เกริ่น>>> ข้ามก็ได้ค่ะ
ดิฉันเป็นนักเรียนชั้น ม.6 ที่เรียนใน รร. จังหวัดอื่น (ที่ไม่ใช่จังหวัดบ้านเกิด)
ซึ่งแน่นอนว่าระยะทางมันไกลพอสมควร ประมาณเกือบ 50 กิโลเมตร เข้าโรงเรียนนี้มาตอน ม.ปลายค่ะ
เลยนั่งรถรับ-ส่งนักเรียนเพื่อความสะดวก ตอนแรกลองขึ้นรถตู้วิน (รถตู้โดยสารสาธารณะ) ดูประมาณ 1 อาทิตย์
แต่ไม่ไหวจริงๆเพราะต้องตื่นเช้ามาก และบางวันก็เข้าเรียนสาย คือรถสายที่จะไป รร.ดิฉันมีแต่รถตู้ค่ะ รถเมล์ 2-3 ชม. จะมาคันหนึ่ง
ค่าโดยสารรถตู้วินคือ 40-50 บาท (วันหนึ่ง ไป-กลับ ก็ 100 บาท )
ต่อมาพ่อของดิฉันเลยให้ขึ้นรถรับ-ส่ง เพื่อตัดปัญหา ค่ารถรับส่งในแต่ละเดือนคือ 2,500 บาท
ซึ่งพ่อก็โอเคกับราคานี้ เพราะว่าเราซื้อความสบาย ถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไป เพราะถ้าคิดราคาที่เราไปกลับโดยรถตู้วินทั้งเดือนก็ประมาณ 2,000 อยู่แล้ว
สภาพรถลุงเขาก็โอเคเลยค่ะ มีเครื่องเสียง เบาะนั่งดี มีเบาะเสริม (นร.ในรถมีประมาณ 18 คน) ไม่ได้เบียดกันมากนัก
ปัญหามันมาเกิดตรงที่นิสัยของลุงเจ้าของรถ คือลุงเขาค่อนข้างจะตระหนี่ (อธิบายไม่ถูก) เอาเป็นว่าถ้าเป็นเรื่องเงินๆทองๆ ลุงแกจะซีเรียสมาก
ทีนี้ ในรถตู้มีเด็กนักเรียนอยุ่สามโรงเรียน มีอยู่ครั้งสองครั้ง ที่โรงเรียนหยุดไปสองสัปดาห์ เพราะมีอบรมอาจารย์ และงานกีฬา
ก็เลยไม่ได้ขึ้นรถไปครึ่งเดือน แต่อีกสองโรงเรียนในรถยังไปเรียนปกติ ขึ้นรถปกติ แกก็เก็บเงิน 2,500 บาทเท่าเดิมค่ะ
ลุงแกบอกว่า ลุงเติมน้ำมันเท่าเดิม เสียค่าน้ำมันเท่าเดิม พวกหนูก็ต้องจ่ายเท่าเดิม เราก็เถียงไปสองสามคำ แต่ก็ต้องจ่ายอยู่ดี
เราก็เข้าใจเขานะ คือถ้าเราทำงาน แล้วปกติได้เงินเท่านี้ แต่เดือนนี้เงินที่ได้จะลดลงไป ทั้งที่เหนื่อยเท่าเดิม เป็นเราก็คงไม่ชอบเหมือนกัน
ก็เลยให้ๆเขาไป เพราะเราขึ้นตั้งสองอาทิตย์ ยังพอทำใจให้ได้
เรื่องหลักๆ >>>>
แต่ๆ ที่พีคกว่านั้นคือตอนปลายเทอม 2 ม.6 ซึ่งส่วนมากเด็ก ม.6 ก็จะไม่มาเรียนกันแล้ว
และโรงเรียนก็ประกาศให้เดือนที่(มกราคม 2559)แล้วเป็นเดือนสุดท้ายที่ ม.6 จะมาเรียน
แต่เราก็ยังต้องมาเคลียร์งานและสอบนอกตารางในวันที่ 5 ก.พ. ซึ่งเราก็ขึ้นรถลุงตามปกติ เพราะมีสอบตอนเช้า พอขึ้นไปนั่งเท่านั้นแหละ
ลุงแกบอกว่า "เดือนนี้จ่ายค่ารถเท่าเดิมนะ รถลุงไม่ใช่รถสาธารณะ" ในใจนี่แบบ เฮ้ยยยย บ้าไปแล้ว
