"ยอดทอง" ในความทรงจำ....



ห่างหายไปจากหน้าเวทีบอร์ดเชียร์ไทยมานานแล้ว  ครั้งล่าสุดก้อโน่นต้องย้อนไปปี2550 ช่วงเอเชี่ยนคัพ  ที่ 4 ชาติอาเซี่ยน เป็นเจ้าภาพร่วม  
     ในฐานะที่เป็นคนรุ่นเก่า พอจะทันดูความเป็นมาในอดีต จนถึงปัจจุบัน ของ ยอดคอร์ลัมนิสต์โบราณ อย่าง "ยอดทอง" ที่กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในโลกไซเบอร์
เลยขอเล่าอดีตย้อนความทรงจำเดิมๆของ "คนๆนี้"  ตั้งแต่ ปี 2524-2553 ร่วมๆ30ปี เท่าที่ความจำยังพอมี ไม่นึกว่าจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
     เมื่อย้อนกลับไป ปี2524 ที่ตัวกระผมเองพึ่งจะเริ่มสนใจดูบอล ก้อได้ สื่อกีฬาอย่าง สตาร์ซ็อกเกอร์ รายสัปดาห์ ที่มีอาโย่ง
เป็นคัมภีร์ตอบปัญหาลูกหนังอยู่ เป็นสิ่งสำหรับเสพหาข้อมูล
ส่วนตัว "ยอดทอง" นั้นก็มีหนังสือฟุตบอลรายเดือน คือ"ชู้ตโกล์" ที่ต้องรับผิดชอบ ในฐานะ บก. ขณะนั้น อาณาจักรของ สยามกีเล ..ส  
  ยังไม่ยิ่งใหญ่เหมือนตอนนี้
การทำหนังสือกีฬา ในยุคนั้น ก็ได้ "คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า" ที่อายุปัจจุบัน เกิน 35 ขึ้นไป อย่าง ผมหรือใครอีกหลายๆคน คอยอุดหนุนค้ำจุน
นักข่าวของค่ายนี้ในตอนนั้น ยังไม่มีเท่าไหร่ เพราะเป็นงานแปลจากหนังสือต่างประเทศ "ยอดทอง"  เอง ในเวลานั้น นอกจากจะใช้นามปากกกาว่า "ยอดทอง" แล้ว
ยังมีการตั้งนามปากกาอื่นๆ อีก 2-3 ชื่อ เช่น "โซโลรัน" "นายเลี้ยงเดี่ยว" "จงโคร่ม โหม่งเช็ดคาน" ฯลฯ   "ยอดทอง"  กับชู้ตโกล์
ทำอยู่ได่ไม่นาน ก็ปิดตัวเองลงในปี 2525
หมอก้อมาจับงานแปล และทำหนังสือครอบครัว อย่าง "พ่อแม่ลูก"และหนังสือท่องเที่ยว "ท่องโลก"  แต่ก็ไปไม่รอดอีก จบเห่ทั้งสองฉบับ  
     แต่ถึง   "ยอดทอง"  จะทำหนังสือเจ๊งไปหลายหัว ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้กุมบังเ(คำหยาบ)ยนในระดับผู้บริหารของ สยามส..ป็อด  อยู่
การเขียนหนังสือของเขาคนนี้ ในช่วงที่
อุดมการณ์ยังไม่ยัดใส่ลิ้นชัก เต็มไปด้วยภาษาที่สวยงาม ลึกซึ้ง กินใจ
     ปี 2528 สยามกีเ..ส รายวันโผล่หน้าออกมาบนแผงหนังสือเมืองไทย ยอดทอง ,ย.โย่ง และ เตยหอม (พิษณุ นิลกลัด)
คือสามทหารเสือยุคบุกเบิก โดยมี บิ๊กจ๊ะ และแอ็ดดี้ (วีรศักดิ์ นิลกลัด) คือรุ่นน้องไฟแรง คอยสนับสนุน   คอกีฬา ทั่วไทยต่างเอาใจช่วย
ให้ นสพ.กีฬา ฉบับนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง   ก็พวก "คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า" ที่ว่านี่แหละ ที่อุดหนุนกันมา ตั้งแต่ฉบับละ 3 บาท 12 หน้าในขณะนั้น
จนเติบใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ พวกพ้องร่วมค่าย หลายคนเริ่มเข้าสู่แวดวงจอแก้ว
     ส่วน "ยอดทอง" นั้นยังอยู่โยง เป็นพี่เอื้อยของค่ายหยามฯปอด คอยเขียนคอร์ลัมน์วิพากษ์วิจารณ์กีฬาต่างๆอยู่ตลอด ในหน้า 4 สยามกีฬา
รวมถึงเพิ่มคอร์ลัมน์พิเศษในบางครั้งเมื่อมีเทศกาลกีฬาใหญ่ๆ อย่าง ฟุตบอลโลก  
  ด้วยความที่เป็นคนข่าวรุ่นเก่า ยอดทอง จึงมีความสนิทชิดชอบกับ บิ๊กวีเจ มานานนม ตั้งแต่ วีเจ ยังเป่านกหวีดอยู่ ถึงปัจจุบัน
พอใกล้ๆวันเกิดนายวีเจ ยอดทองก็จะ "อวย" นายวีเจผ่านคอร์ลัมน์ของตนเองอยู่เป็นประจำทุกปี
    ยอดทอง สูญเสียเพื่อนรัก อาโย่งไป เมื่อปี 2540 ท่ามกลางความเสียใจของแฟนฟุตบอล
  แต่ขณะเดียวกัน อาณาจักรของ ค่ายกีฬา นี้ ก็เติบโตไปเรื่อยๆพร้อมกับความสัมพันธ์อันดี กับบุคคลระดับบริหารของสามคมฟุตบอล
พวกเขาแตกหน่อออกมาหลากหลายธุรกิจ รับจัดกีฬาต่างๆ
เชิญทีมบอลดังๆมาแหกตาเตะกับทีมชาติไทย มีสื่อวิทยุของตนเอง จนมาเป็นสื่อทีวี   ส่งคนของตนเองเข้ามาเป็นผู้บรรยายตามทีวีช่องต่างๆ
  อุดมการณ์ ของ ยอดทอง เริ่มสร้างความสงสัยตั้งแต่ "เชียร์ไทย" ออกมาเรียกร้อง ให้ วีเจ ลาออกจากการเป็นนายกสมาคม
เมื่อปี 2546 หลังจากสั่งปลด ปีเตอร์ วิท ออกจากตำแหน่งโค้ช
ข้อหาพาทีมตกรอบคัดเลือกโอลิมปิก ปี2004ก็มีคนข่าวของค่ายนี้นั่นแหละ ที่ออกมาแก้ต่างให้ วีเจ
และบอกว่าคนที่มาเรียกร้องเป็นคนกลุ่มน้อย อยากดัง ซึ่งรวมทั้ง ยอดทอง ด้วย
หลังจากนั้นมา ชายคนนี้ ก็เริ่มเอากุญแจล๊อกลิ้นชักเก็บอุดมการณ์ไว้ วีเจ ขอถอนยวงจากเก้าอี้ นายก ได้ วีวีมากุมบังเ(คำหยาบ)ยนแทน
พร้อมทั้งเอื้อเฟื้อผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน  จากสัมปทานลูกหนังต่างๆที่มีเข้ามา  โดยมีชายร่างใหญ่ ที่ชื่อไม่หอม" คอยเป็นองครักษืพิทักษ์ "ยี"
นายยอดทอง  ก็หันมารับใช้ วีวี มีการเขียนชื่อชม คุณงามความดีอยู่ตลอดเวลา  ใครด่า ยีมา ก็ด่าตอบ นอกจากด่าเองแล้ว ยังเสี้ยมเด็กรุ่นใหม่
ให้มาคอยเช็ดล้างคำวิจารณ์ ของแฟนบอลตลอดเวลา
  ปี 2552 ลีกไทย เริ่มบูม อย่างไม่เคยมีมาก่อน ยอดทอง ก็ทึกทักเอาว่า เป็นเพราะผลงานของ ยี ที่ทำให้มันเป็นอย่างนี้
โดยไม่เคยเอ่ยถึง ความเสียสละของ "คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า" ที่เป็นแฟนบอลหลายๆทีม คอยสละแรงกายแรงใจ เงินทอง ในการเข้าดู
