อินเทรนด์กะเขาหน่อย : SOTUS the series แข็งกร้าวหากอ่อนโยน ยืดหยุ่นหากหยัดยืน (สปอยด์เล็กน้อย)

จริง ๆ ป้าจะบอกว่าป้าแก่เกินที่จะอินกับระบบรับน้องที่เรียกว่า SOTUS อ่ะนะ เพราะป้าเองเรียนจบมาทางสายสังคมศาสตร์ ในมหาชลัยที่เรื่องรับน้องนั้นเป็นเรื่องกระจุ๋มกระจิ๋มกะล่อยกะหลิบ เป็นวัฒนธรรมรับเพื่อนใหม่ว่างั้น ใครอยากเข้าก็เข้า ไม่อยากเข้าก็แล้วแต่ ... ต่อเนื่องด้วยการถูกตั้งคำถามทางปรัชญาด้านคุณค่าของมนุษย์อยู่เนือง ๆ และ เนื่องด้วยการปลูกฝังความเชื่อว่าทุกคนเท่ากันตามแนวคิดในด้านมนุษย์นิยมและปัจเจกนิยมซ้ำเข้าไปอีกน่ะนะ แต่ป้าเองก็เข้าใจบริบทของการมี SOTUS นะ มันก็มีสายงานที่ระบบนี้มันต้องดำรงคงอยู่ อาจจะเพื่อน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หรือ ละลายพฤติกรรม หรือ อะไรก็ตามแต่เหตุผลซึ่งมิกล้า ๆ ในการก้าวก่าย (หมายถึง SOTUS ที่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย หรือ การกระทำที่ผิดกฎหมายไม่รู้เหนือรู้ใต้จนต้องวางการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์นะแจ๊ะ)

สำหรับ SOTUS the series พี่ว้ากตัวร้ายกะนายปีหนึ่ง แนว Yaoi ไม่ได้เดียดฉันท์อันใด ก็อ่านอยู่เมะก็ดู ส่วนตัวไม่ชอบแบบ Hardcore ชอบแบบเน้น Slice of life ได้ข่าวว่าเรื่องนี้จะได้ทำเป็นซีรีส์เลยลองเซิร์ฟ ๆ อ่านดูซักหน่อย ... เออ ก็เพลิดเพลินใช้ได้ทีเดียว เหมือนย้อนเวลากลับไปเมื่อเกือบ ... เกือบ ... ไม่กล้าระบุเวลา ฮ่า ๆ เอาเป็นว่านานโขอยู่ละกัน

เรื่องนี้ว่าด้วยอะไร ... ว่าด้วยชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย การรับน้อง และ รักข้ามรุ่นแต่ไม่ข้ามเพศ


ใครนะบอกว่าเป็น "วัยรุ่น" จึงเจ็บปวด เราผ่านมันมานานละวัยรุ่น ถ้ามองด้วยสายตา ณ ช่วงวัยนี้คงบอกว่าเรื่องรับเกียร์รุ่น เกียร์ภาค ธงรุ่น เป็นอะไรที่จิ๊บ ๆ มากหากเทียบกับชีวิตจริง แต่ในเวลานั้นส่วนหนึ่งของการเป็น unity กับพรรคพวกผองเพื่อน การได้เป็นที่ยอมรับและเป็นหนึ่งเดียวกับรุ่นเป็นเรื่องที่มีความหมายมากเหลือเกิน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการการยอมรับซึ่งกันและกัน ศักดิ์ศรีที่รุ่นพี่อยากแสดงให้รุ่นน้องเห็น ทั้งกิจกรรม กีฬา ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และ ความพยายามที่จะแสดงสปิริตให้รุ่นพี่ได้รับรู้รับเห็นว่ารุ่นน้องมีความสามารถมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่รุ่นพี่นั้นให้ความเคารพ เช่นภาค เช่นคณะ เช่นสถาบัน

สิ่งนั้นจึงเป็นที่มาของความขัดแย้งระหว่าง
Head ว้าก ที่ต้องแบกรับหน้าที่ในการเค้นความเป็น "รุ่น" ออกมาจากน้อง ๆ ให้ได้
และ
ปีหนึ่งเด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาหาความหมายหากต้องเจอกับสิ่งที่รู้สึกว่าถูกกดขี่และข่มเหง


ด้านหนึ่งก็คือพิธีกรรมที่เชื่อถือกันมานานว่าจะสร้าง "ความรัก" "ความสามัคคี" และ "ระเบียบวินัย" ในหมู่รุ่นได้อย่างดีจากความกดดัน เพราะ ความกดดันจะทำให้คนรู้สึกอย่างเดียวกัน และ ความรู้สึกที่ว่าเรานั้นจำยอมรับชะตากรรมเหมือนกันนั่นแหละจะกลายเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะต่อสู้กับอำนาจที่เหนือกว่าด้วยวิถีทางใดวิถีทางหนึ่ง อีกด้านก็คือเด็ก ... เด็กน้อยที่เพิ่งพ้นชั้นมัธยม มากหน้าหลายตา ต่างพื้นเพนิสัย และ ฐานะ พวกเขาถูกกดดันในห้องเชียร์ ทั้งการจัดระเบียบจัดแถวเหมือนทหาร คำถามก็คือทำไม ... หรือพูดดี ๆ กันไม่ได้ เพียงแต่คนที่ใหม่ที่ทางมีหรือจะกล้าพูด แต่นั่นไม่ใช่ก้องภพ

