ผู้ชายที่พรั่งพร้อมด้วยรูปสมบัติ และ ทรัพย์ศฤงคาร มีทั้งเสน่ห์ดิบเถื่อนร้อนแรงราวกับเมรัยชั้นเลิศ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าร้าย ขึ้นชื่อว่าเป็น womanizer ที่ขึ้นชื่อว่าอันตราย ดูแล้วอาจจะไม่คิดว่ามีผู้หญิงที่ไหนคิดจะเข้าใกล้ เอาตัวไปใกล้กองไฟไม่ใช่เรื่องฉลาด กะจังหวะไม่ดีจะโดนเผาเปลืองตัวเปล่า แต่ต้องไม่ลืมคิดเช่นกันว่าผู้ชายแบบนั้นเป็นนักล่าไม่ล่าทางตรงก็ล่าทางอ้อม เมื่อหิวกระหายเขาก็สามารถกลายเป็นนายพรานล่าเหยื่อ แม้แต่อยู่เฉย ๆ ด้วยบุคคลิกที่โดดเด่นเปรียบได้กับสีสันร้อนแรงก็ดึงดูดผู้หญิงเข้ามาได้เช่นกัน
ผู้ชายลักษณะแบบนั้นก็เปรียบได้กับถ้วยรางวัล
และถ้าถ้วยรางวัลเช่นว่านั้นมีเพียงหนึ่งเดียว
แต่คนที่ต้องการนั้นมีหลายคน
จะนำสิ่งใดเข้ามาได้นอกจากปัญหา
คุณสยมภูมาเฟียคอนกรีตของเราก็กำลังเจอสถานการณ์แบบนั้น เป็นลูกแอปเปิ้ลทองคำสลักว่า To the fairest one กำดัลแด่ผู้ที่งามที่สุด ซึ่งลอยบนอากาศระหว่างเทพีสามองค์ อะโฟรไดซ์ เฮร่า อธีน่า ตามปกรณัมกรีก ในยามนั้นเวรกรรมไปลงที่หัวเจ้าชายปารีสที่ยื่นให้อโฟรไดซ์ จริง ๆ แล้วมันก็ไม่น่าจะมีอะไรแค่แอปเปิ้ลแต่ท้ายที่สุด แอปเปิ้ลลูกเดียวแค่นั้น ... พังถึงกรุงทรอยด์
นั่นแค่ถามว่า "ใครงามที่สุด" นะ
แล้วสิ่งที่ช่วงชิงกันคือ "ความรัก" ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น
ในครานี้กรรมจึงมาลงหัวเจ้าชายกรุงเทพฯแทนเจ้าชายปารีส ที่หยิบยื่น "ความรัก" ให้กับกุมาริกากวางน้อยแสนซื่อ หากแอปเปิ้ลทองคำพาพังถึงกรุงทรอยด์ ความรักของสยมภูก็ไม่แพ้กัน ... พาเจ้าตัวเสียแทบจะทุกสิ่งไม่เว้นแม้กระทั่งชีวิต อย่าเชียว อย่าประมาท "รักระคนแค้น" ของผู้หญิง ในยามนี้ถ้าจะเปรียบกับปกรณัมกรีก คงเห็นได้ว่าเทพีผู้โกรธแค้นเพราะไม่ได้ครอบครองผลแอปเปิ้ลทองคำตามท้องเรื่อง คือ อโฟรไดซ์ และ เฮร่า ซึ่งก็หมายถึง วันทนีย์ กับ รวิวรรณ สองเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดนั่นเอง
อโฟรไดซ์ วันทนีย์ เธอขึ้นชื่อเรื่องความงาม อโฟไดซ์ก็คือเทพีแห่งความงาม เธอเป็นดาราซึ่งลงท้ายด้วยการเป็นนกน้อยในกรงทองของผู้มีชื่อคนหนึ่ง กว่าจะรู้ว่าประกายทองวิบวับที่เห็นนั้นคือกรงที่ขังให้สิ้นอิสรภาพ ทั้งเนื้อตัวร่างกายและจิตใจก็ยับเยินจนเกินทน สยมภู ... ชื่อนี้บันดาลให้เธอหลุดจากกรงทองเป็นนกบินได้อย่างเสรีอีกครั้ง แต่ไม่เพียงเท่านั้นหรอกเขายังมีอำนาจ มีเงินทอง มีรูปลักษณ์ และ เสน่ห์ที่ดึงดูดใจ เธอต้องการทุกอย่างนั้น ต้องการจะตักตวงทุกสิ่งที่ว่ามา หากไม่เคยคิดจะเรียนรู้ว่าภายใต้ท่าทางยโสโอหังเปี่ยมด้วยอำนาจและความเด็ดขาดมีอะไรซ่อนอยู่ และ เมื่อไม่เข้าใจ เธอก็เสนอได้อย่างที่เธอเคยชิน อย่างที่เธอเคยเสนอมาแล้วกับการเป็นนกน้อยในกรงทองคราวนั้น ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งสยมภูต้องการ
