[CR] Review Nissan Sunny B14 ซีดานยุ่นมือสองที่น่าสนใจ

กระทู้รีวิว
ดังที่ผมได้ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับเจ้า Nissan Sunny B14 SuperSaloon ไป : http://ppantip.com/topic/33833667
ผมก็ได้มันมาครอบครองแล้วครับ วันนี้เลยอยากจะมารีวิวรถเผื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อรถมือสองสักคัน ยิ้ม


เริ่มกันที่ดอกกุญแจก่อนเลยครับ เมื่อก่อนรถคันนี้ราคามือหนึ่งอยู่ที่ +- 800,000 600,000 บาท และอยู่ใน Segment เดียวกับ Honda Civic แต่ยังคงใช้กุญแจดอกปกติไม่มีรีโมท คงเอกลักษณ์ความเก๋าและเก่ามากๆ

ห้องเครื่อง

รหัสตัวเครื่อง GA16DNE ที่ถูกลดทอนแรงม้ามาเหลือ 110 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที  ผูกกับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะแบบธรรมดา ในเรื่องเรี่ยวแรงที่ได้จากเครื่องตัวนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง อัตราเร่งแซงไม่เป็นรองรถรุ่นใหม่ๆ มีเกียร์ O/D ให้กดเล่นเพื่อทดเกียร์ลงมาที่เกียร์สามสำหรับเร่งแซง รถผมคันนี้ได้ถูกปาดฝาสูบ ฝาวาวล์มาแล้วเนื่องจากฝาโก่งความร้อนพุ่งสูงแต่ไม่น็อค เครื่องเค้าทนจริงๆ เค้าล้อเล่น

ด้านหน้า

ด้านหน้าของรถคันนี้สืบต่อ DNA มาจาก B14 โฉมไฟยาวทับทิม และไปสวยขึ้นอีกในโฉม Sunny NEO ที่หน้าตาดูคล้าย B14 รุ่นนี้ ด้านหน้ามีไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลคเตอร์ กระจังหน้าโครเมียม พร้อมไฟตัดหมอกในทุกรุ่น (ในจุดๆนี้นิสสันใจป๋ามาก)

ด้านท้าย

ไม่มีไรมากครับกับด้านท้าย แต่ในสายตาผมมองว่าโอเคสวยลงตัว ไฟแยกแบบนี้ไม่ทำให้ดูเก่ามากนัก ถ้าลองเทียบกับ Toyota Corona ท้ายโด่ง ในส่วนไฟท้ายเวลาเปิดไม่ได้ดูสดใสเหมือนรถสมัยใหม่ แต่ดูอึมครึม มัวๆ ไม่สว่างแบบเบนซ์ใหม่ๆ

ที่ใส่สัมภาระหลัง

ที่ใส่สัมภาระกว้างพอยัดคนเข้าไปได้ 1 คน และไม่สามารถพับเบาะหลังให้ราบไปเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ แต่ก็เพียงพอสำหรับชีวิตประจำวันครับ แต่ก็อยากให้มันใหญ่มากกว่านี้เหมือนกันนะ ไปซื้อของ HomePro บางทีก็ใส่ไม่ได้ เค้าล้อเล่น ปล.มีไฟส่องสว่างให้ด้วยนะครับเวลาเปิด แต่ว่าไม่ปิดอัตโนมัติ ต้องผิดกระโปรงหลังให้สนิททุกครั้ง

ระบบช่วงล่าง

ระบบช่วงล่างเป็นแบบ Multi-Link Beam ที่นิสสันแสนจะภาคภูมิใจจนผุดโฆษณาตัวหนึ่งขึ้นมาคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอซึ่งบอกไว้ว่าเกาะถนนเป็นเยี่ยมและล้อหลังทั้งสองล้อจะตั้งฉากกับถนนตลอดเพื่อการทรงตัวที่ดี ผมก็เคยดูมาก่อนที่จะได้รถคันนี้มา เมื่อได้มาแล้วก็คงไม่พ้นที่จะต้องขอเทสขอทดลองซะหน่อย ว่าเจ้า Multi-Link Beam ที่นิสสันใช้มาตลอดนั้นจะดีจริง หนึบจริง เกาะจริงหรือเปล่า ผลที่ได้ : เกาะในระดับดีครับ มีอาการท้ายออกบ้างเล็กน้อยแต่น่าจะเป็นที่ยางของผมเองที่ดอกค่อนข้างแข็งมาก

ในการใช้งานจริง
ยวบยาบกว่าที่ควรจะเป็น นุ่มไปหมด ย้วยไปหมด แต่กลับทรงตัวได้ดีในความเร็วสูง งงสิครับ ใช้ในเมืองน่าประทับใจ เก็บอาการสั้นสะเทือนได้ค่อนข้างดี วงเลี้ยวไม่กว้าง ยูเทิร์นได้ง่ายๆ เปลี่ยนเลนกระทันหันมั่นใจได้ว่าไม่แหก ระบบเบรคเป็นดิสสี่ล้อพร้อมระบบกันล้อล็อค ABS มีเฉพาะในตัวท็อปเท่านั้นสังเกตุว่าเป็นตัวท็อปได้จากดิสสี่ล้อและดูได้จากไมล์ของรถ
ปล.ที่ผมทดสอบช่วงล่างนั้นอยู่ในความเร็วที่ผมคิดว่าผมมั่นใจ เอารถอยู่ ทดสอบบนถนนที่ไม่มีรถผ่าน และไม่แนะนำให้ทดสอบอาการใดๆของช่วงล่างบนถนนสาธารณะที่มีเพื่อนร่วมทางอยู่นะครับ

