ในยุคนี้สมัยนี้ที่ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดราคาลงมาต่ำกว่า 30 บาทในรอบหลายๆปี (หวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป) ผมเชื่อว่าหลายๆคนเริ่มสงสัยแล้วว่าใช้อะไรประหยัดกว่ากัน น้ำมันก็มีตั้งหลายประเภททั้งเบนซิน 95 โซฮอล์ 95, โซฮอล์ 91, E20, E85 แล้วไหนยังจะมีแก๊ซ LPG กะ NGV อีก ขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นตาสีตาสาธรรมดานะครับ รวบรวมข้อมูลเท่าที่ได้จากในเน็ต (จึงไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน) วิชาคำนวนผมก็อ่อนด๋อยด้วย ถ้ามีผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
พลังงานความร้อนเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
ก่อนอื่นผมขอเกริ่นก่อนครับว่า เชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้พลังงานไม่เท่ากัน ผมขอกราบงามๆให้กับคุณ Sky-hook-copter สำหรับสูตรคำนวนพลังงานแต่ละชนิด จากกระทู้นี้ครับ
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2011/04/X10474355/X10474355.html
หลังจากที่ผมลองเอามาใส่ Excel คำนวนออกมา ก็จะได้ประมาณนี้ครับ
จากรูปเป็นการคำนวนพลังงานจากความร้อนที่เชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้ออกมาครับ ซิ่งในช่อง Baht/MJ* จะบอกเราว่าเราต้องใช้เงินจำนวนเท่าไรเพื่อที่จะผลิตพลังงานออกมา 1 Mega Jules (ไม่ใช่ ปิกาจู) เพื่อเป้นการเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมเพิ่มช่องรองสุดท้ายเพื่อบอกว่า ถ้าเราใช้เบนซิน 95 จำนวน 1 ลิตร วิ่งได้ระยะทาง 15 กม. เชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ จะวิ่งได้กี่ กม. โดยเอาพลังงานความร้อนของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดเป็นตัวตั้งต้นครับ และในช่องหลังสุดก็คือ เมื่อคำนวนออกมาเป็น บาทต่อ กม. น้ำมันแต่ละชนิดใช้ไปเท่าไร
ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
จบเรื่องคำนวนเอาไว้แค่นี้นะครับ กลัวบวกไปลบมาแล้วจะผิดซะเอง หน้าจะแหกเสียเปล่าๆ มาต่อกันที่เรื่องเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างเชื้อเพลิง 2 ชนิดคือ E20 และ LPG กันดีกว่าครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมใช้เชื้อเพลิงทั้งสองชนิดกับรถคันเดียวกัน รถผมเป็นอัลติส วางเครื่อง 2zz-ge เป้นเครื่อง 1800 ตัวเดียวกับ Celica Gen 7 มั้ง ปกติผมจะใช้น้ำมัน E20 และผมได้ติดแก๊สระบบหัวฉีด Energy Reform ด้วย จริงๆก็ใช้แก๊สมาตั้งแต่เครื่องเก่า 3zz-fe แล้วครับ พอวางเครื่องใหม่ก็เอาแก๊สมาติดตั้งและปรับจูนใหม่ เน้นใช้งานแบบรถบ้านทั่วไป ประหยัดๆ
รายละเอียดการทดสอบ
ผมใช้เส้นทางที่แยกจากบางใหญ่ที่แยกซ้ายไปทางสุพรรณบุรี เริ่มจากผมเติมน้ำมัน E20 ที่ Esso เต็มถัง ตัดปุ๊บยกปั๊บ ขับออกจากปั๊มมา U-turn ที่ทางแยก แล้วขับวนไป U-turn แถวๆโรงพยาบาลบางปลาม้า แล้วขับกลับมาที่ปั๊ม Esso เช่นเดิม แล้วก็เติมเต็มถังอีกครั้ง ตัดปุ๊บก็ถ่ายรูปไว้เพื่อคำนวน ระหว่างทางผมจะพยายามรักษาความเร็วไว้ที่ 100+- กม./ชม. โดยใช้ไมล์ความเร็วของรถเป็นหลัก (ไมล์เพี้ยนประมาณ 3 กม./ชม. วัดจาก Monster Gauge) ระหว่างทางเป็นทางราบ แต่จะมีขึ้นลงสะพานเป็นช่วงๆ ผมจะเติมคันเร่งให้ความเร็วลดลงไม่ต่ำกว่า 90 กม./ชม. ในช่วงขึ้นสะพาน ส่วนในไต่ความเร็วผมจะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 3000 ของทุกเกียร์ จะพยายามขับแบบประหยัดสุดชีวิต คือค่อยๆแตะคันเร่งให้ความเร็วค่อยๆไหลขึ้นไปอย่างช้าๆครับ
