ผมแค่จะมาต่อเรื่องข้อ 10 ในนี้เพราะผมตอบกระทู้นี้ไม่ได้ เห็นว่าเป็นเรื่องดี
http://ppantip.com/topic/34768198
บริษัทที่ผมทำงานเป็นบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ของญี่ปุ่นแห่งนึง ผจก.รายได้ไม่ถึง 1 แสนบาทต่อเดือนส่วนใหญ่จะทำงานงก ๆ เพื่อบริษัทส่วนมากไม่มีอาชีพอื่นที่ทำรายได้นอกจากงานบริษัทหรือต้นทุนชีวิตที่ดี มากกว่าผจกที่รายได้เกินแสน แต่ ผจก หรือระดับบริหารที่รายได้เกิน 1 แสนบาท ทำเพื่อตัวเองมากขึ้น พวกนี้จะมีต้นทุนชีวิตที่ดีกว่าและมีโอกาสมากกว่าพัฒนาตนเองหรือพัฒนารายได้ที่มากขึ้นไปอีก
คนส่วนใหญ่ที่เป็นหัวหน้าระดับใหญ่ที่มีเงินเดือนเกินแสนส่วนใหญ่เขามีอาชีพอื่นนอกจากที่คุณเห็นเกือบทั้งนั้นแม้จะไม่ทุกคน ปกติรายได้ของคนเหล่านี้หลักแสนอยู่แล้ว แต่จะมีรายได้ประเภทอื่นรองรับด้วยและได้เงินมาไม่น้อยเลย บางทีรายได้ข้างนอกอาจจะหลายแสนหรือมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับจากบริษัทซะอีก ผมยกตัวอย่างที่เห็นมาเช่นระดับผจกใหญ่เขาเปิดบริษัทตรวจประเมินระบบคุณภาพตามบริษัทต่าง ๆ รายได้หลายแสนบาทต่อเดือน รายได้ที่ทำงานอยู่บริษัทในปัจจุบันต่อเดือนก็หลายแสนบาทแล้ว + รายได้ข้างนอกหลายแสน เปิดบริษัทรับเหมาซ่อมติดตั้งขายเครื่องจักรภายนอก เงินเดือนปัจจุบันก็หลักแสน รายได้ข้างนอกก็หลักหลายแสนถึงหลักล้านต่อเดือนถ้าขายเครื่องจักรนำเข้าได้เยอะ
หรือ ผจก คนนึงเปิดบริษัทอยู่ข้างนอกทำรับเหมาก่อสร้างตามโรงงาน อีกคนที่เห็นก็ทำร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายได้หลายแสนบาทต่อเดือนนอกจากเงินเดือนที่รับหลักแสนบาท ที่ผมทราบเพราะผมทำงานเป็นวิศวกรในนี้ แต่พอดีผมทำธุรกิจที่มียอดขายหลายแสนจนเกือบบถึงหลักล้านต่อเดือน จึงมีโอกาสคุยกับ ผจกระดับบริหารบางคนที่รับผมเข้าทำงานเรื่องพวกกนี้ เพื่อขอความรู้จากเขา ถ้าผมไม่ได้มีรายได้ขนาดนั้นผมก็คงไม่มีโอกาสคุยเรื่องนี้พวกนี้กับเขาก็ได้เพราะเขาคงไม่มีอะไรคุยกับเราไปต่อยอด
