จากเหตุการณ์
- ตอนเช้าน้ากับหลานชายอายุ 18 ปี (ยังไม่มีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล) ขับรถมิสซู ไทรทัน กำลังจะไปรับน้าอีกคนไปหาหมอ ซึ่งปวดหัวมาก พอขับรถมาถึงสี่แยกไฟแดง (ไฟส้มกระพริบ) หลานชายได้ชลอรถเพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปในหมู่บ้านเพราะมีรถทางตรงสวนทางมาอีก 2 คันก่อนจะหักเลี้ยว เมื่อเลี้ยวรถพ้นทางเข้าไปได้สักพักมีมอไซด์ทางตรงพุ่งมาชนท้ายรถ (ไฟท้ายแตกและมีรอยยุบบริเวณท้าย) จากนั้นน้าก็โทรเรียกให้ผมไปหา ณ ที่เกิดเหตุ
- หลังจากเกิดเหตุผมได้พาผู้บาดเจ็บ ชาย อายุ 17 ปี ไปรับการรักษาที่ รพ.สต. ใกล้ ๆ โดยมีแผลเปิดมือซ้ายระหว่างนิ้วนางและนิ้วก้อยและได้เย็บปิดแผลไป เพราะโดนก้อนหิน ส่วนแผลตามร่างกายเป็นแผลถลอก บริเวณหน้าขาซ้าย แขนซ้าย แขนขวา บริเวณใบหน้าไม่มีบาดแผล (ผู้บาดเจ็บไม่ได้สวมหมวกกันน๊อค)
- หลังจากที่พาผู้บาดเจ็บไปรักษามาเสร็จก็ได้พาผู้บาดเจ็บไปบ้านเพื่อเจรจาว่าจะให้ช่วยเหลือแบบไหนต่อ เพราะ ตอนนั้นผมคิดว่าน้องไม่มีใบขับขี่และผู้บาดเจ็บไม่ได้บาดเจ็บมากจึงได้ไปคุยกับผู้ใหญ่ และทางรถเราเป็นรถใหญ่คงเป็นฝ่ายผิดและจะยอมรับผิดและพร้อมจะชดเฉยให้ ผมจึงตกลงว่าจะยอมจ่ายค่าเสียหายให้ โดยออกค่ารักษาพยาบาลที่จะมีขึ้นภายหลังเพิ่มเติมให้ รวมทั้งค่าซ่อมมอไซด์
- ผมต้องบอกก่อนว่าทางผู้ใหญ่ของเด็กผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ซึ่งมีอิทธิพลภายในละแวกนั้นมาก เพราะผู้ปกครองของเด็กเรียกตัวมา ระหว่างเจรจาผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บเองก็ได้ขมขู่และบอกว่ารู้จักกับตำรวจหลายนาย และได้เรียกตำรวจที่ทำงานอยู่ป้อมยาม ณ ที่เกิดเหตุมาทำบันทึกข้อความที่บ้านและทางตำรวจเองก็เป็นคนรู้จักสนิทคุ้นเคยของผู้ใหญ่ผู้บาดเจ็บ(ดูจากการพูดคุยและปฏิบัติตัว) และทางตำรวจยังบอกอีกว่าไม่ให้แจ้งประกันเพราะเสียเวลาจะเรียกมาทำไมกว่าประกันจะมาถึงก็ใช้เวลาทำทั้งวัน ซึ่งผมเองก็เริ่มรู้สึกไม่ดีที่ถูกทำแบบนั้นจึงได้โทรเรียกประกัน จากนั้นผู้ใหญ่ทางด้านผู้บาดเจ็บก็ได้บอกว่าถ้างั้นผมจะเรียกร้อยเวรออกมาเลย และได้โทรไปแจ้งร้อยเวรแล้วจะให้ร้อยเวรออกมาคุยที่บ้าน ซึ่งผมเองก็ตกใจว่าทำไมต้องมาที่บ้านทำไมถึงไม่ไป สภ. (ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก) ผมจึงได้บอกผู้ใหญ่ไปว่าผมขอไปคุยที่ สภ. และจะคุยเมื่อประกันมาถึง (รถผมยังเป็นป้ายแดง ประกันชั้น 1 ของโตเกียวมารีน)
- ระหว่างที่รอประกันอยู่ที่ สภ. ผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บและร้อยเวรได้เข้าไปคุยเจรจากันก่อน จากนั้นก็ออกมาและพูดในทำนองว่าถ้ายอมคุยยอมจ่ายแต่แรกก็ไม่จำเป็นต้องมา สภ. และไม่ต้องเรียกประกันให้เสียเวลาด้วย
