ถ้าดูเหมือนตั้งหลายกระทู้ต้องขออภัย เพราะกระทู้ก่อนหน้าเราเป็นกระทู้คำถาม(ตอนเราเกิดเรื่อง) แต่กระทู้นี้คือข้อมูลทั้งหมด และข้อผิดพลาดที่เราได้เรียนรู้มา คิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังเดือดร้อนได้ค่ะ
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (http://ppantip.com/topic/34805165) ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอ่านก็ได้ค่ะ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจขกท ส่วนกระทู้นี้คือข้อแนะนำที่สรุปมาให้แล้วเอาไว้อ้างอิงเพื่อแก้ปัญหาได้ค่ะ หากใครโดนอย่างจขกท ยาวไปแต่ละเอียดยิบเท่าที่เราจำได้เลยค่ะ หากผิดตรงไหน หรือใครมีอะไรเพิ่มเติมช่วยกรุณาโพสบอกนะคะ จะได้แก้ไขให้เป็นประโยชน์ในการอ้างอิงต่อๆไป
เบอร์โทรที่สำคัญ ขอแสดงความขอบคุณอย่างที่สุดมา ณ ที่นี้ด้วยสำหรับจนท.ทุกคนที่เราโทรไปปรึกษา และให้ข้อมูลมาอย่างดี
1506 สายด่วนประกันสังคม
1546 สายด่วนคุ้มครองแรงงาน
02-2351500 ศาลแรงงานกลาง
คุณ นิไรมล และ คุณสุธิรา "เจ้าหน้าที่กลุ่มบลู" ที่ช่วยแนะนำและให้กำลังใจ ขอบคุณมากๆค่ะ
วิธีแก้ปัญหา และปกป้องผลประโยชน์ มีดังนี้ค่ะ
1. ทุกครั้งที่ถูกเรียกพบ เพื่อพูดคุยให้แอบบันทึกเสียงไว้ ใช้มือถือก็ได้
ห้าม อย่างเด็ดขาดไม่ให้เซ็นเอกสารยินยอมใดๆทั้งสิ้น ข้องใจอะไรบอกปัดเค้าไปก่อนว่าพรุ่งนี้เซ็น แล้วกลับมาโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานก่อน 1546
2. ตามกฏหมาย ถ้าเราถูกไล่ออก โดยไม่ได้ทำผิด(ตามมาตรากฏหมาย) สิ่งที่เราจะได้รับ คือสิทธิ ข้อ 2.1 , 2.2 , 2.3 , 2.4 , 2.5.1
ถ้าเราลาออกเอง ไม่ว่าจะถูกบีบให้เซ็น หรือ เขียนใบลาออกเอง สิ่งที่เราจะได้รับ คือสิทธิ ข้อ 2.3 และ 2.5.1 เท่านั้นค่ะ
สิทธิประโยชน์ และความช่วยเหลือต่างๆที่เราจะได้
ส่วนที่นายจ้างต้องจ่าย
2.1 ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้าง - นับตามอายุงาน รายละเอียดอ่านตามลิ้งนะคะ มันยาว
http://www.pattanakit.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=525441&Ntype=136
2.2 ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า หรือ ค่าตกใจ - นับจากวันที่แจ้งไล่เราออก ไปจนถึงงวดหน้าของเงินเดือน (เช่น ของเราคือวันที่ 16 ก.พ - 31 มีค. เพราะเงินเดือนเราออกทุกวันสุดท้ายของเดือน เค้าไล่เราออกวันที่ 16/2 )
2.3 ค่าแรงในวันทำงานที่เราทำไปแล้ว [ (30 วัน - วันที่เหลือของเดือนหลังจากถูกไล่ออก) x (เงินเดือน / 30 วัน) - 5% ประกันสังคม) ของเราคิดแบบนี้เพราะแต่ละเดือนจำนวนวันไม่เท่ากันค่ะ โดยเฉพาะของเราเป็นเดือนกุมภา
2.4 **ส่วนนี้เป็นค่าเสียหายพิเศษ** ที่มีบางคนฟ้องร้องเพิ่มเติมกับศาลแรงงาน ได้เท่าไหร่ไม่การันตี และอาจได้ไม่คุ้มค่าเสียเวลา แต่จะได้ความสะใจเป็นหลัก
ส่วนที่ช่วยเหลือจากประกันสังคม (รายละเอียด หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆมีอีก โทรถามสายด่วน 1506 เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลละเอียดมาก และสุภาพมากๆด้วย)
