ออกตัวก่อนเลยว่าเพิ่งเคยเขียนกระทู้รีวิวเป็นครั้งแรกค่ะ ผิดถูกประการใดต้องขออภัยตัวโตๆไว้ตรงนี้เลยนะคะ
ว่าแล้วก็เริ่มกันเล้ย
(ไม่รู้จะเริ่มเรื่องยังไงให้แปะรูปไว้ก่อนเป็นดี ฮาาาาาา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในสปอยล์จขกท.ขอเวิ่นในส่วนเนื้อเรื่องเนอะ โดย Zootopia เนี่ย เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองของเหล่าสิงสาราสัตว์ที่มีวิวัฒนาการเหมือนมนุษย์ทุกกระเบียด มีเทคโนโลยี วัฒนธรรม วิถีชีวิตทั้งแบบคนเมืองและชนบท ซึ่งเรื่องราวสุดป่วนทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อแม่ต่ายสุดซ่า "จูดี้ ฮอปส์" กระต่ายแก้มยุ้ยขนปุกปุยมีความฝันอันยิ่งใหญ่กว่าขนาดตัวว่า นางจะโตขึ้นเป็นตำรวจที่ดีและทำให้สังคมน่าอยู่ (ก็เหมือนความฝันของเด็กๆทั่วไปละเนอะ) และแน่นอน พ่อแม่นางต้องทัดทานเนื่องจากไม่เคยมีกระต่ายตัวไหนเป็นตำรวจมาก่อน แต่จูดี้ก็ไม่ย่อท้อ นางสมัครเข้าโรงเรียนตำรวจและสามารถเรียนจนจบด้วยคะแนนสูงสุดของรุ่นแบบสวยและสตรองมาก
ทว่าชีวิตกลับไม่ได้ง่ายดังฝัน เมื่อเธอเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงซูโทเปียและค้นพบความจริงที่ว่า โลกไม่ได้เป็นมิตรกับเธอเลย ทั้งโดนเจ้านายโขกสับ แถมเพื่อนร่วมงานของเธอล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ใหญ่ ขนาดตัวของแม่สาวจูดี้เทียบได้แค่ขาข้างเดียวของพวกนั้นด้วยซ้ำ แต่แม่ต่ายสาวไฟแรงของเราก็ยังไม่ยอมถอดใจ พยายามฝ่าฟันอุปสรรคด้วยสปิริตนางเอกดิสนี่ย์ จนวันนึงโชคชะตาก็พาเธอไปป๊ะเข้ากับนายจิ้งจอกสุดเจ้าเล่ห์ "นิค ไวลด์"
(ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ใช่มั้ย... งั้นล็อคล้อ(รถเข็น)ซะเลย! ถถถถถถถ)
การโคจรมาพบกันของทั้งคู่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นขึ้น เมื่อจูดี้ต้องทำการไขคดีคน(?)หายให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง มิฉะนั้นเธอจะต้องลาออกจากการเป็นตำรวจ ซึ่งไม่ง่ายเลยหากเธอต้องไขคดีเพียงคนเดียว จูดี้จึงทำการขอร้อง(บังคับและแบล็กเมล)ให้พ่อนิคเข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย ทั้งสองจึงต้องบุกป่าฝ่าลงตามรอยเบาะแสเพื่อสืบคดี สลับกับการชิงไหวชิงพริบซึ่งกันและกันตามคอนเซปพระเอกซ่านางเอกแสบ (ซึ่งบอกเลยว่าฟินมากข่ะ จิกชนิดที่ถังป๊อบคอร์นแทบทะลุ -////- )
และเมื่อทั้งคู่ช่วยกันไขคดีจนกระทั่งหาตัวคนร้ายจนเจอ จูดี้กลายเป็นขวัญใจของทั้งเมืองเพียงชั่วข้ามคืน ทว่าสิ่งนั้นกลับแลกมาด้วยการผิดใจกันระหว่างเธอและนิค เนื่องจากสาวเจ้าดันไปประกาศออกสื่อว่า คดีคนหายเกี่ยวข้องกับอาการคุ้มคลั่งแบบไม่ทราบสาเหตุของสัตว์นักล่า แถมเธอดันไปเหมา(แบบไม่ได้รู้ลึกรู้จริง)ว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะยีนส์ของนักล่า นั่นทำให้นิคซึ่งเริ่มเปิดใจกับจูดี้แล้วรู้สึกว่าจริงๆแล้วจูดี้ไม่เคยเชื่อใจเขาเลย จูดี้ยังคงตัดสินเขาด้วยรูปลักษณ์ภายนอก นอกจากนี้คำพูดของเธอยังกลายเป็นชนวนที่ทำให้ผู้คนในเมืองเกิดความระหองระแหงซึ่งกันและกัน เหล่าสัตว์นักล่าที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยต้องกลายเป็นจำเลยสังคม จุดนี้เองที่ทำให้จูดี้ตัดสินใจรับผิดชอบการกระทำที่ขาดความยั้งคิดของตนเองด้วยการลาออก... (สตรองมั้ยล่ะคุณ!)
