หลากชีวิต 8 เรื่องราวความรักของผู้คนในเมืองใหญ่ที่ในหัวใจมีเพลงลูกทุ่ง ตั้งแต่อดีตหนุ่มแดนซ์ที่ต้องผันตัวมาร้องลูกทุ่งเพื่อความอยู่รอด หนุ่มออฟฟิศที่หลงเสียงนางจนต้องออกตามหา รักแรกที่กลับมาพบกันในวัยชรา สาวเจ้าที่มีฝันกลางวันและร้านลาบคาราโอเกะเป็นที่ยึดเหนี่ยว หนุ่มอาร์ตที่พบรักกับสาวเอฟเฟกต์ระเบิดในกองถ่ายหนัง หนุ่มที่คิดจะฆ่าตัวตายบนสะพานลอยที่เปลี่ยนมาเป็นการเฝ้ารอ หนุ่มขายเฉาก๊วยที่ความรักทำให้มองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก และนักร้องหนุ่มที่ทำคลิปช่วยหนุ่มแท็กซี่ตามหาความรัก บางคู่อาจเป็นเรื่องบุพเพสันนิวาส บางคู่อาจเป็นเรื่องเพ้อฝัน บางคู่อาจสมหวังในที่สุด และบางคู่อาจเป็นการจากกันชั่วนิรันดร
กับเรื่องราวหลากหลายที่รวมอยู่ในหนังเรื่องเดียว ทำให้แทบทุกคนนึกถึงหนังอย่าง Love Actually หรือหนังที่ดังน้อยกว่าอย่าง Valentine's Day, New year's Eve ตลอดจนหนังไทยอย่างปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น หรือซีรีย์ฮอร์โมนส์ โดยในครั้งนี้ จุดร่วมของแต่ละเรื่องราวอยู่ที่การใช้เพลงลูกทุ่งมาเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราว อารมณ์ หรือความรู้สึกของตัวละครในแต่ละเรื่อง โดยการคัดสรรเพลงมาใส่ในเรื่องอย่างปราณีต แต่กลับน่าเสียดายที่เรื่องราวส่วนใหญ่กลับมีบทสรุปที่เรียบง่ายเป็นเส้นตรง และไม่สามารถชักนำอารมณ์คนดูให้พีคได้อย่างหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ
โดน1: เพลงลูกทุ่งในหนัง ที่เป็นเพลงลูกทุ่งที่มีเนื้อหาร่วมสมัย และเหมาะสำหรับชีวิตในเมือง หลายๆเพลงเป็นเพลงที่คลาสสิค ได้ยินก็ร้องคลอตามได้ ตลอดจนการเลือกเพลงได้ค่อนข้างดี แต่ที่ทำให้เพลงในหนังพิเศษยิ่งขึ้น คือการเรียบเรียงเพลงให้สอดคล้องกับตัวบท มีทั้งเพลงที่บันทึกเสียงสมบูรณ์แบบพร้อมมิวสิควิดีโอ เพลงที่ร้องสดๆในรายการโทรทัศน์ เพลงที่ร้องกับกีต้าร์หรืออะคูเลเล่ ตลอดจนเพลงที่ร้องโดยไม่มีเสียงดนตรี โดยเพลงที่ชอบมากที่สุดคือ ไหนว่าไม่ลืม (พิศมัย) และลืมไม่ลง (สมบัติ) ที่แม้จะไม่ใช่นักร้องมืออาชีพ แต่การถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดงทั้งสอง ทำให้เพลงนี้โดดเด่นขึ้นมาได้
โดน2: นักแสดงที่เหมาะกับบทและแสดงได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนของสมบัติ-พิสมัย-ครูเงาะ และตอนของกอล์ฟ เบญจพล-นุ่น ศิริพันธ์ ที่โดดเด่นในการเล่นอารมณ์และความละเอียดของการแสดง สำหรับคนอื่นๆที่เด่นขึ้นมาก็คือหนิม AF ที่มาทั้งร้องทั้งเต้น และบทที่ทำให้เกือบนึกถึงบทของโฟกัสในปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น และที่ชอบอีกอย่างคือนักแสดงหลายๆคนมาในบทของตัวเอง ชื่อจริง ตัวจริง ซึ่งไม่ค่อยเห็นในหนังไทยเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นชาคริต อาภาพร วิทวัส สุนทรวิเนตร ครูสลา ศรเพชร ศรสุพรรณ หรือแม้แต่สุเมธ องอาจ และศุ บุญเลี้ยง ที่ถึงหนังจะไม่บอกว่าเป็นใคร แต่คาแรกเตอร์นี่ก็เป็นตัวตนของเขาจริงๆ
โดน3: ความตั้งใจอันดีของผู้สร้าง ไม่ว่าจะเป็นการสืบสานเพลงลูกทุ่ง การเล่นท่ายากที่จับเอา 8 เส้นเรื่องมาคละกัน การถ่ายทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องราวส่วนใหญ่คือเรื่องของคนใช้แรงงาน คนที่มีภูมิลำเนามาจากต่างจังหวัดที่ต้องมาทำมาหากินในกรุงเทพ