2.5 เงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน - ทุกเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน แยกเป็น 2 กรณี
2.5.1.) โดนไล่ออก - ได้ 50% ของเงินเดือน โดยสูงสุดคิดไม่เกิน 15,000 (เช่น เราเงินเดือน 16,000 แต่เค้าจะนับจาก 50% ของ 15,000)
**
สำคัญ เพราะเราพลาดตรงนี้ ** ไล่ออกไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือ เป็นลายลักษณ์อักษร โดยวาจาที่ว่า ต้องพิสูจน์ได้(เทปที่เราบันทึกช่วยได้)
ข้อที่ต้องระวัง หากเราไม่มีหลักฐาน แล้วเรากลับบ้านไป พอ 3 วันให้หลัง ถ้าเจ้านายเราชั่วพอ เค้าจะบอกว่าเราขาดงานเกิน 3 วัน ถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าสามารถไล่เราออกได้อย่างถูกกฏหมาย ซึ่งในกรณีนี้ เราจะสูญทุกอย่างเลย (สูญสิทธิ ในข้อ 2.1 , 2.2 , 2.4 ,2.5.1 แต่จะได้
2.5.2 เพียงอย่างเดียว) เพราะงั้นสิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรก พอเค้าไล่ออกด้วยวาจาปุ๊บ ให้ตรงไปที่สำนักงานคุ้มครองแรงงานในเขตเราที่ใกล้ที่สุด แล้วแจ้งเจ้าพนักงานเลยว่าเราถูกไล่ออกด้วยวาจา ตรงนี้เราใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องได้
2.5.2.) เราเขียนใบลาออกเอง - ได้ 30% ของเงินเดือน โดยสูงสุดคิดจากฐานไม่เกิน 15,000
(อันนี้จะsensitive นิดหนึ่ง) ถ้าเราเขียนใบลาออกเองหรือเซ็นต์รับรู้ ไม่ว่าจะยินยอม หรือถูกบีบ(ไม่ยินยอม) กฏหมายจะเหมารวมกันว่า "เรายินดีลาออก" แล้วเราจะไม่ได้สิทธิในข้อ 2.1 , 2.2 , 2.4 ,2.5.1 แต่จะได้
2.5.2 เพียงอย่างเดียว
2.6 ในกรณีท้องแล้วเราโดนไล่ออก สิทธิจากประกันสังคมจะคุ้มครองแค่ 6 เดือน แต่ ให้เรายื่นเป็นผู้ประกันตนเอง โดยจ่ายเพียงไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน แต่การคุ้มครองและสิทธิประโชยน์ดีมาก โทรคุยกับเจ้าหน้าที่นะคะ ช่วยได้มากจริงๆ ตอบคำถามไม่มีอิดออดเลย
ในกรณีของคนท้องกฏหมายคุ้มครองเราอยู่ เค้าไม่มีสิทธิ์ไล่เราออก ไม่มีสิทธิ์ลดเงินเดือนเรา สามารถย้ายตำแหน่งรับผิดชอบได้ แต่เงินเท่าเดิม เพราะงั้นถ้าเค้าให้เซ็นยินยอมอะไรห้ามทำเด็ดขาด (เราไม่ยอมเซ็นอะไรเลย) สิ่งที่เราพลาดคือ เราไม่รู้เรื่องการไล่ออกด้วยวาจา ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่เราคุยด้วยคิดไปถึงเรื่องนี้เราเลยไม่มีข้อมูลตรงนี้ เราได้แต่กลัวว่าจะไม่มี "จดหมายไล่ออก" หรือ "จดหมายลาออก" ไปแสดงแล้วการไล่ออกจะไม่เป็นผล อีกอย่างเราไม่คิดว่าเค้าจะร้ายกาจขนาดนั้นเพราะเค้ายอมตกลงกับเราแล้ว พูดจาดีว่า "ไม่อยากจบกันแย่แบบนี้ สิ่งที่เราขอเป็นครั้งสุดท้ายเค้าจะให้ เราอยู่กันอย่างพี่น้องมาตลอด" อย่าโง่หลงเชื่อค่ะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เราพลาดเองตรงนี้ เราคิดว่าหากเค้ายอมจ่าย 3 เดือนเราจะจบเรื่องโดยไม่ต้องไปฟ้องร้องกัน ซึ่งจริงๆแล้วเราฟ้องร้องได้มากกว่าด้วย (บวกสิทธิทุกอย่างและจากประกันสังคมแล้วคุ้มกว่าให้เค้าโขกสับเดือนละ 1,2000 ค่ะ)
