*เราบอกก่อนเลยว่า ถ้าใครเล่นทวิตเตอร์ จะเข้าใจภาษาที่เราใช้ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้เราจะอธิบายไว้ข้างล่างนะคะ*
ฟิคฯ - นิยายค่ะ
สกรีมแท็ก - การบอกความรู้สึก อารมณ์ เกี่ยวกับแฮชแท็กนั้น
เมนชั่น - คือการสนทนาแบบสาธารณะ
DM - direct message คือการสนทนาลับๆ เหมือนกับแชทของเฟซบุ๊ค
SEND ME - คือ แอคเค้าท์ที่เปิดมาเพื่อส่งข้อความให้คนที่เราอยากส่งให้แทนตัวเราเอง โดยที่จะไม่บอกว่าใครส่งมา (ดีมากๆ)
โควททวิต - การรีทวิตแบบสามารถแสดงความคิดเห็นของเราได้
รีทวิต - การที่เราแบ่งปันสิ่งที่สนใจให้คนที่ติดตามเราอยู่ได้เห็นด้วย ไม่ใช่การแชร์นะคะ
คือพี่คนนี้เขาเป็นไรท์เตอร์ฟิคไคฮุนค่ะ ถ้าใครชิปคู่นี้ก็จะรู้จัก พี่เขาเขียนเรื่องวชิรามาร์คินแล้วก็อีกสามเรื่อง เราตามพี่เขาในทวิตเตอร์มาเกือบจะ 4 เดือนแล้ว ตอนแรกๆก็แค่สกรีมแท็กฟิคเขาไปเรื่อยๆ จนได้คุยกันครั้งสองครั้ง แล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย แต่เห็นพี่เขาในทวิตฯบ่อยๆ เพราะเราตั้งเฟบพี่เขาไว้ตั้งแต่นั้นมา ตอนแรกก็ไม่กล้าที่จะเมนชั่นไปคุยกับพี่เขาต่อ สองเดือนถัดมาก็ปรึกษาเพื่อนๆแล้วมีแต่คนเชียร์บอกว่า ให้ทักไปเลย ให้คุยเลย เราเลยเมนชั่นไปคุยกับเขา ครั้งแรกก็คุยกันไม่มากเท่าไหร่ แต่ครั้งต่อๆมาเริ่มคุยกันเยอะขึ้นๆ จนเริ่มรู้จักชื่อ แล้วก็สนิทกัน แล้วพี่เขาก็ทัก DM เรามาปรึกษาเรื่องฟิคของเขา เราก็เป็นที่ปรึกษาให้กับเขามาตลอด ช่วยนู้นช่วยนี่มาเสมอ มีไรคุยกันได้ แมนๆ เตะบอล (555) เรากับพี่เขาเริ่มรู้จักกันมากกว่าเดิมแบบสุดๆ เรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขาไม่มาก แต่รู้ว่าพี่เขาจะจบมหาฯลัยแล้ว ส่วนเราเองก็จะจบม.ปลายแล้ว เราอายุห่างกัน 5-6 ปีค่ะ หนักใจเหมือนกัน เราเริ่มชอบเขามาตั้งแต่แรกซึ่งมันก็นานแล้ว แต่แค่ไม่กล้าทักไป พอคุยกันมากขึ้นก็ชอบมากขึ้น เราเลยส่ง Send Me ไปให้กำลังใจ ไปจีบ เขาทุกวัน มันมีความสุขอ่ะเนาะ (คนที่แอบชอบใครอยู่น่าจะเข้าใจ) แล้วที่เราคุยกันทุกวันเนี่ย ตัวเราเองก็เหมือนจะอ่อยๆพี่เขามาตลอดแหละ อันนี้ยอมรับแบบแมนๆ เชื่อว่าผญ.