุกคืน
เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง
ถือดาบมาวิ่งไล่ฟันเค้าทุกคืน
(ลักษณะเหมือนที่พ่อของน้ำเคยฝันเห็น)
แล้วผู้ชายคนนั้นบอกให้เอาทองมาคืน
จนเค้าทนไม่ไหว ไปวัดทำบุญให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ก็ไม่หาย ยังฝันแบบเดิมทุกคืน
จนไม่กล้านอนหลับ สุขภาพจิตเริ่มแย่ จนพ่อแม่เค้าถามว่าเป็นอะไร
พอเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง
พ่อแม่เค้าเลยตัดสินใจให้เอาเงินไปไถ่ทองที่โรงรับจำนำเอามาคืน
หลังจากวันที่เอาทองมาคืน คนงานคนนี้ก็ไม่กลับมาเหยียบบ้านอีกเลย
สาบาน
เรื่องเกิดตอนน้ำประมาณ 7 ขวบ
ตอนนั้นที่บ้านไม่มีคนงานแล้วค่ะ
เพราะไม่ค่อยสู้งาน อยู่สักพักก็ลาออก
ต้องมานั้งสอนงานคนใหม่ตลอด
แม่เลยเลิกจ้างคนงานไปเลยค่ะ
กลับมาเรื่องที่เกี่ยวกับการสาบาน
ช่วงนั้นที่บ้านมีญาติเป็นลูกพี่ลูกน้องมาอาศัยอยู่ด้วยค่ะ
เพราะเรียนโรงเรียนที่อยู่แถวบ้าน
จะได้ไม่ต้องเสียเงินอยู่หอ
ชื่อพี่หญิง กับพี่แมน (ชื่อสมมุตินะ)
พี่หญิงอายุ 13 ขวบ
พี่แมนอายุ 12 ขวบ
อยู่วันนึงพี่แมนเอาเงินมาให้ 1000 บาท
แล้วบอกให้เอาไปซื้อขนมมาให้กินหน่อย
ตอนนั้นเด็กมากค่ะ ไม่รู้ว่าเงินที่อยู่ในมือมีค่าแค่ไหน
เห็นแต่ว่าเป็นกระดาษสีเทาๆ 555+
แล้วก็ไม่ได้ถามว่าพี่แมนเอามาจากไหนค่ะ
จำได้ลางๆว่า เอาไปซื้อปีโป้ กับขนมถุงๆมา 2-3 อย่าง
แล้วก็เอาขนม กับเงินทอนกันมาให้พี่แมน
โดนพี่แมนตบหัวเลย เพราะเอาเงินทอนกับมาไม่ครบ
หายไปหลายร้อย ร้องไห้สิคะ รออะไร
พี่แมนแกเลยจูงมือไปเอาตังทอนมาคืนจนครบ
แล้วพวกเราก็เอาขนมมาแบ่งกิน
แต่เงินที่เหลือไม่รู้ว่าพี่แมนเอาไปเก็บไว้ไหนนะคะ
พี่น้องคนอื่นไม่มีใครรู้เรื่องนี้นะคะ
จนแม่มาเจอว่าเงินหายไป 1000 บาท
แม่กับพ่อก็เลยเรียกทุกคนมาคุย
ว่าใครเอาเงินไป
ไม่มีใครยอมรับเลยค่ะ
จนแม่เลยบอกให้ไปสาบานกับเจ้าที่
พ่อก็จุดธูปแจกจ่ายกันจนครบ
แล้วก็ให้พูดตาม
"ข้าพเจ้า (ชื่อ นามสกุล) ขอให้สาบานว่า
หากข้าพเจ้าได้ขโมยเงินไป ขอให้ป่วยหนัก
ไม่หายจนกว่าจะยอมรับความผิด"
ผ่านไปหนึ่งคืนเท่านั้นแหละค่ะ
น้ำกับพี่แมนป่วยทันที
น้ำป่วยนิหน่อยมีไข้แต่ไม่มาก
