ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มีความรู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอะไรพวกนี้ อาศัยถามและหาข้อมูลตามเวปบ้าง
วัด เป็นนิติบุคคลตามกฏหมาย มีเจ้าอาวาสเป็นผู้แทนนิติบุคคล อาจจะประกอบด้วยคณะกรรมการวัด มีไวยาวัจกร ดูเรื่องเงินวัด
ปกติการถวายอะไรๆไม่ว่าจะข้าวปลาอาหารหรือ สังฆทาน หรือทรัพย์สินอะไรก็ตาม จะแบ่งเป็น2ส่วนใหญ่ๆคือ ถวายคน กับถวายวัด ถวายคนคือ ถวายทรัพย์เป็นกรรมสิทธิ์ของพระสงฆ์ เช่นการใส่บาตร การถวายแก่หมู่สงฆ์เช่นถวายผ้าพระกฐิน ในทางกฏหมายถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลนั้นๆ และอีกส่วนหนึ่งคือถวายวัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล
เท่าที่ทราบมาเงินวัด หรือเงินในกรรมสิทธิ์ของนิติบุคคลวัดนั้นตามกฏหมายหรือระเบียบอะไรซักอย่าง จะต้องใช้เพื่อประโยชน์แก่วัดเท่านั้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซ่อมแซม หรือก่อสร้างศาสนาสถานหรือกุฎิสงฆ์ อาจจะรวมไปถึงค่าจ้างคนดูแลหรือ ค่าบำรุงรักษายานพาหนะ ที่ใช้เพื่อประโยชน์ของวัด เท่านั้น
"ดังนั้นการนำเงินวัดไปใช้ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากผลประโยชน์ของวัดนั้นๆ แม้จะเป็นไปด้วยกุศลจิตหรือเพื่อประโยชน์แก่สาธารณะก้ถือว่าผิด ถ้าเป็นพระก็ต้องอาบัติปาราชิก"
แต่ ปัจจุบันเราทราบว่าหลายๆวัดมีกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศลมากมาย เช่น วัดสวนแก้ว วัดพระบาทน้ำพุ หรือแม้แต่ วัดธรรมกาย ถามว่าวัดเหล่านี้เอาเงินมาจากไหนถ้าใช้เงินวัดไม่ได้
คำตอบจะมีอยู่2แบบคือ มาจากพระสงฆ์เจ้าของเงินโดยตรงเช่น สมเด็จพระสังฆราช จะผ่านหน่วยงานต่างๆที่มีสร้อยนามว่าในสังฆราชูปถัมภ์ หรือหลวงพ่อคูณ ในกรณีที่มีคนถวายเงินหลวงพ่อแล้วหลวงพ่อก็เอาเงินนั้นไปสร้างประโยชน์
อีกแบบคือตั้งมูลนิธิ เช่นวัดสวนแก้ว มีมูลนิธิวัดสวนแก้ว วัดพระบาทน้ำพุโดยหลวงพ่ออลงกต ก็มีมูลนิธิ หรือแม้แต่วัดธรรมกายก็มีมูลนิธิวัดธรรมกาย ซึ่งเงินจากมูลนิธินั้นมาจาก2ส่วนคือ เงินส่วนตัวของพระที่ก่อตั้งมูลนิธิที่มีคนเอาเงินมาถวาย หรือมีคนมาบริจาคให้มูลนิธิโดยตรง
ปัญหาการฉ้อโกงคืออลัชชีบางรูปไซฟ่อนเงินวัด มามาเป็นสมบัติส่วนตัว โดยอาศัยตำแหน่งเจ้าอวาสของตัวเอง หรือไซฟ่อนเงินวัดมาไว้ในมูลนิธิที่ตัวเองตั้งขึ้นแล้วยักย้ายถ่ายเทเงินมูลนิธิไปอีกที ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำธุรกรรมทางบัญชีของวัดจะได้รับการควบคุมดูแลจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อป้องกันการนำเงินวัดไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์โดยทั้งตั้งใจและรู้เท่าไม่ถึงการ
ในส่วนของศรัทธาญาติโยมพึงรู้ว่าเงินหรือทรัพย์สินที่เราบริจาคไปนั้นจะต้องแสดงเจตนาให้พระรู้ทุกครั้งว่าจะให้ทานหรือบริจาคแบบไหน แบบให้พระสงฆ์องค์นั้นๆโดยตรง ในกรณีถวายให้วัดจะมีใบอนุโมทนาบัตร เป็นหลักฐาน หรือกรณีที่บริจาคให้มูลนิธิของวัดจะมีใบเสร็จรับเงินทุกครั้ง ในกรณีถวายให้วัดหรือบริจาคให้มูลนิธิหลักฐานสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ส่วนการถวายแก่พระองค์นั้นๆถือว่าให้โดยสเน่หา ไม่สามารถหักภาษีได้
