เดินเล่นในนี้กันสักพัก เราก็ลงมากินข้าวกลางวันกัน แล้วเรียกรถจากรีสอร์ทมารับ
พวกเราเดินทางถึงรีสอร์ทประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง แล้วเราก็พบว่า หึ้ยยยย ใช่เลยยยยยยยยย

มี welcome drink ให้ด้วยนะคะ

นี่คือรูปภายในที่พักของพวกเรา เตียงนุ่มมาก กลางคืนหลับสบายมาก

หลังจากเก็บกระเป๋ากันเรียบร้อย ก็ลุยยยค่ะ ราคาที่พักของที่นี่คือรวมกิจกรรมทั้งหมดของรีสอร์ทที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันนะคะ
ตั้งแต่พายเรือคายัค เครื่องเล่นทางน้ำ และล่องแพเปียกตอนเย็นค่ะ

พายเรือคายัค ประทับใจมาก เพราะเราไม่เคยพายเรือ เคยดูแต่ในทีวีว่าคนที่พายไม่เป็นมันจะพายเป็นวงกลม 5555
ตอนใส่ชูชีพ ลงเรือเสร็จปุ๊ป ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรือเราถูกผลักออกสู่น่านน้ำ แล้วมันก็ออกสู้น่านน้ำจริงๆ จากที่ไปกัน 5 คน เห้ย เหมือนเหลือเราคนเดียวเลยวะ เพื่อนหายไปไหนก็ไม่รู้ 555555555 เราตลกตัวเองมาก เราจำบ้านหลังที่พักไม่ได้ เรือลำไหนเป็นของเพื่อนก็ไม่รู้ คือเหลือเรากลางน้ำโหวงเหวงมาก 5555555555 จนสุดท้ายเพื่อนต้องพายตามหาเรา

อยากจะมีรูปตอนพายคายัคก็เลยไม่มีไง เพราะพายไม่ถึงบ้าน เลยเอารูปเพื่อนมาลงแทนละกัน
ชอบมากจริงๆ จากพายไม่เป็น จนพายเป็นเพราะกลัว 5555

กิจกรรมถัดมา คือ ล่องแพเปียก ตอน 16.30 น. เค้าจะมีเจ้าหน้าที่ประกาศว่าแพเปปียกกำลังจะออกแล้วนะค้าบบบ ก็ได้เวลาขึ้นจากน้ำไปลงแพที่ทางรีสอร์ทเตรียมเอาไว้
เสียดายที่ไม่มีรูปของกิจกรรมนี้ เพราะเอากล้องไปก็กลัวจะเปียก ไม่มี Go Pro 5555
แต่เป็นอะไรที่ดีมากก ต้องลองไปล่องสักครั้ง แพจากรีสอร์ทจะพาเราล่องไปบริเวณสันเขื่อนของเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วก็จะหยุดให้เราลงเล่นน้ำกันได้ตามสบายย ชอบม๊ากกกก เย็นสบายย ลอยน้ำ หัวไม่ต้องคิดอะไร ดูผู้คนกระโดดน้ำ แล้วก็ให้คนอื่นขำเวลาเราปีนกลับขึ้นแพ5555

พอแพลากพาเรากลับที่พักก็เป็นช่วงเดียวกับที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน บรรยากาศดีมากกก อยากกลับไปอีก

สุดท้ายก็คือเครื่องเล่นทางน้ำ

แต่เล่นไปได้แค่นิดเดียว เพราะก็เริ่มมืดแล้ว ได้เวลากินข้าวเย็นกัน

ที่นี่เค้ามีโซนนั่งทานอาหาร 2 แบบ บนโต๊ะปกติ กับแบบนั่งห้อยเท้าแล้วด้านล่างเป็นปลาคร๊าบ พวกเราเลือกนั่งแบบปกติ
อาหารที่นี่อาจจะติดรสเค็มไปหน่อย แต่ถือว่าอร่อยใช้ได้ แล้วพวกเราก็หิวมากกกก55555

อ่อ ลืมบอกไป ราคมห้องพักที่บอกไปนั้น รวมแค่อาหารเช้า ไม่รวมอาหารเย็นนะคะ เราจะต้องสั่งทานของรีสอร์ทต่างหาก

แล้วเราก็กลับที่พักกัน อาบน้ำ เม้ามอยไปตามประสา

นี่คือบรรยากาศตอนเช้า

เรากับเพื่อนอีก 1 คน ตั้งใจว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน แต่เสียดายที่ฝั่งของรีสอร์ทนั้นเราจะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น จะเห็นแค่พระอาทิตย์ตกเท่านั้น
อดดูเลยยยย -0-

แล้วก็ได้เวลากินอาหารเช้า เตรียมตัวกลับกรุงเทพกัน

พวกเรา check out ออกจากรีสอร์ทประมาณ 11 โมง แล้วเช่ารถไปลงสถานีน้ำตก เพื่อไปขึ้นรถไฟฟรีกลับกรุงเทพ

รถไฟที่จะกลับถึงกรุงเทพเลยมีเพียงรอบเดียวเท่านั้น คือ รอบ 12.55 น. ประมาณนี้ ถ้ารอบช้ากว่านี้คือประมาณ บ่าย 3 กว่าๆ จะกลับไปถึงกรุงเทพ รู้สึกจะถึงแค่ สถานี กาญจนบุรี แล้วเราต้องการถต่อกันเอง

โชคดีที่พวกเรามาทัน แล้วก็ได้รับตั๋วรถไฟฟรีเรียบร้อย เป็นอันว่าถึง กรุงเทพ แน่นอน
แต่จะแชร์ประสบการณ์ว่าวิวจะสวยแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น หลังจากนั้นฝุ่นตามรายทางจะมาเต็มมากกๆ ถ้าใครที่อยากจะลองเดินทางด้วยรถไฟ อาจจะต้องพกพวกผ้าปิดจมูกอะไรแบบนี้เผื่อไว้ด้วยนะ เพื่อสุขภาพที่ดีของปอดนะจ้ะ 55555

ใช้เวลาเดินทางจากสถานีน้ำตก-ศาลายา กรุงเทพ ประมาณ 5 ชั่วโมง เป็นอันจบทริปอย่างสมบูรณ์
ประทับใจ อยากไปอีกแล้ววว 55555

ค่าใช้จ่ายตลอดทริปตั้งแต่ออกจากกรุงเทพ-กรุงเทพ สำหรับการไปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืนในครั้งนี้ ประมาณ 2,300 บาท
ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากก ถ้ามีโอกาสจะต้องกลับไปนอนแพที่กาญอีกแน่นอน

ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทั้ง 4 คน ฝน เปรม แอมนา  : ))) ที่ทำให้พวกเราได้ไปทริปนี้กันได้สำเร็จ แล้วก็เป็นวันหยุดที่สนุกมากก ดีมาก
เมื่อมีครั้งแรกแล้ว เดี๋ยวครั้งต่อๆไปก็จะตามมาเนาะ

อยากเก็บไว้เป็นบันทึกของตัวเอง แล้วก็ได้แชร์ให้คนอื่นๆได้อ่านด้วย
ฝากไว้ด้วยนะคะ เพิ่งเคยรีวิวเป็นกระทู้แรก

#DiaryOnline #PairPurin