ทุกคนต้องมีโมเม้นต์นี้บ้าง เราส่ง Send Me ไปจีบเขาตลอดเลย พี่เขาก็โควททวิตของ Send Me ตอบอย่างนู้นอย่างนี้ เราเลยมั่นใจว่าพี่เขาโสดแบบสนิท (แต่ไม่รู้ว่ามีคนที่ชอบแล้วรึเปล่า) เราเข้าข้างตัวเองมากๆ เพราะว่าที่ผ่านมาเนี่ยพี่เขาทำให้เราคิดว่า เขาอาจจะรู้สึกดีๆกับเราก็ได้ พี่เขาบอกว่าจะเรียกเราด้วยชื่อเฉพาะ นู้นนี่นั่น การคุยก็แปลกไป (ในทางที่ดีขึ้น) จนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราก็ปรึกษาเพื่อนว่าจะบอกเลยดีมั้ย แต่เอาจริงๆก็ไม่กล้า เลยส่ง send me ไปให้พี่เขาอีกครั้ง เป็นรูปที่มีข้อความสารภาพรัก (มุ้งมิ้งมากเพราะปกติเป็นคนแมนๆ) พี่เขาก็โควทตอบอีกแบบว่าใครแกล้งไรงี้ เราก็ขำแบบพี่เขารู้แน่ๆว่าใครแต่แค่แกล้ง (คิดเข้าข้างตัวเองตลอด) จากนั้นเราก็คุยกันตามปกติค่ะ จนเมื่อสองวันที่แล้วเขากับเราก็คุยกันเรื่องฟิค ปิดท้ายด้วยการที่พี่เขาบอกว่า เออ..พี่ว่าจะอัพฟิคหลังสอบเสร็จ เราก็แบบเฮ้อ กว่าจะได้คุยกันคงเหงาตายแน่ๆ เราทำแบบเดิมๆมา 2 วันแล้วค่ะ คือการส่ง send me ไปให้กำลังใจเหมิอนเดิม แต่ก็ยังดีที่ได้คุยกันนิดๆ เราเองก็เข้าใจเพราะตอนนี้ก็ใกล้สอบแล้วเหมือนกัน เราปรึกษาพ่อ - แม่เหมือนกันในเรื่องนี้ ท่านก็บอกว่า ไม่เป็นไร ถ้าเราชอบก็เดินหน้าแบบดับเครื่องชนเลย แต่ขอว่าอย่าทิ้งการเรียน ซึ่งเราก็ทำได้ค่ะ (บอกไว้เพื่อใครคอมเม้นต์ถามประมารว่า พ่อ-แม่รู้เรื่องมั้ย)
สิ่งที่เราอยากจะถามทุกคนๆก็คือ สอบเสร็จวันที่ 10 เนี่ย เราควรจะบอกพี่เขาไปเลยมั้ยว่าเรารู้สึกยังไง เรารับได้อยู่แล้วว่าไม่ว่าพี่เขาจะคิดว่าเราเป็นน้องคนสนิท หรือว่าอย่างอื่น แต่ที่เราไม่กล้าก็คือ การบอกพี่เขาไปนั่นแหละค่ะ คือ...เราสนิทกับเขามากจนกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วจะเปลี่ยนไป เรากลัวไม่ได้คุยกับพี่เขาอีกค่ะ อีกอย่างถ้าพี่เขามีคนที่ชอบแล้ว เรากลัวว่าเราจะเฟลจนไม่สามารถจะทำอะไรได้ คือมันจะเสียการเรียนด้วย
*อ่านด้วยนะคะ เราต้องการคำแนะนำ แต่ไม่ต้องการคำตำหนิของใคร การรักใครชอบใครก็ไม่ผิดใช่มั้ยคะ เราเป็นคนตรงๆค่ะ เราบอกชัดเจนแล้วว่าต้องการอะไร แค่ต้องการคำแนะนำ คุณเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเรา การที่จะมาด่าว่าเรามันก็ไม่ถูกจริงมั้ยคะ ถ้าเป็นตัวเองคุณก็คงไม่อยากให้ใครมาทำแบบนี้เหมือนกัน เราทราบดีค่ะ เพราะฉะนั้นใจเขาใจเรานะคะ ขอแค่คำแนะนำ และการช่วยเหลือ ขอโทษที่ต้องพิมพ์ไว้แบบนี้ แต่เราไม่อยากอ่านคอมเม้นต์แล้วเบะปากเพราะคำตำหนิของคนที่ไม่รู้จักกันค่ะ ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะ*
