เคยสงสัยไหมคะ ทำไมpeter jackson ได้ทำ Lord of the ring

ที่สงสัยเพราะหนังทุนสูง ไตรภาค
สตูดิโอยักษใหญ่คงไม่มองผกกเล็กๆ
ให้มาทำ

ไม่ใช่ไม่ชอบเค้านะคะ.  แต่ผลงานเค้าก่อน
มีfrighteners ทีโอคะ

ถ้าไม่ได้เค้า.   ผลงานขั้นเทพแบบ. lotr
กับ hobbit.  king kong. คงไม่เกิดแน่ๆคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
หลังจากสร้างชื่อจากหนัง Heavenly Creatures ก็มีหลายสตูอิเสนอโปรเจคให้
จนมาได้ทำ The Frighteners ซึ่งสตูดิโอ WETA ก็ได้โชว์ผลงานจากสองเรื่องนี้นี่แหละ
รวมถึง Universal จ้างให้ Peter มารีเมค King Kong แต่โปรเจคก็โดนพับไว้ (ไม่ทราบสาเหตุ)

จนเป็นตัว Peter Jackson เองนี่แหละครับ ที่ชนะประมูลและได้ถือครองลิขสิทธิ์ TLOTR
แล้วนำไปเสนอกับ Miramax ของเจ้าพอสตูโออย่าง Bob & Harvey Weinstein
โดยตอนแรก Perter เสนอให้ทำหนังออกมาเป็นสองภาค (รู้สึกว่าเรื่องบท กับ production design จะพัฒนาไปได้ระดับหนึ่งแล้ว)
แต่ถูกบีบเรื่องเวลาและขอให้ทำออกเป็นหนังภาคเดียวเท่านั้น

Peter เลยเอาโปรเจคไปเสนอกับ New Line (ซึ่งตอนนั้นก็เริ่มออกอาการร่อแร่และกำลังหาโปรเจคชุปชีวิต)
ลูกพี่ New Line เห็นโอกาส เลยถาม Peter ว่า หนังสือมันมีสามเล่มนะ ทำไมทำแค่สองภาคล่ะ
ทำเป็นสามภาคไปเลย แล้วเอาทุนไปภาคละ 100 ล้าน US (สมัยนั้นหนังทุน 100 ล้าน ต่อ เรื่อง ถือว่าสูงมาก)
Peter ได้ยินเข้าก็รีบเก็บเสื้อผ้ามาเข้าบ้าน New Line แทบไม่ทันเลยครับ
(ในเครดิตหนังจะสังเกตเห็นได้วา่ ยังคงมีชื่อของ Weinsteins เป็น Exec-producer อยู่)

ตอนนั้นถือว่า New Line กล้าเสี่ยงมากๆ มีคนรอหนังล้มแล้วกระทืบซ้ำเพียบ หนังแฟนตาซีที่ทำจากหนังสือที่อ่านยากมากๆ เนี่ยนะ?
(ถ้าใครอ่านหนังสือจะทราบดี JRR บรรยายทุกอย่างจริงๆ บรรยายกระทั่งใบไม้ รากไม้)
แต่ Perter Jackson ก็ทำสำเร็จอย่างที่ทราบกัน

หลังจาก TLOTR ประสบความสำเร็จเป็นพันล้าน Universal ก็ตามมาง้อ Perter ให้ไปช่วยทำ King Kong อีกครั้ง

เท่าที่ผมทราบก็ประมาณนี้ครับ

ป.ล. แต่สุดท้าย New Line ก็เจ๊งอยู่ดีอ่ะนะ เค้าล้อเล่น
ความคิดเห็นที่ 9
เราเคยอ่านเบื้องหลังในการถ่ายทำเรื่อง LOTR เรานับถือปีเตอร์มากนะ คือเราว่าเขาทุ่มเทและอยากทำมากจริง ๆ LOTR แบ่งเป็นสามภาค แต่เวลาเซ็ตฉากหรือถ่ายทำ การทำงานต้องทำไปพร้อม ๆ กัน บางขณะที่ถ่ายภาคแรกอยู่ก็ต้องคิดไปไกล ๆ ถึงภาคสองภาคสามว่าจะเอายังไง แล้วทีมงานต่าง ๆ ก็มาถามแกนั่นแหละ เพราะแกกำกับ ว่ารายละเอียดจะเป็นแบบไหน เรียกว่าหัวสมองนี่ไม่ได้พักเลย แกก็เล่าให้ฟังว่า บางวันกลับบ้านมานอนเหนื่อยมาก แต่พอเหนื่อยก็จะถามตัวเองว่า "มีอะไรที่อยากทำมากกว่าที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้อยู่ตอนนี้ไหม?" พอคำตอบที่ได้คือ "ไม่มี" แกก็คิดว่าไม่รู้จะท้อทำไม เพราะนี่คือสิ่งที่อยากทำ เราปลื้มมาก จำไว้เวลาทำอะไรแล้วเหนื่อย ๆ ท้อ ๆ เก็บไว้ถามตัวเองเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 5
ปีเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจกับโปรเจคต์นี้มาก
ขนาดไปซื้อลิขสิทธิ์มาเอง และมี พอร์ทฟอลิโอ้ ที่แน่นปึ๊ก
ตอนเสนอ สถานที่ เอฟเฟกต์ ดีไซน์ ทีมงาน ทุกอย่างมีพร้อม
หากอนุมัติก็พร้อมดำเนินงานได้เลยทันที

ส่วนทุนสร้างภาคละ 100 ล้าน อาจจะดูเหมือนเยอะในยุคนั้น
แต่ถ้าเทียยบกับงานที่ออกมา ถือว่าใช้เงินอย่างคุ้มค่ามาก
ถ้าเป็นทีมมงานอื่นสร้าง ให้ได้งานแบบ ปีเตอร์
ดีไม่ดีงบไปถึง 200-300 ล้านต่อภาคก็ได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่