แต่พี่แมนนี่หนักเลย ทั้งอาเจียน ทั้งมีไข้
ตัวร้อนหนักมาก
พี่แมนก็เลยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยเงินไปจริง
แล้วเอามาให้น้ำไปซื้อขนมมากิน
แล้วก็ว่าบอกเงินที่เหลือเอาไปฝังไว้ในกระถางต้นไม้หน้าบ้าน
พี่แมนป่วยไปหลายวันเลยค่ะ
อยู่บ้านด้วยกันไม่นานแม่ของพี่หญิงกับพี่แมน
ก็ให้ทั้ง 2 คนไปอยู่หอค่ะ
เพราะหลังจากเหตุการ์ณนั้น
พี่ทั้ง 2 คนเค้ากลัวเจ้าที่ค่ะ ไม่กล้าอยู่
เรื่องแถมจากพี่หญิง
ผ่านจากเรื่องสาบานมาหลายปี
พี่หญิงต้องมาอาศัยอยู่ที่บ้านของน้ำ
เป็นช่วงปิดเทอม เตรียมอ่านหนังสือสอบเอ็นทรานซ์
มีวันนึงพี่เค้าต้องอยู่บ้านคนเดียวหนึ่งวัน
ตอนกลางคืนแกก็ไม่กล้าปิดไฟนอนค่ะเพราะว่ากลัว
นอนที่ชั้นล่างของบ้าน แล้วก็เปิดไฟทั่วบ้านเลย
พอกำลังจะนอนหลับ แกบอกว่าเหมือนมีคนมาเขกหัวแรงมาก
แกรีบลุกขึ้นมาปิดไฟแล้วนอนคลุมโปงเลยค่ะ เช้ามากนี่หัวโนเลยล่ะค่ะ
มีเราแค่สองคน
เรื่องนี้เิกิดสมัยเรียนม. 5
ตอนนั้นน้ำกับพี่สาวคนกลางต้องอยู่บ้านกับสองคน
พ่อแม่ไปทำบุญที่วัดต่างจังหวัด
ส่วนพี่คนโตอยู่หอแถวมหาวิทยาลัย
ก็ดูหนังกันจนดึก
เที่ยงคืนได้ ก็เลยชวนกันไปนอน
ก็นอนไปคุยไปสักพักอยู่ๆก็มีเสียง
กึก..กึก..ตรงลูกบิดประตูห้องนอน
ดังมาก
เสียงเหมือนคนพยายามบิดลูกบิดเพื่อจะเข้าห้องแต่เข้าไม่ได้
นึกว่าโจร
เด้งขึ้นมานั้งเลยค่ะ
รีบออกไปเปิดผ้าม่านหน้าต่างดูหน้าบ้าน
ประตูหน้าบ้านก็สนิทดี
หมาก็ไม่ได้เห่า
ก็เลยเดินไปดูที่ประตูห้องนอน
เลยเห็นว่าเราทั้งสองคนไม่มีใครได้ล็อกประตูห้อง
ก็เลยรีบล็อกประตูแล้วกระโดดขึ้นเตียง
นอนกอดกันกลมเลยล่ะค่ะ
เพราะถ้าเป็นคนจะมาหมุนบิดเล่นทำไม
คิดในใจ ผีหลอกแน่ๆ
แต่ไม่มีใครพูดอะไร ไม่กล้าทัก
คิดว่าโดนเจ้าี่ที่มาเตือน
เพราะไม่ได้ล็อกประตูห้องนอน
หลังจากนั้น
ไม่มีวันไหนลืมล็อกประตูเลยค่ะ
มีเรื่องเล็กน้อยอีกมากมาย
เช่น
ไม่มีใครอยู่บ้าน แต่คนบ้านตรงข้ามเห็นคนเดินไปเดินมาอยู่ข้างใน
รอบๆบ้านโดนโจรขึ้นบ้านกันหมดยกเว้นบ้านของน้ำหลังเดียว อาจเป็นเพราะเลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้านด้วยมั้ง
มีใครมีเรื่ืองแปลกๆเกี่ยวกับบ้านของตัวเองบ้างไมคะ?
