อดีตอาจารย์ธรรมศาสตร์ ตำหนิการเคลื่อนไหวม็อบพระที่นำโดยพระเมธีธรรมาจารย์ ชี้ข้อเรียกร้องแย่ทุกข้อ บางข้อไร้สาระ ห้ามรัฐก้าวก่ายทำตัวอภิสิทธิชนเหนือการตรวจสอบ เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ชี้ข้อเรียกร้องพระพุทธศาสนาประจำชาติเป็นปัญหาระดับสถาบัน หยันเสื้อแดงด่า “พุทธะอิสระ” กลบขี้ ขัดที่อ้างตัวว่ารักประชาธิปไตย แต่นำพระไปสู่อำนาจนิยม
เฟซบุ๊ก “Somsak Jeamteerasakul” ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มพระสงค์ที่นำโดยพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นำผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่พุทธมณฑล วานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของการชุมนุมสงฆ์ แย่เกือบทุกข้อ บางข้อก็เสนอผิดจุด เช่น เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วงเป็นพระสังฆราช โดยรวมคือ ม็อบพระครั้งนี้ความคิดชี้นำไม่เอาไหน แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่มีสิทธิไปห้ามหรือสลายการชุมนุม เพราะละเมิดสิทธิ แต่พระไม่ควรมีเกราะเรื่องบาป บุญ คุ้มกันเป็นพิเศษในการชุมนุม
ส่วนเรื่องศาสนาประจำชาติเป็นเรื่องที่ผิด เหมือนกับเรื่องให้ปฏิบัติต่อสงฆ์ด้วยความเคารพ ที่เป็นข้อเรียกร้องไร้สาระ พระไม่ควรเรียกร้องในลักษณะให้รัฐปฏิบัติต่อตัวเองมาก หรือเป็นพิเศษกว่าที่ปฏิบัติต่อประชาชนทั่วไป ขณะที่เรื่อง ห้ามหน่วยงานรัฐเข้ามาก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์ ก็เป็นเรื่องที่ผิด เพราะในบริบทไทยที่สงฆ์อาศัยอำนาจรัฐ แม้แต่มหาเถรสมาคมก็เป็นองค์กรของรัฐ แต่บอกว่า อย่ามาก้าวก่าย เป็นการเรียกร้องเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
“ผมเสนอมาแต่ไหนแต่ไรว่า ต้องแยกศาสนาจากรัฐโดยเด็ดขาด หมายความว่า สงฆ์ก็จะกลายเป็นองค์กรเอกชนเหมือนบริษัท รัฐก็มีหน้าทีคุ้มครองหรือตรวจสอบ เท่าที่ทำเหมือนกับบริษัทเอกชนอื่นๆ ไม่มากหรือน้อยกว่า แต่ยิ่งในปริบทปัจจุบันที่สงฆ์เองอาศัยรัฐ ข้อเรียกร้องนี้ยิ่งแย่ใหญ่ ประมาณว่าอีกหน่อย ใครเกิดเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องการเงิน ซึ่งมาจากงบสาธารณะ ตามข้อเรียกร้องนี้ ก็จะเข้าข่ายรัฐก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า คนที่ต้องการอนาคตสังคมไทยตามหลักการเสรีประชาธิปไตยแท้จริง ต้องช่วยกันออกมาพูดว่า ในขณะที่ไม่เอา คสช. ไม่เอาพระพุทธะอิสระ ก็ไม่เอาการเคลื่อนไหวภายใต้ความคิดชี้นำแบบสงฆ์กลุ่มนี้เช่นกัน เป็นเรื่องชวนหดหูที่การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของสงฆ์ในหลายปีนี้ มีแต่แค่สองฟากที่ไม่เอาไหนทั้งคู่แบบนี้
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ข้อโจมตีที่ว่าม็อบพระมีนายทักษิณ ชินวัตร สั่งการเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแกนนำเคลื่อนไหวหลายคนเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับค่ายนายทักษิณ และไม่อาจปฏิเสธเลยว่ากลุ่มคนเสื้อแดงโดยเฉพาะในระดับแกนนำสนับสนุนการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะข้อเรียกร้อง ทิศทาง และแนวคิดนำของม็อบและขบวนพระนี้ เป็นอำนาจนิยม ตั้งแต่ข้อเรียกร้องเรื่องศาสนาประจำชาติ ไปถึงการพยายามรักษา การปกครองของสงฆ์ แบบปัจจุบันที่มีลักษณะอภิสิทธิ์ เหนือการตรวจสอบ