ส่วนการทดสอบกับ LPG ผมก็ใช้วิธีการเดียวกัน เพียงแต่เติมแก๊สที่ปั๊ม Caltex ที่อยู่ตรงข้ามกัน เพราะปั๊ม Esso ตอนดึกๆคนเติมคงไปแอบงีบหลับผมเลยเติมไม่ได้ การทดสอบ E20 กับ LPG ผมไม่ได้ทำวันเดียวกัน แต่ทุกครั้งที่ผมทดสอบ ผมจะเลือกเวลาช่วงดึกไปจนถึงเช้ามืด จะได้ถนนโล่งๆหน่อย และตัดปัญหาเรื่องการจราจรออกไป ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คลาดเคลื่อนไปมากกว่านี้
ผลการทดสอบ
จากการทดสอบ E20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และ LPG เมื่อเช้านี้ ได้ผลออกมาดังนี้ครับ
ราคาของ E20 เป็นของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแพงกว่าวันนี้อยู่ 75 สตางค์ และที่เห็นระยะทางของ LPG เยอะกว่า เพราะผมเลย U-turn หน้าโรงพยาบาลไป U-turn นึง ซึ่งวัดจาก Google map แล้ว แค่ประมาณ 1.5 กม. ครับ ถือว่าคลาดเคลื่อนจากเดิมไม่มาก ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร
จากผลลัพธ์ที่ได้ ขอสรุปว่า ถ้าคำนวนกันแล้วการใช้ LPG จะประหยัดกว่าใช้ E20 อยู่ กม.ละ 52 สตางค์ หรือคิดเป็น 37.85% ครับ คำนวนโดยตัดเรื่องการซ่อมบำรุง และเรื่องอื่นๆออกไป และโดยปกติการใช้งานแก๊สจะมีการใช้ร่วมกับน้ำมันด้วย เช่น ตอนวอร์มเครื่อง หรือก่อนดับเครื่อง เป็นต้น ไม่ได้ใช้แก๊ส 100% แบบตอนที่ผมทดสอบนี้ครับ
สุดท้ายนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า ผมเองเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ได้มีความรู้ ไม่ได้ทำงานสายพลังงานหรือสายยานยนต์แต่อย่างใด รถที่ผมใช้ และเครื่องยนต์ที่ผมใช้ เป้นคนละตัวกับที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน ไหนจะยี่ห้อแก๊ส ความหนาบางในการจูน ทั้งหมดทั้งสิ้นย่อมส่งผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงานของรถทั้งนั้น และจะลืมไม่ได้เลยคือ ผมทดสอบโดยขับแบบประหยัดแบบสุดๆ ค่อยๆแตะคันเร่ง พยายามกดเบรคและผ่อนคันเร่งให้น้อยที่สุด ซึ่งผลที่ได้อาจจะออกมาดีมากๆสำหรับเครื่องยนต์ชนิดนี้ แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ ผู้ที่กำลังคำนวนว่าจะติดแก๊สดีไหม หรือผู้ที่กำลังติดว่าจะถอดชุดแก๊สออก จะได้มีข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจครับ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวเปรียบเทียบความคุ้มค่า E20 vs LPG
พลังงานความร้อนเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
ก่อนอื่นผมขอเกริ่นก่อนครับว่า เชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้พลังงานไม่เท่ากัน ผมขอกราบงามๆให้กับคุณ Sky-hook-copter สำหรับสูตรคำนวนพลังงานแต่ละชนิด จากกระทู้นี้ครับ
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2011/04/X10474355/X10474355.html
หลังจากที่ผมลองเอามาใส่ Excel คำนวนออกมา ก็จะได้ประมาณนี้ครับ
จากรูปเป็นการคำนวนพลังงานจากความร้อนที่เชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้ออกมาครับ ซิ่งในช่อง Baht/MJ* จะบอกเราว่าเราต้องใช้เงินจำนวนเท่าไรเพื่อที่จะผลิตพลังงานออกมา 1 Mega Jules (ไม่ใช่ ปิกาจู) เพื่อเป้นการเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมเพิ่มช่องรองสุดท้ายเพื่อบอกว่า ถ้าเราใช้เบนซิน 95 จำนวน 1 ลิตร วิ่งได้ระยะทาง 15 กม. เชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ จะวิ่งได้กี่ กม. โดยเอาพลังงานความร้อนของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดเป็นตัวตั้งต้นครับ และในช่องหลังสุดก็คือ เมื่อคำนวนออกมาเป็น บาทต่อ กม. น้ำมันแต่ละชนิดใช้ไปเท่าไร
ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