{ช่วยหน่อยค่ะ} พอดีว่าแอบชอบคนๆนึง แต่ไม่รู้จะทำยังไง
ฟิคฯ - นิยายค่ะ
สกรีมแท็ก - การบอกความรู้สึก อารมณ์ เกี่ยวกับแฮชแท็กนั้น
เมนชั่น - คือการสนทนาแบบสาธารณะ
DM - direct message คือการสนทนาลับๆ เหมือนกับแชทของเฟซบุ๊ค
SEND ME - คือ แอคเค้าท์ที่เปิดมาเพื่อส่งข้อความให้คนที่เราอยากส่งให้แทนตัวเราเอง โดยที่จะไม่บอกว่าใครส่งมา (ดีมากๆ)
โควททวิต - การรีทวิตแบบสามารถแสดงความคิดเห็นของเราได้
รีทวิต - การที่เราแบ่งปันสิ่งที่สนใจให้คนที่ติดตามเราอยู่ได้เห็นด้วย ไม่ใช่การแชร์นะคะ
คือพี่คนนี้เขาเป็นไรท์เตอร์ฟิคไคฮุนค่ะ ถ้าใครชิปคู่นี้ก็จะรู้จัก พี่เขาเขียนเรื่องวชิรามาร์คินแล้วก็อีกสามเรื่อง เราตามพี่เขาในทวิตเตอร์มาเกือบจะ 4 เดือนแล้ว ตอนแรกๆก็แค่สกรีมแท็กฟิคเขาไปเรื่อยๆ จนได้คุยกันครั้งสองครั้ง แล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย แต่เห็นพี่เขาในทวิตฯบ่อยๆ เพราะเราตั้งเฟบพี่เขาไว้ตั้งแต่นั้นมา ตอนแรกก็ไม่กล้าที่จะเมนชั่นไปคุยกับพี่เขาต่อ สองเดือนถัดมาก็ปรึกษาเพื่อนๆแล้วมีแต่คนเชียร์บอกว่า ให้ทักไปเลย ให้คุยเลย เราเลยเมนชั่นไปคุยกับเขา ครั้งแรกก็คุยกันไม่มากเท่าไหร่ แต่ครั้งต่อๆมาเริ่มคุยกันเยอะขึ้นๆ จนเริ่มรู้จักชื่อ แล้วก็สนิทกัน แล้วพี่เขาก็ทัก DM เรามาปรึกษาเรื่องฟิคของเขา เราก็เป็นที่ปรึกษาให้กับเขามาตลอด ช่วยนู้นช่วยนี่มาเสมอ มีไรคุยกันได้ แมนๆ เตะบอล (555) เรากับพี่เขาเริ่มรู้จักกันมากกว่าเดิมแบบสุดๆ เรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขาไม่มาก แต่รู้ว่าพี่เขาจะจบมหาฯลัยแล้ว ส่วนเราเองก็จะจบม.ปลายแล้ว เราอายุห่างกัน 5-6 ปีค่ะ หนักใจเหมือนกัน เราเริ่มชอบเขามาตั้งแต่แรกซึ่งมันก็นานแล้ว แต่แค่ไม่กล้าทักไป พอคุยกันมากขึ้นก็ชอบมากขึ้น เราเลยส่ง Send Me ไปให้กำลังใจ ไปจีบ เขาทุกวัน มันมีความสุขอ่ะเนาะ (คนที่แอบชอบใครอยู่น่าจะเข้าใจ) แล้วที่เราคุยกันทุกวันเนี่ย ตัวเราเองก็เหมือนจะอ่อยๆพี่เขามาตลอดแหละ อันนี้ยอมรับแบบแมนๆ เชื่อว่าผญ.