เธอมองไม่เห็นและไม่ยอมรับว่าที่ทางของเธอสำหรับสยมภูคืออะไร และ อยู่ตรงไหน แม้เมื่อเขาปล่อยเธอไปเพื่อพยายามจะทำทุกสิ่งให้ถูกต้อง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เธอยึดติดกับเขา ส่วนเขาก็พยายามให้เธอหลุดจากวงจรชีวิต เมื่อครั้งที่หนึ่งไม่สำเร็จก็มีครั้งที่สอง เมื่อครั้งที่สองไม่สำเร็จก็มีครั้งที่สาม ความเห็นใจของสยมภูเปลี่ยนเป็นความรำคาญ ความหวังของวันทนีย์กลายเป็นความรักระคนแค้น แล้วก็ลงท้ายด้วยวลีเดิม ๆ "ถ้าฉันไม่ได้ใครก็ต้องไม่มีใครได้" เธอจึงทำทุกทาง เมื่อดีไม่ได้ก็ร้ายเสีย ... เพื่อให้เขาหันกลับมา แต่อนิจจาแม้แลกด้วยชีวิต ... คนที่ไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่ อยู่ดี
เฮร่า รวิวรรณ เธอขึ้นชื่อเรื่องเล่ห์กลและความฉลาด ผู้หญิงเข้มแข็งที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสยมภูปรุ๊ป ก้าวเข้ามาอย่างผู้ชายอกสามศอกคนหนึ่งและเคียงข้างสยมภูในฐานะ "มือขวา" ผู้หญิงที่ภาคภูมิอย่างรวิวรรณย่อมเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง และ สิ่งที่เหมาะที่ดีที่สุดนั้นจะเป็นอะไรไปได้นอกจากผู้ชายชื่อสยมภู เหมือนกับเฮร่าผู้อยู่ในฐานะเทพีเหนือเทพีทั้งปวง ... ผู้หญิงคนนี้มั่นใจในศักยภาพของตนเองว่าอยู่เหนือผู้หญิงคนใด ดังนั้นสยมภูควรจะเลือกเธอ เพราะเธอนั้นสามารถจะนำพาความยิ่งใหญ่ให้กับเขาได้มากกว่านี้ สร้างทรัพย์สมบัติให้เขามากกว่านี้ ทว่าอีโก้ของเธอจึงถูกบดขยี้ไม่เหลือชิ้นดี เมื่อคนที่สยมภูเลือก แอปเปิ้ลทองคำกลับลอยเลื่อนไปใส่มือเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีคุณสมบัติใด ๆ เทียบเธอได้แม้ซักกระผีก
แต่ผู้หญิงอย่างเธอน่ะหรือจะคุกเข่าอ้อนวอนขอ ? ไม่มีทางอยู่แล้ว เธอได้แต่แอบมองในเงามืด วางแผนต่าง ๆ นานา ที่กลับกลายเป็นว่ามันได้ผลชั่วครั้งชั่วคราว ความผิดหรือเล่า ตกไปอยู่กับสยมภูที่เธอเชื่อว่าอยู่ความลุ่มหลง ความคิดพื้นฐานอาจจะเหมือนกับวันทนีย์ถ้าฉันไม่ได้ใครก็ต้องไม่ได้ แต่เมื่อเฮร่าเป็นเทพเจ้าแห่งสตรี จึงไม่ควรมีผู้หญิงคนใดมีชัยเหนือนาง รวิวรรณจึงไม่ได้ดำเนินการแค่เพียงให้ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ตัวสยมภูแต่อย่างเดียว แต่คนที่ปฏิเสธเธอก็จะต้องได้รับผลแห่งการปฏิเสธนั้น ก็แล้วแต่ว่าจะชดใช้ด้วยชีวิต หรือ จะคลานเข้ามาอ้อนวอนขอให้เธอยกโทษให้
