Sun -flour

กระทู้สนทนา
เรื่องราวของพวกเขา
-----------------------------------------


เป็นช่วงเวลาที่นานเพียงใดก็ไม่อาจรู้ได้ สำหรับเขาที่เฝ้ามองเธอเสมอมา


อาจจะตั้งแต่วันแรกที่เขามีลมหายใจ

หรือตั้งแต่วันแรกที่เขาถูกกำหนดให้มีรูปร่าง มีตัวตนขึ้นมา

หรืออาจจะตั้งแต่วันแรกที่บรรพบุรุษผู้สร้างเขาได้เกิดขึ้นมาบนโลกนี้

หรืออาจจะตั้งแต่วันแรกที่มนุษย์รู้จักการใช้ไฟก็เป็นได้


แต่ไม่ว่าเขาจะใช้เวลาเฝ้ามองเธอนานเพียงไหน

และไม่ว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ในการเฝ้ามองเธอต่อไป

เขารู้เพียงว่า เขาทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่ฝ่ายเดียวอย่างนี้...

อย่างไร้ตัวตนเยี่ยงนี้เท่านั้นแหละ


เขาไม่เคยเสียใจที่ความรักของเขาไม่เคยมีใครเห็น

เขาเองก็ไม่เคยเสียใจที่แม้แต่ตัวตนของเขาก็อาจจะไม่ได้มีตัวตนอยู่ด้วยซ้ำ

ในโลกของเธอที่มีแต่การแหงนขึ้นมามองบน

อย่างไรเล่าที่เธอจะมองหันหลังมามองตัวตนเล็ก ๆ และไร้ค่าอย่างเขาได้

แต่นั่นก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะสำหรับเขาแล้ว

การที่ได้เห็นแม้แต่ด้านหลังของเธอในระยะไกล

ก็ยังดีกว่าไม่สามารถมองเห็นเธอได้เลย


เขาแค่เพียงเสียใจ ในวันที่ฟ้าร้องไห้และเธอต้องเปียกปอนอยู่ข้างนอกนั่น

เขาเห็นและจดจำภาพเหล่านั้นได้ดี ภาพที่เธอโดดเดี่ยว เปียกโชก

ฝืนประคองร่างตัวเองไว้ใต้เม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย

ไม่เงยหน้ามองฟ้าอย่างเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นอย่างที่เธอมักเป็น

ภาพที่ไม่มีเขาเคียงข้าง คอยปลอบโยนให้เธอได้ลุกขึ้นกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง

ภาพที่ไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง ในยามที่เธออ้างว้างและเหน็บหนาวที่สุด

เขาได้แต่เฝ้ามองเธอ ยื่นมือที่เธอไม่อาจมองเห็นเข้าไปโอบกอดเธอ...

โอบกอดเธอเพียงในใจ


หากแล้ว การสูญสลายและจากไปของสิ่งรอบข้าง ก็ทำให้เขาฉุกคิดได้ว่า

ชีวิตนั้นสั้นยิ่งนัก ความรู้สึกที่เขามีวันนี้

อาจจะต้องตายไปกับตัวเขาเมื่อไหร่ก็ได้หากไม่ได้บอกให้เธอได้รับรู้

และความรู้สึกทั้งหมดเหล่านั้นของเขาก็จะกลายเป็นสูญเปล่าและไร้ค่า

...สูญเปล่าและไร้ค่ายิ่งกว่าตัวเขาที่ทำได้แต่เฝ้ามองเธออยู่อย่างนี้


แต่เขาจะทำอย่างไรเพื่อให้เธอได้ยิน

ได้รับรู้ความรู้สึกและเรื่องราวอันงดงามทั้งหลายที่เขาได้แต่เก็บไว้กับตัวเขาเองได้เล่า

ในเมื่อเธอไม่เคยแม้แต่จะหันมามอง

ไม่เคยแม้แต่จะรับรู้ในตัวตนของเขาที่เฝ้ามองเธออยู่เสมอมาและเสมอไป


ยิ่งเวลาแห่งการครุ่นคิดผ่านไปเท่าไหร่

ยิ่งเขาต้องทนเห็นเธอเปียกปอนและเปลี่ยวเหงามากเท่าไหร่

และยิ่งเขาต้องทนมองเธอจากระยะไกลอย่างไร้ตัวตนอย่างนี้มากเท่าไหร่

เขาก็ยิ่งรู้ว่าความทุกข์ทรมานที่ไม่อาจปลอบประคองเธอได้นั้นยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ

ทุกข์ทรมานมากเกินกว่าที่เขาจะทนมองต่อไปได้อีก

และเขาจะทำอะไรได้...

เขาจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้เขาได้รับรู้ตัวตนของเขา

เขาจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้เธอเห็นถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เพาะบ่มอยู่เพียงในใจมานานแสนนาน

และเขาจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้เขาได้อยู่ในโลกของเธอ

โลกแห่งแสงสว่างของเธอ

แสงสว่าง...

แสงสว่างที่เธอเอาแต่จ้องมอง


เมื่อเธอชอบในแสงสว่างนั้น เขาจะทำให้ตัวเองมีแสงสว่างยิ่งกว่าที่เธอเคยเห็นในโลกของเธอ

ไม่รอช้า เปลวเพลิงลุกโชติช่วงบนหัวของเจ้าไม้ขีด

แม้จะร้อนจนไม่อาจทนไหว

แต่เขาก็เชื่อมั่นว่ามันจะคุ้มค่า

เธอจะมองมา

เธอจะเห็นเขา

และเธอจะยอมรับในความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ


เปลวไฟเผาไล่ลงมาเรื่อย     ๆ

หากไม้ขีดไฟอย่างเขาก็ยังกัดฟันที่จะยืนอย่างตระหง่านด้วยเชื่อในรอยยิ้มที่เขาจะได้เห็น ยามที่เธอเหลียวหลังหันมามองเป็นกำลังใจในการฝืนทน

หากเธอไม่มีวันหันมา…

เถ้าถ่านกองน้อย ๆ ทิ้งร่องรอยไว้ข้างปลักไม้ขีด


-----------------------------------------------------------------------


เขาไม่มีวันได้รับรู้ถึงหยดน้ำตาของเธอที่หลั่งไหลอย่างเงียบงัน

เธอรู้... รู้มาตลอด ว่ามีใครสักคนที่เฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ

และใครคนนั้น รักเธออย่างบริสุทธิ์ใจ

แต่ความรักของเรามันไม่มีวันเป็นไปได้เลย

เธอไม่อาจยอมให้ไม่ขีดไฟตัวกระจ้อยร่อยมาทิ้งอนาคตที่สดใสกับดอกทานตะวันอย่างเธอ

ดอกทานตะวันที่ไม่อาจมีวันรักเขากลับได้ อย่างเธอ...

เธอทำได้เพียงใช้ชีวิตอย่างไม่หันหลังกลับ

เธอทำได้เพียงเฝ้ามองไปยังเบื้องบน

เธอทำได้เพียงใช้ชีวิตอย่างตัวคนเดียวอย่างทระนง

ด้วยหวังว่าวันหนึ่ง เขาจะยอมแพ้และล่าถอยไปเอง

เขาจะนำความรู้สึกที่บริสุทธิ์และมีค่านั้นไปใช้กับคนที่เห็นคุณค่าอย่างจริงใจ

หากเธอไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งที่เธอได้ทำลงไปทั้งหมดนั้น

จะกลายเป็นการเริ่มต้นของจุดจบแก่ผู้ที่รักเธออย่างบริสุทธิ์ใจ

เธอเองก็คงทำได้เพียงกลั่นหยดน้ำตาเพื่อไว้อาลัยแก่การสูญเปล่าแห่งความรัก


แต่จะให้เธอทำเช่นไรได้อีกเล่า เมื่อเธอไม่ได้รักเขาและไม่อาจรักเขาได้ด้วย

เธอรักเพียงแต่พระอาทิตย์

พระอาทิตย์เบื้องบนนั้น สูงขึ้น สูงขึ้นไป

พระอาทิตย์ที่เธอไม่มีวันคู่เคียงกัน

ทุกวัน เธอทำได้เพียงต้อนรับพระอาทิตย์ขึ้นจากเบื้องตะวันออก

เฝ้ามองเขาเคลื่อนไปตามการหมุนแห่งกาลเวลา และส่งเขากลับบ้านในเบื้องทิศตะวันตก


แม้หลายต่อหลายครั้ง แสงอาทิตย์จะแรงจ้าจนแทบจะแผดเผาเธอกลายเป็นจุณ

แต่ความมั่นคงที่เธอมีให้กับพระอาทิตย์ก็ไม่เคยสั่นคลอน

ไม่ว่าฝนจะตกจนหนาวเหน็บ หรือแสงแดดนั้นจะแรงเสียจนแสบไปหมด

เธอก็ยังคงทำหน้าที่แห่งความภักดีอันบริสุทธิ์ เฝ้ามองการขึ้นมาและจากไปแห่งดวงดาวอันทรงคุณค่านั้น


