...ปั่นคนเดียว..เที่ยวเมืองเก่าสงขลา..แกะรอยหาพญานาค...

[CR] ...ปั่นคนเดียว..เที่ยวเมืองเก่าสงขลา..แกะรอยหาพญานาค...

กระทู้รีวิว

สวัสดีครับ ผมเองเป็นเพียงคนนึงที่ชอบเข้าพันทิพย์มาอ่านรีวิวการท่องเที่ยวต่างๆ อยู่เรื่อยๆครับ วันนึงนึกอยากจะลองเขียนเพื่อแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองดูบ้าง ผมเป็นคนต่างถิ่น แต่ก็มาใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดสงขลามาประมาณ 4 ปีแล้วครับ แต่ก็ไม่เคยได้เที่ยวเมืองสงขลาแบบจริงๆจังๆเลย วันนี้มีโอกาสก็เลยคิดทริปเล็กๆขึ้นมาเพื่อลองเขียนรีวิวดู นี่เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยไว้ด้วยครับ......

...ปั่นคนเดียว..เที่ยวเมืองเก่าสงขลา..แกะรอยหาพญานาค...

ย่านเมืองเก่าสงขลา

เริ่มต้นเช้าวันอาทิตย์ กันที่ย่านเมืองเก่าสงขลา วันนี้พาหนะที่ผมใช้จะเป็นจักรยานครับ...ย่านเมืองเก่าสงขลา จะประกอบด้วยถนน 3 เส้นคือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม ถนนทั้ง 3 เส้นนี้จะเป็นถนนเดินรถทางเดียว ดังนั้นผมจะเริ่มจากประตูเมืองเก่าไปตามถนนนครนอกก่อน

...อาคารสองข้างทาง...

ถนนนครนอกนี้เราจะสังเกตเห็นอาคารเก่าๆอยู่สองข้างทาง บางอาคารจะมีปี พ.ศ. ระบุอยู่ คิดว่าน่าจะเป็นปีที่สร้างอาคารนั้นนะครับ ปั่นๆ ดูๆ มาเรื่อยๆจนถึงร้าน "ปี๊เต๋" แวะกินอาหารเช้าที่นี่ครับ

ร้าน ปี๊เต๋ เป็นร้านเก่าแก่ของย่านเมืองเก่าสงขลานี้ครับ เมนูอาหารก็จะมีพวกอาหารเช้า อาหารตามสั่ง น้ำชา กาแฟ และมี แต่เตี๊ยม ด้วยครับ

...บรรยากาศในร้าน ปี๊เต๋...

กินเสร็จแล้วก็ไปต่อครับ ออกจากร้าน ปี๊เต๋ไปนิดเดียว จะสังเกตเห็นอาคารสีแดงสะดุดตา ที่นี่คือโรงสี หับ โห้ หิน หรือ โรงสีแดง

จากโรงสี หับ โห้ หิน ปั่นต่ออีกนิดก็จะเลี้ยวเข้าถนนนครใน

ปั่นๆมาจะสังเกตเห็นอาคารสีสันสดใสอยู่ครับ ที่นี่คือร้านกาแฟ บลูสไมล์คาเฟ่ ตอนนี้ร้านยังไม่เปิด เดี๋ยวเย็นนี้เราจะกลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่กัน

เดินทางต่อจนสุดถนนนครใน เลี้ยวซ้าย จะเจอกับมัสยิดบ้านบน

เลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะเข้าถนนอีกเส้นนึงของย่านเมืองเก่าสงขลา คือ ถนนนางงาม

บนถนนนางงามนี้เราจะเจอกับ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นแบบวัฒนธรรมจีน ด้านในมีโรงงิ้วด้วย

ถัดจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจะเป็นร้านข้าวสตูมีชื่อของจังหวัดสงขลา "เกียดฟั่ง" ร้านนี้จะมีซาลาเปาลูกยักษ์ราคา 35 บาทขายด้วยครับ แต่ตอนที่ผมไปยังนึ่งไม่เสร็จ ใครอยากลองต้องมาประมาณ 10 โมงครึ่งครับ

หลังจากอิ่มกับ ข้าวสตู+หมูแดงหมูกรอบ แล้ว ปั่นจักยานต่อ ออกจากถนนนางงามแล้วเลี้ยวซ้าย ปั่นไปจนถึงสี่แยกถนนนครใน แต่คราวนี้เราจะเลี้ยวขวามุ่งหน้าไป พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสงขลา ตัวผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้พิพิธภัณฑ์ ดังนั้น ขอถ่ายรูปแค่ด้านนอกพอครับ 555

เดินถ่ายรูป พักหายเหนื่อย จบย่านเมืองเก่าสงขลา ออกเดินทางต่อ เราจะไปตามหาพญานาคกัน.....