หลังจากลาออก จูดี้กลับบ้านไปช่วยกิจการของที่บ้าน เป็นสาวบ้านไร่ขายแครอท แต่แล้วเธอก็ค้นพบความจริงโดยบังเอิญที่ว่า สาเหตุของอาการคุ้มคลั่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากยีนส์ แต่เกิดขึ้นจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีสกัดทำเป็นยาพิษ ไปยิงใส่เหล่าสัตว์นักล่าเพื่อให้เกิดอาการคุ้มคลั่ง หวังเลื่อยขาเก้าอี้นายกเทศมนตรีคนปัจจุบันที่เป็นคุณสิงโตแผงคอฟูฟ่อง เมื่อรู้ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจกลับเข้าเมืองเพื่อสะสางปัญหาและตีแผ่ความจริง แต่ก่อนที่เธอจะทำแบบนั้นได้ จูดี้จำเป็นจะต้องกลับไปปรับความเข้าใจกับนายจิ้งจอกคู่หูของเธอเสียก่อน (ฉากจูดี้ไปง้อนิคเป็นอะไรที่ฟินโลกแตกมากค่ะ ไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวหนังสือยังไง แต่ตอนอยู่ในโรงเราอินน้ำตาไหลเลย กลายเป็นคู่ OTP อีกคู่ของเราไปแล้ว ฮือออออ T///v///T) หลังจากทั้งคู่คืนดีกันเสร็จก็พากันไปไขคดีต่อค่ะ ความจริงถูกเปิดเผย คนร้ายตัวจริงโดนโยนเข้าคุก (แต่เราเชื่อว่าวัยผู้ใหญ่ที่ไปดูหลายคนน่าจะเดาคนร้ายออกล่ะ ถถ) ทุกอย่างจบแบบแฮปปี้ โดยที่จูดี้กลับเข้าทำงานในกรมตำรวจ แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือเธอได้นิคมาเป็นนายตำรวจคู่หูด้วย
สำหรับเรื่องนี้ เราไม่ได้คาดหวังอะไรสูงมาก แต่รู้สึกประทับใจจากทีเซอร์เลยตัดสินใจแน่ๆว่ายังไงก็จะไปดู พอดีกับที่โรงแถวบ้านเปิดรอบ Sneak preview เลยจัดไปซักดอก ซึ่งพอได้ดูแล้วปรากฎว่า... อึ้งไปเลย เราอินมากกกกกกกกกกกกกก นั่งอมยิ้มทั้งเรื่อง อาจมีเรื่องจังหวะการเดินเรื่องในช่วงแรกๆจะดูเร็วไปบ้างเพราะเวลามีจำกัด แต่หลังจากนั้นเนื้อเรื่องสามารถดึงให้เราจดจ่อได้แบบไม่วอกแวกทำอะไรเลย คือทีแรกเราคิดแค่ว่ามันจะขายเฉพาะความฮา แต่กลายเป็นว่าประเด็นที่หนังเรื่องนี้เอามาเล่นเราว่ามันให้ข้อคิดที่ดีมาก เช่นเรื่องความพยายามและการมองคนโดยไม่ตัดสินจากภายนอก ซึ่งเด็กๆน่าจะเข้าถึงได้ง่ายด้วย เพราะรูปแบบการนำเสนอที่ตรงไปตรงมา จุดประสงค์ของเรื่องบอกผ่านแทบจะทุกคำพูดและการกระทำของตัวละคร
ส่วนด้าน CG และเพลงประกอบก็ทำออกมาได้ดีมากสมชื่อดิสนีย์ คือไม่มีที่ให้ติจริงๆค่ะ แต่ละฉากเหมือนอยู่ในฝัน เป็นเมืองที่เหมือนฝันมากถึงมากที่สุด ส่วนตัวเราชอบฉากที่จูดี้นั่งรถไฟเข้าเมืองเป็นครั้งแรกมากค่ะ จังหวะที่รถไฟแล่นไปพร้อมกับเพลงของเจ๊ชากีร่าคลอขึ้นเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แม่กระต่ายสาวที่ตื่นเต้นกับซูโทเปีย แต่กลายเป็นว่าคนดูอย่างเราๆเองก็พลอยตื่นตาตื่นใจไปกับนางด้วย แถมสัตว์น้อยใหญ่ในเมืองก็แสนจะน่ารักน่าเอ็นดู ดูแล้วหัวใจพองโตแทบจะลอยติดเพดานโรงหนังเลยทีเดียว