เมื่อยามพายุโหมในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ เธออ้างว้างและเปล่าเปลี่ยว  ทั้งก็ยังย่อท้อต่อแรงลมที่ไม่อาจจะต้านไหว

แต่พระอาทิตย์ เพราะพระอาทิตย์ดวงนี้ ที่ทำให้เธอยังคงสู้ สู้ต่อแรงลม สู้ต่อความอ้างว้าง และสู้ต่อความหนาวเหน็บ

เธอจะยังคงหยั่งรากลึกและประคองลำต้นไว้ไม่ให้หักโค่นไปได้

เพราะเธอรู้เสมอว่า ไม่ว่าคืนนี้จะสาหัสเพียงไหน

ทุก ๆ รุ่งอรุณ พระอาทิตย์จะมาเยือน

ทุก ๆ ช่วงเวลาแห่งวัน พระอาทิตย์จะเคลื่อนไป

และทุก ๆ สนธยาพระอาทิตย์จะจากไป เพียงเพื่อเริ่มการมาเยือนใหม่อีกครั้ง


เธอไม่คิดปรารถนาที่จะได้อยู่เคียงข้างเขา เพราะการจากไปของไม้ขีดไฟก็เป็นบทเรียนที่น่าเศร้าเกินพอแล้วสำหรับจากตายจากของความรักอันบริสุทธิ์

ขอเพียงแค่ได้มองอยู่อย่างนี้ ทุกวันและทุกเวลาเรื่อยไป

ได้เห็นทุกการขึ้นจนถึงจุดที่สูงที่สุดและทุกการตกลงถึงจุดที่ต่ำที่สุดของเขา

ยามที่เขาห่างหายไปก็ได้เฝ้ารอให้เขากลับมา

ได้คิดถึงเขาและมีเขาเป็นพลังใจในวันที่พายุถาโถม

เพียงเท่านั้น ความรักอันบริสุทธิ์ที่เธอมีก็ได้รับการเติมเต็มจนเกินพอแล้วล่ะ

-----------------------------------------------------------------------

ดอกทานตะวันยังคงมองเขาเรื่อยมาจนเขาเองก็เริ่มชาชินเสียแล้ว

การจากไปของไม้ขีดไฟช่างเป็นเรื่องน่าเศร้า หากเขาก็คงไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากเฝ้ามองผู้ลุ่มหลงในความรักจุดไฟเผาตัวเอง

ความรักนั้นมีค่าสักเพียงใดกันนะ ที่เรายอมแลกทั้งชีวิตของตัวเองเพื่อให้ความรักนั้นมีค่าและมีคนเห็นในคุณค่านั้น

ความรักของดอกทานตะวันเอง แม้จะทำให้เขาอึดอัด แต่เขาจะทำเช่นไรได้

เพราะแม้แต่พระอาทิตย์เอง ยังไม่เชื่อมั่นในความรักเลย

เขา “เคย” เชื่อมั่นในความรัก...


ความรักคืออะไร

ความรักคือการมอดไหม้ตัวเองไปเพื่อประกาศตัวตนของความรักแห่งเขา อย่างที่ไม้ขีดไฟเป็น

ความรักคือการเฝ้ามองอย่างไม่มีวันสิ้นสุดและได้แต่เพียงให้ความรักเก็บไว้ที่ตัวเขาเพียงผู้เดียว อย่างดอกทานตะวัน

หรือความรักคือการที่ไม่ต้องอยู่เคียงข้างกัน ไม่แม้แต่จะได้เห็นกันด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ถึงความรู้สึกอันบริสุทธิ์ใจที่มีให้เขาอย่างมั่นคงและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

อย่างความรักของพระอาทิตย์

ความรักที่เคยเป็นของพระอาทิตย์

แม้ในใจเขาอึดอัดและอยากจะตะโกนลงไปบอกดอกทานตะวันมากเพียงใดว่า เขานั้นไม่ได้โพล่ขึ้นจากปลายฟ้าข้างทิศตะวันออก เคลื่อนไปตามกาลหมุนแห่งเวลา และตกลงไปใต้พื้นดินข้างทิศตะวันตก