ภายในห้องโดยสาร

- ไล่ฝ้า
- ไฟฉุกเฉิน
- ตำแหน่งการเป่าของแอร์
- ปรับอุณหภูมิแอร์ (ไปเติมน้ำยาแอร์มาใหม่ เสร็จแล้วช่างบอกว่าห้ามเปลี่ยนอุณหภูมินะครับ แอร์จะไม่เย็นเลยถ้าเปลี่ยน me/อึ้ง สรุปคือตอนกลางคืนเปิดแค่เบอร์ 1 พอครับ เบอร์มากกว่านี้ไม่สามารถขับขี่ได้แล้ว เย็นเกิน)
- ปรับความแรงพัดลม
- เครื่องเสียง Sony อันนี้ไม่ใช่ของติดรถนะครับ รู้สึกว่าเดิมๆเป็นเทปมั่งนะ

- มีช่องวางแก้วให้ 2 ช่อง เมื่อวางแก้วกาแฟจริงๆแล้ว ทั้งหลอดทั้งขอบแก้วบดบังวิทยุมากๆครับ ยกเว้นจะซื้อกาแฟซอตมากินซึ่งมันก็ควรกินหมดก่อนขึ้นรถด้วยซ้ำ -__-

- คันเกียร์รูปร่างโอเค จับกระชับมือ กดปุ่มก่อนเปลี่ยน และใต้ปุ่มกดเปลี่ยนเกียร์ มีปุ่ม O/D หรือเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์
- มี 1 2 ให้ใช้เพื่อเส้นทางที่ต้องใข้กำลังเครื่องมากๆ หรือใช้ในการลงเขา ไม่แนะนำให้ใช้เล่นเกียร์แบบลากยาวๆเนื่องจากรถรุ่นนี้กินน้ำมันดุมากจริงๆ

- มีปุ่มปรับกระจกมองข้ามให้ทั้งซ้ายขวา สะดวกมากๆ เวลาจะถอยเข้าเทียบฟุตบาทแบบแปะๆนี่สะดวกจริงๆถ้าปรับให้ก้มสุด (ไม่คิดว่ารถเก่าๆจะมีให้)
- ปุ่มพับกระจกมองข้างซ้ายขวา ตอนนี้ข้างขวาเริ่มเสื่อมแล้วครับ เริ่มพับช้า เริ่มไม่พับตามข้างซ้าย 5555 ตามอายุรถ
- สวิทซ์ไฟตัดหมอก

- เซนทรัลล็อค ที่บางบานก็เริ่มเสีย 5555
- ล็อคการขึ้นลงของกระจก
- กดกระจกขึ้น-ลงออโต้ได้แค่บานคนขับ

- กระจกในม่านกันแดด มีให้เฉพาะผู้โดยสารด้านหน้า และไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่มีไฟส่องแผนที่ใดๆ

ตำแหน่งการนั่ง

เป็นตำแหน่งการนั่งที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากๆครับ เอาใจว่ามันเป็นเก๋ง แต่แบบนี้ก็ต่ำไปนิส เจอไฟหน้าของ All New Fortuner เจอไฟไอติมรถแต่งไปก็จบมากๆครับ เหมือนมีเธคมาเปิดในรถมากๆ แสง สี เสียง เรียกว่าจัดเต็ม

ในส่วนของเบาะหน้า
พนักผิงศรีษะโอเคครับไม่ดันหัวรับกับหัวได้พอดี ปรับระดับได้ รับสรีระของร่างกายได้ดี ความนุ่มก็ใช้ได้กำลังดี ไปติดอยู่ตรงที่แผ่นรองนั่งซึ่งสั้นไปหน่อย ไม่รับกับต้นขาเลย พี่ชายยังบ่นเรื่องนี้ 55555

ในส่วนของเบาะหลัง

เข็มขัดนิรภัยด้านหลังให้มาถึงสามจุด ตัวแผ่นรองนั่งก็เหมือนกับด้านหน้าที่มันจะสั้นไปไหน พนักพิงศรีษะไม่สามารถปรับระดับได้ Fixed มาแบบที่เห็นเลยครับ ในส่วนเฮดรูมเหลือๆครับ ไม่ได้แคบและเตี้ยมากๆนัก และในส่วนของเลครูม มีให้นั่งได้อย่างสบายไม่อึดอัดครับ ปล.กระจกแผ่นหลังนั้นได้เลยยยยยขึ้นมาถึงศรีษะผู้โดยสารด้านหลังครับ คือถ้ามีผู้โดยสารด้านหลังในวันแดดจ้าเวลาเที่ยงตรง มีความเป็นไปได้ที่ต้นคอน่าจะไหม้ไปเลย เค้าล้อเล่น

