ผมว่าตลาดบ้านเรา (หลักทรัพย์ฯ) ไม่จำเป็นต้องมี ป๊อบมากขนาดนั้นมันผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งแต่เดิมเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด
ปัจจุบันป๊อบ กับกลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับ โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นการเอาเปรียบนักลงทุนประเภทอื่นๆมากๆ เช่น นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนรายใหญ่ หรือนักลงทุนสถาบัน

ถึงแม้ว่าคุณจะเทรดวันละเป็น 100 สัญญา (TFEX SET50) ค่าคอมคุณก็เยอะกว่าพวกป๊อบอย่างเทียบกันไม่ได้เลย พวกนั้นเสียน้อยมากแทบไม่เสียเลย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บรรดาโบรกเกอร์ได้มาเป็นป๊อบกันเยอะมาก (จนเกินความจำเป็นไปแล้ว)

ในความเป็นจริงการเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดให้มีสภาพคล่องทำได้เพียงลดค่าคอมลง (แต่ไม่ทำเพราะโบรกเกอร์เสียประโยชน์ และก็ไม่เปิดเสรีก็ไม่เปิดดูได้จากเราไม่สามารถเทรดจากต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยได้) ปัจจุบันธุรกิจโบรกเกอร์ถูกผูกขาดเพียงโบรกไม่กี่รายเท่านั้นและมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะใช้ประโยชน์ในการเห็นสถานะของลูกค้าในการทำกำไรของเขา (conflict of interest) ซึ่งถ้าจะมีป๊อบจริงๆ ควรแยกระบบออกมาต่างหากเลยเพราะแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเอามากๆ

ค่าคอมตลาดหุ้นและฟิวเจอร์บ้านเราค่อนข้างแพงมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าสัญญา อย่างหุ้นในตลาดต่างประเทศเขาคิดประมาณ 10 cent ต่อหุ้นเท่านั้น(มีค่าจิปาถะนิดหน่อย) ยิ่งหุ้นตัวใหญ่ๆจะทำให้รู้สึกเหมือนเทรดฟรีเลย ตลาดบ้านเขาเลยมีสภาพคล่องสูงมาก เช่นเดียวกันในตลาดฟิวเจอร์ค่าคอมต่อสัญญาก็ถูกมากเช่นกัน เปิดสัญญาและไปถูกทางภายในไม่กี่วินาทีก็สามารถได้กำไรเกินค่าคอมได้ ต่างจากบ้านเราค่าคอมสำหรับรายย่อยทั่วไปประมาณ 1 จุด รวมไปกลับ รายใหญ่จะถูกหน่อยประมาณ 0.5 จุด ส่วนป๊อบ 0.1-0.2 จุดเขาก็กำไรแล้ว ทำให้ไม่มีรายย่อยเข้ามาเก็งกำไรมากนักเพราะเสียเปรียบมาก

ยิ่งตลาด option ไม่ต้องพูดถึงเลย ป๊อบแทบจะไม่ทำงาน ค่าคอมแพงมากเท่าฟิวเจอร์ แล้วใครจะมาเทรดล่ะ ลองไปดูตลาด option ทั่วไปสิว่ามันค่าคอมประมาณไหนเมื่อเทียบกับฟิวเจอร์  strike price ก็เป็นประเด็น ห่างเกิน 25 จุด series ก็เล่นกันน้อย ไกลๆไม่มี (ป๊อบทำไรอยู่ แบบนั้นไม่มีก็ได้) โดยปกติ option จะมี strike priceทุก 0.5% ของมูลค่าสัญญา ผมเคยเทรด option ซื้อไปเกือบ 100 สัญญา ผลคือ ออกไม่ได้ไม่มีสภาพคล่อง สำหรับสินค้าตัวนี้ผมคิดว่าถ้าตลาดไม่พร้อมก็เอาออกไปเถอะครับ