- เมื่อประกันมาถึงผมจึงได้เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังและได้บอกว่าได้เจรจากับผู้บาดเจ็บแล้วแต่ทางด้านผู้บาดเจ็บไม่ยอม ทางด้านประกันก็แจ้งว่าเราไม่มีใบขับขี่ประกันจะไม่ชดใช้หรือซ่อมรถให้แต่ยังสามารถชดใช้ให้คู่กรณีให้ได้ ซึ่งผมเองก็ทราบเรื่องนี้ดี และผมได้บอกทางประกันว่าอยากให้ช่วยเจรจาเรื่องค่าเสียหายของคู่กรณีให้ ส่วนรถของผมจะไปจัดการเอง ประกันก็ยอมตกลง
- เมื่อเข้ามาในห้องสอบสวนร้อยเวรก็ชี้ว่าทางผมผิดเพราะไปตัดหน้า แต่ไม่ได้สอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางผมเลย มีแต่บอกว่าทางผู้บาดเจ็บจะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไร ผู้ใหญ่ผู้บาดเจ็บก็แจ้งว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งผมเองก็ตกใจมาก จึงให้เป็นหน้าที่ของทางประกัน และทางประกันก็ได้แจ้งกับทางผู้บาดเจ็บว่าประกันจะชดใช้ค่าเสียหายค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ โดยให้นำใบรักษาพยาบาล หรือใบเสร็จซ่อมรถมาทำการเบิกแต่ ณ วันนั้นผู้บาดเจ็บยังต้องการที่จะ x-ray ร่างกายเพิ่มเติม และทางด้านผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บไม่ยอมต้องการค่าทำขวัญและค่าสินไหมทดแทนให้ครบ 1 หมื่นบาท แต่ทางประกันก็แจ้งว่าต้องเอาหลักฐานด้านรักษาและซ่อมมาก่อนจึงจะทำการเบิกให้ได้ จึงได้นัดไปอีกครั้งหนึ่งในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อไกล่เกลี่ย
- รถของผู้บาดเจ็บ พรบ.หมดอายุ - ใบขับขี่ไม่มี – ป้ายทะเบียนไม่ได้ต่อ – หมวกกันน๊อคไม่ได้ใส่
ผมอยากจะสอบถามว่า
1.เราจะต้องชดใช้ค่าทำขวัญและค่าสินไหมทดแทนเพิ่มจากที่ประกันจ่ายให้หรือไหม ? สมมุติ ผู้บาดเจ็บนำใบเสร็จค่ารักษาค่าซ่อมรถมาเรียบร้อยแล้วจำนวน 2000 บาท เหลืออีก 8000 บาท ทางผมจะต้องจ่ายเพิ่มให้หรือไม่ต้องจ่ายแล้วผู้บาดเจ็บสามารถเรียกร้องได้ไหมครับ ? (เพราะผมต้องซ่อมรถเอง)
2.หลานชายผมจะถูกปรับเท่าไรในกรณีนี้ และจะถึงขั้นติดคุกไหมครับ
3.ถ้าหากถึงขั้นต้องไปฟ้องกันที่ศาล ผมสามารถเรียกร้องความเป็นทำได้กรณีใดบ้างครับ เพราะคำให้การของผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บที่ได้แจ้งต่อตำรวจว่าเราจะไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งผมได้โต้แย้งไปแล้วว่าตอนที่อยู่บ้านผมไม่ได้เคยกล่าวว่าจะไม่ช่วยผู้บาดเจ็บเลยสักครั้ง เพราะผมเสนอชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ตั้งแต่แรกแล้วครับ (ซึ่งผมเสียความรู้สึกมากนะตอนนั้น)
4.ผมเข้าใจถูกหรือไหมว่า ตามที่ผมต้องไป สภ. อีกรอบเพื่อให้ประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้บาดเจ็บและเซ็นต์ยอมรับว่าทางผมผิดที่ไปตัดหน้ารถ พร้อมทั้งเสียค่าปรับเพื่อยอมความ ให้เรื่องจบ ถูกหรือไหมครับ
ถ้าหากมีคำแนะนำเพิ่มเติมหรือมีข้อชี้แนะรบกวนช่วยบอกด้วยครับ เพราะผมเป็นห่วงหลานชายครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดนชนท้ายแต่ต้องยอมรับผิด
