สวัสดี..หนีห่าวชาว Pantip ทุกท่าน
เรากลับมารั่วกลับมาปลิ้นกันอีกครั้ง และขออนุญาตทำการแปะกระทู้ ฮาร์บิ้น..ฮาปลิ้น อีกสักครั้งไว้ ณ ที่นี้
http://ppantip.com/topic/34698305
สืบเนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ได้หยุดงาน 3 วัน (เอง) เราจึงเริ่มเตรียมหาแผนการเที่ยวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว กว่าจะหาที่ลงได้ก็นานสองนาน ไม่รู้จะไปไหนดี ตัวเลือกเยอะไปหมด แต่ที่รู้แน่ๆคือ กรุต้องไปที่ไหนสักที่ เพราะถ้าขืนอยู่ โดนโยนงานแน่ๆ
ไต้หวัน? ตั๋วแพง ข้ามๆ เขามอกานชานมั้ย ใกล้ๆ อยู่ในเซี่ยงไฮ้ แต่ไปฤดูนี่ไม่สวยเท่าไหร่ ข้ามๆ
ญี่ปุ่นป่ะ ไปลงที่ไหนสักที่ เมืองไม่ต้องปังก็ได้ ตั๋วแพงอีกละ ข้ามๆ เกาหลีหละ พอกัน ค่าตั๋ว เกินงบๆ ข้ามๆ
เราทำการหาข้อมูลตั้งแต่รัสเซียยั้นอินเดียนู้นนน
กว่าจะมาลงตัวที่ ชิงเต่า Qingdao 青岛
ไปทำอะไรเที่ชิงเต่า?? เออออ เราก็ยังไม่รู้ ค่อยไปลุยเอาดาปหน้า (อีกละ…)
แต่ที่แน่ๆเน้นๆคือ ค่าตั๋วถูกกกมาก แล้วทั้งเรากะพี่กีฟท์ก็ยังไม่เคยไปเมืองนี้มาก่อน
หลายๆคนคงจะคุ้นหูเบียร์ชิงเต่า เบียร์อันดับ 1 ของจีน เบียร์ที่เค้าว่าอร่อยนักอร่อยหนา นั่นหละ เมืองชิงเต่าเป็นเมืองต้นกำเนิดของเบียร์ชิงเต่านั้นเอง
แผนการเดินทางของเราคือ 8-10 กุมภาพันธ์ 2559
- 8 กุมภาพันธ์ เซี่ยงไฮ้ - ชิงเต่า
>> พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า Qingdao Beer Museum
>> โบสถ์ Qingdao Catholoic Church
>> ท่าเรือจานเชียว Zhanqiao Pier
- 9 กุมภาพันธ์
>> ภูเขาเหลาชาน Laoshan 崂山
>> MAY Fourth Square
- 10 กุมภาพันธ์
>> ชิงเต่า - เซี่ยงไฮ้
กายพร้อม ใจพร้อม ไปลุยกันเลยย
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เซี่ยงไฮ้ - ชิงเต่า
เราเลือกและไว้ใจสายการบิน SPRING AIRLINES อีกครั้ง แหมมม ไฟลท์ถูกนี่มันต้องแลกกับการเดินทางที่โคตรจะเช้าตรู่ เครื่องออก 6 โมงกว่าๆ คราวนี้ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินฮงเฉียว สนามบินนี้ใกล้บ้าน แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงละ
พอถึงสนามบินปุ๊บ เรานี้จินตภาพไว้ละ
> เดี๋ยวไปกดรับ Boarding Pass จากเครื่องอัตโนมัติ
> เสร็จแล้วก็จะได้ไปหาอะไรมายัดลงท้อง หิวตั้งแต่ลืมตาละ
> แล้วขึ้นเครื่องไปชิงเต่าแบบชิลๆ
หารู้ไม่ พี่จีนเล่นสะแล้ว สนามบินยังไม่เปิดจ้า คืออะไร เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น สนามบินยังไม่เปิด ตอนนั้นก็เวลาประมาณ ตี 5 ละนะ มีเวลาแค่ 1 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง อากาศข้างนอกหนาวจะตาย ให้มายืนรอสนามบินเปิด
CHINA ONLY!