“จริงๆ การปกครองของสงฆ์ที่เสื้อแดงหรือ นปช. กำลังดีเฟนด์นี้เป็นระบอบอำมาตย์อย่างหนึ่งเลย เป็น ตลกร้ายมากๆ ที่ขบวนการที่อ้างว่าสู้กับระบอบอำมาตย์ยังคงมาเชียร์ระบอบอำมาตย์ของพระแบบนี้” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ ล่าวว่า ตนมองว่าเสื้อแดงจำนวนมากกำลังอาศัยข้ออ้างเรื่องด่าพระพุทธะอิสระมากลบความจริงข้อนี้ด้วย
“พุทธะอิสระน่ะด่าไปเลย ผมไม่ว่า ผมเสนอไปนานแล้วด้วยว่าเขาควรถูกจับ ถูกดำเนินคดีไปนานแล้ว แต่อันนี้เป็นคนละเรื่องกับความจริงที่กล่าวข้างต้นที่ว่าทิศทางม็อบพระนี้เป็นทิศทางอำนาจนิยม ซึ่งใครที่อ้างว่ารักประชาธิปไตยต้องคัดค้านอย่างชัดเจน” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า กรณีพุทธะอิสระเป็นปัญหาระดับเรื่องแอกติวิสต์ (นักเคลื่อนไหวกิจกรรม) คนหนึ่ง แต่ปัญหาธรรมกาย มหาเถรสมาคม และขบวนพระ เป็นปัญหาระดับสถาบัน ระดับองค์กรรัฐ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องเรื่องศาสนาประจำชาติอย่างเดียว ก็เป็นเรื่องระดับรัฐแบบถาวรแล้ว ยิ่งกว่าเรื่องการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นครั้งๆ แต่มันมากกว่านั้นอีก ในเรื่องการจัดตั้งองค์กรรัฐส่วนที่เกี่ยวกับศาสนา สถานะของสงฆ์ในฐานะสถาบันรัฐ
“เสื้อแดงที่เอาแต่ด่าพุทธะอิสระ โดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปัญหาหลังที่ว่ามา หรือที่แย่ไปกว่านั้น ไปเชียร์เลย เป็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง คุณกำลังเชียร์อะไรที่นำไปสู่ทิศทางแบบอำนาจนิยม” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า แกนนำพระเมื่อวานบางคนที่ใกล้ชิดเสื้อแดงมีลักษณะอำนาจนิยมขนาดไหน กรณีด่า น.ส.ลักขณา ปันวิชัย เจ้าของนามปากกา คำ ผกา ว่าปทุมถันมีสีดำ ไปถึงใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตรไปกดดันสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เรื่องการแสดงความเห็นของคำ ผกา เรื่องสวดมนต์ข้ามคืน จนคำ ผกาต้องออกมาขอโทษ
“สมศักดิ์ เจียมฯ” ซัดม็อบสงฆ์ไร้สาระ สร้าง “ระบอบอำมาตย์พระ” เหนือการตรวจสอบ
เฟซบุ๊ก “Somsak Jeamteerasakul” ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มพระสงค์ที่นำโดยพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นำผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่พุทธมณฑล วานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของการชุมนุมสงฆ์ แย่เกือบทุกข้อ บางข้อก็เสนอผิดจุด เช่น เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วงเป็นพระสังฆราช โดยรวมคือ ม็อบพระครั้งนี้ความคิดชี้นำไม่เอาไหน แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่มีสิทธิไปห้ามหรือสลายการชุมนุม เพราะละเมิดสิทธิ แต่พระไม่ควรมีเกราะเรื่องบาป บุญ คุ้มกันเป็นพิเศษในการชุมนุม
ส่วนเรื่องศาสนาประจำชาติเป็นเรื่องที่ผิด เหมือนกับเรื่องให้ปฏิบัติต่อสงฆ์ด้วยความเคารพ ที่เป็นข้อเรียกร้องไร้สาระ พระไม่ควรเรียกร้องในลักษณะให้รัฐปฏิบัติต่อตัวเองมาก หรือเป็นพิเศษกว่าที่ปฏิบัติต่อประชาชนทั่วไป ขณะที่เรื่อง ห้ามหน่วยงานรัฐเข้ามาก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์ ก็เป็นเรื่องที่ผิด เพราะในบริบทไทยที่สงฆ์อาศัยอำนาจรัฐ แม้แต่มหาเถรสมาคมก็เป็นองค์กรของรัฐ แต่บอกว่า อย่ามาก้าวก่าย เป็นการเรียกร้องเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