โดน4: เรื่องราวในเอนด์เครดิต ทำเอาอึ้งไปพักหนึ่ง
ไม่โดน1: กับ 8 เรื่องราว แต่กลับดูขาดๆเกินๆ (ส่วนใหญ่จะขาด) โดยเฉพาะในส่วนบทสรุปที่ยังไม่รู้สึกจี๊ดเหมือนที่หนังแนวนี้ส่วนใหญ่ทำได้ โดยเรื่องที่ลงตัวมากที่สุด คือเรื่องของสมบัติ-พิศมัย แต่เรื่องอื่นๆก็มีทั้งขาด (เช่นเรื่องของกอล์ฟ-นุ่น ที่ขาดการปูพื้นว่าทำไมถึงมารักกันได้) และเกิน (เช่นเรื่องของสุเมธกับแท็กซี่ ที่ปูเรื่องราวมามากมาย กว่าจะไปถึงตรงที่เป็นหัวใจของตอน คือการทำคลิป) และแทบทุกเรื่องจบแบบอ้าว จบแล้วเหรอ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของเบน ชลาทิศ ที่มีจุดหักเหจากการเป็นคนไม่ชอบเพลงลูกทุ่ง จนถึงการได้เรียนรู้และยอมรับในที่สุด แต่ในหนังกลับทำไม่ชัดเจนว่าอะไรที่ทำให้ตัวละครเปลี่ยนความคิดได้ขนาดนี้ (จริงๆหนังก็ใส่มานิดนึง แต่มันยังไม่มี impact มากพอ)
ไม่โดน2: เส้นเรื่อง 8 เรื่องดูเยอะเกินไป ถ้าจะให้ดี เหลือแค่สัก 4-6 เรื่องแล้วเพิ่มเวลาและรายละเอียดให้กับแต่ละเรื่องจะดีกว่านี้
ไม่โดน3: บางเส้นเรื่องที่เหมือนกับจะจับยัดเอาตัวละครไปพัวพันกับเพลงลูกทุ่งเฉยๆโดยที่เพลงไม่ได้มา support เนื้อหาหรือการเดินเรื่องแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนุ่มอาร์ตกับสาวระเบิด หนุ่มสะพานลอย แท็กซี่ หนุ่มเฉาก๊วย (อ้าว ตั้ง 4 เรื่อง ครึ่งนึงของหนังเลย)
ไม่โดน4: โปรดักชั่นหนังดูมาตรฐานดี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำกล้องสั่น handheld ในหลายๆฉากขนาดนั้น เหมือนกับแค่อยากเท่ แต่ไม่ได้ดูว่ามันเข้ากับตัวหนังหรือไม่
ไม่โดน5: ทั้งที่เป็นฉากที่ถ่ายออกมาสวย มีความเป็นไทยร่วมสมัยสูง เพลงเพราะ แต่ฉากของศุ บุญเลี้ยงกลายเป็นส่วนเกินของหนังและไม่ได้สัมพันธ์กับเนื้อหาหรือตัวละครเลย
อ่านรีวิวหนังเรื่องอื่นๆของเจ้าของกระทู้ได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/MovieReviewByPong/
[CR] (รีวิวหนัง) ลูกทุ่งซิกเนเจอร์: พี่..เอารักมาฝาก (มีสปอยด์เล็กน้อย)
กับเรื่องราวหลากหลายที่รวมอยู่ในหนังเรื่องเดียว ทำให้แทบทุกคนนึกถึงหนังอย่าง Love Actually หรือหนังที่ดังน้อยกว่าอย่าง Valentine's Day, New year's Eve ตลอดจนหนังไทยอย่างปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น หรือซีรีย์ฮอร์โมนส์ โดยในครั้งนี้ จุดร่วมของแต่ละเรื่องราวอยู่ที่การใช้เพลงลูกทุ่งมาเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราว อารมณ์ หรือความรู้สึกของตัวละครในแต่ละเรื่อง โดยการคัดสรรเพลงมาใส่ในเรื่องอย่างปราณีต แต่กลับน่าเสียดายที่เรื่องราวส่วนใหญ่กลับมีบทสรุปที่เรียบง่ายเป็นเส้นตรง และไม่สามารถชักนำอารมณ์คนดูให้พีคได้อย่างหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ
โดน1: เพลงลูกทุ่งในหนัง ที่เป็นเพลงลูกทุ่งที่มีเนื้อหาร่วมสมัย และเหมาะสำหรับชีวิตในเมือง หลายๆเพลงเป็นเพลงที่คลาสสิค ได้ยินก็ร้องคลอตามได้ ตลอดจนการเลือกเพลงได้ค่อนข้างดี แต่ที่ทำให้เพลงในหนังพิเศษยิ่งขึ้น คือการเรียบเรียงเพลงให้สอดคล้องกับตัวบท มีทั้งเพลงที่บันทึกเสียงสมบูรณ์แบบพร้อมมิวสิควิดีโอ เพลงที่ร้องสดๆในรายการโทรทัศน์ เพลงที่ร้องกับกีต้าร์หรืออะคูเลเล่ ตลอดจนเพลงที่ร้องโดยไม่มีเสียงดนตรี โดยเพลงที่ชอบมากที่สุดคือ ไหนว่าไม่ลืม (พิศมัย) และลืมไม่ลง (สมบัติ) ที่แม้จะไม่ใช่นักร้องมืออาชีพ แต่การถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดงทั้งสอง ทำให้เพลงนี้โดดเด่นขึ้นมาได้
