เมื่อวันที่ 11 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ ในสิงค์โปร์ ฉบับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งตีพิมพ์รายงานพร้อมคำให้สัมภาษณ์ใจความสำคัญตอนหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์เรียกร้องความเป็นธรรมในการดำเนินการทางกฎหมายต่อกรณีโครงการรับจำนำข้าว และมีความเห็นบางประการต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างโดยระบอบทหาร ซึ่งถึงแม้ถูกรัฐบาลทหารปิดกั้นการเคลื่อนไหวทางการเมือง การแจกปฏิทินปีใหม่ที่มีรูปภาพ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ทว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มชินวัตรดูจะยังคงมีบทบาทในการเมืองของประเทศไทยต่อไป
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า "เราเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยยังได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน สำหรับข้อเรียกร้องให้กลุ่มชินวัตรยุติบทบาททางการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ดิฉันเห็นว่าเรื่องนี้คนตัดสินคือประชาชน ซึ่งต้องฟังเสียงคนส่วนใหญ่"
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถูกดำเนินคดีในโครงการรับจำนำข้าว ที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้รัฐสูญเงิน 5 แสนล้านบาท โดยยืนยันว่า " เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรดิฉันพยายามอยู่เงียบๆมานานเกือบ 2 ปี ปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศไป แต่บางครั้งเราจำเป็นต้องออกมาพูด เพราะเราเกรงว่าประชาชนจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อน" ส่วนข้อสงสัยที่ว่าจะหนีออกนอกประเทศนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวยืนยันว่า "ถ้าต้องการหนี ดิฉันคงหนีไปแต่แรกแล้ว ดิฉันจะไปขึ้นศาลทำไม"
นอกจากนี้อดีตนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้คุกคามรัฐบาลรัฐประหาร เพราะไม่มีตำแหน่งอะไร เป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ฉะนั้น ไม่ต้องหวาดหวั่นอะไรในตนเอง อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แสดงความเห็นทางการเมือง ขณะนี้ว่า ประเทศไทยกำลังร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมุ่งควบคุมนักการเมืองอย่างแน่นหนา
"นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง เป็นผู้แทนของปวงชน ถ้าคุณไม่เชื่อถือนักการเมือง นั่นแปลว่า คุณไม่ไว้วางใจประชาชน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สเตรทไทมส์ รายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าเดินทางไปยังภาคเหนือหรือภาคอีสาน ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ก็ยังมีประชาชนเข้ารุมล้อมชื่นชมเสมอ เพจทางเฟซบุ๊กของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังมีคนกดไลค์กว่า 4 ล้าน
JJNY : "ยิ่งลักษณ์" ให้สัมภาษณ์สเตรทไทมส์ ยันเป็นแค่แม่ลูกหนึ่ง ไม่หนีคดีจำนำข้าวแน่ๆ
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ ในสิงค์โปร์ ฉบับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งตีพิมพ์รายงานพร้อมคำให้สัมภาษณ์ใจความสำคัญตอนหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์เรียกร้องความเป็นธรรมในการดำเนินการทางกฎหมายต่อกรณีโครงการรับจำนำข้าว และมีความเห็นบางประการต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างโดยระบอบทหาร ซึ่งถึงแม้ถูกรัฐบาลทหารปิดกั้นการเคลื่อนไหวทางการเมือง การแจกปฏิทินปีใหม่ที่มีรูปภาพ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ทว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มชินวัตรดูจะยังคงมีบทบาทในการเมืองของประเทศไทยต่อไป
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า "เราเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยยังได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน สำหรับข้อเรียกร้องให้กลุ่มชินวัตรยุติบทบาททางการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ดิฉันเห็นว่าเรื่องนี้คนตัดสินคือประชาชน ซึ่งต้องฟังเสียงคนส่วนใหญ่"
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถูกดำเนินคดีในโครงการรับจำนำข้าว ที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้รัฐสูญเงิน 5 แสนล้านบาท โดยยืนยันว่า " เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรดิฉันพยายามอยู่เงียบๆมานานเกือบ 2 ปี ปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศไป แต่บางครั้งเราจำเป็นต้องออกมาพูด เพราะเราเกรงว่าประชาชนจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อน" ส่วนข้อสงสัยที่ว่าจะหนีออกนอกประเทศนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวยืนยันว่า "ถ้าต้องการหนี ดิฉันคงหนีไปแต่แรกแล้ว ดิฉันจะไปขึ้นศาลทำไม"
นอกจากนี้อดีตนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้คุกคามรัฐบาลรัฐประหาร เพราะไม่มีตำแหน่งอะไร เป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ฉะนั้น ไม่ต้องหวาดหวั่นอะไรในตนเอง อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แสดงความเห็นทางการเมือง ขณะนี้ว่า ประเทศไทยกำลังร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมุ่งควบคุมนักการเมืองอย่างแน่นหนา "นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง เป็นผู้แทนของปวงชน ถ้าคุณไม่เชื่อถือนักการเมือง นั่นแปลว่า คุณไม่ไว้วางใจประชาชน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สเตรทไทมส์ รายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าเดินทางไปยังภาคเหนือหรือภาคอีสาน ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ก็ยังมีประชาชนเข้ารุมล้อมชื่นชมเสมอ เพจทางเฟซบุ๊กของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังมีคนกดไลค์กว่า 4 ล้าน