หลังจากที่เราเดินหน้า ถอยหลังเป็นเตารีดกันอยู่สักหลายนาที รอไปบ่นไป บ่นยั้นประตูเปิด เราก็จินตภาพไว้อีกครั้งว่า ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็ไปกดรับ Boarding Pass จากตู้ รวดเร็วทันใจเหมือนเคย พี่จีนเล่นอีกแล้วว มีตู้ให้กดนะ แต่กดไม่ได้จ้า เดินขาขวิดกันเลยที่นี้ ไปถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน ต่อแถวประมาณ 3 ขดแบบเน้นๆ หายใจรถต้นคอ คนจีนลมหายใจกลิ่นเดียวกันทั้งประเทศ นี่จะอ้วกตั้งแต่ยังไม่เดินทาง
มันกดได้ที่ไหนเล่า
หายใจรดต้นคอซึ่งกันและกัน
ตัดภาพมาที่การเช็คอินเสร็จเรียบร้อย เอาจริงๆไวกว่าตอนต่อแถวอีก
เตรียมขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแย่งกัน ได้ไปทุกคน
จากเซี่ยงไฮ้ไปชิงเต่าใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง แต่พนักงานก็ยังขายของได้อยู่นะ รีบสปีคกันแบบรัวๆ มีลิ้นพันกันมั่งอ่ะ ดูจากรูปการณ์แล้ว
ขณะที่เครื่องกำลังจะลง ขณะที่เรากำลังสลึมสลือ กัปตันสุชาติประกาศออกไมค์ตามธรรมเนียม ที่สะดุดหูสุดคือ กัปตันบอกตอนนี้อุณหภูมิเมืองชิงเต่าอยู่ที่ -5 องศา ได้แต่ยิ้มมุมปาก แล้วถามตัวเองเบาๆ ว่า "กรูมาทำอะไรที่นี่ว่ะเนี่ย"
หนีหนาวมาเจอหนาวกว่า
ล้อแตะพื้น พี่จีนคงคอนเซปต์เดิม อลหม่านบ้านแตกสาแหรกขาด สัญญาณปลดเข็มขัดยังไม่ทัน ดังพี่ลุกกันละ บ้างก็โทรศัพท์หาพรรคพวก หนีห่าวกันไม่เกรงใจพนักงานกันเลยทีเดียว
ออกจากเครื่องเรียบร้อย สนามบินดูไฮโซโบว์ใหญ่กว่าที่คิดไว้
เราจะต้องหาซุ้มขายตั๋วรถ Airport Bus สาย 2 เข้าเมือง ระหว่างเดินหารถ มันช่างประจวบเหมาะ เพลงของไชน่าดอลล์เวอร์ชั่นภาษาจีนปนไทยดังกระหึ่มขึ้นมา
สวัสดีค่ะค่ะค่ะ สวัสดีค่ะค่ะค่ะ แหมมม เมืองนี้เค้าต้อนรับเรากันขนาดนี้เลยหรือ
โดนไปคนละ 20 หยวน
ปลายทาง Airport Bus สาย 2 จะจอดที่สถานีรถไฟชิงเต่า
แต่เราเจรจากับคนขับรถละว่าของลงป้ายที่ใกล้โรงแรมที่สุดจะได้เดินกันไป ประหยัดงิ๊
ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ถึงโรงแรมที่เราทำการจองไว้ ชื่อโรงแรม Nostalgia Theme Inn พนักงานโรงแรมนี้ NO ENGLISH นะ แถมยังไม่ให้เช็คอินอีก ให้รอตอนเที่ยง อย่ามาตลก อีกตั้ง 3 ชั่วโมง
อ้อนวอนร้องขอ
Me: ถ้าไม่มีคนพักขอเข้าก่อนเหอะ ออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า
พนักงาน: ไปหาอะไรกินก่อน อีกชั่วโมงค่อยกลับมา
นึกในใจ จะให้พวกกรูไปกินอะไร ตอนเดินมา ไม่มีร้านไหนเปิดสักร้าน