สรุปคือเรื่องนี้เราให้ 10/10 เลยค่ะ ประทับมากถึงมากที่สุด (ถึงจะให้ 4.5 ดาวก็เถอะ กลัวให้ 5 ดาวแล้วจะเป็นการอวยเกินไป ถถถถ) สำหรับใครที่ผ่านมาอ่านกระทู้นี้ แนะนำให้พาครอบครัวหรือแฟนไปดูนะคะ เราคิดว่าเป็นอนิเมชั่นดิสนีย์ที่คุ้มค่าตั๋วที่สุดเรื่องนึงเลย ทั้งบทฮา บทดราม่า บทผจญภัย และแง่คิดดีๆ เรื่องนี้มีให้ครบจริงๆค่ะ
**มี Edit คำผิดเล็กน้อยค่ะ ตอนพิมพ์เบลอไปนิด**
[CR] [CR] ดูแล้วจึงบอกต่อ Zootopia (นครสัตว์มหาสนุก) อนิเมชั่นสุดน่ารักเนื้อหาคมคาย เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ♥ (สปอยล์หนักมาก)
ว่าแล้วก็เริ่มกันเล้ย
(ไม่รู้จะเริ่มเรื่องยังไงให้แปะรูปไว้ก่อนเป็นดี ฮาาาาาา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับเรื่องนี้ เราไม่ได้คาดหวังอะไรสูงมาก แต่รู้สึกประทับใจจากทีเซอร์เลยตัดสินใจแน่ๆว่ายังไงก็จะไปดู พอดีกับที่โรงแถวบ้านเปิดรอบ Sneak preview เลยจัดไปซักดอก ซึ่งพอได้ดูแล้วปรากฎว่า... อึ้งไปเลย เราอินมากกกกกกกกกกกกกก นั่งอมยิ้มทั้งเรื่อง อาจมีเรื่องจังหวะการเดินเรื่องในช่วงแรกๆจะดูเร็วไปบ้างเพราะเวลามีจำกัด แต่หลังจากนั้นเนื้อเรื่องสามารถดึงให้เราจดจ่อได้แบบไม่วอกแวกทำอะไรเลย คือทีแรกเราคิดแค่ว่ามันจะขายเฉพาะความฮา แต่กลายเป็นว่าประเด็นที่หนังเรื่องนี้เอามาเล่นเราว่ามันให้ข้อคิดที่ดีมาก เช่นเรื่องความพยายามและการมองคนโดยไม่ตัดสินจากภายนอก ซึ่งเด็กๆน่าจะเข้าถึงได้ง่ายด้วย เพราะรูปแบบการนำเสนอที่ตรงไปตรงมา จุดประสงค์ของเรื่องบอกผ่านแทบจะทุกคำพูดและการกระทำของตัวละคร
ส่วนด้าน CG และเพลงประกอบก็ทำออกมาได้ดีมากสมชื่อดิสนีย์ คือไม่มีที่ให้ติจริงๆค่ะ แต่ละฉากเหมือนอยู่ในฝัน เป็นเมืองที่เหมือนฝันมากถึงมากที่สุด ส่วนตัวเราชอบฉากที่จูดี้นั่งรถไฟเข้าเมืองเป็นครั้งแรกมากค่ะ จังหวะที่รถไฟแล่นไปพร้อมกับเพลงของเจ๊ชากีร่าคลอขึ้นเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แม่กระต่ายสาวที่ตื่นเต้นกับซูโทเปีย แต่กลายเป็นว่าคนดูอย่างเราๆเองก็พลอยตื่นตาตื่นใจไปกับนางด้วย แถมสัตว์น้อยใหญ่ในเมืองก็แสนจะน่ารักน่าเอ็นดู ดูแล้วหัวใจพองโตแทบจะลอยติดเพดานโรงหนังเลยทีเดียว
สรุปคือเรื่องนี้เราให้ 10/10 เลยค่ะ ประทับมากถึงมากที่สุด (ถึงจะให้ 4.5 ดาวก็เถอะ กลัวให้ 5 ดาวแล้วจะเป็นการอวยเกินไป ถถถถ) สำหรับใครที่ผ่านมาอ่านกระทู้นี้ แนะนำให้พาครอบครัวหรือแฟนไปดูนะคะ เราคิดว่าเป็นอนิเมชั่นดิสนีย์ที่คุ้มค่าตั๋วที่สุดเรื่องนึงเลย ทั้งบทฮา บทดราม่า บทผจญภัย และแง่คิดดีๆ เรื่องนี้มีให้ครบจริงๆค่ะ
**มี Edit คำผิดเล็กน้อยค่ะ ตอนพิมพ์เบลอไปนิด**