สวัสดีพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยว วังเวียงแบบลุยเดี่ยว เนื่องมาจากได้เกิดเหตุผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยเลยทำให้ที่นัดๆกันไว้เลยเหลือแค่ผมเพียงคนเดียว แต่ด้วยใจของผมที่มันไปอยู่ที่วังเวียงแล้วเลยต้องดำเนินการต่อไปโดยลองหาข้อมูลต่างๆจากในพันทิปนี้แหละเลยออกมาเป็นการเดินทางของทริปนี้ครับ

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 23.00 น. ผมออกเดินทางจาก กรุงเทพ มุ่งหน้าสู่ อุดรธานี โดยใช้บริการของนครชัยแอร์ รอบเวลา 23.00 น.

ได้เวลาขึ้นรถแล้วนี้เป้นหน้าตาที่นั่งของผม

หลังจากรถออกเดินทางก็มีพนักงานมาแจกขนม น้ำ ผมรับมาแล้วก็หลับยาวจนถึง อุดรธานี ถึงแล้วอุดรธานีเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 6.30 น.

มาถึง บขส. อุดรธานี ก็ต้องมาซื้อ ตั๋วไปวังเวียง ที่ช่องนี้เลย


ใช้พาสปอร์ตกับเงิน320บาทไทยก็ได้มาแล้วครับตั๋วไปวังเวียง

ซื้อตั๋วเสร็จเวลาประมาน7โมงนิดๆเวลาเหลือเยอะอยู่เพราะรถจะออกจากอุดรธานีตอน 8.30น.ท้องร้องแล้วด้วยเลยไปร้านที่ขึ้นชื่อในอุดร ก็คือ คิงส์โอชา โดยนั่งสกายแล็ปไป

ถึงแล้ว คิงส์โอชา จัดไป1ชุด


จัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อยก็มากลับมาที่ บขส.อุดรธานี ผมเลือกเดินเท้ากลับเพราะมันไม่ไกลเท่าไรแล้วเวลาก็ยังเหลือเลยเดินดูบรรยากาศตอนเช้าไปเรื่อยๆแปปเดียวก็ถึงแล้ว นี่คือหน้าตารถไปวังเวียง

เก็บกระเป๋าใต้ท้อง 8.30 น. ออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะ เหมือนเดิมคือผมหลับ5555 แล้วก็มาถึง ตม.ไทย ทำเรื่องออกราชอาณาจักรไทย


เสร็จเรียบร้อยก็ข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว แล้วก็มาถึง ตม.ลาว ทำเรื่องเข้าประเทศลาว เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์เลยมีคนไม่เยอะ

พอผ่านเสร็จก็ไปซื้อ ตั๋ว วันเวย์ เพื่อผ่านข้ามไปแผ่นดินลาว เนื่องจากเป็นวันธรรมดาเลยเสียแค่ 5 บาท แล้วก็เอาไปเสียบผ่านตู้นั้นออกไป


ออกเสร็จแล้วก็ต้องไปแลกเงินครับ ผมแลกไป2500บาทไทยครับ ได้มาเท่าที่เห็นครับ

ทำเรื่องผ่านแดน แลกเงินเสร็จ ก็ออกเดินทางไปวังเวียงระหว่างทางที่จะถึงวังเวียงก็มาถึงจุดพักรถ ของเค้า หน้าตาประมานนี้



มาถึงจุดพักรถท้องร้องอีกแล้วเลยจัดแซนด์วิชเบค่อนไม่ใส่ผักไป 1 อัน ราคา10000กีบ แล้วก็ โค้กกระป๋อง ราคา6000กีบ ได้ปุ๊ปกินปั๊ปนึกขึ้นได้ลืมชักภาพ55555 เลยเป็นอย่างที่เห็น

ทานเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นรถคันเดิมออกเดินทางต่อไปยังวังเวียง แล้วก็มาถึงบขส. วังเวียง เวลาประมาน 14.30น.

มาถึงก็รีบจองตั๋วกลับก่อนเดี๋ยวไม่ได้กลับ อิอิ ราคาตั๋วกลับ ถ้าเงินไทยก็ 400 บาทไทย ถ้าเงินกีบ ก็ 9000กีบ จขกท.จ่ายเป็นเงินกีบจร้า!!!!

แล้วก็ขึ้นรถฟรีคันนี้เข้าตัวเมืองวังเวียง จขกท.เลือกนั่งหน้าไม่ต้องไปเบียดกับใคร


แหม่!!!!! ฟัง จ๊ะ อาร์สยามซะด้วย อิอิ

แล้วก็มาถึงตัวเมืองวังเวียง แต่ถ้าไม่มีรถฟรีมารับก็เดินได้ไม่ไกลข้ามพื้นที่โล่งๆว่างๆมาก็เป็นตัวเมืองแล้วครับ

ออกเดินทางไปยังที่พักด้วยการเดินเท้า ชมเมืองไปด้วย


ระหว่างการทางเดินก็เติมพลังซะหน่อย อิอิ

เอ้า!!!! เดินต่อ





แล้วก็มาถึงที่พัก บานาน่าบังกะโล เนื่องจาก จขกท. ไม่ได้จองไว้และได้รับคำแนะนำจากเพื่อนเลยเลือกพักและเลยเดินดิ่งมาที่นี่ที่เดียว