โดน2: นักแสดงที่เหมาะกับบทและแสดงได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนของสมบัติ-พิสมัย-ครูเงาะ และตอนของกอล์ฟ เบญจพล-นุ่น ศิริพันธ์ ที่โดดเด่นในการเล่นอารมณ์และความละเอียดของการแสดง สำหรับคนอื่นๆที่เด่นขึ้นมาก็คือหนิม AF ที่มาทั้งร้องทั้งเต้น และบทที่ทำให้เกือบนึกถึงบทของโฟกัสในปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น และที่ชอบอีกอย่างคือนักแสดงหลายๆคนมาในบทของตัวเอง ชื่อจริง ตัวจริง ซึ่งไม่ค่อยเห็นในหนังไทยเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นชาคริต อาภาพร วิทวัส สุนทรวิเนตร ครูสลา ศรเพชร ศรสุพรรณ หรือแม้แต่สุเมธ องอาจ และศุ บุญเลี้ยง ที่ถึงหนังจะไม่บอกว่าเป็นใคร แต่คาแรกเตอร์นี่ก็เป็นตัวตนของเขาจริงๆ
โดน3: ความตั้งใจอันดีของผู้สร้าง ไม่ว่าจะเป็นการสืบสานเพลงลูกทุ่ง การเล่นท่ายากที่จับเอา 8 เส้นเรื่องมาคละกัน การถ่ายทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องราวส่วนใหญ่คือเรื่องของคนใช้แรงงาน คนที่มีภูมิลำเนามาจากต่างจังหวัดที่ต้องมาทำมาหากินในกรุงเทพ
โดน4: เรื่องราวในเอนด์เครดิต ทำเอาอึ้งไปพักหนึ่ง
ไม่โดน1: กับ 8 เรื่องราว แต่กลับดูขาดๆเกินๆ (ส่วนใหญ่จะขาด) โดยเฉพาะในส่วนบทสรุปที่ยังไม่รู้สึกจี๊ดเหมือนที่หนังแนวนี้ส่วนใหญ่ทำได้ โดยเรื่องที่ลงตัวมากที่สุด คือเรื่องของสมบัติ-พิศมัย แต่เรื่องอื่นๆก็มีทั้งขาด (เช่นเรื่องของกอล์ฟ-นุ่น ที่ขาดการปูพื้นว่าทำไมถึงมารักกันได้) และเกิน (เช่นเรื่องของสุเมธกับแท็กซี่ ที่ปูเรื่องราวมามากมาย กว่าจะไปถึงตรงที่เป็นหัวใจของตอน คือการทำคลิป) และแทบทุกเรื่องจบแบบอ้าว จบแล้วเหรอ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของเบน ชลาทิศ ที่มีจุดหักเหจากการเป็นคนไม่ชอบเพลงลูกทุ่ง จนถึงการได้เรียนรู้และยอมรับในที่สุด แต่ในหนังกลับทำไม่ชัดเจนว่าอะไรที่ทำให้ตัวละครเปลี่ยนความคิดได้ขนาดนี้ (จริงๆหนังก็ใส่มานิดนึง แต่มันยังไม่มี impact มากพอ)
ไม่โดน2: เส้นเรื่อง 8 เรื่องดูเยอะเกินไป ถ้าจะให้ดี เหลือแค่สัก 4-6 เรื่องแล้วเพิ่มเวลาและรายละเอียดให้กับแต่ละเรื่องจะดีกว่านี้
ไม่โดน3: บางเส้นเรื่องที่เหมือนกับจะจับยัดเอาตัวละครไปพัวพันกับเพลงลูกทุ่งเฉยๆโดยที่เพลงไม่ได้มา support เนื้อหาหรือการเดินเรื่องแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนุ่มอาร์ตกับสาวระเบิด หนุ่มสะพานลอย แท็กซี่ หนุ่มเฉาก๊วย (อ้าว ตั้ง 4 เรื่อง ครึ่งนึงของหนังเลย)
ไม่โดน4: โปรดักชั่นหนังดูมาตรฐานดี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำกล้องสั่น handheld ในหลายๆฉากขนาดนั้น เหมือนกับแค่อยากเท่ แต่ไม่ได้ดูว่ามันเข้ากับตัวหนังหรือไม่
ไม่โดน5: ทั้งที่เป็นฉากที่ถ่ายออกมาสวย มีความเป็นไทยร่วมสมัยสูง เพลงเพราะ แต่ฉากของศุ บุญเลี้ยงกลายเป็นส่วนเกินของหนังและไม่ได้สัมพันธ์กับเนื้อหาหรือตัวละครเลย
อ่านรีวิวหนังเรื่องอื่นๆของเจ้าของกระทู้ได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้