สวัสดีครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวนิวซีแลนด์กันครับ อีก1ประเทศที่ควรไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต
ยิ่งปัจจุบัน AirAsiaX เปิดบินBKK-AKL VIA Kuala-lumpur หรือ Jetstar เปิดบิน BKK-AKL VIA Melboune ยิ่งทำให้เรามีโอกาสไปได้ง่ายกว่าเดิม
จากสมัยก่อนคนที่ไปไปนิวซีแลนด์ได้ต้องเป็นระดับเศรษฐีเท่านั้น เพราะตั๋วการบินไทยบินตรงก็ประมาณ4หมื่น คือต้องมีฐานะจริงๆเพราะค่าใช้จ่ายนั้นพอๆกับไปยุโรปทีเดียว (ระยะเวลาเดินทางก็พอๆ12ชม.)
การขอวีซ่านิวซีแลนด์ในปัจจุบันนั้น ง่ายและสะดวกขึ้นมากครับ เพราะสามารถยื่นออนไลน์และจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านบัตรเครดิตได้เลย
โดยค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่านั้น แบ่งออกเป็น2ส่วน
คือค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานฑูต ประมาณ4พันบาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน
และค่าบริการยื่นวีซ่าผ่าน TT Service (ตัวแทนสถานทูต) 600บาท รวมค่าส่งpassport กลับถึงบ้าน
ผมเองใช้เวลาเตรียมเอกสาร1วัน ซึ่งเอกสารที่ใช้ในการยื่นวีซ่าประกอบด้วย
1.หนังสือรับรองการทำงาน (สำคัญมาก) เรียกได้ว่าเป็นตัวหลักในการพิจารณาอนุมัติวีซ่า
2.statement ย้อนหลัง6เดือน ขอจากแบงค์ที่เราฝากเงินอยู่ ใช้บัญชีออมทรัพย์ เงินออมควรมีติดบัญชีไว้ซัก 30,000 สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว
(มีบางคนบอกต้อง6หลักถึงจะผ่าน ผมไม่สนใจครับ มีแค่นี้ก็ยื่นแค่นี้ ไปแค่4-5วัน เพียงพอที่จะcoverค่าใช้จ่ายแล้ว สถานทูตเค้าพิจารณาแค่ว่าเรามีเงินพอใช้จ่ายเพียงพอสำหรับแผนการเดินทางรึปล่าว
3.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใครจะจองไว้ก่อนก็ได้ครับ แต่ผมซื้อเลย ผมมั่นใจว่าผ่าน 555 (จริงๆคือผมจองไม่เป็นครับ พวกตั๋วโปรโมชั่นมันจองไม่ได้นี่หว่า ให้ชำระเงินทันทีถึงออกตั๋วได้)
4.รายการสำรองที่พัก อันนี้จองผ่านagoda หรือ booking แบบที่สามารถยกเลิกฟรีไปก่อนก็ได้ครับ (แต่ผมเจอโปรของAccorลด40%) เลยจองแบบหักเงินเลย ถ้าแบบยกเลิกได้จะแพง
5 แผนการเดินทาง อันนี้ก็สำคัญครับ แผนเดินทางชัดเจน รัดกุม ยิ่งทำให้ได้วีซ่าเร็ว
6.สำเนาบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนว่าเราเป็นคนไทยจริงฮ่าๆๆ (ทะเบียนบ้านไม่ต้องนะครับ)
7.ประกันภัยการเดินทาง เพื่อให้สถานทูตมั่นใจว่า เรามีคนดูแลค่าใช้จ่ายให้ในกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ
** หลักฐานทั้งหมด ทำเป็นภาษาอังกฤษและแปลงเป็นfile PDF เพื่อแนบFileเวลายื่นออนไลน์ครับ
หลังจากกรอกข้อมูลยื่นวีซ่าออนไลน์เรียบร้อย ระบบจะขอหักเงินจากบัตร จำนวน165NZD เป็นค่าธรรมเนียมวีซ่า
หลังจากนั้นสามารถเข้าไปเชคสถานะการขอ VISA ได้ที่
https://www.ttsnzvisa.com/th-en/track-document
ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ7วันในการอนุมัติวีซ่า แต่ขอผมวันเดียวอนุมัติเลย ได้รับคำร้องวันที่3กุมภา วันที่4อนุมัติ ไม่ได้ยื่นFast track แต่อย่างใด
หลังจากนั้นรออีกประมาณ2วัน เพื่อให้TTService ส่งEMSกลับ ก็จะได้เล่มpassport คืนพร้อมVISA เก๋ๆครับ
รวมระยะในการขอวีซ่าทั้งหมดแค่6วันเท่านั้น เห็นมั้ยครับ ง่าย สะดวก รวดเร็ว
วันที่1กุมภา เตรียมเอกสาร
วันที่2กุมภา ยื่นวีซ่าพร้อมส่งเล่มpassportไปที่TT service
วันที่3กุมภา รับคำร้องพิจารณาวีซ่า
วันที่4กุมภา อนุมัติและส่งกลับ TT Service
วันที่5กุมภา ส่ง EMS กลับ
วันที่6กุมภา ได้รับเล่มพร้อมvisa
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกบินกับ MH และ Jetstar ครับ
เพราะ ราคาไม่แพงและมี PTV ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการบินระยะไกล ดูหนังจิบเบียร์ไปจะได้หลับ เคยบินAirAsiaXไปญี่ปุ่นเงิบมากครับ PTVก็ไม่มีนั่งแล้วมันเหงา
[CR] Review แชร์ประสบการณ์ขอ Visa Newzealand online ง่ายนิดเดียว
ยิ่งปัจจุบัน AirAsiaX เปิดบินBKK-AKL VIA Kuala-lumpur หรือ Jetstar เปิดบิน BKK-AKL VIA Melboune ยิ่งทำให้เรามีโอกาสไปได้ง่ายกว่าเดิม
จากสมัยก่อนคนที่ไปไปนิวซีแลนด์ได้ต้องเป็นระดับเศรษฐีเท่านั้น เพราะตั๋วการบินไทยบินตรงก็ประมาณ4หมื่น คือต้องมีฐานะจริงๆเพราะค่าใช้จ่ายนั้นพอๆกับไปยุโรปทีเดียว (ระยะเวลาเดินทางก็พอๆ12ชม.)