พวงมาลัยและหน้าปัดเรือนไมล์

- พวงมาลัยเป็นแบบปรับระดับสูง-ต่ำได้ แต่ปรับเข้า-ออกไม่ได้ จุดกลไกปรับจะอยู่ด้านล่างคอพวงมาลัย
- แตรเสียงน่ารักมากจริงเหมือนหลุดมาจากยุค 80s
- ส่วนก้านต่างๆเหมือนรถยุ่นสมัยใหม่


- หน้าปัดเรือนไมล์แสดงผลแบบเกือบจะดิจิตอล
- มีให้กดดูระยะทางรวม , Trip A , Trip B กดรีเซทโดยการกดค้าง (ถ้าวันไหนถอดแบตเกิน 15 นาทีค่าทริปต่างๆจะกลายเป็นสูตร ซึ่งจุดๆนี่ไม่สะดวกเลยถ้าเป็นคนที่คอยจดระยะทางรวมๆเพื่อค้นหาการกินน้ำมันโดยเฉลี่ย)
- วัดความเร็วสุดที่ความเร็ว 220 km/h ซึ่งถามว่าถึง 180 ไม๊ ก็ไม่ 160 ก็สุดๆแล้ว 5555555
- วัดรอบสุดที่ 8,000 รอบ/นาที และเริ่มเข้าเลดไลน์ที่ 6,600 รอบ/นาที
- เกจ์วัดความร้อนของเครื่องยนต์ (รถสมัยใหม่ไม่มีนะแจ๊ะะะ)
- ไฟบอกตำแหน่งเกียร์
- เข็มวัดระดับน้ำมันที่จะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อคุณกดเกิน 60 หรือ 2,000 รอบ/นาที และจะเร็วกว่าถ้าคุณอยู่ในข่วงไม่มีเงินเติมน้ำมัน
- หน้าจอบอกเวลา

อัตราการกินน้ำมัน
เป็นอะไรที่น่าตกใจมากๆ กับอัตราการกินน้ำมันของรถคันนี้ ให้เวลา 3 วิเพื่อทายครับว่าเลขจะออกมาประมาณไหน เฉลยเลยละกันครับ 9-10 km/lit -0- ตอนแรกที่ได้มาก็ไม่เดือดร้อนอะไรหรอกครับ ไม่คิดว่ามันกินเยอะอะไร แต่พอมาใช้จริงๆแล้ว เติม S/// 95 Nitro+ 500 ได้มา 19.18 ลิตร วิ่งได้เต็มที่ 150 km เท่านั้น ความรู้สึกเหมือนเราขับเบ๊นซ์ขับบีเอ็มเครื่องหกสูบเลยครับ แต่สมรรถนะคนละขุม แนะนำว่าถ้าใครซื้อมาก็ติดแก๊สซะเถอะ แต่ปัญหาใหญ่ๆคือรุ่นนี้ต้องหาช่างที่มีความชำนาญสูงถึงจะจบได้ เพิ่มเติม ถ้าหากวิ่งทางไกลที่ใช้ความเร็วคงที่ ถึงแม้จะเป็นความเร็วสูงก็จะประหยัดมากกว่าวิ่งในเมืองครับ ผมขับไปกลับ เพชรบุรี-หัวหิน ใช้ความเร็ว 140-150 ตลอดทาง เติมไป 500 บาท น้ำมันใช้ตามที่บอกนะครับ ยังเหลือให้ใช้ในเมืองได้อีก 50 โลโดยประมาณ

ก็ขอฝากไว้นะครับกับรถรุ่นนี้ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ ทรงตัวเยี่ยม พวงมาลัยถึงจะไวไปนิด ส่ายไปหน่อย แต่ก็มั่นคงพอที่จะไว้ใจในทางไกล เป็นรถที่มีประวัติมาอย่างยาวนานตั้งแต่ Sunny FF B12 B13 B14 , Sunny NEO, NEO GL แต่ละรุ่นแต่ละโฉมมีความสวยแตกต่างกันไป ข้อเสียแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ส่วนตัวได้รถคันนี้มาเพื่อใช้ขับไปมหาลัย ทั้งนี้เป็นเงินของพ่อทั้งสิ้นที่ซื้อรถคันนี้มาให้ใช้ ยิ้ม หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นส่วนในการตัดสินใจเลือกซื้อรถมือสองสักคันเอาไว้ใช้กันแดดกันฝน ปล.ลืมบอกไปเลยรุ่นนี้มีฮีตเตอร์ให้ด้วยนะครับ ไม่หนาวแน่ๆ ไม่ต้องนั่งกอดกันในรถด้วยย 5555 ขอบคุณครับที่อ่านมาถึงตรงจุดนี้นะครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ (ฮ่าๆ คำนำรายงานนักเรียนมัธยมไปอีกกกก)

ชื่อสินค้า:   Nissan Sunny B14 Super Saloon
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่