คือเรากะเอาเงินมาจ่ายลุงสัก 150 บาท คือจ่ายรายวันไปเลย เพราะกะจะนั่งแค่วันเดียว
ตอนแรกมีสอบอีกสองวัน (จะจ่ายรายวันไปเหมือนกัน) แต่เจอแบบนี้ ยอมนั่งรถตู้วินดีกว่า
พอไปบอกแม่ แม่ก็บอกว่าไม่ต้องนั่งแล้ว เดี๋ยววันไหนสอบเช้าให้ที่บ้านไปส่ง แล้วก็กลับเอง แม่โมโหมากเลยค่ะ
ก่อนหน้านี้ที่เรานั่งไม่เต็มเดือน แล้วเก็บเต็มราคา แม่ก็บ่นนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ให้เงิน
ไม่เคยให้เงินเลทสักเดือนเลยค่ะ คือให้วันสุดท้ายของเดือนตลอด
นั่งวันเดียว 2,500 เราเอาเงินไปจองตั๋วไป-กลับเครื่องบิน เที่ยวเชียงใหม่ไม่ดีกว่าเรอะ!? เงินเหลือซะด้วยซ้ำ
ก็เลยอยากถามค่ะ ว่าปกตินี่ถ้า นร.นั่งรถแค่ไม่กี่วันในหนึ่งเดือน ต้องจ่ายราคาเต็มรึเปล่าคะ หรือจ่ายแค่ที่เรานั่ง
อย่างกรณีเรา ขึ้นวันเดียว แต่ต้องจ่าย 2,500 บาท นี่ถูกต้องอยู่แล้วรึเปล่าคะ ไม่รู้จริงๆค่ะ
มันผิดสิทธิผู้บริโภคหรือเปล่าคะ เพราะเราใช้สิทธิในการใช้บริการไม่เต็มเดือน (แค่วันเดียว) ราคาที่จ่ายต้องจ่ายเต็มราคาเลยหรือ
ป.ล. ตอนนี้ยังไม่ได้จ่ายเขาไปค่ะ และตอนจ้างเขารับ-ส่ง ก็ไม่ได้ทำสัญญาเป็นหนังสือด้วย
ค่ารถรับส่งนักเรียนนี่ใช้เกณฑ์อะไรในการตั้ง? แบบนี้ถือว่าผิดมั้ย?
ดิฉันเป็นนักเรียนชั้น ม.6 ที่เรียนใน รร. จังหวัดอื่น (ที่ไม่ใช่จังหวัดบ้านเกิด)
ซึ่งแน่นอนว่าระยะทางมันไกลพอสมควร ประมาณเกือบ 50 กิโลเมตร เข้าโรงเรียนนี้มาตอน ม.ปลายค่ะ
เลยนั่งรถรับ-ส่งนักเรียนเพื่อความสะดวก ตอนแรกลองขึ้นรถตู้วิน (รถตู้โดยสารสาธารณะ) ดูประมาณ 1 อาทิตย์
แต่ไม่ไหวจริงๆเพราะต้องตื่นเช้ามาก และบางวันก็เข้าเรียนสาย คือรถสายที่จะไป รร.ดิฉันมีแต่รถตู้ค่ะ รถเมล์ 2-3 ชม. จะมาคันหนึ่ง
ค่าโดยสารรถตู้วินคือ 40-50 บาท (วันหนึ่ง ไป-กลับ ก็ 100 บาท )
ต่อมาพ่อของดิฉันเลยให้ขึ้นรถรับ-ส่ง เพื่อตัดปัญหา ค่ารถรับส่งในแต่ละเดือนคือ 2,500 บาท
ซึ่งพ่อก็โอเคกับราคานี้ เพราะว่าเราซื้อความสบาย ถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไป เพราะถ้าคิดราคาที่เราไปกลับโดยรถตู้วินทั้งเดือนก็ประมาณ 2,000 อยู่แล้ว
สภาพรถลุงเขาก็โอเคเลยค่ะ มีเครื่องเสียง เบาะนั่งดี มีเบาะเสริม (นร.ในรถมีประมาณ 18 คน) ไม่ได้เบียดกันมากนัก
ปัญหามันมาเกิดตรงที่นิสัยของลุงเจ้าของรถ คือลุงเขาค่อนข้างจะตระหนี่ (อธิบายไม่ถูก) เอาเป็นว่าถ้าเป็นเรื่องเงินๆทองๆ ลุงแกจะซีเรียสมาก