เพราะในความจริงแล้ว เขาก็เพียงแค่อยู่เฉย ๆ หน้าที่ของเขาคือการหมุนรอบตัวเอง

มีเพียงโลกเท่านั้นแหละ ที่นอกจากจะหมุนรอบตัวเองแล้ว ยังคงหมุนรอบตัวเขาอีกด้วย

ดอกทานตะวันจึงได้มองเห็นเขาทุกวันจนเป็นกิจวัตรที่เขาอึดอัดใจ

และแม้ในใจของเขาเองก็อยากจะตะโกนไปให้ดอกทานตะวันได้ยินว่า เขาและเธอไม่อาจรักกันได้อย่างแน่นอน

เพราะนอกจากเขาจะไม่ได้รักเธอแล้ว เขาเองก็มีอานุภาพที่จะสามารถทำลายเธอให้แหลกละเอียดเป็นเพียงฝุ่นผงได้ด้วยอย่างที่เขาไม่ต้องการ

อานุภาพที่ทำให้เขาสูญเสียความรักของเขาไป


เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงอย่างไม่มีวันดับ แม้ว่าจะเป็นราศีแห่งภาพลักษณ์และอำนาจที่เขามี

แต่ไม่เลย เขาไม่เคยพึงปรารถนามัน

อานุภาพที่เขาได้รับกลับย้อนทำลายล้างคนที่เขารักไปเสียเท่าไหร่แล้ว

และไม่นานนัก มันก็ได้แผดเผาความรู้สึกของเขาไปจนสิ้น


แม้การหมุนรอบตัวเขาของโลกจะทำให้เขาเวียนหัวและเบื่อหน่าย

หากโลกเล็ก ๆ ใบนี้ก็ได้นำพาความรักที่เขาไม่อาจครอบครองได้มาย้ำเตือนถึงการมีอยู่แห่งความรู้สึกของเขา...

ย้ำเตือนว่าครั้งหนึ่ง เขาได้รู้จักกับความรัก


แม้ดอกทานตะวันจะเห็นคุณค่าในการสูงขึ้นและตกลงของเขาในแต่ละวัน ในแต่ละการหมุนรอบตัวเองของโลก

แต่เธอกลับไม่เคยมองเห็นหรือแม้แต่จะใส่ใจต่อคนรักของเขา...  คนที่เขาเคยรักอย่างพระจันทร์เลยอย่างนั้นหรือ

ทั้งที่ตำแหน่ง และเวลาของทั้งคู่เปลี่ยนเวียนกันไปอย่างนั้น

พระอาทิตย์ไม่อาจแม้แต่จะเฝ้ามองการหมุนไปของดวงจันทร์อย่างที่ดอกทานตะวันทำให้เขาด้วยซ้ำ

และเขาเองก็ไม่อาจจุดเพลิงเผาตัวเองเพื่อบูชาความรักอย่างที่ไม้ขีดไฟได้ทำแก่ดอกทานตะวันเสียด้วย

การหมุนตัวแต่ละครั้งของเขา เป็นไปด้วยความเร็วเฉพาะอย่างที่ควรจะเป็น เป็นไปอย่างเชื่องช้า

การพบกันของเขาและคนรักเก่าของเขาจึงเป็นเพียงการบังเอิญที่ได้มาพบเจอกันเพียงชั่วครู่แล้วต้องลาจากกันไป

เขาไม่อาจฉุดรั้งเธอไว้และทำให้เธอต้องมีรอยด่างอย่างที่ได้ทำกับเธอไว้ในครั้งก่อนอีกต่อไปแล้ว


แต่เขาก็รู้ว่า วันหนึ่ง เมื่อจุดสิ้นสุดแห่งพระอาทิตย์มาถึง

วันที่เขาจะตายตามความรู้สึกแห่งรักของเขาไปนั้น

เขาจะเผาผลาญซึ่งทุกสิ่ง

ซึ่งดอกทานตะวัน

ซึ่งเถ้าธุลีแห่งไม้ขีดไฟ

และซึ่งดวงจันทร์ที่เขายังห่วงใยอยู่เสมอ


พระอาทิตย์ทำได้เพียงหมุนรอบตัวเองอย่างแช่มช้าและเศร้าสร้อย

รอคอยวันที่ทุกความรักจะหมดสิ้นไปด้วยตัวของเขาเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่