Me: งั้นจะนั่งกดดันรอตรงนี้
พนักงานเลิ่กๆลั่กๆ ได้ผลเว้ย นั่งรอแค่ 10 นาที ได้เข้าห้องสบายใจ รู้สึกชนะเบาๆ
ภายในห้องตกแต่งดีนะ ออกแนววินเทจ เก่าๆหน่อย ไม่รู้จงใจทำให้มันเก่าหรือมันเก่าด้วยตัวมันเอง ห้องเย็นมากๆ ผนังเย็น พื้นเย็น ขนาดเปิดฮีทเตอร์เบอร์แรงสุดยังรั้งไว้ไม่อยู่
ส่วนห้องน้ำก็ไม่มีประตูนะจ้ะ มีแค่ม่านบางๆ สวีทโรม๊านซ์มากอ่ะ แต่มันใช่เวลามั้ย หนาวเฟ้ยยย
ม่านมายา
จะได้อาบน้ำป่ะล่ะ
เช็คห้องฮับเรียบร้อย นอนเอาแรงสะหน่อย อาจจะเกินหน่อยไปบ้าง ตื่นมาก็บ่ายละ หิวอีกตังหาก
แพลนของเราคือจะไป Qingdao Beer Museum แต่เราจะแวะหาไรกินก่อน ดังนั้นเราจะเดินไปเรื่อยๆถึงแม้ว่าระยะทางจะไกล เดินเท้าถึง 3 กิโล ตามรายทางร้านค้าทุกอย่างล้วนปิดสนิท คนก็ไม่มี เงียบสงัดเหมือนเมืองร้างที่พึ่งโดนซอมบี้บุก รู้สึกไม่ชินเหมือนกันนะ โหวงๆ ไม่ได้หายใจรดต้นคอใส่ใคร
ดินแดนอ้างว้างร้างผู้คน
เดินอยู่นาน ท้องแกว่งน่องโก่ง ข้าวก็ไม่ได้กิน เห็นร้านแมคนี่กระโดดตัวลอย ฝากท้องไว้ที่แมคละกัน
จัดไอติมซากุระมาสักโคน "หนาวยอกต้องเอาหนาวบ่ง"
เมื่อหนังท้องตึง เราจึงเริ่มเดินต่อ เดินไปก็ภาวนาขอให้มิวเซียมเปิด ไม่งั้นเดินเสียเที่ยวแน่ๆ
เดินผ่านถนนเบียร์ ถนนที่มีชื่อเสียงสายหนึ่งของชิงเต่า
ฝาท่อระบายน้ำ
ฟ้ามีตา มิวเซียมเปิด ค่าเข้าเยี่ยมชมคนละ 50 หยวน มีไกด์ด้วยนะแต่ต้องจ้างเอา มีทั้งไกด์ภาษาจีน ไกด์ภาษาอังกฤษ แต่..เอ..ขนาดประวัติศาสตร์บ้านเมืองเรา กรูยังจำไม่ค่อยได้ ถ้าไม่รู้ประวัติศาสตร์เบียร์ชิงเต่าเพิ่มอีกก็คงไม่เสียหายอะไรเท่าไหร่หรอกมั้ง
ของจริงมั้ยไม่รู้ อยากขอลองชิม
ใช้เวลาสักพักไปกะการเดินชมมิวเซียมเบียร์ เราว่าคุ้มค่าการเยี่ยมชม ได้ความรู้ดี มิวเซียมก็จัดระบบดี สะอาด ผ่านการดูแลรักษาเป็นอย่างดี มีเกมส์ให้เล่น มีร้านอาหาร
แฟนพันธุ์แท้ชิงเต่าเบียร์มิวเซียมคือผู้นี้นี่เองงงง
ข้างในเป็นบ้านเอียง ใครซดเบียร์เข้าไปเดินในนั้นมีหวังได้ล้มตึงแน่ ครองสติให้ดี
ตั๋วที่ซื้อมาสามารถเอามาแลกเบียร์ชิงเต่าได้ตั๋วละ 1 แก้ว
เป็นเด็กเป็นเล็ก
ข้างๆมีซุ้ม Premium Gift ให้ไปถ่ายรูปแล้วเค้าก็จะเอารูปเรามาติดขวดเบียร์ให้เราเอากลับบ้าน ราวกับโดนป้ายยา ควัก 35 หยวน ให้พนักงานอย่างง่ายดาย ได้เบียร์รูปตัวเองมา 1 ขวด โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเอาขึ้นเครื่องยังไง
เป็น Brand Ambassador นิดๆหน่อยๆ