มาเล่าสู่กันฟังหน่อย
ยังมีเรื่องเกี่ยวผีเหรียญ ผีอำ ผีภาคใต้
ไว้วันหลังจะมาอัพเดตใหม่นะคะ
ประสบการ์ณจริง เรื่องเจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน
ประสบการ์ณจริงที่เกิดกับเรา และคนในครอบครัว
ขอแทนตัวเองว่าน้ำนะคะ (ชื่อสมมุติ)
ครอบครัวน้ำมี ห้าคน พ่อ แม่ พี่สาว2คน และน้ำเป็นคนสุดท้อง
ใช้วิจารณญาณในอ่านนะคะ จะเชื่อไม่เชื่อและแต่คุณ
ปลูกบ้านสร้างศาล
เรื่องนี้พ่อแม่เล่าให้ฟังค่ะ ตอนที่เรื่องเกิดนั้นน้ำเพิ่งได้ขวบนิดๆ
พ่อแม่ได้ซื้อที่ดินแถวย่านสุขุมวิท
จนเมื่อมีเงินเก็บมากพอจึงเริ่มมีการปลูกบ้านขึ้น
ช่วงที่กำลังก่อสร้างไม่มีอะไรที่ผิดปกติ
จนกระทั้งวันที่ทำบุญบ้านแล้วเข้าไปอยู่อาศัย วันแรกที่อาศัยในบ้าน
ตอนที่พ่อนอนหลับ พ่อฝันว่ามีผู้ชาย รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง
หน้าตาดุดัน มายืนอยู่ตรงหน้า แล้วบอกว่า
“ที่ตรงนี้เป็นที่ของกู พวกเอ็งมาอยู่บนที่ของกู”
พูดซ้ำๆอยู่หลายครั้งจนพ่อตกใจตื่น แต่พ่อคิดว่าเป็นแค่ฝันร้าย จึงไม่ได้สนใจอะไร
แต่จนพ่อฝันแบบนี้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ พ่อเลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่ฝันให้แม่ฟัง
แม่เลยคิดว่าคงเป็นเจ้าที่เจ้าทาง จึงตัดสินใจสร้างศาลพระภูมิ และศาลตายายให้เพื่อความสบายใจ
และทำบุญถวายอาหารคาวหวาน หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อย
พ่อก็ไม่เคยฝันถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย
พวกเราทุกคนในบ้านจึงคิดว่าบ้านของเรามีเจ้าที่คุ้มครอง
เวลาไปไหนมาไหนหลายๆวัน ก็จะยกไหว้บอกกล่าวเจ้าที่ทุกครั้ง
ฝากให้ท่านช่วยดูแลบ้านค่ะ
ปล. หมาที่บ้านห่อนตอน 4 ทุ่มกว่าทุกคืน ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า
ตอนเด็กๆได้ยินหมาห่อนเหมือนวิ่งขึ้นห้องทันทีเลยค่ะ
แต่พอโตมาก็ชินแล้ว
คนงานรับจ้าง
เรื่องนี้แม่เล่าให้ฟังนะคะ
พ่อแม่ทำกิจการขายขนมส่ง จึงต้องจ้างคนงานมาช่วยผลิตและมาช่วยเลี้ยงลูก
ตอนนั้นมีลูกจ้างอยู่ 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด อาศัยพักอยู่ในบ้านเดียวกัน
มีอยู่ช่วงนึงของที่บ้านหายบ่อยเป็นพวกเงินเล็กๆน้อยๆ ไม่กี่บาท
แม่เลยไม่ได้ใส่อะไรใจนัก จนกระทั่งวันที่ลูกจ้างจะขอลากลับบ้าน
ไปช่วยพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดเกี่ยวข้าว พอกลับต่างจังหวัดไปกันจนหมด
แม่จะเอาพวกเครื่องประดับมาทำความสะอาดจึงพวกว่ามีสร้อยทอง หายไป1 เส้น