จำตัวอย่างเรื่องเราไว้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ หากมันจะช่วยเดือนสติใครได้เราจะดีใจมากๆ ไม่อยากให้คนท้องคนอื่นต้องมาเจออะไรแย่ๆแบบนี้
ข้อมูล คำแนะนำ เบอร์ติดต่อช่วยเหลือ สำหรับลูกจ้าง ที่โดนเลิกจ้าง (หรือ ท้องแล้วโดน**บีบให้ลาออก**)
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอ่านก็ได้ค่ะ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจขกท ส่วนกระทู้นี้คือข้อแนะนำที่สรุปมาให้แล้วเอาไว้อ้างอิงเพื่อแก้ปัญหาได้ค่ะ หากใครโดนอย่างจขกท ยาวไปแต่ละเอียดยิบเท่าที่เราจำได้เลยค่ะ หากผิดตรงไหน หรือใครมีอะไรเพิ่มเติมช่วยกรุณาโพสบอกนะคะ จะได้แก้ไขให้เป็นประโยชน์ในการอ้างอิงต่อๆไป
เบอร์โทรที่สำคัญ ขอแสดงความขอบคุณอย่างที่สุดมา ณ ที่นี้ด้วยสำหรับจนท.ทุกคนที่เราโทรไปปรึกษา และให้ข้อมูลมาอย่างดี
1506 สายด่วนประกันสังคม
1546 สายด่วนคุ้มครองแรงงาน
02-2351500 ศาลแรงงานกลาง
คุณ นิไรมล และ คุณสุธิรา "เจ้าหน้าที่กลุ่มบลู" ที่ช่วยแนะนำและให้กำลังใจ ขอบคุณมากๆค่ะ
วิธีแก้ปัญหา และปกป้องผลประโยชน์ มีดังนี้ค่ะ
1. ทุกครั้งที่ถูกเรียกพบ เพื่อพูดคุยให้แอบบันทึกเสียงไว้ ใช้มือถือก็ได้ ห้าม อย่างเด็ดขาดไม่ให้เซ็นเอกสารยินยอมใดๆทั้งสิ้น ข้องใจอะไรบอกปัดเค้าไปก่อนว่าพรุ่งนี้เซ็น แล้วกลับมาโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานก่อน 1546
2. ตามกฏหมาย ถ้าเราถูกไล่ออก โดยไม่ได้ทำผิด(ตามมาตรากฏหมาย) สิ่งที่เราจะได้รับ คือสิทธิ ข้อ 2.1 , 2.2 , 2.3 , 2.4 , 2.5.1
ถ้าเราลาออกเอง ไม่ว่าจะถูกบีบให้เซ็น หรือ เขียนใบลาออกเอง สิ่งที่เราจะได้รับ คือสิทธิ ข้อ 2.3 และ 2.5.1 เท่านั้นค่ะ
สิทธิประโยชน์ และความช่วยเหลือต่างๆที่เราจะได้
ส่วนที่นายจ้างต้องจ่าย
2.1 ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้าง - นับตามอายุงาน รายละเอียดอ่านตามลิ้งนะคะ มันยาวhttp://www.pattanakit.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=525441&Ntype=136
2.2 ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า หรือ ค่าตกใจ - นับจากวันที่แจ้งไล่เราออก ไปจนถึงงวดหน้าของเงินเดือน (เช่น ของเราคือวันที่ 16 ก.พ - 31 มีค. เพราะเงินเดือนเราออกทุกวันสุดท้ายของเดือน เค้าไล่เราออกวันที่ 16/2 )
2.3 ค่าแรงในวันทำงานที่เราทำไปแล้ว [ (30 วัน - วันที่เหลือของเดือนหลังจากถูกไล่ออก) x (เงินเดือน / 30 วัน) - 5% ประกันสังคม) ของเราคิดแบบนี้เพราะแต่ละเดือนจำนวนวันไม่เท่ากันค่ะ โดยเฉพาะของเราเป็นเดือนกุมภา
2.4 **ส่วนนี้เป็นค่าเสียหายพิเศษ** ที่มีบางคนฟ้องร้องเพิ่มเติมกับศาลแรงงาน ได้เท่าไหร่ไม่การันตี และอาจได้ไม่คุ้มค่าเสียเวลา แต่จะได้ความสะใจเป็นหลัก
ส่วนที่ช่วยเหลือจากประกันสังคม (รายละเอียด หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆมีอีก โทรถามสายด่วน 1506 เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลละเอียดมาก และสุภาพมากๆด้วย)
2.5 เงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน - ทุกเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน แยกเป็น 2 กรณี
