สวัสดีค่ะ รีวิวเป็นครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ

เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพๆ ตอนสายๆวันศุกร์....

ขับรถวิ่งไปเรื่อยๆ แวะห้างบ้าง แวะปั๊มกินข้าวบ้าง ไปแบบ Slow Life ชิวๆ ทริปนี้เน้นพักผ่อนค่ะ

เปิด GPS นำทางไปยัง "Siam Silver Lake Resort"  หรือชื่อเก่าของทางรีสอร์ท "Siam Lake Hills Resort" เลยค่ะ รีสอร์ทนี้อยู่เส้นทางไปน้ำตกเอราวัณ แต่ขับเลยทางไปน้ำตกอีก ขับไปเรื่อยๆค่ะ จะเห็นป้ายชื่อรีสอร์ท ให้ขับเลี้ยวเข้าไปได้เลย เส้นทางเข้ามีขรุขระบ้าง แต่รวมๆไม่ยากลำบากอะไรค่ะ รถโหลดเตี้ย เข้ามาแล้วค่ะ

ในที่สุดก็ถึงแล้วค่ะ แดดเปรี้ยงเลย
ทางรีสอร์ทจะให้เราจอดรถด้านบน ที่จอดรถสะดวกสบายค่ะ
อันนี้คือภาพทางเดินเข้ารีสอร์ทค่ะ เราต้องเดินไปทางด้านล่างค่ะ
ถ้าพาคนมีอายุมา เดินไม่ไหว ไม่ต้องกลัวนะคะ ติดต่อบอกทางพนักงานไว้ก่อน มีเรือไปรับที่ท่าเรือใกล้ๆเพื่อนั่งมาที่รีสอร์ทนี้ค่ะ

ขอออกตัวไว้ก่อนนะคะ เป็นคนถ่ายรูปไม่เก่งค่ะ ใช้กล้องมือถือถ่าย อาจมืดไปนิด มุมไม่สวย แสงไม่ได้
สรุปคือรูปที่เห็น มันไม่สวยเท่าของจริงค่ะ ไม่ว่ากันเนอะ






มาถึงก็ติดต่อพี่พนักงาน เพื่อทำการ Check in เราเลือกพักที่แพจันผา ได้อยู่ห้องแรกเลย ติดกับเครื่องเล่นทางน้ำเลยค่ะ

บรรยากาศชิวมากๆๆๆๆๆ







ห้องของเราค่ะ ห้องแรกเลย







เครื่องเล่นทางน้ำทั้งหมด เล่นฟรีทุกอย่างเลยค่ะ









พอสักประมาณ 16:30 น. ค่ะ มีกิจกรรมล่องแพเปียกค่ะ
ลองนึกภาพตามนะคะ บรรยากาศชิวๆ ลมเย็น น้ำเย็น Slow life จริงๆ



อันนี้ คือเพื่อนร่วมล่องแพค่ะ  (ขออนุญาตลงรูปนะคะ) วันนี้วันศุกร์ คนเลยยังน้อย นั่งกันสบายๆ
พี่พนักงานบอกว่า วันเสาร์ อาทิตย์ คนจะมาเข้าพักเยอะเลยค่ะ





รู้ละ ทำไมถึงเรียกว่าล่องแพเปียก มันเปียกกางเกงจริงๆ



ล่องแพออกไปสักพัก พี่คนขับเรือบอกว่า ลงไปเล่นน้ำกันได้เลยนะครับ

น้ำค่อนข้างเย็นเลยทีเดียว แต่ไม่ถึงกับเย็นมาก

พี่คนขับเรือปล่อยให้เล่นน้ำตามสบาย อยากให้เขาขับกลับเมื่อไหร่ก็บอกได้เลย







หลังจากล่องแพเปียกเสร็จ ก็มาเล่นเครื่องเล่นน้ำกันต่อเลยค่ะ

ลืมบอกไปค่ะ ที่นี่ กิจกรรมทางน้ำทุกอย่าง ต้องใส่เสื้อชูชีพนะคะ เพื่อความปลอดภัย

พอเล่นเสร็จ ทั้งเหนื่อยและหิวสุดๆๆ ...


ส่วนอาหารมื้อเย็น อาหารเราสั่งทางรีสอร์ทไว้ตั้งแต่ตอนช่วงบ่ายๆไว้ก่อนค่ะ และบอกเวลาทานกับพนักงานไว้
เราแอบขี้เกียจออกไปหาไรทานข้างนอก เลยทานในนี้แทน

พอ 1 ทุ่ม อาหารก็มาเสริฟถึงหน้าห้องเลยค่ะ เราสามารถทานหน้าห้องได้ หรือทานที่ที่รับประทานอาหารของทางรีสอร์ทก็ได้ค่ะ
อาหารที่นี่รสชาติโอเคเลยค่ะ