ใครใคร่ซื้อของฝาก..ซื้อ
ไฮไลท์ของชิงเต่า เบียร์ใส่ถุงพลาสติก ใครมาแล้วไม่ได้ดูดจากถุงนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะ
สถานีต่อไป เราจะไปโบสถ์ Qingdao Catholoic Church กัน โบกแท็กซี่ไปแป๊บเดียว ไปถ่ายรูปโบสถ์ชิคๆ
เมื่อได้รูปถูกอกถูกใจก็มุ่งหน้าเดินเท้าต่อไปท่าเรือ Zhanqiao
ท่าเรือนี้ดูไปดูมาคล้ายบางปูนะ มีนกมีน้ำ คิดถึงบ้านขึ้นมาทันที
ขอสารภาพตรงนี้เลยว่า ระหว่างเดินทางเรามีความคิดอยากเปลี่ยนโรงแรมกันมาก เพราะไม่มั่นใจในฮีทเตอร์ตัวนั้นเลย
คุยกันแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะย้ายโรงแรม เสียตังค์คืนแรกไปสำหรับการนอน 3 ชั่วโมง แต่แลกกับความสบาย ยอมจำนนเสียเงินไปแต่โดยดี
พนักงานคนเดิมหมือนกินยาผิดขนาน มึนๆเบลอๆ ให้ตังค์คืนมาครึ่งนึงแบบไม่มีข้องท้วงติง สงสัยพี่แกอดหลับอดนอน เป็นสปอนเซอร์รายหลักให้สะงั้น
เราเลือกลงที่โรงแรม IBIS อีกครั้ง ถือว่าไว้วางใจได้มากเหมือนเคย
ที่เดิมในหัวใจ
รีบนอนพักเอาแรง พรุ่งนี้ไป "ภูเขาเหลาชาน" กัน
บันทึกการท่องเที่ยว เมืองชิงกระต่าย..เอ้ยย ชิงเต่า..เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่เบียร์นะจ๊ะ
เรากลับมารั่วกลับมาปลิ้นกันอีกครั้ง และขออนุญาตทำการแปะกระทู้ ฮาร์บิ้น..ฮาปลิ้น อีกสักครั้งไว้ ณ ที่นี้
http://ppantip.com/topic/34698305
สืบเนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ได้หยุดงาน 3 วัน (เอง) เราจึงเริ่มเตรียมหาแผนการเที่ยวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว กว่าจะหาที่ลงได้ก็นานสองนาน ไม่รู้จะไปไหนดี ตัวเลือกเยอะไปหมด แต่ที่รู้แน่ๆคือ กรุต้องไปที่ไหนสักที่ เพราะถ้าขืนอยู่ โดนโยนงานแน่ๆ
ไต้หวัน? ตั๋วแพง ข้ามๆ เขามอกานชานมั้ย ใกล้ๆ อยู่ในเซี่ยงไฮ้ แต่ไปฤดูนี่ไม่สวยเท่าไหร่ ข้ามๆ
ญี่ปุ่นป่ะ ไปลงที่ไหนสักที่ เมืองไม่ต้องปังก็ได้ ตั๋วแพงอีกละ ข้ามๆ เกาหลีหละ พอกัน ค่าตั๋ว เกินงบๆ ข้ามๆ
เราทำการหาข้อมูลตั้งแต่รัสเซียยั้นอินเดียนู้นนน
กว่าจะมาลงตัวที่ ชิงเต่า Qingdao 青岛
ไปทำอะไรเที่ชิงเต่า?? เออออ เราก็ยังไม่รู้ ค่อยไปลุยเอาดาปหน้า (อีกละ…)
แต่ที่แน่ๆเน้นๆคือ ค่าตั๋วถูกกกมาก แล้วทั้งเรากะพี่กีฟท์ก็ยังไม่เคยไปเมืองนี้มาก่อน
หลายๆคนคงจะคุ้นหูเบียร์ชิงเต่า เบียร์อันดับ 1 ของจีน เบียร์ที่เค้าว่าอร่อยนักอร่อยหนา นั่นหละ เมืองชิงเต่าเป็นเมืองต้นกำเนิดของเบียร์ชิงเต่านั้นเอง