การขอวีซ่านิวซีแลนด์ในปัจจุบันนั้น ง่ายและสะดวกขึ้นมากครับ เพราะสามารถยื่นออนไลน์และจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านบัตรเครดิตได้เลย
โดยค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่านั้น แบ่งออกเป็น2ส่วน
คือค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานฑูต ประมาณ4พันบาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน
และค่าบริการยื่นวีซ่าผ่าน TT Service (ตัวแทนสถานทูต) 600บาท รวมค่าส่งpassport กลับถึงบ้าน
ผมเองใช้เวลาเตรียมเอกสาร1วัน ซึ่งเอกสารที่ใช้ในการยื่นวีซ่าประกอบด้วย
1.หนังสือรับรองการทำงาน (สำคัญมาก) เรียกได้ว่าเป็นตัวหลักในการพิจารณาอนุมัติวีซ่า
2.statement ย้อนหลัง6เดือน ขอจากแบงค์ที่เราฝากเงินอยู่ ใช้บัญชีออมทรัพย์ เงินออมควรมีติดบัญชีไว้ซัก 30,000 สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว
(มีบางคนบอกต้อง6หลักถึงจะผ่าน ผมไม่สนใจครับ มีแค่นี้ก็ยื่นแค่นี้ ไปแค่4-5วัน เพียงพอที่จะcoverค่าใช้จ่ายแล้ว สถานทูตเค้าพิจารณาแค่ว่าเรามีเงินพอใช้จ่ายเพียงพอสำหรับแผนการเดินทางรึปล่าว
3.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใครจะจองไว้ก่อนก็ได้ครับ แต่ผมซื้อเลย ผมมั่นใจว่าผ่าน 555 (จริงๆคือผมจองไม่เป็นครับ พวกตั๋วโปรโมชั่นมันจองไม่ได้นี่หว่า ให้ชำระเงินทันทีถึงออกตั๋วได้)
4.รายการสำรองที่พัก อันนี้จองผ่านagoda หรือ booking แบบที่สามารถยกเลิกฟรีไปก่อนก็ได้ครับ (แต่ผมเจอโปรของAccorลด40%) เลยจองแบบหักเงินเลย ถ้าแบบยกเลิกได้จะแพง
5 แผนการเดินทาง อันนี้ก็สำคัญครับ แผนเดินทางชัดเจน รัดกุม ยิ่งทำให้ได้วีซ่าเร็ว
6.สำเนาบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนว่าเราเป็นคนไทยจริงฮ่าๆๆ (ทะเบียนบ้านไม่ต้องนะครับ)
7.ประกันภัยการเดินทาง เพื่อให้สถานทูตมั่นใจว่า เรามีคนดูแลค่าใช้จ่ายให้ในกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ
** หลักฐานทั้งหมด ทำเป็นภาษาอังกฤษและแปลงเป็นfile PDF เพื่อแนบFileเวลายื่นออนไลน์ครับ
หลังจากกรอกข้อมูลยื่นวีซ่าออนไลน์เรียบร้อย ระบบจะขอหักเงินจากบัตร จำนวน165NZD เป็นค่าธรรมเนียมวีซ่า
หลังจากนั้นสามารถเข้าไปเชคสถานะการขอ VISA ได้ที่ https://www.ttsnzvisa.com/th-en/track-document
ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ7วันในการอนุมัติวีซ่า แต่ขอผมวันเดียวอนุมัติเลย ได้รับคำร้องวันที่3กุมภา วันที่4อนุมัติ ไม่ได้ยื่นFast track แต่อย่างใด
หลังจากนั้นรออีกประมาณ2วัน เพื่อให้TTService ส่งEMSกลับ ก็จะได้เล่มpassport คืนพร้อมVISA เก๋ๆครับ
รวมระยะในการขอวีซ่าทั้งหมดแค่6วันเท่านั้น เห็นมั้ยครับ ง่าย สะดวก รวดเร็ว
วันที่1กุมภา เตรียมเอกสาร
วันที่2กุมภา ยื่นวีซ่าพร้อมส่งเล่มpassportไปที่TT service
วันที่3กุมภา รับคำร้องพิจารณาวีซ่า
วันที่4กุมภา อนุมัติและส่งกลับ TT Service
วันที่5กุมภา ส่ง EMS กลับ
วันที่6กุมภา ได้รับเล่มพร้อมvisa
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกบินกับ MH และ Jetstar ครับ
เพราะ ราคาไม่แพงและมี PTV ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการบินระยะไกล ดูหนังจิบเบียร์ไปจะได้หลับ เคยบินAirAsiaXไปญี่ปุ่นเงิบมากครับ PTVก็ไม่มีนั่งแล้วมันเหงา