ตกลงราคากันเสร็จได้ที่ราคาคืนละ600บาทไทย จขกท.เลือกที่นอนคืนแรกขอวิวภูเขา คืนที่สองขอวิวแม่น้ำซอง
ที่พักคืนแรกหลังในสุด


เก็บของเสร็จ อาบน้ำอาบท่าแต่งตัวออกมาชิวริมน้ำดีกว่าเดี๋ยวเย็นๆคนจะเยอะ อิอิ



เวลาประมาน6โมงคนเริ่มเยอะ ผมเริ่มหิวเลยออกไปหาอะไรทานในตัวเมือง สรุปจบที่ข้าวเหนี่ยวไก่ย่าง หมูทอด ร้านนี้



ทานของคาวเสร็จก็ต้องทานของหวานต่อ เลยไปจบที่ร้านนี้ โรตีนูเทลล่า โรยด้วยกะทิผง ตามภาพ


ทานเสร็จก็หาซื้อ One Day Trip ตอนแรกผมจะเช่ามอไซค์แว้นส์เองแต่พี่ที่เค้าดูแลที่พักเค้าแนะนำให้ซื้อทัวร์ดีกว่า ผมก็เลยทำตามคำแนะนำเลยไปซื้อทัวร์ ถ้ำน้ำ+ถ้ำช้าง+Kayaking+Blue Lagoon ราคา 130000 กีบ

พอดึกหน่อยก็ออกไปตามคำแนะนำของเพื่อนต้องไปดื่มที่ ซากุระบาร์

มีแต่ฝรั่งกับเกาหลีแต่ก็สนุกดีได้เวลาพอสมควรก็กลับเข้าที่พักนอนหลับเพื่อไว้เก็บแรงไว้ลุยต่อในวังรุ่งขึ้น
เช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 06.45 น. ผมก็ตื่นขึ้นมาตามเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเองได้ตั้งเอาไว้เพื่อออกมา ชักภาพยามเช้าซักหน่อย



เสร็จแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวออกมาทานอาหาเช้าของที่พักซะหน่อย เป็นโจ๊กกับโอวัลติน




เนื่องจากว่าโจ๊กมันไม่ค่อยถูกปากผมซักเท่าไรเลยทานนิดเดียวก็เลยออกไปหาอะไรทานในตัวเมืองแล้วไปยังที่เค้านัดหมายไว้9โมงเช้า เลยจบที่เบอร์เกอร์

เวลา9.00น.รถที่จะพาเราไปทัวร์ก็มารับเป้นแบบนี้


ออกเดินทางไปยังถ้าน้ำเป็นที่แรก แล้วก็มาถึงแต่เราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาน10นาที ต้องข้ามสะพานนี้ก่อน


แล้วเดินเท้าต่อไปที่ถ้ำน้ำ



แล้วเราก็มาถึงถ้ำน้านี่เป็นทางเข้าไป

ก่อนเข้าใครที่ใส่แว่นพี่เค้าจะทำเชือกรัดขาแว่นให้เพื่อกันหล่นหาย

เข้าไปในทำประมาน40นาที เราจะนั่งห่วงยางล่องเข้าไปตามเชือกจะมีไฟฉายติดหัวไว้ส่องทางข้างใน น้ำข้างในเย็นมากแล้วก็มีแกล้งกันไปมา สนุกดีครับ ไม่ได้ชักภาพเลย เพราะกลัวเปียกแต่เข้าไปข้างในเปียกแน่นอน
ออกมาก็มาพักกินข้าวกลางวันที่ทางทัวร์เค้าจัดไว้ให้หน้าตาเป้นแบบนี้

พอทานเสร็จก็ออกเดินเท้าไปถ้ำช้างซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน เนื่องจากมีหินที่งอกออกมาจากตัวถ้ำเป็นรูปเหมือนช้างเลยเรียกว่าถ้ำช้างครับ



เสร็จแล้วก็ออกเดินทางมายังจุดปล่อยเรือคายัค ซึ่งมีระยะทางกว่า10กิโลล่องไปยังจุดสิ้นสุด เนื่องจาก ผมกับคนอื่นอีก5คนได้ซื้อทัวร์เพิ่มไปยัง บลูลากูน เลยได้ออกเดินทางมาก่อน


พายมาได้ครึ่งทางก็มาพักที่บาร์คนลาว ไกด์เค้าถามว่าจะพักที่บาร์ฝรั่งหรือบาร์คนลาว เราก็เลือกบาร์คนลาวกัน ก็มานั่งพักนั่งดื่มกับเพื่อนร่วมทริปและไกด์ซักหน่อย


พักเหนื่อยเสร็จก็พายเรือไปยังจุดสิ้นสุดแล้วขึ้นรถเดินทางไปยังบลูกลากูนต่อ

แล้วก็มาถึงบลูลากูน ก็เลยจัดการโดดน้ำไป1รอบ เดี๋ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึง



แหม่!!!มีงานด่วนเข้ามา เดี๋ยวมาต่อช่วงเย็นนะฮ๊าฟฟฟ