แผนการเดินทางของเราคือ 8-10 กุมภาพันธ์ 2559
- 8 กุมภาพันธ์ เซี่ยงไฮ้ - ชิงเต่า
>> พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า Qingdao Beer Museum
>> โบสถ์ Qingdao Catholoic Church
>> ท่าเรือจานเชียว Zhanqiao Pier
- 9 กุมภาพันธ์
>> ภูเขาเหลาชาน Laoshan 崂山
>> MAY Fourth Square
- 10 กุมภาพันธ์
>> ชิงเต่า - เซี่ยงไฮ้
กายพร้อม ใจพร้อม ไปลุยกันเลยย
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เซี่ยงไฮ้ - ชิงเต่า
เราเลือกและไว้ใจสายการบิน SPRING AIRLINES อีกครั้ง แหมมม ไฟลท์ถูกนี่มันต้องแลกกับการเดินทางที่โคตรจะเช้าตรู่ เครื่องออก 6 โมงกว่าๆ คราวนี้ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินฮงเฉียว สนามบินนี้ใกล้บ้าน แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงละ
พอถึงสนามบินปุ๊บ เรานี้จินตภาพไว้ละ
> เดี๋ยวไปกดรับ Boarding Pass จากเครื่องอัตโนมัติ
> เสร็จแล้วก็จะได้ไปหาอะไรมายัดลงท้อง หิวตั้งแต่ลืมตาละ
> แล้วขึ้นเครื่องไปชิงเต่าแบบชิลๆ
หารู้ไม่ พี่จีนเล่นสะแล้ว สนามบินยังไม่เปิดจ้า คืออะไร เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น สนามบินยังไม่เปิด ตอนนั้นก็เวลาประมาณ ตี 5 ละนะ มีเวลาแค่ 1 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง อากาศข้างนอกหนาวจะตาย ให้มายืนรอสนามบินเปิด
CHINA ONLY!
หลังจากที่เราเดินหน้า ถอยหลังเป็นเตารีดกันอยู่สักหลายนาที รอไปบ่นไป บ่นยั้นประตูเปิด เราก็จินตภาพไว้อีกครั้งว่า ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็ไปกดรับ Boarding Pass จากตู้ รวดเร็วทันใจเหมือนเคย พี่จีนเล่นอีกแล้วว มีตู้ให้กดนะ แต่กดไม่ได้จ้า เดินขาขวิดกันเลยที่นี้ ไปถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน ต่อแถวประมาณ 3 ขดแบบเน้นๆ หายใจรถต้นคอ คนจีนลมหายใจกลิ่นเดียวกันทั้งประเทศ นี่จะอ้วกตั้งแต่ยังไม่เดินทาง
มันกดได้ที่ไหนเล่า
หายใจรดต้นคอซึ่งกันและกัน
ตัดภาพมาที่การเช็คอินเสร็จเรียบร้อย เอาจริงๆไวกว่าตอนต่อแถวอีก
เตรียมขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแย่งกัน ได้ไปทุกคน
จากเซี่ยงไฮ้ไปชิงเต่าใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง แต่พนักงานก็ยังขายของได้อยู่นะ รีบสปีคกันแบบรัวๆ มีลิ้นพันกันมั่งอ่ะ ดูจากรูปการณ์แล้ว