- ตอนเช้าน้ากับหลานชายอายุ 18 ปี (ยังไม่มีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล) ขับรถมิสซู ไทรทัน กำลังจะไปรับน้าอีกคนไปหาหมอ ซึ่งปวดหัวมาก พอขับรถมาถึงสี่แยกไฟแดง (ไฟส้มกระพริบ) หลานชายได้ชลอรถเพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปในหมู่บ้านเพราะมีรถทางตรงสวนทางมาอีก 2 คันก่อนจะหักเลี้ยว เมื่อเลี้ยวรถพ้นทางเข้าไปได้สักพักมีมอไซด์ทางตรงพุ่งมาชนท้ายรถ (ไฟท้ายแตกและมีรอยยุบบริเวณท้าย) จากนั้นน้าก็โทรเรียกให้ผมไปหา ณ ที่เกิดเหตุ
- หลังจากเกิดเหตุผมได้พาผู้บาดเจ็บ ชาย อายุ 17 ปี ไปรับการรักษาที่ รพ.สต. ใกล้ ๆ โดยมีแผลเปิดมือซ้ายระหว่างนิ้วนางและนิ้วก้อยและได้เย็บปิดแผลไป เพราะโดนก้อนหิน ส่วนแผลตามร่างกายเป็นแผลถลอก บริเวณหน้าขาซ้าย แขนซ้าย แขนขวา บริเวณใบหน้าไม่มีบาดแผล (ผู้บาดเจ็บไม่ได้สวมหมวกกันน๊อค)
- หลังจากที่พาผู้บาดเจ็บไปรักษามาเสร็จก็ได้พาผู้บาดเจ็บไปบ้านเพื่อเจรจาว่าจะให้ช่วยเหลือแบบไหนต่อ เพราะ ตอนนั้นผมคิดว่าน้องไม่มีใบขับขี่และผู้บาดเจ็บไม่ได้บาดเจ็บมากจึงได้ไปคุยกับผู้ใหญ่ และทางรถเราเป็นรถใหญ่คงเป็นฝ่ายผิดและจะยอมรับผิดและพร้อมจะชดเฉยให้ ผมจึงตกลงว่าจะยอมจ่ายค่าเสียหายให้ โดยออกค่ารักษาพยาบาลที่จะมีขึ้นภายหลังเพิ่มเติมให้ รวมทั้งค่าซ่อมมอไซด์
- ผมต้องบอกก่อนว่าทางผู้ใหญ่ของเด็กผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ซึ่งมีอิทธิพลภายในละแวกนั้นมาก เพราะผู้ปกครองของเด็กเรียกตัวมา ระหว่างเจรจาผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บเองก็ได้ขมขู่และบอกว่ารู้จักกับตำรวจหลายนาย และได้เรียกตำรวจที่ทำงานอยู่ป้อมยาม ณ ที่เกิดเหตุมาทำบันทึกข้อความที่บ้านและทางตำรวจเองก็เป็นคนรู้จักสนิทคุ้นเคยของผู้ใหญ่ผู้บาดเจ็บ(ดูจากการพูดคุยและปฏิบัติตัว) และทางตำรวจยังบอกอีกว่าไม่ให้แจ้งประกันเพราะเสียเวลาจะเรียกมาทำไมกว่าประกันจะมาถึงก็ใช้เวลาทำทั้งวัน ซึ่งผมเองก็เริ่มรู้สึกไม่ดีที่ถูกทำแบบนั้นจึงได้โทรเรียกประกัน จากนั้นผู้ใหญ่ทางด้านผู้บาดเจ็บก็ได้บอกว่าถ้างั้นผมจะเรียกร้อยเวรออกมาเลย และได้โทรไปแจ้งร้อยเวรแล้วจะให้ร้อยเวรออกมาคุยที่บ้าน ซึ่งผมเองก็ตกใจว่าทำไมต้องมาที่บ้านทำไมถึงไม่ไป สภ. (ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก) ผมจึงได้บอกผู้ใหญ่ไปว่าผมขอไปคุยที่ สภ. และจะคุยเมื่อประกันมาถึง (รถผมยังเป็นป้ายแดง ประกันชั้น 1 ของโตเกียวมารีน)
- ระหว่างที่รอประกันอยู่ที่ สภ. ผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บและร้อยเวรได้เข้าไปคุยเจรจากันก่อน จากนั้นก็ออกมาและพูดในทำนองว่าถ้ายอมคุยยอมจ่ายแต่แรกก็ไม่จำเป็นต้องมา สภ. และไม่ต้องเรียกประกันให้เสียเวลาด้วย