...เส้นทางสายพญานาค...

ออกจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ปั่นตามถนน ปละท่า มุ่งหน้าสูหาดชลาทัศน์ ก่อนจะถึงหาดจะผ่าน สนามกีฬาติณสูลานนท์ รังเหย้าของสโมสรฟุตบอลสงขลาเอฟซี ใน D1 แวะเข้าไปถ่ายรูปสนามสักนิด

ออกจากสนามเราจะปั่นจักรยานบนเส้นทางเลียบชายหาดชลาทัศน์ครับ

ปั่นมาสักแป๊บจะเจอกับ รูปปั้นแปลกๆ อยู่ตรงหัวมุมถนน นั่นคือ "หางของพญานาค"

จากหางพญานาค ปั่นเลียบชายหาดไปเรื่อยๆจะพบกับชายวัยกลางคนนั่งอ่านหนังสืออยู่กลางถนนครับ จุดนี้เรียกว่า "วงเวียนเช็คชื่อ"

ตอนนี้แดดเริ่มร้อน เจอลุงขายไอติม แวะสักหน่อยครับ

จากวงเวียนเช็คชื่อ ยกจักรยานขึ้นทางเท้าแล้วเดินต่อกัน....เดินผ่านหน้าโรงแรมบีพีสมิหลามาจะสังเกตเห็นคนรุมถ่ายรูปกับนางเงือก เรามาถึงแล้วครับ "แหลมสมิหลา"

ลากจักรยานเดินต่อผ่านหน้านางเงือกไป เวลาใกล้เที่ยงแล้ว เราปั่นจักรยานเลียบชายหาดต่อ ไปหาซีฟู๊ดกินดีกว่า

จากแหลมสมิหลา ปั่นจักยานไปตามถนนราชดำเนิน สังเกตทางขวาจะมีโซนร้านซีฟู๊ดอยู่ครับ ร้านที่พอจะมีชื่อเสียง ก็มีร้านสุจินดา ร้านมณฑาทิพย์ แต่ผมชอบกินร้านนี้ครับ ร้าน "เดอะบีช" เมนูแนะนำว่าต้องลองจัดคือ "แกงส้มยอดมะพร้าวปลาขี้ตัง" ครับ ผมมารู้จักปลาขี้ตังก็ที่สงขลานี่แหละ แกงส้มอร่อยมาก

กินเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ ปั่นจักรยานเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ จะเจอกับงานประติมากรรมแปลกๆอยู่ที่ชายหาด

และใก้ๆนั้นเอง จะเจอกับ "สะดือพญานาค" ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน

แล้ว หัวพญานาคล่ะ??? เราไปหากันต่อ

จากสะดือพญานาค ปั่นจักรยานต่อไปจะเจอสี่แยกที่มีประติมากรรมรูปร่างประหลาดนี้อยู่ครับ

สี่แยกนี้ให้เลี้ยวขวา สังเกตบนถนนเส้นนี้จะมีเลนจักรยานสีแดงชัดเจน แสดงว่ามาถูกทางแล้ว ถนนเส้นนี้คือ ถนนแหลมสน

ปั่นบนทางจักรยานเรื่อยๆ อย่าวอกแวก เราจะเจอกับ สงขลา อควาเรี่ยม ค่าเข้า 150 บาท

ออกจากอควาเรี่ยม ปั่นต่อไปอีกนิด จะเจอวงเวียน ตรงจุดนี้เรียกว่า "สวนสองทะเล" เป็นจุดที่สองทะเลมาบรรจบกันคือ ทะเลอ่าวไทยและทะเลสาบสงขลา (จริงๆผมเข้าใจว่ามันคือทะเลเดียวกันนั่นแหละ 555)