ขอจบของวันแรกไว้เพียงเท่านี้ วันแรกใช้เวลาอยู่แต่ในที่พักเลยค่ะ


**เราแอบลืมถ่ายรูปในห้องมา ภายในห้อง เปิดม่านเข้าไป จะเจอเตียงเลยค่ะ เราสามารถนอนดูวิวด้านนอกได้สบายๆเลย ส่วนห้องน้ำ จะเป็นห้องน้ำส่วนตัวนะคะ ห้องน้ำแบ่งสัดส่วนดีค่ะ **


เช้าวันที่ 2
รับประทานอาหารเช้าของทางรีสอร์ท ที่รับประทานอาหารมีสองที่ค่ะ



หลังจากทานเสร็จ เราก็แพลนกันไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นกันค่ะ
ค่อนข้างไกลจากรีสอร์ทพอสมควร ใช้เวลาเดินทางไปประมาณ 1 ชม.ครึ่งค่ะ
**แต่ถ้าไปน้ำตกเอราวัณ ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากค่ะ**

พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ



และแล้วก็ถึงที่เก็บค่าบริการ

บัตรค่าบริการ คนไทยคนละ 100 บาท สำหรับยานพาหนะ 30 บาทค่ะ
พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า วันนี้น้ำตกชั้น 3,4,5 น้ำแล้งนะครับ น้ำจะมีเฉพาะชั้น 1,2,6,7
เศร้าเลย T^T แต่ขับรถมาถึงนี่แล้ว ก็ต้องเข้าไปชมหน่อยละกัน







ถึงแล้ว...



เราเดินไปทางน้ำตกชั้น 5,6,7 น่าจะเดินประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆนะ จะถึงน้ำตกชั้นที่ 7

ขอพาไปชมภาพน้ำตกนะคะ รูปออกมาอาจไม่ค่อยสวยเท่าไร ไม่ว่ากันนะคะ ถ่ายรูปไม่เก่ง ^^
เราเล่นน้ำตกกันที่ชั้น 7 ค่ะ     แต่คนอื่นๆหายไปไหนหมดนะ ไม่มีใครเล่นเลย สงสัยน้ำหนาว







ถึงแล้ว น้ำตกชั้นที่ 7











พอเล่นเสร็จ ก็เดินกลับออกมา แล้วทานข้าวที่นี่เลยค่ะ มีอาหารขายหลายอย่างอยู่ค่ะ
อิ่มท้องแล้ว ขับรถกลับรีสอร์ทค่ะ

นอนยาวจนถึงเย็น...

วันนี้ เลือกทำกิจกรรมพายเรือคายักค่ะ อันนี้ก็ฟรีนะคะ แต่ใจจริง แอบอยากเล่น Banana Boat อันนี้เสียตังค่ะ แต่เราไปกันสองคน เล่นสองคนคงไม่สนุก เลยพายเรือแทน





มื้อค่ำ เราก็ทานอาหารเย็นที่รีสอร์ทเหมือนเดิมค่ะ

วันนี้เราสั่ง กุ้งมะขาม ปีกไก่ทอดน้ำปลา และต้มข่าไก่ค่ะ รสชาติอร่อยค่ะ

แต่เมนูที่แม่ครัวแนะนำคือ ต้มยำปลาคัง  แต่เราไม่ชอบกินปลา เลยไม่ได้สั่งค่ะ แต่น่าจะอร่อยนะ

อาหารถ่ายรูปมาไม่ครบค่ะ ด้วยความหิว



และแล้วก็มาถึง วันสุดท้าย …… ใกล้จะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง

วันนี้เรามีแพลนไปเที่ยวในเมืองกันค่ะ

ต้องรีบซิ่งไปให้ทันรถไฟ รอบ 11 โมง ไปถึง 10:40 เหลือเวลาเดินซื้อหาของกินนิดหน่อย ดีที่รถไฟมาเลทด้วย

รถไฟฟรีค่ะ ตื่นเต้นจะได้นั่งรถไฟแล้ว ไม่ได้นั่งมาเป็น 10 ปี



รถไฟมาแล้วววววว….



รถไฟคันนี้วิ่งไปถึงน้ำตกไทรโยค แต่เรานั่งไปถึงแค่สถานีตรงถ้ำกระแซ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง และเราก็นั่งผ่านทางรถไฟสายมรณะ

ด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำแควใหญ่ มีรีสอร์ทแพข้างล่างด้วยค่ะ มองไปสวยมาก

เดินเล่นตามทางสายรถไฟ ตกลงไปถึงตายเลยนะ แอบหวาดเสียวแต่สวยค่ะ











หลังจากเดินเที่ยวเสร็จ ก็มานั่งรอรถไฟค่ะ รถไฟจะกลับมารับภายใน 1 ชั่วโมงค่ะ

จบทริปกาญจนบุรีค่ะ เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ ทริปนี้เน้นพักผ่อน นอน เล่นน้ำ กิน ชิวๆ รูปเยอะนิดนึงค่ะ