“ผมเสนอมาแต่ไหนแต่ไรว่า ต้องแยกศาสนาจากรัฐโดยเด็ดขาด หมายความว่า สงฆ์ก็จะกลายเป็นองค์กรเอกชนเหมือนบริษัท รัฐก็มีหน้าทีคุ้มครองหรือตรวจสอบ เท่าที่ทำเหมือนกับบริษัทเอกชนอื่นๆ ไม่มากหรือน้อยกว่า แต่ยิ่งในปริบทปัจจุบันที่สงฆ์เองอาศัยรัฐ ข้อเรียกร้องนี้ยิ่งแย่ใหญ่ ประมาณว่าอีกหน่อย ใครเกิดเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องการเงิน ซึ่งมาจากงบสาธารณะ ตามข้อเรียกร้องนี้ ก็จะเข้าข่ายรัฐก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า คนที่ต้องการอนาคตสังคมไทยตามหลักการเสรีประชาธิปไตยแท้จริง ต้องช่วยกันออกมาพูดว่า ในขณะที่ไม่เอา คสช. ไม่เอาพระพุทธะอิสระ ก็ไม่เอาการเคลื่อนไหวภายใต้ความคิดชี้นำแบบสงฆ์กลุ่มนี้เช่นกัน เป็นเรื่องชวนหดหูที่การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของสงฆ์ในหลายปีนี้ มีแต่แค่สองฟากที่ไม่เอาไหนทั้งคู่แบบนี้
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ข้อโจมตีที่ว่าม็อบพระมีนายทักษิณ ชินวัตร สั่งการเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแกนนำเคลื่อนไหวหลายคนเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับค่ายนายทักษิณ และไม่อาจปฏิเสธเลยว่ากลุ่มคนเสื้อแดงโดยเฉพาะในระดับแกนนำสนับสนุนการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะข้อเรียกร้อง ทิศทาง และแนวคิดนำของม็อบและขบวนพระนี้ เป็นอำนาจนิยม ตั้งแต่ข้อเรียกร้องเรื่องศาสนาประจำชาติ ไปถึงการพยายามรักษา การปกครองของสงฆ์ แบบปัจจุบันที่มีลักษณะอภิสิทธิ์ เหนือการตรวจสอบ
“จริงๆ การปกครองของสงฆ์ที่เสื้อแดงหรือ นปช. กำลังดีเฟนด์นี้เป็นระบอบอำมาตย์อย่างหนึ่งเลย เป็น ตลกร้ายมากๆ ที่ขบวนการที่อ้างว่าสู้กับระบอบอำมาตย์ยังคงมาเชียร์ระบอบอำมาตย์ของพระแบบนี้” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ ล่าวว่า ตนมองว่าเสื้อแดงจำนวนมากกำลังอาศัยข้ออ้างเรื่องด่าพระพุทธะอิสระมากลบความจริงข้อนี้ด้วย
“พุทธะอิสระน่ะด่าไปเลย ผมไม่ว่า ผมเสนอไปนานแล้วด้วยว่าเขาควรถูกจับ ถูกดำเนินคดีไปนานแล้ว แต่อันนี้เป็นคนละเรื่องกับความจริงที่กล่าวข้างต้นที่ว่าทิศทางม็อบพระนี้เป็นทิศทางอำนาจนิยม ซึ่งใครที่อ้างว่ารักประชาธิปไตยต้องคัดค้านอย่างชัดเจน” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า กรณีพุทธะอิสระเป็นปัญหาระดับเรื่องแอกติวิสต์ (นักเคลื่อนไหวกิจกรรม) คนหนึ่ง แต่ปัญหาธรรมกาย มหาเถรสมาคม และขบวนพระ เป็นปัญหาระดับสถาบัน ระดับองค์กรรัฐ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องเรื่องศาสนาประจำชาติอย่างเดียว ก็เป็นเรื่องระดับรัฐแบบถาวรแล้ว ยิ่งกว่าเรื่องการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นครั้งๆ แต่มันมากกว่านั้นอีก ในเรื่องการจัดตั้งองค์กรรัฐส่วนที่เกี่ยวกับศาสนา สถานะของสงฆ์ในฐานะสถาบันรัฐ
“เสื้อแดงที่เอาแต่ด่าพุทธะอิสระ โดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปัญหาหลังที่ว่ามา หรือที่แย่ไปกว่านั้น ไปเชียร์เลย เป็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง คุณกำลังเชียร์อะไรที่นำไปสู่ทิศทางแบบอำนาจนิยม” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า แกนนำพระเมื่อวานบางคนที่ใกล้ชิดเสื้อแดงมีลักษณะอำนาจนิยมขนาดไหน กรณีด่า น.ส.ลักขณา ปันวิชัย เจ้าของนามปากกา คำ ผกา ว่าปทุมถันมีสีดำ ไปถึงใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตรไปกดดันสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เรื่องการแสดงความเห็นของคำ ผกา เรื่องสวดมนต์ข้ามคืน จนคำ ผกาต้องออกมาขอโทษ