งง กับหนังเรื่องลูกทุ่ง ซิกเนเจอร์ (สปอย)

เพิ่งไปดูมา

งงมาก

น้อยวงพรูเล่นกับคนทำความสะอาดห้องน้ำต้องการสื่อถึงอะไร

พิศมัย กับลุงที่รอจดหมายต้องการสื่อถึงอะไร

เบน ชลาทิศ กับ อาภาพรณ์สื่อถึงอะไร

หนังที่ตัดต่อได้มั่วมาก

แล้วฉากที่วางระเบิดการถ่ายทำหนังต้องการสื่อถึงอะไร

ผู้หญิงที่ตาบอด 1 ข้างกับกอล์ฟเบญจพล ต้องการสื่อถึงอะไร

เอาอะไรมากำกับก็ไม่รู้

คุณภาพแย่มาก ตามสไตน์ของค่ายสหมงคลฟิล์ม

นึกว่าจะมีเพลงเพราะ ๆ

ที่ไหนได้

หนังหาสาระไม่ได้เลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ตามที่ผมเข้าใจนะครับ

1.น้อยวงพรูเล่นกับคนทำความสะอาดห้องน้ำต้องการสื่อถึงอะไร
ตอนนี้เป็นเรื่องของนักธุรกิจที่กำลังประสบกับปัญหาเรื่องงาน ที่ทำให้เค้าเครียด เสียงเพลงที่เค้าได้ยินในห้องน้ำทำให้เค้าดูมีชีวิตชีวาขึ้น มีความสุขที่ได้ฟัง เหมือนกับการสื่อถึงพรหมลิขิตที่ทำให้เค้าได้เจอกัน ที่เจอกันแบบลูกทุ่งๆตามพลอตของหนัง หนุ่มCEOกับแม่บ้านทำความสะอาด เค้าทำให้เราเห็นถึงความคอนทราสต์ของตัวละครได้ดี เห็นมั้ยครับว่าความรักมันเกิดขึ้นได้ในทุกบทบาททุกสถานการณ์

2.พิศมัย กับลุงที่รอจดหมายต้องการสื่อถึงอะไร
สื่อถึงความรักของคนสมัยก่อนที่มีต่อกัน รักกันชอบกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ที่เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิตให้คนสองคนมาพบกันแต่ไม่ได้คู่กัน ความโรแมนติกของการเขียนจดหมายหากัน เขียนจดหมายจีบกัน มันเป็นอะไรที่คลาสสิคสุดๆเลย  และแม้ว่าความรักที่เกิดขึ้นจะจบลงอย่างไร จะไม่ได้คู่กัน แแต่มันเกิดขึ้นแล้วมันก็คงสวยงามและเป็นความทรงจำในใจเราเสมอ


3.เบน ชลาทิศ กับ อาภาพรณ์สื่อถึงอะไร
ง่ายมากครับ มันคือการผสมผสานระหว่างแนวเพลงสมัยใหม่ให้เข้ากับเพลงลูกทุ่งของไทย เพื่อสื่อให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าการฟังเพลงร้องเพลงลูกทุ่งไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เรายิ่งต้องภูมิใจ (นึกถึงตอนที่เบนเห็นเด็กยืนร้องเพลงตอนรถติดสิ) ตอนนี้เป็นเหมือนการปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักสิ่งที่ตัวเองมีอย่างเช่น เพลงลูกทุ่งนี้แหละครับ อย่างที่เบนพูดว่า เชื่อว่าคนไทยทุกคนมีความเป็นลูกทุ่งอยู่ในตัว ผมนั่งดูในโรงแถวผมมีแต่วัยรุ่น นักศึกษา แต่สังเกตุเห็นขาของหลายๆคนขยับตามจังหวะเพลงตอนที่เบนร้องแล้วทุกคนก็อมยิ้มกันรวมถึงผมด้วย และเรื่องนี้ยังสอนให้เรารู้จักเคารพครูอาจารย์ด้วย (นึกถึงตอนที่เบนนั่งคุยกับครูสลาสิ เบนทำตัวไม่น่ารัก ไม่ให้เกียรติครู) เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ตอนนี้ถือว่าสนุกมากครับ