ขณะที่เครื่องกำลังจะลง ขณะที่เรากำลังสลึมสลือ กัปตันสุชาติประกาศออกไมค์ตามธรรมเนียม ที่สะดุดหูสุดคือ กัปตันบอกตอนนี้อุณหภูมิเมืองชิงเต่าอยู่ที่ -5 องศา ได้แต่ยิ้มมุมปาก แล้วถามตัวเองเบาๆ ว่า "กรูมาทำอะไรที่นี่ว่ะเนี่ย"
หนีหนาวมาเจอหนาวกว่า
ล้อแตะพื้น พี่จีนคงคอนเซปต์เดิม อลหม่านบ้านแตกสาแหรกขาด สัญญาณปลดเข็มขัดยังไม่ทัน ดังพี่ลุกกันละ บ้างก็โทรศัพท์หาพรรคพวก หนีห่าวกันไม่เกรงใจพนักงานกันเลยทีเดียว
ออกจากเครื่องเรียบร้อย สนามบินดูไฮโซโบว์ใหญ่กว่าที่คิดไว้
เราจะต้องหาซุ้มขายตั๋วรถ Airport Bus สาย 2 เข้าเมือง ระหว่างเดินหารถ มันช่างประจวบเหมาะ เพลงของไชน่าดอลล์เวอร์ชั่นภาษาจีนปนไทยดังกระหึ่มขึ้นมา
สวัสดีค่ะค่ะค่ะ สวัสดีค่ะค่ะค่ะ แหมมม เมืองนี้เค้าต้อนรับเรากันขนาดนี้เลยหรือ
โดนไปคนละ 20 หยวน
ปลายทาง Airport Bus สาย 2 จะจอดที่สถานีรถไฟชิงเต่า
แต่เราเจรจากับคนขับรถละว่าของลงป้ายที่ใกล้โรงแรมที่สุดจะได้เดินกันไป ประหยัดงิ๊
ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ถึงโรงแรมที่เราทำการจองไว้ ชื่อโรงแรม Nostalgia Theme Inn พนักงานโรงแรมนี้ NO ENGLISH นะ แถมยังไม่ให้เช็คอินอีก ให้รอตอนเที่ยง อย่ามาตลก อีกตั้ง 3 ชั่วโมง
อ้อนวอนร้องขอ
Me: ถ้าไม่มีคนพักขอเข้าก่อนเหอะ ออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า
พนักงาน: ไปหาอะไรกินก่อน อีกชั่วโมงค่อยกลับมา
นึกในใจ จะให้พวกกรูไปกินอะไร ตอนเดินมา ไม่มีร้านไหนเปิดสักร้าน
Me: งั้นจะนั่งกดดันรอตรงนี้
พนักงานเลิ่กๆลั่กๆ ได้ผลเว้ย นั่งรอแค่ 10 นาที ได้เข้าห้องสบายใจ รู้สึกชนะเบาๆ
ภายในห้องตกแต่งดีนะ ออกแนววินเทจ เก่าๆหน่อย ไม่รู้จงใจทำให้มันเก่าหรือมันเก่าด้วยตัวมันเอง ห้องเย็นมากๆ ผนังเย็น พื้นเย็น ขนาดเปิดฮีทเตอร์เบอร์แรงสุดยังรั้งไว้ไม่อยู่
ส่วนห้องน้ำก็ไม่มีประตูนะจ้ะ มีแค่ม่านบางๆ สวีทโรม๊านซ์มากอ่ะ แต่มันใช่เวลามั้ย หนาวเฟ้ยยย
ม่านมายา
จะได้อาบน้ำป่ะล่ะ
เช็คห้องฮับเรียบร้อย นอนเอาแรงสะหน่อย อาจจะเกินหน่อยไปบ้าง ตื่นมาก็บ่ายละ หิวอีกตังหาก
แพลนของเราคือจะไป Qingdao Beer Museum แต่เราจะแวะหาไรกินก่อน ดังนั้นเราจะเดินไปเรื่อยๆถึงแม้ว่าระยะทางจะไกล เดินเท้าถึง 3 กิโล ตามรายทางร้านค้าทุกอย่างล้วนปิดสนิท คนก็ไม่มี เงียบสงัดเหมือนเมืองร้างที่พึ่งโดนซอมบี้บุก รู้สึกไม่ชินเหมือนกันนะ โหวงๆ ไม่ได้หายใจรดต้นคอใส่ใคร
ดินแดนอ้างว้างร้างผู้คน
เดินอยู่นาน ท้องแกว่งน่องโก่ง ข้าวก็ไม่ได้กิน เห็นร้านแมคนี่กระโดดตัวลอย ฝากท้องไว้ที่แมคละกัน