จบเรื่องคำนวนเอาไว้แค่นี้นะครับ กลัวบวกไปลบมาแล้วจะผิดซะเอง หน้าจะแหกเสียเปล่าๆ มาต่อกันที่เรื่องเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างเชื้อเพลิง 2 ชนิดคือ E20 และ LPG กันดีกว่าครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมใช้เชื้อเพลิงทั้งสองชนิดกับรถคันเดียวกัน รถผมเป็นอัลติส วางเครื่อง 2zz-ge เป้นเครื่อง 1800 ตัวเดียวกับ Celica Gen 7 มั้ง ปกติผมจะใช้น้ำมัน E20 และผมได้ติดแก๊สระบบหัวฉีด Energy Reform ด้วย จริงๆก็ใช้แก๊สมาตั้งแต่เครื่องเก่า 3zz-fe แล้วครับ พอวางเครื่องใหม่ก็เอาแก๊สมาติดตั้งและปรับจูนใหม่ เน้นใช้งานแบบรถบ้านทั่วไป ประหยัดๆ
รายละเอียดการทดสอบ
ผมใช้เส้นทางที่แยกจากบางใหญ่ที่แยกซ้ายไปทางสุพรรณบุรี เริ่มจากผมเติมน้ำมัน E20 ที่ Esso เต็มถัง ตัดปุ๊บยกปั๊บ ขับออกจากปั๊มมา U-turn ที่ทางแยก แล้วขับวนไป U-turn แถวๆโรงพยาบาลบางปลาม้า แล้วขับกลับมาที่ปั๊ม Esso เช่นเดิม แล้วก็เติมเต็มถังอีกครั้ง ตัดปุ๊บก็ถ่ายรูปไว้เพื่อคำนวน ระหว่างทางผมจะพยายามรักษาความเร็วไว้ที่ 100+- กม./ชม. โดยใช้ไมล์ความเร็วของรถเป็นหลัก (ไมล์เพี้ยนประมาณ 3 กม./ชม. วัดจาก Monster Gauge) ระหว่างทางเป็นทางราบ แต่จะมีขึ้นลงสะพานเป็นช่วงๆ ผมจะเติมคันเร่งให้ความเร็วลดลงไม่ต่ำกว่า 90 กม./ชม. ในช่วงขึ้นสะพาน ส่วนในไต่ความเร็วผมจะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 3000 ของทุกเกียร์ จะพยายามขับแบบประหยัดสุดชีวิต คือค่อยๆแตะคันเร่งให้ความเร็วค่อยๆไหลขึ้นไปอย่างช้าๆครับ
ส่วนการทดสอบกับ LPG ผมก็ใช้วิธีการเดียวกัน เพียงแต่เติมแก๊สที่ปั๊ม Caltex ที่อยู่ตรงข้ามกัน เพราะปั๊ม Esso ตอนดึกๆคนเติมคงไปแอบงีบหลับผมเลยเติมไม่ได้ การทดสอบ E20 กับ LPG ผมไม่ได้ทำวันเดียวกัน แต่ทุกครั้งที่ผมทดสอบ ผมจะเลือกเวลาช่วงดึกไปจนถึงเช้ามืด จะได้ถนนโล่งๆหน่อย และตัดปัญหาเรื่องการจราจรออกไป ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คลาดเคลื่อนไปมากกว่านี้
ผลการทดสอบ
จากการทดสอบ E20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และ LPG เมื่อเช้านี้ ได้ผลออกมาดังนี้ครับ
ราคาของ E20 เป็นของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแพงกว่าวันนี้อยู่ 75 สตางค์ และที่เห็นระยะทางของ LPG เยอะกว่า เพราะผมเลย U-turn หน้าโรงพยาบาลไป U-turn นึง ซึ่งวัดจาก Google map แล้ว แค่ประมาณ 1.5 กม. ครับ ถือว่าคลาดเคลื่อนจากเดิมไม่มาก ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร
จากผลลัพธ์ที่ได้ ขอสรุปว่า ถ้าคำนวนกันแล้วการใช้ LPG จะประหยัดกว่าใช้ E20 อยู่ กม.ละ 52 สตางค์ หรือคิดเป็น 37.85% ครับ คำนวนโดยตัดเรื่องการซ่อมบำรุง และเรื่องอื่นๆออกไป และโดยปกติการใช้งานแก๊สจะมีการใช้ร่วมกับน้ำมันด้วย เช่น ตอนวอร์มเครื่อง หรือก่อนดับเครื่อง เป็นต้น ไม่ได้ใช้แก๊ส 100% แบบตอนที่ผมทดสอบนี้ครับ
สุดท้ายนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า ผมเองเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ได้มีความรู้ ไม่ได้ทำงานสายพลังงานหรือสายยานยนต์แต่อย่างใด รถที่ผมใช้ และเครื่องยนต์ที่ผมใช้ เป้นคนละตัวกับที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน ไหนจะยี่ห้อแก๊ส ความหนาบางในการจูน ทั้งหมดทั้งสิ้นย่อมส่งผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงานของรถทั้งนั้น และจะลืมไม่ได้เลยคือ ผมทดสอบโดยขับแบบประหยัดแบบสุดๆ ค่อยๆแตะคันเร่ง พยายามกดเบรคและผ่อนคันเร่งให้น้อยที่สุด ซึ่งผลที่ได้อาจจะออกมาดีมากๆสำหรับเครื่องยนต์ชนิดนี้ แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ ผู้ที่กำลังคำนวนว่าจะติดแก๊สดีไหม หรือผู้ที่กำลังติดว่าจะถอดชุดแก๊สออก จะได้มีข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจครับ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/