คือบางท่านอาจจะมาบอกว่าแล้วที่ผมมาบอกทำไม หรือแค่ยืนยันว่าจริง คือผมบอกให้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ทำงานว่าคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงเขาคิดอย่างไร ทำอย่างไรจึงมีรายได้มากขนาดนั้น ด้วยต้นทุนที่ดีความคิดที่ดีมีคอนเนกที่ดีเขาก็ต่อยอดเขาไปได้ วันวันคุณอาจจะเห็นเขาทำงานแต่บางทีเขากำลังทำงานต่อยอดธุรกิจของเขาก็เป็นไปได้เช่นกัน ระดับบริหารค่าโทรฟรี รถใช้ฟรี น้ำมันฟรี บางทีบินฟรี อื่น ๆ อีกมากมายที่เขามีต้นทุนที่ดีกว่าระดับผจก ระดับล่างหรือพนักงาน เพราะผจกหรือพนักงานบางคนทุ่มเทหรือเครียดเรื่องงานแต่แทบไม่ได้คิดเรื่องงานของตัวเองเลย ผมผ่านเลยจุดนั้นไปแล้วนั่งคุยกับเพื่อนขำ ๆ เพราะคนที่ระดับใหญ่กว่าเขาอาจเครียดเรื่องธุรกิจของเขาอยู่ก็ได้ ไม่ใช่งานบริษัทที่เขาทำ คือคนเรามันต่างกันคนละมุมมองไงครับ
สิ่งที่ได้จากการเห็นพวกเขามีรายได้หลายแสนบาทจากการเป็นผู้บริหารแน่นอนละเขามีต้นทุนการศึกษาที่ดีบางคนเรียนต่างประเทศ จบการศึกษาสูง ระดับภาษาดี จบมหาลัยที่ดี ซึ่งสิ่งเหลานี้คนส่วนใหญ่อาจไม่มีโอกาสนั้น แต่มุมมองเขาแตกต่างออกไปจาก ผจกระดับล่างที่เงินเดือน 5หมื่น ไม่เกินแสนที่คนเหล่านั้นยังทำงานหามรุ่งหาค่ำเครียดเรื่องงานกับบริษัทพาลลงกับลูกน้อง ยังคิดเรื่องรายได้ของตนมาลงทุนกับกองทุนLTF เพราะโดนหักภาษีเยอะ แต่ระดับบริหารที่ไปต่อยอดรายได้สูง ๆ การทำธุรกิจเพื่อต่อยอดให้มีรายได้หลายแสนหรือหลักล้านบาทต่อเดือน เขาไม่ได้มองเพียงระดับเดียวแค่พนักงานหรือผจกระดับล่าง ผมเห็มนุษย์เงินเดือนหลายคนอยากมีอาชีพเสริม มักจะมองแค่งานขายของเล็ก ๆ เช่นกาแฟหรือขายของออนไลน์ ขายของตามตลาดนัด ซึ่งถ้าเป็นระดับบริหารเขาไม่มองตรงนี้เนื่องจากรายได้ที่เขาทำมันมีมูลค่าเทียบเท่าหรือมากกว่าเงินเดือนหลายแสนที่เขาได้รับอยู่ คือเขาคิดยังไงที่เขาจะต่อยอดรายได้ของเขาให้มากขึ้นกว่าที่ได้รับ
ถ้าเรามัวแต่คิดขายของโดยเฉพาะขายของตามที่เช่า รายได้จะไม่มากนักบางทีเป็นแค่อาชีพเสริมและบางทีมันขึ้นกับเศรษฐกิจดีไม่ดี คนอยากซื้อหรือไม่อยากซื้อ แต่ที่ผู้บริหารระดับสูงเขามองอีกมุมนึงคือเขาอาจลงทุนด้วยเงินลงทุนสูงไปเลยเพราะเขามีต้นทุนที่มากกว่าคนอื่นมีเงินทุนหรือช่องทางที่ดีอยู่แล้ว หรืออีกแนวนึงที่นิยมคือลงทุนต่ำมากเช่นเปิดบริษัทอบรม บริษัทที่ปรึกษา บริษัทรับเหมา หรืออื่น การลงทุนที่ต่ำแต่อาศัยคอนเนกชั่นรวมถึงอาศัยความสามารถเฉพาะทางของตนทำให้มีรายได้สูงหลายแสนหรือหลักล้าน มากกว่าจะลงทุนขายของที่ต้องอาศัยต้นทุนหรือมีความเสี่ยงแต่ผลตอบแทนต่ำ อยากให้คนมองธุรกิจที่กว้างมากขึ้นมากกว่าที่ทุกคนจะมามุ่งขายของกันอย่างเดียว