จัดไอติมซากุระมาสักโคน "หนาวยอกต้องเอาหนาวบ่ง"
เมื่อหนังท้องตึง เราจึงเริ่มเดินต่อ เดินไปก็ภาวนาขอให้มิวเซียมเปิด ไม่งั้นเดินเสียเที่ยวแน่ๆ
เดินผ่านถนนเบียร์ ถนนที่มีชื่อเสียงสายหนึ่งของชิงเต่า
ฝาท่อระบายน้ำ
ฟ้ามีตา มิวเซียมเปิด ค่าเข้าเยี่ยมชมคนละ 50 หยวน มีไกด์ด้วยนะแต่ต้องจ้างเอา มีทั้งไกด์ภาษาจีน ไกด์ภาษาอังกฤษ แต่..เอ..ขนาดประวัติศาสตร์บ้านเมืองเรา กรูยังจำไม่ค่อยได้ ถ้าไม่รู้ประวัติศาสตร์เบียร์ชิงเต่าเพิ่มอีกก็คงไม่เสียหายอะไรเท่าไหร่หรอกมั้ง
ของจริงมั้ยไม่รู้ อยากขอลองชิม
ใช้เวลาสักพักไปกะการเดินชมมิวเซียมเบียร์ เราว่าคุ้มค่าการเยี่ยมชม ได้ความรู้ดี มิวเซียมก็จัดระบบดี สะอาด ผ่านการดูแลรักษาเป็นอย่างดี มีเกมส์ให้เล่น มีร้านอาหาร
แฟนพันธุ์แท้ชิงเต่าเบียร์มิวเซียมคือผู้นี้นี่เองงงง
ข้างในเป็นบ้านเอียง ใครซดเบียร์เข้าไปเดินในนั้นมีหวังได้ล้มตึงแน่ ครองสติให้ดี
ตั๋วที่ซื้อมาสามารถเอามาแลกเบียร์ชิงเต่าได้ตั๋วละ 1 แก้ว
เป็นเด็กเป็นเล็ก
ข้างๆมีซุ้ม Premium Gift ให้ไปถ่ายรูปแล้วเค้าก็จะเอารูปเรามาติดขวดเบียร์ให้เราเอากลับบ้าน ราวกับโดนป้ายยา ควัก 35 หยวน ให้พนักงานอย่างง่ายดาย ได้เบียร์รูปตัวเองมา 1 ขวด โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเอาขึ้นเครื่องยังไง
เป็น Brand Ambassador นิดๆหน่อยๆ
ใครใคร่ซื้อของฝาก..ซื้อ
ไฮไลท์ของชิงเต่า เบียร์ใส่ถุงพลาสติก ใครมาแล้วไม่ได้ดูดจากถุงนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะ
สถานีต่อไป เราจะไปโบสถ์ Qingdao Catholoic Church กัน โบกแท็กซี่ไปแป๊บเดียว ไปถ่ายรูปโบสถ์ชิคๆ
เมื่อได้รูปถูกอกถูกใจก็มุ่งหน้าเดินเท้าต่อไปท่าเรือ Zhanqiao
ท่าเรือนี้ดูไปดูมาคล้ายบางปูนะ มีนกมีน้ำ คิดถึงบ้านขึ้นมาทันที
ขอสารภาพตรงนี้เลยว่า ระหว่างเดินทางเรามีความคิดอยากเปลี่ยนโรงแรมกันมาก เพราะไม่มั่นใจในฮีทเตอร์ตัวนั้นเลย
คุยกันแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะย้ายโรงแรม เสียตังค์คืนแรกไปสำหรับการนอน 3 ชั่วโมง แต่แลกกับความสบาย ยอมจำนนเสียเงินไปแต่โดยดี
พนักงานคนเดิมหมือนกินยาผิดขนาน มึนๆเบลอๆ ให้ตังค์คืนมาครึ่งนึงแบบไม่มีข้องท้วงติง สงสัยพี่แกอดหลับอดนอน เป็นสปอนเซอร์รายหลักให้สะงั้น
เราเลือกลงที่โรงแรม IBIS อีกครั้ง ถือว่าไว้วางใจได้มากเหมือนเคย
ที่เดิมในหัวใจ
รีบนอนพักเอาแรง พรุ่งนี้ไป "ภูเขาเหลาชาน" กัน