ทีนี้ ในรถตู้มีเด็กนักเรียนอยุ่สามโรงเรียน มีอยู่ครั้งสองครั้ง ที่โรงเรียนหยุดไปสองสัปดาห์ เพราะมีอบรมอาจารย์ และงานกีฬา
ก็เลยไม่ได้ขึ้นรถไปครึ่งเดือน แต่อีกสองโรงเรียนในรถยังไปเรียนปกติ ขึ้นรถปกติ แกก็เก็บเงิน 2,500 บาทเท่าเดิมค่ะ
ลุงแกบอกว่า ลุงเติมน้ำมันเท่าเดิม เสียค่าน้ำมันเท่าเดิม พวกหนูก็ต้องจ่ายเท่าเดิม เราก็เถียงไปสองสามคำ แต่ก็ต้องจ่ายอยู่ดี
เราก็เข้าใจเขานะ คือถ้าเราทำงาน แล้วปกติได้เงินเท่านี้ แต่เดือนนี้เงินที่ได้จะลดลงไป ทั้งที่เหนื่อยเท่าเดิม เป็นเราก็คงไม่ชอบเหมือนกัน
ก็เลยให้ๆเขาไป เพราะเราขึ้นตั้งสองอาทิตย์ ยังพอทำใจให้ได้
เรื่องหลักๆ >>>>
แต่ๆ ที่พีคกว่านั้นคือตอนปลายเทอม 2 ม.6 ซึ่งส่วนมากเด็ก ม.6 ก็จะไม่มาเรียนกันแล้ว
และโรงเรียนก็ประกาศให้เดือนที่(มกราคม 2559)แล้วเป็นเดือนสุดท้ายที่ ม.6 จะมาเรียน
แต่เราก็ยังต้องมาเคลียร์งานและสอบนอกตารางในวันที่ 5 ก.พ. ซึ่งเราก็ขึ้นรถลุงตามปกติ เพราะมีสอบตอนเช้า พอขึ้นไปนั่งเท่านั้นแหละ
ลุงแกบอกว่า "เดือนนี้จ่ายค่ารถเท่าเดิมนะ รถลุงไม่ใช่รถสาธารณะ" ในใจนี่แบบ เฮ้ยยยย บ้าไปแล้ว
คือเรากะเอาเงินมาจ่ายลุงสัก 150 บาท คือจ่ายรายวันไปเลย เพราะกะจะนั่งแค่วันเดียว
ตอนแรกมีสอบอีกสองวัน (จะจ่ายรายวันไปเหมือนกัน) แต่เจอแบบนี้ ยอมนั่งรถตู้วินดีกว่า
พอไปบอกแม่ แม่ก็บอกว่าไม่ต้องนั่งแล้ว เดี๋ยววันไหนสอบเช้าให้ที่บ้านไปส่ง แล้วก็กลับเอง แม่โมโหมากเลยค่ะ
ก่อนหน้านี้ที่เรานั่งไม่เต็มเดือน แล้วเก็บเต็มราคา แม่ก็บ่นนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ให้เงิน
ไม่เคยให้เงินเลทสักเดือนเลยค่ะ คือให้วันสุดท้ายของเดือนตลอด
นั่งวันเดียว 2,500 เราเอาเงินไปจองตั๋วไป-กลับเครื่องบิน เที่ยวเชียงใหม่ไม่ดีกว่าเรอะ!? เงินเหลือซะด้วยซ้ำ
ก็เลยอยากถามค่ะ ว่าปกตินี่ถ้า นร.นั่งรถแค่ไม่กี่วันในหนึ่งเดือน ต้องจ่ายราคาเต็มรึเปล่าคะ หรือจ่ายแค่ที่เรานั่ง
อย่างกรณีเรา ขึ้นวันเดียว แต่ต้องจ่าย 2,500 บาท นี่ถูกต้องอยู่แล้วรึเปล่าคะ ไม่รู้จริงๆค่ะ
มันผิดสิทธิผู้บริโภคหรือเปล่าคะ เพราะเราใช้สิทธิในการใช้บริการไม่เต็มเดือน (แค่วันเดียว) ราคาที่จ่ายต้องจ่ายเต็มราคาเลยหรือ
ป.ล. ตอนนี้ยังไม่ได้จ่ายเขาไปค่ะ และตอนจ้างเขารับ-ส่ง ก็ไม่ได้ทำสัญญาเป็นหนังสือด้วย