น้ำหนัก 2 บาท แม่เลยมั่นใจว่าโดนคนงานขโมยของเข้าให้แล้ว
แต่ไม่รู้ว่าคนไหนเอาไป จนวันที่ถึงกำหนดที่คนงานต้องกลับมาทำงาน
แต่กลับกันมาแค่ 2 คน อีกคนหายไปเลย แม่เลยมั่นใจ 100% ว่าคนนี้แหละเอาทองไป
แม่เลยไปจุดธูปบอกกับเจ้าที่ว่าคนงานคนนี้ ถ้าขโมยทองไปจริง ก็ขอให้เอากลับมาคืน
ผ่านไป 1 อาทิตย์
คนงานคนนั้นกลับมาจริงๆ ค่ะ กลับมาร้องห่มร้องไห้ หวาดกลัวแบบตัวสั่นเลย
มากราบขอขมาแม่ แล้วเอาทองที่ขโมยไปกลับมาคืน
แล้วก็เล่าให้แม่ฟังว่า เค้าฝันร้ายทุกคืน
เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง
ถือดาบมาวิ่งไล่ฟันเค้าทุกคืน
(ลักษณะเหมือนที่พ่อของน้ำเคยฝันเห็น)
แล้วผู้ชายคนนั้นบอกให้เอาทองมาคืน
จนเค้าทนไม่ไหว ไปวัดทำบุญให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ก็ไม่หาย ยังฝันแบบเดิมทุกคืน
จนไม่กล้านอนหลับ สุขภาพจิตเริ่มแย่ จนพ่อแม่เค้าถามว่าเป็นอะไร
พอเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง
พ่อแม่เค้าเลยตัดสินใจให้เอาเงินไปไถ่ทองที่โรงรับจำนำเอามาคืน
หลังจากวันที่เอาทองมาคืน คนงานคนนี้ก็ไม่กลับมาเหยียบบ้านอีกเลย
สาบาน
เรื่องเกิดตอนน้ำประมาณ 7 ขวบ
ตอนนั้นที่บ้านไม่มีคนงานแล้วค่ะ
เพราะไม่ค่อยสู้งาน อยู่สักพักก็ลาออก
ต้องมานั้งสอนงานคนใหม่ตลอด
แม่เลยเลิกจ้างคนงานไปเลยค่ะ
กลับมาเรื่องที่เกี่ยวกับการสาบาน
ช่วงนั้นที่บ้านมีญาติเป็นลูกพี่ลูกน้องมาอาศัยอยู่ด้วยค่ะ
เพราะเรียนโรงเรียนที่อยู่แถวบ้าน
จะได้ไม่ต้องเสียเงินอยู่หอ
ชื่อพี่หญิง กับพี่แมน (ชื่อสมมุตินะ)
พี่หญิงอายุ 13 ขวบ
พี่แมนอายุ 12 ขวบ
อยู่วันนึงพี่แมนเอาเงินมาให้ 1000 บาท
แล้วบอกให้เอาไปซื้อขนมมาให้กินหน่อย
ตอนนั้นเด็กมากค่ะ ไม่รู้ว่าเงินที่อยู่ในมือมีค่าแค่ไหน
เห็นแต่ว่าเป็นกระดาษสีเทาๆ 555+
แล้วก็ไม่ได้ถามว่าพี่แมนเอามาจากไหนค่ะ
จำได้ลางๆว่า เอาไปซื้อปีโป้ กับขนมถุงๆมา 2-3 อย่าง
แล้วก็เอาขนม กับเงินทอนกันมาให้พี่แมน
โดนพี่แมนตบหัวเลย เพราะเอาเงินทอนกับมาไม่ครบ
หายไปหลายร้อย ร้องไห้สิคะ รออะไร
พี่แมนแกเลยจูงมือไปเอาตังทอนมาคืนจนครบ
แล้วพวกเราก็เอาขนมมาแบ่งกิน
แต่เงินที่เหลือไม่รู้ว่าพี่แมนเอาไปเก็บไว้ไหนนะคะ
พี่น้องคนอื่นไม่มีใครรู้เรื่องนี้นะคะ
จนแม่มาเจอว่าเงินหายไป 1000 บาท
แม่กับพ่อก็เลยเรียกทุกคนมาคุย
ว่าใครเอาเงินไป
ไม่มีใครยอมรับเลยค่ะ
จนแม่เลยบอกให้ไปสาบานกับเจ้าที่
พ่อก็จุดธูปแจกจ่ายกันจนครบ
แล้วก็ให้พูดตาม
"ข้าพเจ้า (ชื่อ นามสกุล) ขอให้สาบานว่า
หากข้าพเจ้าได้ขโมยเงินไป ขอให้ป่วยหนัก
ไม่หายจนกว่าจะยอมรับความผิด"
ผ่านไปหนึ่งคืนเท่านั้นแหละค่ะ
น้ำกับพี่แมนป่วยทันที
น้ำป่วยนิหน่อยมีไข้แต่ไม่มาก
แต่พี่แมนนี่หนักเลย ทั้งอาเจียน ทั้งมีไข้
ตัวร้อนหนักมาก
พี่แมนก็เลยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยเงินไปจริง
แล้วเอามาให้น้ำไปซื้อขนมมากิน
แล้วก็ว่าบอกเงินที่เหลือเอาไปฝังไว้ในกระถางต้นไม้หน้าบ้าน
พี่แมนป่วยไปหลายวันเลยค่ะ
อยู่บ้านด้วยกันไม่นานแม่ของพี่หญิงกับพี่แมน
ก็ให้ทั้ง 2 คนไปอยู่หอค่ะ
เพราะหลังจากเหตุการ์ณนั้น
พี่ทั้ง 2 คนเค้ากลัวเจ้าที่ค่ะ ไม่กล้าอยู่
เรื่องแถมจากพี่หญิง
ผ่านจากเรื่องสาบานมาหลายปี
พี่หญิงต้องมาอาศัยอยู่ที่บ้านของน้ำ
เป็นช่วงปิดเทอม เตรียมอ่านหนังสือสอบเอ็นทรานซ์
มีวันนึงพี่เค้าต้องอยู่บ้านคนเดียวหนึ่งวัน
ตอนกลางคืนแกก็ไม่กล้าปิดไฟนอนค่ะเพราะว่ากลัว
นอนที่ชั้นล่างของบ้าน แล้วก็เปิดไฟทั่วบ้านเลย
พอกำลังจะนอนหลับ แกบอกว่าเหมือนมีคนมาเขกหัวแรงมาก
แกรีบลุกขึ้นมาปิดไฟแล้วนอนคลุมโปงเลยค่ะ เช้ามากนี่หัวโนเลยล่ะค่ะ
มีเราแค่สองคน
เรื่องนี้เิกิดสมัยเรียนม. 5
ตอนนั้นน้ำกับพี่สาวคนกลางต้องอยู่บ้านกับสองคน
พ่อแม่ไปทำบุญที่วัดต่างจังหวัด
ส่วนพี่คนโตอยู่หอแถวมหาวิทยาลัย
ก็ดูหนังกันจนดึก
เที่ยงคืนได้ ก็เลยชวนกันไปนอน
ก็นอนไปคุยไปสักพักอยู่ๆก็มีเสียง
กึก..กึก..ตรงลูกบิดประตูห้องนอน
ดังมาก
เสียงเหมือนคนพยายามบิดลูกบิดเพื่อจะเข้าห้องแต่เข้าไม่ได้
นึกว่าโจร
เด้งขึ้นมานั้งเลยค่ะ
รีบออกไปเปิดผ้าม่านหน้าต่างดูหน้าบ้าน
ประตูหน้าบ้านก็สนิทดี
หมาก็ไม่ได้เห่า
ก็เลยเดินไปดูที่ประตูห้องนอน
เลยเห็นว่าเราทั้งสองคนไม่มีใครได้ล็อกประตูห้อง
ก็เลยรีบล็อกประตูแล้วกระโดดขึ้นเตียง
นอนกอดกันกลมเลยล่ะค่ะ
เพราะถ้าเป็นคนจะมาหมุนบิดเล่นทำไม
คิดในใจ ผีหลอกแน่ๆ
แต่ไม่มีใครพูดอะไร ไม่กล้าทัก
คิดว่าโดนเจ้าี่ที่มาเตือน
เพราะไม่ได้ล็อกประตูห้องนอน
หลังจากนั้น
ไม่มีวันไหนลืมล็อกประตูเลยค่ะ
มีเรื่องเล็กน้อยอีกมากมาย
เช่น
ไม่มีใครอยู่บ้าน แต่คนบ้านตรงข้ามเห็นคนเดินไปเดินมาอยู่ข้างใน
รอบๆบ้านโดนโจรขึ้นบ้านกันหมดยกเว้นบ้านของน้ำหลังเดียว อาจเป็นเพราะเลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้านด้วยมั้ง
มีใครมีเรื่ืองแปลกๆเกี่ยวกับบ้านของตัวเองบ้างไมคะ?
มาเล่าสู่กันฟังหน่อย
ยังมีเรื่องเกี่ยวผีเหรียญ ผีอำ ผีภาคใต้
ไว้วันหลังจะมาอัพเดตใหม่นะคะ