ข่าวใหญ่พาดหัว นสพ.
“...ปปง.มีมติคืนรถหรูลัมโบร์กินีให้ "บอย-ปกรณ์" ระบุซื้อต่อจากผู้ต้องหาลักทรัพย์ สจล.โดยสุจริต "สีหนาท" ยันมิได้พิจารณาเพราะเป็นบุคคลมีชื่อเสียง จะใช้เป็นบรรทัดฐานในคดีอื่น…”
“บอย-ปกรณ์” ซื้อรถหรู มีเอกสารแสดงถูกต้อง แต่ไม่รู้ว่ารถคันดังกล่าวมาจากการ “ลักทรัพย์”
ปปง.เห็นว่า ดาราคนดังไม่มีเจตนา “รับของโจร” เนื่องจากซื้อเพราะมีเอกสารแสดงถูกต้อง แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป จึงเข้าข่าย “ซื้อรถหรูโดยสุจริต”
ผลคือ “ รอด…..”
“สมเด็จช่วง” รับถวายรถโบราณจากลูกศิษย์ โดยไม่รู้ที่มาที่ไป รู้แต่ว่า.. เป็นซากรถเก่า มีเอกสารแสดงถูกต้อง
และ รถคันนี้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการขับขี่ นอกจากแสดงในพิพิธภัณฑ์ของเก่า วัดปากน้ำ
(เมื่อโยมเอาสิ่งของมาถวาย เพื่อให้เก็บไว้แสดงในพิพิธภัณฑ์ พระก็ต้องรับถวาย...)
DSI กับ ปปง.จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับ บอย-ปกรณ์ “ดารารับของโจร” หรือไม่ ....???
อีกไม่นาน รู้กัน....
รถหรู ของดารา กับ สมเด็จช่วง
ข่าวใหญ่พาดหัว นสพ.
“...ปปง.มีมติคืนรถหรูลัมโบร์กินีให้ "บอย-ปกรณ์" ระบุซื้อต่อจากผู้ต้องหาลักทรัพย์ สจล.โดยสุจริต "สีหนาท" ยันมิได้พิจารณาเพราะเป็นบุคคลมีชื่อเสียง จะใช้เป็นบรรทัดฐานในคดีอื่น…”
“บอย-ปกรณ์” ซื้อรถหรู มีเอกสารแสดงถูกต้อง แต่ไม่รู้ว่ารถคันดังกล่าวมาจากการ “ลักทรัพย์”
ปปง.เห็นว่า ดาราคนดังไม่มีเจตนา “รับของโจร” เนื่องจากซื้อเพราะมีเอกสารแสดงถูกต้อง แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป จึงเข้าข่าย “ซื้อรถหรูโดยสุจริต”
ผลคือ “ รอด…..”
“สมเด็จช่วง” รับถวายรถโบราณจากลูกศิษย์ โดยไม่รู้ที่มาที่ไป รู้แต่ว่า.. เป็นซากรถเก่า มีเอกสารแสดงถูกต้อง
และ รถคันนี้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการขับขี่ นอกจากแสดงในพิพิธภัณฑ์ของเก่า วัดปากน้ำ
(เมื่อโยมเอาสิ่งของมาถวาย เพื่อให้เก็บไว้แสดงในพิพิธภัณฑ์ พระก็ต้องรับถวาย...)
DSI กับ ปปง.จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับ บอย-ปกรณ์ “ดารารับของโจร” หรือไม่ ....???
อีกไม่นาน รู้กัน....