เข้าเชียร์ลีกไทย แม้แต่นิดเดียว
   ขณะที่ผลงนทีมชาติ ห่วยแตก ยอดทอง ก้อเฉไฉ ไปโทษโค้ช ว่ามือไม่ถึง โทษทีมอื่นว่าพัฒนาขึ้น ตั้งงแต่ วิท ,คาร์ลอส ดาร์บี้ มาถึง ร็อบโบ้
โดน ยอดทอง เขียนด่าหมดแต่ไม่เค่ยมีสักประโยค ที่จะบอกว่า  ยี บริหารงานผิดพลาด  พอแฟนบอล ไม่พอจ นัดแนะจะมาแสดงออกว่า ตนเองมีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมรับการบริหารอนาคตของบอลไทยจากนายยี อีกต่อไปแล้ว  
  นายยอดทอง ก็ใช้มันสมองที่ดองอยู่ที่ปลายเท้า สำรอกออกมาทางตัวหนังสือ ผ่านคอร์ลัมน์ตนเอง ว่า เอ็ง"พวกไม่มีหัวนอนปลายเท้า" ยี เค้าทำคุณให้ชาติ(และลูกพี่ตรู)มาเยอะ
เป็นใครมาจากไหน ถึงมาไล่ พี่ยี

   นอกจากเขียนคอร์ลัมน์พร่ำเพร้อถึงแต่เรื่องอดีต ยังมีโลกทรรศน์ที่สั้นแค่ปลายเท้า ไม่เคยสำนึกในบุญคุณของ ผู้ที่อุปถัมป์ค้ำชู หัวหนังสือของตนเอง
ถ้า ยอดทอง เข้ามาอ่าน ผมจะบอกอะไรให้
  ผมซื้อสยามกี ฬา รายวันตั้งแต่ฉบับละ 3 บาท มาจนถึง 15 บาท ในปัจจุบันหมดเงินไปก้อร่วมหมื่น
ซื้อฟุตบอลสยาม ไปอีกร่วม 200-300 เล่ม กอ้หมดเงินไปร่วมพัน
อ่าน ซ้อกเกอร์หลายสัปดาห์  มาก็อร่วม 400 ฉบับ ก็หลายพันอยู่
  ซื้อ "เอนเตอต์เทน" "ท่องโลก" และหนังสือกีฬาฉบับพิเศษต่างๆอีกนับร้อยฉบับ
คิดง่ายๆ คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างผม และเพื่อนพอ้งน้องพี่อีกหลายคนๆหมดเงินเป็นแสนกับการอุดหนุน สื่อกีฬาของ ยอดทองและนาย ระวิ มาตลอด 20 ปี
คนเหล่านี้ มิใช่เหรอ ที่ทำให้อาณาจักรสยามสปอร์ทของคุณ เติบใหญ่ จาก โรงพิมพ์เล็ก แถวประตูน้ำ มาอยู่ คลองเตย มาลาดพร้าวและมาจนถึงรามอินทราในปัจจุบัน
คนเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้ธุรกิจของพวกคุณแผ่ซ่าน ขยายอาณาจักรออกไปคลอบคลุมทุกวงการ..
หรือ..ผลประโยชน์ มันบังตาคนของสื่อกีฬาค่ายนี้แทบหมดแล้ว
งั้นก้อเชิญเดินหน้าต่อไปเถอะครับ จะเลีย จะอวย ก็เอาให้สนุกเถอะ ขอให้อยู่คนละข้างกับความถูกต้องให้ตลอดไปเถอะครับ
ผม "คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า" ขออยู่คนละข้างกับพวกคุณ เงินที่หมดไปร่วมแสน กับสื่อรับใช้ "ยี" มาตลอด 20 ปีเจ้านี้ ก็ถือว่า
ทำบุญให้คนรวยก้อแล้วกัน ครับ....


ลาที ...หยามลา
คนคอน บอลไทย


เครดิต :   konkhon Ballthai
http://www.cheerthaipower.com/webboard/index.php?topic=18483.0
http://topicstock.ppantip.com/supachalasai/topicstock/2010/12/S10014247/S10014247.html