แชร์ความรู้เรื่องเงินวัด จากกรณีธรรมกาย
วัด เป็นนิติบุคคลตามกฏหมาย มีเจ้าอาวาสเป็นผู้แทนนิติบุคคล อาจจะประกอบด้วยคณะกรรมการวัด มีไวยาวัจกร ดูเรื่องเงินวัด
ปกติการถวายอะไรๆไม่ว่าจะข้าวปลาอาหารหรือ สังฆทาน หรือทรัพย์สินอะไรก็ตาม จะแบ่งเป็น2ส่วนใหญ่ๆคือ ถวายคน กับถวายวัด ถวายคนคือ ถวายทรัพย์เป็นกรรมสิทธิ์ของพระสงฆ์ เช่นการใส่บาตร การถวายแก่หมู่สงฆ์เช่นถวายผ้าพระกฐิน ในทางกฏหมายถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลนั้นๆ และอีกส่วนหนึ่งคือถวายวัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล
เท่าที่ทราบมาเงินวัด หรือเงินในกรรมสิทธิ์ของนิติบุคคลวัดนั้นตามกฏหมายหรือระเบียบอะไรซักอย่าง จะต้องใช้เพื่อประโยชน์แก่วัดเท่านั้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซ่อมแซม หรือก่อสร้างศาสนาสถานหรือกุฎิสงฆ์ อาจจะรวมไปถึงค่าจ้างคนดูแลหรือ ค่าบำรุงรักษายานพาหนะ ที่ใช้เพื่อประโยชน์ของวัด เท่านั้น
"ดังนั้นการนำเงินวัดไปใช้ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากผลประโยชน์ของวัดนั้นๆ แม้จะเป็นไปด้วยกุศลจิตหรือเพื่อประโยชน์แก่สาธารณะก้ถือว่าผิด ถ้าเป็นพระก็ต้องอาบัติปาราชิก"
แต่ ปัจจุบันเราทราบว่าหลายๆวัดมีกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศลมากมาย เช่น วัดสวนแก้ว วัดพระบาทน้ำพุ หรือแม้แต่ วัดธรรมกาย ถามว่าวัดเหล่านี้เอาเงินมาจากไหนถ้าใช้เงินวัดไม่ได้
คำตอบจะมีอยู่2แบบคือ มาจากพระสงฆ์เจ้าของเงินโดยตรงเช่น สมเด็จพระสังฆราช จะผ่านหน่วยงานต่างๆที่มีสร้อยนามว่าในสังฆราชูปถัมภ์ หรือหลวงพ่อคูณ ในกรณีที่มีคนถวายเงินหลวงพ่อแล้วหลวงพ่อก็เอาเงินนั้นไปสร้างประโยชน์
อีกแบบคือตั้งมูลนิธิ เช่นวัดสวนแก้ว มีมูลนิธิวัดสวนแก้ว วัดพระบาทน้ำพุโดยหลวงพ่ออลงกต ก็มีมูลนิธิ หรือแม้แต่วัดธรรมกายก็มีมูลนิธิวัดธรรมกาย ซึ่งเงินจากมูลนิธินั้นมาจาก2ส่วนคือ เงินส่วนตัวของพระที่ก่อตั้งมูลนิธิที่มีคนเอาเงินมาถวาย หรือมีคนมาบริจาคให้มูลนิธิโดยตรง
ปัญหาการฉ้อโกงคืออลัชชีบางรูปไซฟ่อนเงินวัด มามาเป็นสมบัติส่วนตัว โดยอาศัยตำแหน่งเจ้าอวาสของตัวเอง หรือไซฟ่อนเงินวัดมาไว้ในมูลนิธิที่ตัวเองตั้งขึ้นแล้วยักย้ายถ่ายเทเงินมูลนิธิไปอีกที ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำธุรกรรมทางบัญชีของวัดจะได้รับการควบคุมดูแลจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อป้องกันการนำเงินวัดไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์โดยทั้งตั้งใจและรู้เท่าไม่ถึงการ
ในส่วนของศรัทธาญาติโยมพึงรู้ว่าเงินหรือทรัพย์สินที่เราบริจาคไปนั้นจะต้องแสดงเจตนาให้พระรู้ทุกครั้งว่าจะให้ทานหรือบริจาคแบบไหน แบบให้พระสงฆ์องค์นั้นๆโดยตรง ในกรณีถวายให้วัดจะมีใบอนุโมทนาบัตร เป็นหลักฐาน หรือกรณีที่บริจาคให้มูลนิธิของวัดจะมีใบเสร็จรับเงินทุกครั้ง ในกรณีถวายให้วัดหรือบริจาคให้มูลนิธิหลักฐานสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ส่วนการถวายแก่พระองค์นั้นๆถือว่าให้โดยสเน่หา ไม่สามารถหักภาษีได้