ทุกคนต้องมีโมเม้นต์นี้บ้าง เราส่ง Send Me ไปจีบเขาตลอดเลย พี่เขาก็โควททวิตของ Send Me ตอบอย่างนู้นอย่างนี้ เราเลยมั่นใจว่าพี่เขาโสดแบบสนิท (แต่ไม่รู้ว่ามีคนที่ชอบแล้วรึเปล่า) เราเข้าข้างตัวเองมากๆ เพราะว่าที่ผ่านมาเนี่ยพี่เขาทำให้เราคิดว่า เขาอาจจะรู้สึกดีๆกับเราก็ได้ พี่เขาบอกว่าจะเรียกเราด้วยชื่อเฉพาะ นู้นนี่นั่น การคุยก็แปลกไป (ในทางที่ดีขึ้น) จนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราก็ปรึกษาเพื่อนว่าจะบอกเลยดีมั้ย แต่เอาจริงๆก็ไม่กล้า เลยส่ง send me ไปให้พี่เขาอีกครั้ง เป็นรูปที่มีข้อความสารภาพรัก (มุ้งมิ้งมากเพราะปกติเป็นคนแมนๆ) พี่เขาก็โควทตอบอีกแบบว่าใครแกล้งไรงี้ เราก็ขำแบบพี่เขารู้แน่ๆว่าใครแต่แค่แกล้ง (คิดเข้าข้างตัวเองตลอด) จากนั้นเราก็คุยกันตามปกติค่ะ จนเมื่อสองวันที่แล้วเขากับเราก็คุยกันเรื่องฟิค ปิดท้ายด้วยการที่พี่เขาบอกว่า เออ..พี่ว่าจะอัพฟิคหลังสอบเสร็จ เราก็แบบเฮ้อ กว่าจะได้คุยกันคงเหงาตายแน่ๆ เราทำแบบเดิมๆมา 2 วันแล้วค่ะ คือการส่ง send me ไปให้กำลังใจเหมิอนเดิม แต่ก็ยังดีที่ได้คุยกันนิดๆ เราเองก็เข้าใจเพราะตอนนี้ก็ใกล้สอบแล้วเหมือนกัน เราปรึกษาพ่อ - แม่เหมือนกันในเรื่องนี้ ท่านก็บอกว่า ไม่เป็นไร ถ้าเราชอบก็เดินหน้าแบบดับเครื่องชนเลย แต่ขอว่าอย่าทิ้งการเรียน ซึ่งเราก็ทำได้ค่ะ (บอกไว้เพื่อใครคอมเม้นต์ถามประมารว่า พ่อ-แม่รู้เรื่องมั้ย)
สิ่งที่เราอยากจะถามทุกคนๆก็คือ สอบเสร็จวันที่ 10 เนี่ย เราควรจะบอกพี่เขาไปเลยมั้ยว่าเรารู้สึกยังไง เรารับได้อยู่แล้วว่าไม่ว่าพี่เขาจะคิดว่าเราเป็นน้องคนสนิท หรือว่าอย่างอื่น แต่ที่เราไม่กล้าก็คือ การบอกพี่เขาไปนั่นแหละค่ะ คือ...เราสนิทกับเขามากจนกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วจะเปลี่ยนไป เรากลัวไม่ได้คุยกับพี่เขาอีกค่ะ อีกอย่างถ้าพี่เขามีคนที่ชอบแล้ว เรากลัวว่าเราจะเฟลจนไม่สามารถจะทำอะไรได้ คือมันจะเสียการเรียนด้วย
*อ่านด้วยนะคะ เราต้องการคำแนะนำ แต่ไม่ต้องการคำตำหนิของใคร การรักใครชอบใครก็ไม่ผิดใช่มั้ยคะ เราเป็นคนตรงๆค่ะ เราบอกชัดเจนแล้วว่าต้องการอะไร แค่ต้องการคำแนะนำ คุณเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเรา การที่จะมาด่าว่าเรามันก็ไม่ถูกจริงมั้ยคะ ถ้าเป็นตัวเองคุณก็คงไม่อยากให้ใครมาทำแบบนี้เหมือนกัน เราทราบดีค่ะ เพราะฉะนั้นใจเขาใจเรานะคะ ขอแค่คำแนะนำ และการช่วยเหลือ ขอโทษที่ต้องพิมพ์ไว้แบบนี้ แต่เราไม่อยากอ่านคอมเม้นต์แล้วเบะปากเพราะคำตำหนิของคนที่ไม่รู้จักกันค่ะ ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะ*