เอเอฟพีรายงาน “หลวงปู่พุทธะอิสระ” พระผู้นำม็อบปิดประเทศไทย – ก้าวนี้ที่ต้องจับตา “พระกับการประท้วงข้างถนน”

อ้างอิง

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000011760



เอเอฟพี - หลวงปู่พุทธะอิสระในจีวรสีเหลือง อายุ 58 ปี ในฐานะหนึ่งในผู้นำคนสำคัญของการประท้วงได้เดินสายทั่วกรุงเทพฯ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประท้วงร่วมใจต่อสู้กับรัฐบาลอำมหิตในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย และก้าวย่างครั้งนี้ยังเป็นการท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของนักบวชในพุทธศาสนาที่ต้องเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องห้ามในสังคมไทย
       
       ตั้งแต่มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเพื่อไทยของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมากลางกรุงเทพฯ หลวงปู่พุทธะอิสระได้เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล จัดการรวบรวมสาธุชน ไปจนถึงกล่าวคำปราศรัยต่อหน้าฝูงชนพร้อมด้วยผู้นำการประท้วง สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เขามักนั่งที่ปลายเท้าหลวงปู่เสมอในการแสดงออกถึงการเคารพ
       
       มากไปกว่านี้หลวงปู่ยังได้ก้าวเข้ามาจัดการเวทีการประท้วงด้วยตนเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชุมนุมที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯเพื่อกดดันให้ยิ่งลักษณ์ลาออก และเป็นการสิ้นสุดระบอบทักษิณที่มีครอบครัวชินวัตรของยิ่งลักษณ์เป็นศูนย์กลางในการครอบงำประเทศ
       
       พระห่มจีวรสีกรักอายุ 58 ปีรูปนี้นำการประท้วงต่อต้านยิ่งลักษณ์และพี่ชายของเธอ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำของไทยที่ทรงอิทธิพลในหน้าประวัติศาสตร์ของไทย แต่ต้องตกจากอำนาจเพราะถูกรัฐประหารในปี 2006 และในขณะนี้ได้หลบหนีคดีอยู่ที่ดูไบ
       
       “รัฐบาลไทยภายใต้การนำของครอบครัวชินวัตร ทั้งชายและน้องสาว นั้นไม่มีทั้งศีลธรรมและจริยธรรม พวกนั้นโกงกินแถมยังรู้เห็นเป็นใจให้คนอื่นโกงตามไปด้วย พวกนี้โกหกรายวัน” หลวงปู่พุทธะอิสระที่เป็นทั้งพระนักพูดฝีปากกล้าในการเทศนาติเตียนการประพฤติผิดของพระหลายรูปในการใช้ชีวิตใต้บวรพุทธศาสนากล่าว

เอเอฟพีรายงาน “หลวงปู่พุทธะอิสระ” พระผู้นำม็อบปิดประเทศไทย – ก้าวนี้ที่ต้องจับตา “พระกับการประท้วงข้างถนน”

       “ในฐานะที่เป็นพระก็ต้องมีหน้าที่ในการบอกพุทธศาสนิกชนถึงสิ่งใดที่ควรกระทำ และสิ่งใดควรจะละเว้น” หลวงปู่เผยกับเอเอฟพี ซึ่งคำกล่าวของท่านได้พิสูจน์ถึงบทบาทของท่านในฐานะที่เป็นแม่ทัพแถวหน้าในขบวนการเคลื่อนไหวการประท้วง
       
       แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกยินดีในวัตรปฎิบัติของหลวงปู่ในครั้งนี้
       
       “พระนักบวชไม่สามารถมีส่วนร่วมกับการเมือง” นพรัตน์ เบญจาวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าว ซึ่งสำนักงานพศ. แห่งนี้มีหน้าที่กำกับดูแลพระสงฆ์ให้อยู่ในวัตรปฎิบัติที่ดีงาม “แต่หลวงปู่พุทธอิสระยังไม่หยุดที่จะทำลายภาพลักษณ์ของศาสนาพุทธ” นพรัตน์กล่าวต่อ เขาได้เขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมให้ช่วยเตือนหลวงปู่ให้ประพฤติอยู่แต่ในกรอบ
       
       นอกจากนี้หลวงปู่พุทธะอิสระยังตกเป็นเป้าโดนร้องเรียนโดยองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย "พระสามารถมีความรู้สึกส่วนตัวได้ แต่ห้ามแสดงออกทางการเมือง อ้างจากกฏของมหาเถระสมาคม” เสถียร วิพรมหา เลขาธิการองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทยฝ่ายคฤหัสถ์ กล่าว พร้อมยังเสริมด้วยว่า “หลวงปู่พุทธะอิสระทำลายภาพลักษณ์พุทธศาสนา”
       
       แต่ทว่าพระนักบวชในพุทธศาสนาได้มีส่วนสำคัญในการเมืองในประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น คณะสงฆ์ในพม่าเป็นผู้นำในการลุกฮือต่อรัฐบาลทหารของพม่าที่จบลงด้วยความรันทดใจในปี 2007
       
       แต่ในประเทศไทยที่ประชาชนราว 95% ของประเทศนับถือพุทธศาสนา มีหลายคนยังคงเชื่อว่าคณะสงฆ์ที่มีหลายหมื่นรูปทั่วประเทศควรอยู่ให้ห่างจากการเมือง แต่กระนั้นการเข้าร่วมของสงฆ์ในการเมืองไทยนั้นไม่ได้ถือว่าน่าแปลกใจแต่อย่างใด

เอเอฟพีรายงาน “หลวงปู่พุทธะอิสระ” พระผู้นำม็อบปิดประเทศไทย – ก้าวนี้ที่ต้องจับตา “พระกับการประท้วงข้างถนน”

       ในปี 2010 มีพระสงฆ์จำนวนหลายสิบรูปได้เข้าร่วมการประท้วงของคนเสื้อแดง กลุ่มที่ให้การสนับสนุนทักษิณ ชินวัตร ในการประท้วงที่กรุงเทพฯ ถึงแม้ว่ากลุ่มสงฆ์ที่เข้าร่วมกับคนเสื้อแดงเหล่านั้นจะพยายามไม่ให้เป็นจุดที่น่าสนใจเหมือนกับหลวงปู่พุทธะอิสระ แต่กระนั้นในท้ายที่สุด มีพระบางรูปโดนจับกุม
       
       “ถึงแม้ว่าตามทฤษฏีแล้ว พระสงฆ์ควรจะปราศจากการเมือง แต่ในทางปฎิบัติ เมื่อคุณเริ่มที่จะตรวจสอบว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่แท้จริง คุณจะค้นพบว่ามันมีทุกรูปแบบของการเมือง” ดันแคน แมคคาร์โก ศาสตราจารย์ด้านการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งมหวิทยาลัยลีดส์ กล่าว
       
       “สิ่งที่ผิดปกติคือ พระสงฆ์รูปที่มีชื่อเสียงไม่เพียงแต่จำกัดบทบาทของท่านในการเป็นผู้สนับสนุน หรือเป็นผู้เห็นชอบ แต่ทว่ากลับก้าวเข้ามาอยู่ในระหว่างกลางของบทบาททั้งสอง ซึ่งไม่ถือเป็นบทบาทปกติที่เปิดเผยของสงฆ์ที่ควรจะแสดง” แมคคาร์โกกล่าว
       
       แต่กระนั้นถึงแม้การแสดงออกของหลวงปู่ในทางการเมืองซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงในวงกว้างนั้นไม่สามารถทำให้ผู้คนซึ่งศรัทธาถอยห่างจากท่าน
       
       “พุทธศาสนิกชนเดือดร้อน หลวงปู่ก็ต้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะหากฆราวาสอยู่ไมได้ สงฆ์ผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาก็อยู่ไม่ได้ด้วย เพราะไม่มีเหลือใครที่จะเกื้อหนุนพระพุทธศาสนา” มยุรฉัตร มโนทัย วัย 75 ปี หนึ่งในผู้ประท้วงและผู้ศรัทธาในหลวงปู่พุทธะอิสระ เผยต่อเอเอฟพี ที่ด้านหน้าเวทีการประท้วงที่หลวงปู่เป็นผู้นำอยู่ ซึ่งหลวงปู่พุทธะอิสระนั้นถูกแวดล้อมไปด้วยการ์ดรักษาความปลอดภัยหลายสิบคนที่สวมเสื้อเกราะกันกระสุนและแว่นตากันแดดสีเข้ม
       
       “มีผู้นำการประท้วง 2 คนที่ประชาชนศรัทธามากคือคุณสุเทพและผม” หลวงปู่ให้สัมภาษณ์ไม่กี่วันก่อนที่หนึ่งในผู้นำการประท้วงครั้งนี้จะถูกลอบสังหารเสียชีวิตกลางเวที และยังเสริมต่อว่า "หากหนึ่งในพวกเราถูกฆ่า ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางออกมา และรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะใช้เป็นข้ออ้างในการใช้กำลังเพื่อเข้าสลายม็อบ" และหลวงปู่พุทธอิสระยังกล่าวให้สัญญาตบท้ายที่จะไม่เลิกในการทำหน้าที่ผู้นำว่า "เราจะอยู่ตรงนี้ เราต้องการให้ประเทศชาติชนะ"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่