***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***

กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................


น้องพิมมี่ MC คนสวยจะกลับมาแล้ว คิดถึงมากมาย

วันก่อนเล่าเรื่องตำนานต้นชัยพฤกษ์ วันนี้เป็นดอกทานตะวันบ้าง




เรื่องนี้ยังคงเกี่ยวข้องกับอพอลโลเทพแห่งสุริยะเช่นเดิม ตามตำนานกรีกเล่าว่า...

นางไคลที เป็นธิดาของเทพไทแทนแห่งมหาสมุทร นางอยู่แต่ใต้น้ำ จนวันหนึ่งเกิดพายุคลื่นลมซัดจนนางขึ้นมาบนฝั่ง
ด้วยความที่ไม่เคยขึ้นมาบนบก เห็นอะไรก็สวยงามตื่นตาตื่นใจไปหมด โดยเฉพาะแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเป็นประกาย

นางหลงรักเทพอพอลโลเข้าเต็มเปา ก็แหงล่ะ ฮีทั้งหล่อ เท่ห์ รูปงาม เล่นกีฬาก็ดี เล่นดนตรีก็เพราะ เก่งไปซะทุกอย่าง
ไคลทีเฝ้าแหงนมอง อพอลโลที่ขับรถพระอาทิตย์ให้แสงสว่างแก่โลกตั้งแต่รุ่งเช้าจนตะวันตกดินติดต่อกันหลายวันหลายคืน
ด้วยความหวังว่าอพอลโลจะมองลงมาและรับไมตรีจากนางบ้าง แต่ก็ไม่มีวันนั้น



เทพทั้งหลายพากันเห็นใจนาง อย่ากระนั้นเลยมาช่วยนางกันดีกว่า จึงเสกให้นางรากงอกอยู่ตรงนั้น
ผมสีทองสยายกลายเป็นกลีบทานตะวัน T_T เพื่อให้นางชูดอกหันตามดวงอาทิตย์ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ครือว่า ใครอกหักรักรันทด อย่าไปขอพรทวยเทพกรีกเชียว ไม่ก็จับแขวนเป็นดาวจนนับไม่ไหว ไม่ก็เสกเป็นต้นไม้ใบหญ้าสารพัด

ดอกทานตะวันจึงเป็นสัญลักษณ์ของ "รักจริงใจมั่นคง" หรือ "ชั้นจะรักเธอคนเดียวตลอดไป" หรือ "ซักวัน...ชั้นจะชนะใจเธอ"

.........................................................................

ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน - วิยะดา โกมารกุล ณ นคร

....จุดตัวเอง ก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา เพียงปรารถนา ให้มีลำแสง สีทอง
จุดตัวเอง ก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา เพียงปรารถนา ดอกทานตะวัน หันมอง....



โถๆๆๆ...

ไม้ขีดไฟหลงรักดอกทานตะวันผู้ไม่เคยหันมอง
ดอกทานตะวันหมายปองดวงอาทิตย์ผู้ไม่เคยหันมา
ดวงอาทิตย์ปรารถนาน้ำค้างผู้ไม่เคยได้ใกล้ชิด

มันรักกี่เส้าเนี่ย เอ ยุให้ไม้ขีดไฟเปลี่ยนใจรักดวงอาทิตย์ ส่วนดอกทานตะวันคู่กับเทพีน้ำค้างซะดีไหมเนี่ย