- เมื่อประกันมาถึงผมจึงได้เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังและได้บอกว่าได้เจรจากับผู้บาดเจ็บแล้วแต่ทางด้านผู้บาดเจ็บไม่ยอม ทางด้านประกันก็แจ้งว่าเราไม่มีใบขับขี่ประกันจะไม่ชดใช้หรือซ่อมรถให้แต่ยังสามารถชดใช้ให้คู่กรณีให้ได้ ซึ่งผมเองก็ทราบเรื่องนี้ดี และผมได้บอกทางประกันว่าอยากให้ช่วยเจรจาเรื่องค่าเสียหายของคู่กรณีให้ ส่วนรถของผมจะไปจัดการเอง ประกันก็ยอมตกลง
- เมื่อเข้ามาในห้องสอบสวนร้อยเวรก็ชี้ว่าทางผมผิดเพราะไปตัดหน้า แต่ไม่ได้สอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางผมเลย มีแต่บอกว่าทางผู้บาดเจ็บจะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไร ผู้ใหญ่ผู้บาดเจ็บก็แจ้งว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งผมเองก็ตกใจมาก จึงให้เป็นหน้าที่ของทางประกัน และทางประกันก็ได้แจ้งกับทางผู้บาดเจ็บว่าประกันจะชดใช้ค่าเสียหายค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ โดยให้นำใบรักษาพยาบาล หรือใบเสร็จซ่อมรถมาทำการเบิกแต่ ณ วันนั้นผู้บาดเจ็บยังต้องการที่จะ x-ray ร่างกายเพิ่มเติม และทางด้านผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บไม่ยอมต้องการค่าทำขวัญและค่าสินไหมทดแทนให้ครบ 1 หมื่นบาท แต่ทางประกันก็แจ้งว่าต้องเอาหลักฐานด้านรักษาและซ่อมมาก่อนจึงจะทำการเบิกให้ได้ จึงได้นัดไปอีกครั้งหนึ่งในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อไกล่เกลี่ย
- รถของผู้บาดเจ็บ พรบ.หมดอายุ - ใบขับขี่ไม่มี – ป้ายทะเบียนไม่ได้ต่อ – หมวกกันน๊อคไม่ได้ใส่
ผมอยากจะสอบถามว่า
1.เราจะต้องชดใช้ค่าทำขวัญและค่าสินไหมทดแทนเพิ่มจากที่ประกันจ่ายให้หรือไหม ? สมมุติ ผู้บาดเจ็บนำใบเสร็จค่ารักษาค่าซ่อมรถมาเรียบร้อยแล้วจำนวน 2000 บาท เหลืออีก 8000 บาท ทางผมจะต้องจ่ายเพิ่มให้หรือไม่ต้องจ่ายแล้วผู้บาดเจ็บสามารถเรียกร้องได้ไหมครับ ? (เพราะผมต้องซ่อมรถเอง)
2.หลานชายผมจะถูกปรับเท่าไรในกรณีนี้ และจะถึงขั้นติดคุกไหมครับ
3.ถ้าหากถึงขั้นต้องไปฟ้องกันที่ศาล ผมสามารถเรียกร้องความเป็นทำได้กรณีใดบ้างครับ เพราะคำให้การของผู้ใหญ่ของผู้บาดเจ็บที่ได้แจ้งต่อตำรวจว่าเราจะไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งผมได้โต้แย้งไปแล้วว่าตอนที่อยู่บ้านผมไม่ได้เคยกล่าวว่าจะไม่ช่วยผู้บาดเจ็บเลยสักครั้ง เพราะผมเสนอชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ตั้งแต่แรกแล้วครับ (ซึ่งผมเสียความรู้สึกมากนะตอนนั้น)
4.ผมเข้าใจถูกหรือไหมว่า ตามที่ผมต้องไป สภ. อีกรอบเพื่อให้ประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้บาดเจ็บและเซ็นต์ยอมรับว่าทางผมผิดที่ไปตัดหน้ารถ พร้อมทั้งเสียค่าปรับเพื่อยอมความ ให้เรื่องจบ ถูกหรือไหมครับ
ถ้าหากมีคำแนะนำเพิ่มเติมหรือมีข้อชี้แนะรบกวนช่วยบอกด้วยครับ เพราะผมเป็นห่วงหลานชายครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