การสร้างสรรค์ unity ภายใต้ความกดดันของพี่ว้ากจึงสะดุด
เพราะความไม่จำยอมต่ออำนาจของรุ่นน้อง 1 คน


Head ว้ากอย่างอาทิตย์โมโหที่ไอ้ปีหนึ่งตัวดีมีท่าทีปีนเกลียวอย่างเห็นได้ชัด หน้าที่ความเป็น head นั้นยิ่งใหญ่ การเตรียมงานต่าง ๆ นานา กิจกรรมทั้งหลายที่บากบั่นซุ่มซ้อมกันมา กาลเวลาที่ผ่านจากรุ่นสู่รุ่นก็ใช้วิธีนี้ หากมันจะต้องมาปั่นป่วนเสียเปล่าเพราะเด็กปีหนึ่งเพียงคนเดียวคง นั่นเป็นเรื่องไม่สมควร ส่วนเด็กปีนึ่งอย่างก้องภพก็แสนจะแอนตี้หมั่นไส้และไม่เข้าใจว่าเหตุใดการรับน้องเข้าห้องเชียร์กิจกรรมต่าง ๆ ต้องมีการขู่เข็ญ กดดัน กระโชกโฮกฮาก และ การบังคับด้วย

แต่แล้วค่ำคืนหนึ่งกับความบังเอิญริมระเบียงหลังห้อง ... ปลดล็อกอะไรในใจของเด็กปีหนึ่งได้ชะงัด บางทีสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นทั้งหมดก็ได้ ยุทธการณ์ยั่วเย้า Head ว้าก โดยก้องภพจึงได้เริ่มขึ้น และดูเหมือน operation ก้องภพจะได้ผลมากกว่าที่คิด พี่ว้ากคนนี้ถึงจะดุเข้มงวดและโหดอำมหิต หากจริง ๆ แล้วภายใต้ทีท่าแข็งกร้าวนั่น การกระทำลับหลังหลายประการช่างอบอุ่นและอ่อนโยนยิ่งนัก อบอุ่นอ่อนโยนจนกระทั่งเจ้าตัวเองไม่อยากให้ใครได้พบ ... และ ไม่อยากจะให้ใครเข้าใกล้ความอบอุ่นอันนี้นอกจาก ... ตัวเอง

ซึ่ง operation ก้องภพก็ใช่จะส่งผลถึงเจ้าตัวคนเดียวก็หาไม่ พี่ว้ากอย่างอาทิตย์ก็รู้สึกได้ถึงความหวั่นไหวที่เกิดขึ้น แม้ภาพลักษณ์แรกของเด็กนรกปีหนึ่งเจ้าปัญหา คือความรู้สึกว่ามันไม่เคารพและปีนเกลียวรุ่นพี่อย่างเสียไม่ได้ หากเมื่อมองลงไปในภาพรวม เด็กผู้ชายสะอ้านสะอ้านและดูจะติดสำอางนั้น ภายนอกนั้นเรียบร้อยอบอุ่นและอ่อนโยน หากภายในซ่อนความแข็งแกร่งและมุ่งมั่นเอาไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายครั้งที่เด็กคนนั้นปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมรุ่นด้วยความอ่อนโยนเอาใจใส่ยอมรับผิดในเรื่องนั้นเรื่องนี้แต่อีกทางหนึ่งก็ยืนหยัดในความคิดของตัวเอง กล้าตั้งคำถาม หากก็ยอมรับในเหตุผล .... ยืดหยุ่นแต่ก็ยืนหยัดในความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ยอมสูญเสียมันเพื่อใคร หรือ อะไร

ความรู้สึกแปลก ๆ คืบคลานเข้ามาในใจของอาทิตย์ทีละน้อย
เขาพ่ายแพ้ตัวตนของเด็กปีหนึ่งคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่และ
เพราะอะไรกัน ?


มันอาจจะเป็นเพราะความเหมือนที่แตกต่าง ... เขาดุดันใจร้อนกระโชกโฮกฮากดูดิบเถื่อนแต่ที่ซ่อนไว้คือความอ่อนไหวอ่อนหวานความเป็นห่วงและจริงใจ ส่วนอีกคนแสดงออกเสมอถึงความในเย็นมีเหตุผลเรียบร้อยสงบนิ่งหากที่ซ่อนไว้คือความแข็งแกร่งและตั้งมั่นในสิ่งที่ทำ ความไหวหวั่นที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มแรกเพราะคิดว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ผิดแผกและอาจจะถึงผิดแปลก ไม่มีคนเข้าใจ และ เป็นการเดินทางที่อาจจะหาจุดจบและปลายทางไม่ได้ แต่แล้ว ... มันจะสำคัญอะไร หากทั้งคู่เข้าใจและรู้ทันความรู้สึกของตัวเอง มันไม่จำเป็นต้องนิยาม หรือ ต้องหาคำตอบตายตัวในตอนนี้

เพียงปล่อยมันอย่างที่มันเป็นแบบนี้
ก้าวเดินเคียงกันในเส้นทางที่ทอดยาวไป
เรียนรู้กันไป ... ก็พอแล้วสำหรับคนสองคน
ฉันที่แข็งกร้าวและอ่อนโยน
เธอที่ยืดหยุดและหยัดยืน
สองเรื่องนั้นที่ฉันและเธอรู้
และสิ่งนี้จะพาเราก้าวข้ามผ่านทุกอย่างไป
นี่ล่ะ ... ที่ทั้งสองคนแน่ใจ


เพียงแค่เราเข้าใจก็เหนือคำอื่นใดในโลกนี้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่