2.5.1.) โดนไล่ออก - ได้ 50% ของเงินเดือน โดยสูงสุดคิดไม่เกิน 15,000 (เช่น เราเงินเดือน 16,000 แต่เค้าจะนับจาก 50% ของ 15,000)
** สำคัญ เพราะเราพลาดตรงนี้ ** ไล่ออกไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือ เป็นลายลักษณ์อักษร โดยวาจาที่ว่า ต้องพิสูจน์ได้(เทปที่เราบันทึกช่วยได้) ข้อที่ต้องระวัง หากเราไม่มีหลักฐาน แล้วเรากลับบ้านไป พอ 3 วันให้หลัง ถ้าเจ้านายเราชั่วพอ เค้าจะบอกว่าเราขาดงานเกิน 3 วัน ถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าสามารถไล่เราออกได้อย่างถูกกฏหมาย ซึ่งในกรณีนี้ เราจะสูญทุกอย่างเลย (สูญสิทธิ ในข้อ 2.1 , 2.2 , 2.4 ,2.5.1 แต่จะได้ 2.5.2 เพียงอย่างเดียว) เพราะงั้นสิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรก พอเค้าไล่ออกด้วยวาจาปุ๊บ ให้ตรงไปที่สำนักงานคุ้มครองแรงงานในเขตเราที่ใกล้ที่สุด แล้วแจ้งเจ้าพนักงานเลยว่าเราถูกไล่ออกด้วยวาจา ตรงนี้เราใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องได้
2.5.2.) เราเขียนใบลาออกเอง - ได้ 30% ของเงินเดือน โดยสูงสุดคิดจากฐานไม่เกิน 15,000
(อันนี้จะsensitive นิดหนึ่ง) ถ้าเราเขียนใบลาออกเองหรือเซ็นต์รับรู้ ไม่ว่าจะยินยอม หรือถูกบีบ(ไม่ยินยอม) กฏหมายจะเหมารวมกันว่า "เรายินดีลาออก" แล้วเราจะไม่ได้สิทธิในข้อ 2.1 , 2.2 , 2.4 ,2.5.1 แต่จะได้ 2.5.2 เพียงอย่างเดียว
2.6 ในกรณีท้องแล้วเราโดนไล่ออก สิทธิจากประกันสังคมจะคุ้มครองแค่ 6 เดือน แต่ ให้เรายื่นเป็นผู้ประกันตนเอง โดยจ่ายเพียงไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน แต่การคุ้มครองและสิทธิประโชยน์ดีมาก โทรคุยกับเจ้าหน้าที่นะคะ ช่วยได้มากจริงๆ ตอบคำถามไม่มีอิดออดเลย
ในกรณีของคนท้องกฏหมายคุ้มครองเราอยู่ เค้าไม่มีสิทธิ์ไล่เราออก ไม่มีสิทธิ์ลดเงินเดือนเรา สามารถย้ายตำแหน่งรับผิดชอบได้ แต่เงินเท่าเดิม เพราะงั้นถ้าเค้าให้เซ็นยินยอมอะไรห้ามทำเด็ดขาด (เราไม่ยอมเซ็นอะไรเลย) สิ่งที่เราพลาดคือ เราไม่รู้เรื่องการไล่ออกด้วยวาจา ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่เราคุยด้วยคิดไปถึงเรื่องนี้เราเลยไม่มีข้อมูลตรงนี้ เราได้แต่กลัวว่าจะไม่มี "จดหมายไล่ออก" หรือ "จดหมายลาออก" ไปแสดงแล้วการไล่ออกจะไม่เป็นผล อีกอย่างเราไม่คิดว่าเค้าจะร้ายกาจขนาดนั้นเพราะเค้ายอมตกลงกับเราแล้ว พูดจาดีว่า "ไม่อยากจบกันแย่แบบนี้ สิ่งที่เราขอเป็นครั้งสุดท้ายเค้าจะให้ เราอยู่กันอย่างพี่น้องมาตลอด" อย่าโง่หลงเชื่อค่ะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เราพลาดเองตรงนี้ เราคิดว่าหากเค้ายอมจ่าย 3 เดือนเราจะจบเรื่องโดยไม่ต้องไปฟ้องร้องกัน ซึ่งจริงๆแล้วเราฟ้องร้องได้มากกว่าด้วย (บวกสิทธิทุกอย่างและจากประกันสังคมแล้วคุ้มกว่าให้เค้าโขกสับเดือนละ 1,2000 ค่ะ)
จำตัวอย่างเรื่องเราไว้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ หากมันจะช่วยเดือนสติใครได้เราจะดีใจมากๆ ไม่อยากให้คนท้องคนอื่นต้องมาเจออะไรแย่ๆแบบนี้