ตัดสินคดีหญิงแย่งลูก
มีหญิง ๒ คนเดินแย่งเด็กผ่านมาทางศาลา ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนั้น มโหสถทราบเรื่องจึงให้พาหญิงสองคนมาพบแล้วให้มีการพิสูจน์ โดยให้ขีดรอยลงที่พื้นดิน แล้วให้วางเด็กขวางที่รอยขีดนั้น จากนั้นให้หญิงคนหนึ่งจับมือเด็กไว้ แล้วให้หญิงอีกคนจับขาเด็กไว้ แล้วบอกให้ทั้งคู่แย่งเด็กกัน ถ้าใครแย่งได้ถือว่าเป็นแม่ที่แท้จริง
ครั้นตกลงกันได้อย่างนี้แล้ว มโหสถก็สั่งให้หญิงทั้ง ๒ คนนั้นแย่งเด็กกัน หญิง ๒ คนต่างฝ่ายต่างดึงกันไปดึงกันมา จนเด็กทนเจ็บไม่ไหวร้องไห้จ้า พอได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เช่นนั้น หญิงคนที่จับเท้าก็รีบปล่อยมือทันทีเพราะรู้สึกสงสารเด็ก ฝ่ายหญิงคนที่จับมือไม่ยอมปล่อย
มโหสถจึงตัดสินทันทีว่า หญิงคนที่รับปล่อยเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องคือแม่ที่แท้จริงของเด็ก เพราะอาศัยความรู้สึกที่ว่า ธรรมดาหญิงที่เป็นแม่นั้นย่อมมีหัวใจอ่อนโยน และความจริงก็เป็นเช่นนั้น เพราะหญิงที่ไม่ยอมปล่อยเด็กนั้นแท้จริงก็คือนางยักษิณีปลอมมา
ที่ยกชาดกเรื่องนี้มาเพราะเห็นว่า การแย่งที่จะเป็นผู้ถูกต้องในพระธรรมวินัย ช่างคล้ายคลึงกับคดีแย่งลูก
ท่านนายกลุงตู่ บอกให้ดีเบต ทำเอาผมงง เพราะยิ่งดีเบตยิ่งขยายความขัดแย้ง
พึ่งมาเข้าใจว่าท่านใช้กลวิธีแบบพระมโหสถนี่เอง
ในการจะให้ดีเบต พวกหนึ่งกระเหี้ยนกระหือรือจะเอาชนะ ด้วยมั่นใจต่อความสามารถในการพูดจึงยิ้มร่ารอวันดีเบต
ขณะที่อีกฝ่ายกลัวพระศาสนาจะมีความแตกแยกจึงขอยุติไม่ดีเบตด้วย ยอมถูกเย้ยหยันว่าแพ้ สู้ไม่ได้
ท่านนายกลุงตู่นี่คมจริงๆ แค่ เสนอดีเบตทีเดียว ก็แยกออกทันที
ใครพระ ใครยักษ์จำแลงมา
ใครรักพระศาสนา ใครคิดฉวยประโยชน์จากพระศาสนา
อย่างนี้เรียกว่า ยอดฝีมือ ไม่ใช่หรือ
-ลมธรรม-
มโหสถชาดก เวอร์ชั่นแย่งความถูกต้องของพระศาสนา
มีหญิง ๒ คนเดินแย่งเด็กผ่านมาทางศาลา ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนั้น มโหสถทราบเรื่องจึงให้พาหญิงสองคนมาพบแล้วให้มีการพิสูจน์ โดยให้ขีดรอยลงที่พื้นดิน แล้วให้วางเด็กขวางที่รอยขีดนั้น จากนั้นให้หญิงคนหนึ่งจับมือเด็กไว้ แล้วให้หญิงอีกคนจับขาเด็กไว้ แล้วบอกให้ทั้งคู่แย่งเด็กกัน ถ้าใครแย่งได้ถือว่าเป็นแม่ที่แท้จริง
ครั้นตกลงกันได้อย่างนี้แล้ว มโหสถก็สั่งให้หญิงทั้ง ๒ คนนั้นแย่งเด็กกัน หญิง ๒ คนต่างฝ่ายต่างดึงกันไปดึงกันมา จนเด็กทนเจ็บไม่ไหวร้องไห้จ้า พอได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เช่นนั้น หญิงคนที่จับเท้าก็รีบปล่อยมือทันทีเพราะรู้สึกสงสารเด็ก ฝ่ายหญิงคนที่จับมือไม่ยอมปล่อย
มโหสถจึงตัดสินทันทีว่า หญิงคนที่รับปล่อยเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องคือแม่ที่แท้จริงของเด็ก เพราะอาศัยความรู้สึกที่ว่า ธรรมดาหญิงที่เป็นแม่นั้นย่อมมีหัวใจอ่อนโยน และความจริงก็เป็นเช่นนั้น เพราะหญิงที่ไม่ยอมปล่อยเด็กนั้นแท้จริงก็คือนางยักษิณีปลอมมา
ที่ยกชาดกเรื่องนี้มาเพราะเห็นว่า การแย่งที่จะเป็นผู้ถูกต้องในพระธรรมวินัย ช่างคล้ายคลึงกับคดีแย่งลูก
ท่านนายกลุงตู่ บอกให้ดีเบต ทำเอาผมงง เพราะยิ่งดีเบตยิ่งขยายความขัดแย้ง
พึ่งมาเข้าใจว่าท่านใช้กลวิธีแบบพระมโหสถนี่เอง
ในการจะให้ดีเบต พวกหนึ่งกระเหี้ยนกระหือรือจะเอาชนะ ด้วยมั่นใจต่อความสามารถในการพูดจึงยิ้มร่ารอวันดีเบต
ขณะที่อีกฝ่ายกลัวพระศาสนาจะมีความแตกแยกจึงขอยุติไม่ดีเบตด้วย ยอมถูกเย้ยหยันว่าแพ้ สู้ไม่ได้
ท่านนายกลุงตู่นี่คมจริงๆ แค่ เสนอดีเบตทีเดียว ก็แยกออกทันที
ใครพระ ใครยักษ์จำแลงมา
ใครรักพระศาสนา ใครคิดฉวยประโยชน์จากพระศาสนา
อย่างนี้เรียกว่า ยอดฝีมือ ไม่ใช่หรือ
-ลมธรรม-