เจ้านายทีมีอาชีพและรายได้อื่นเยอะ ๆ เขาทำกันยังไง
http://ppantip.com/topic/34768198
บริษัทที่ผมทำงานเป็นบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ของญี่ปุ่นแห่งนึง ผจก.รายได้ไม่ถึง 1 แสนบาทต่อเดือนส่วนใหญ่จะทำงานงก ๆ เพื่อบริษัทส่วนมากไม่มีอาชีพอื่นที่ทำรายได้นอกจากงานบริษัทหรือต้นทุนชีวิตที่ดี มากกว่าผจกที่รายได้เกินแสน แต่ ผจก หรือระดับบริหารที่รายได้เกิน 1 แสนบาท ทำเพื่อตัวเองมากขึ้น พวกนี้จะมีต้นทุนชีวิตที่ดีกว่าและมีโอกาสมากกว่าพัฒนาตนเองหรือพัฒนารายได้ที่มากขึ้นไปอีก
คนส่วนใหญ่ที่เป็นหัวหน้าระดับใหญ่ที่มีเงินเดือนเกินแสนส่วนใหญ่เขามีอาชีพอื่นนอกจากที่คุณเห็นเกือบทั้งนั้นแม้จะไม่ทุกคน ปกติรายได้ของคนเหล่านี้หลักแสนอยู่แล้ว แต่จะมีรายได้ประเภทอื่นรองรับด้วยและได้เงินมาไม่น้อยเลย บางทีรายได้ข้างนอกอาจจะหลายแสนหรือมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับจากบริษัทซะอีก ผมยกตัวอย่างที่เห็นมาเช่นระดับผจกใหญ่เขาเปิดบริษัทตรวจประเมินระบบคุณภาพตามบริษัทต่าง ๆ รายได้หลายแสนบาทต่อเดือน รายได้ที่ทำงานอยู่บริษัทในปัจจุบันต่อเดือนก็หลายแสนบาทแล้ว + รายได้ข้างนอกหลายแสน เปิดบริษัทรับเหมาซ่อมติดตั้งขายเครื่องจักรภายนอก เงินเดือนปัจจุบันก็หลักแสน รายได้ข้างนอกก็หลักหลายแสนถึงหลักล้านต่อเดือนถ้าขายเครื่องจักรนำเข้าได้เยอะ
หรือ ผจก คนนึงเปิดบริษัทอยู่ข้างนอกทำรับเหมาก่อสร้างตามโรงงาน อีกคนที่เห็นก็ทำร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายได้หลายแสนบาทต่อเดือนนอกจากเงินเดือนที่รับหลักแสนบาท ที่ผมทราบเพราะผมทำงานเป็นวิศวกรในนี้ แต่พอดีผมทำธุรกิจที่มียอดขายหลายแสนจนเกือบบถึงหลักล้านต่อเดือน จึงมีโอกาสคุยกับ ผจกระดับบริหารบางคนที่รับผมเข้าทำงานเรื่องพวกกนี้ เพื่อขอความรู้จากเขา ถ้าผมไม่ได้มีรายได้ขนาดนั้นผมก็คงไม่มีโอกาสคุยเรื่องนี้พวกนี้กับเขาก็ได้เพราะเขาคงไม่มีอะไรคุยกับเราไปต่อยอด
คือบางท่านอาจจะมาบอกว่าแล้วที่ผมมาบอกทำไม หรือแค่ยืนยันว่าจริง คือผมบอกให้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ทำงานว่าคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงเขาคิดอย่างไร ทำอย่างไรจึงมีรายได้มากขนาดนั้น ด้วยต้นทุนที่ดีความคิดที่ดีมีคอนเนกที่ดีเขาก็ต่อยอดเขาไปได้ วันวันคุณอาจจะเห็นเขาทำงานแต่บางทีเขากำลังทำงานต่อยอดธุรกิจของเขาก็เป็นไปได้เช่นกัน ระดับบริหารค่าโทรฟรี รถใช้ฟรี น้ำมันฟรี บางทีบินฟรี อื่น ๆ อีกมากมายที่เขามีต้นทุนที่ดีกว่าระดับผจก ระดับล่างหรือพนักงาน เพราะผจกหรือพนักงานบางคนทุ่มเทหรือเครียดเรื่องงานแต่แทบไม่ได้คิดเรื่องงานของตัวเองเลย ผมผ่านเลยจุดนั้นไปแล้วนั่งคุยกับเพื่อนขำ ๆ เพราะคนที่ระดับใหญ่กว่าเขาอาจเครียดเรื่องธุรกิจของเขาอยู่ก็ได้ ไม่ใช่งานบริษัทที่เขาทำ คือคนเรามันต่างกันคนละมุมมองไงครับ
สิ่งที่ได้จากการเห็นพวกเขามีรายได้หลายแสนบาทจากการเป็นผู้บริหารแน่นอนละเขามีต้นทุนการศึกษาที่ดีบางคนเรียนต่างประเทศ จบการศึกษาสูง ระดับภาษาดี จบมหาลัยที่ดี ซึ่งสิ่งเหลานี้คนส่วนใหญ่อาจไม่มีโอกาสนั้น แต่มุมมองเขาแตกต่างออกไปจาก ผจกระดับล่างที่เงินเดือน 5หมื่น ไม่เกินแสนที่คนเหล่านั้นยังทำงานหามรุ่งหาค่ำเครียดเรื่องงานกับบริษัทพาลลงกับลูกน้อง ยังคิดเรื่องรายได้ของตนมาลงทุนกับกองทุนLTF เพราะโดนหักภาษีเยอะ แต่ระดับบริหารที่ไปต่อยอดรายได้สูง ๆ การทำธุรกิจเพื่อต่อยอดให้มีรายได้หลายแสนหรือหลักล้านบาทต่อเดือน เขาไม่ได้มองเพียงระดับเดียวแค่พนักงานหรือผจกระดับล่าง ผมเห็มนุษย์เงินเดือนหลายคนอยากมีอาชีพเสริม มักจะมองแค่งานขายของเล็ก ๆ เช่นกาแฟหรือขายของออนไลน์ ขายของตามตลาดนัด ซึ่งถ้าเป็นระดับบริหารเขาไม่มองตรงนี้เนื่องจากรายได้ที่เขาทำมันมีมูลค่าเทียบเท่าหรือมากกว่าเงินเดือนหลายแสนที่เขาได้รับอยู่ คือเขาคิดยังไงที่เขาจะต่อยอดรายได้ของเขาให้มากขึ้นกว่าที่ได้รับ
ถ้าเรามัวแต่คิดขายของโดยเฉพาะขายของตามที่เช่า รายได้จะไม่มากนักบางทีเป็นแค่อาชีพเสริมและบางทีมันขึ้นกับเศรษฐกิจดีไม่ดี คนอยากซื้อหรือไม่อยากซื้อ แต่ที่ผู้บริหารระดับสูงเขามองอีกมุมนึงคือเขาอาจลงทุนด้วยเงินลงทุนสูงไปเลยเพราะเขามีต้นทุนที่มากกว่าคนอื่นมีเงินทุนหรือช่องทางที่ดีอยู่แล้ว หรืออีกแนวนึงที่นิยมคือลงทุนต่ำมากเช่นเปิดบริษัทอบรม บริษัทที่ปรึกษา บริษัทรับเหมา หรืออื่น การลงทุนที่ต่ำแต่อาศัยคอนเนกชั่นรวมถึงอาศัยความสามารถเฉพาะทางของตนทำให้มีรายได้สูงหลายแสนหรือหลักล้าน มากกว่าจะลงทุนขายของที่ต้องอาศัยต้นทุนหรือมีความเสี่ยงแต่ผลตอบแทนต่ำ อยากให้คนมองธุรกิจที่กว้างมากขึ้นมากกว่าที่ทุกคนจะมามุ่งขายของกันอย่างเดียว