4.แล้วฉากที่วางระเบิดการถ่ายทำหนังต้องการสื่อถึงอะไร
ก็สื่อถึงความเป็นซิกเนเจอร์ไงครับ ปัจจุบันละครที่เราดู หนังที่เราดู ในฉากบู๊ที่ต้องการให้มีเอฟเฟ็ค เช่น ระเบิด วงการหนังหรือละครก็จะใช้ เอฟเฟ็คซีจี ซึ่งทำได้ง่ายกว่า รวดเร็ว ประยัด และออกแบบได้ตามที่เราต้องการมากกว่าระเบิดจริงๆ ผมมองว่าระเบิดที่ทำเองมันดูแล้วสมจริงมากกว่า ได้อรรถรสมากกว่า แต่มันก็ไม่ควรจะโอเวอร์เกินไปเพราะมันก็มีขอบเขตของมัน เหมือนกับเป้นการคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้นั่นเอง

5.ผู้หญิงที่ตาบอด 1 ข้างกับกอล์ฟเบญจพล ต้องการสื่อถึงอะไร
ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นตอนที่ทำให้คนหลายๆคนน้ำตาคลอกันเลยแหละ ความรักที่มันไม่มีเงื่อนไข ที่ไม่สนว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะหน้าตาเป็นยังไง จะสวยหรือจะหล่อมั้ย  ตอนนี้ก็เป็นความรักของคนลูกทุ่งๆคู่หนึ่ง ที่พบรักกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน เติมเต็มส่วนที่ขาดให้กันและกัน โดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นแม้คนรักของเราจะมีรูปร่างหน้าตาที่แปลกไปจากคนทั่วไป ก็สื่อถึงความรักอีกนั่นแหละครับแต่มันเป็นความรักที่มีความเป็นซิกเนเจอร์อยู่ในนั้นด้วย

      และอีกหลายๆตอน เช่นตอนเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบีทีเอส อันนี้ก็สื่อให้เห็นว่าการที่เราชื่นชอบหรือศัทธาใครซักคนหนึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ผิด  เพราะมันทำให้เรามีความสุข มีกำลังใจให้ตัวเองในการทำหน้าที่ทำสิ่งต่างๆให้ดี แต่มันก็ไม่ควรจะมากจนลืมความเป็นจริงไป
รวมแล้วผมว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีมากเลยล่ะครับ ทั้งคุณภาพของโปรดักชั่นการถ่ายทำ โดยเฉพาะภาพสวยมาก บทภาพยนตร์ก็มีการผสมผสานที่ถือว่าลงตัว นำเพลงลูกทุ่งมาแมชกันได้เหมาพสมดีครับ ทำให้เห็นถึงความเป็นซิกเนเจอร์ในแต่ละตอนได้อย่างชัดเจน

บางทีคำว่าลูกทุ่งก็ไม่ได้แปลว่าแนวเพลงอย่างเดียว แต่มันอาจหมายถึงวิถีชีวิตของคนที่มีความเป็นอยู่ที่ธรรมดาๆ แต่มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ไม่ธรรมดาในแบบลูกทุ่งๆไว้ให้จดจำ แล้วพอเอามาทำเป็นหนังก็ใส่คอนเส็ปของเพลงลูกทุ่งเข้าไปให้เหมาะกับเรื่องนั้นๆ แล้วที่บอกว่าหาสาระอะไรไม่ได้เลย จริงๆแล้วสาระมันมีอยู่เต็มเลยนะครับ ขอชื่นชมทีมงานทุกคนจริงๆที่ทำหนังดีๆแบบนี้ออกมาให้เราได้ดู เก่งมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่