ไม่มีใครมองว่าสยมภูคิดเช่นไรและต้องการอะไร ทั้งสองคน "รู้" แค่ความต้องการของตัวเอง และ คิดจะตักตวงในสิ่งที่ตนต้องการแค่เพียงเท่านั้น ทั้งคู่ต่างคิดว่าตนนั้นดีที่สุดสำหรับสยมภู จึงพยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้สยมภูกลับมา มีเพียงแต่กวางเท่านั้นที่ไม่ได้มีความพยายามอย่างที่ว่า เธอไม่เข้าใจหลายการกระทำของสยมภู และ หลายครั้งที่การหวังดีทำให้ตัวเองเดือดร้อน แต่เธอไม่แคร์ สิ่งที่เธอแคร์คือไม่ว่าสยมภูจะอยู่กับใคร ที่ไหน ขอให้มีความสุข และ ถ้าเขาไม่มีใครเธอก็พร้อมให้เขาพักพิงไม่ว่าในฐานะเพื่อน หรือ คนรัก ก็แล้วแต่สยมภู
ว่ากันไปแล้วสิ่งที่สยมภูทำในช่วงแรก ๆ ไม่ต่างอะไรกับวันทนีย์ และ รวิวรรณ ความรักสำหรับเขาสดใหม่ เขาตักตวงและดื่มกินมันด้วยความกระหาย จนมองข้ามอะไรบางอย่างที่สำคัญ ความรักไม่ครอบครอง และ ไม่ยอมถูกครอบครอง ความรักไม่ใช่เรื่องยื่นหมูยื่นแมว ความรักควรต้องตอบด้วยความรักเท่านั้น สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มอย่างไรและจะจบอย่างไรอยากแล้วที่จะคาดเดา เพราะมันประกอบด้วยหลายการกระทำของหลายคนและหลายปัจจัย
บัดนี้สยมภูก็กำลังเรียนรู้บทเรียนอันหวานอมขมกลืนอันสำคัญยิ่งนี้ แต่เขาจะอ่านมันได้หรือไม่ อย่างไร ต้องรอติดตาม
มรสุมสวาท (Woman+Apple = Trouble) : To the Fairest one
และถ้าถ้วยรางวัลเช่นว่านั้นมีเพียงหนึ่งเดียว
แต่คนที่ต้องการนั้นมีหลายคน
จะนำสิ่งใดเข้ามาได้นอกจากปัญหา
คุณสยมภูมาเฟียคอนกรีตของเราก็กำลังเจอสถานการณ์แบบนั้น เป็นลูกแอปเปิ้ลทองคำสลักว่า To the fairest one กำดัลแด่ผู้ที่งามที่สุด ซึ่งลอยบนอากาศระหว่างเทพีสามองค์ อะโฟรไดซ์ เฮร่า อธีน่า ตามปกรณัมกรีก ในยามนั้นเวรกรรมไปลงที่หัวเจ้าชายปารีสที่ยื่นให้อโฟรไดซ์ จริง ๆ แล้วมันก็ไม่น่าจะมีอะไรแค่แอปเปิ้ลแต่ท้ายที่สุด แอปเปิ้ลลูกเดียวแค่นั้น ... พังถึงกรุงทรอยด์
แล้วสิ่งที่ช่วงชิงกันคือ "ความรัก" ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น
ในครานี้กรรมจึงมาลงหัวเจ้าชายกรุงเทพฯแทนเจ้าชายปารีส ที่หยิบยื่น "ความรัก" ให้กับกุมาริกากวางน้อยแสนซื่อ หากแอปเปิ้ลทองคำพาพังถึงกรุงทรอยด์ ความรักของสยมภูก็ไม่แพ้กัน ... พาเจ้าตัวเสียแทบจะทุกสิ่งไม่เว้นแม้กระทั่งชีวิต อย่าเชียว อย่าประมาท "รักระคนแค้น" ของผู้หญิง ในยามนี้ถ้าจะเปรียบกับปกรณัมกรีก คงเห็นได้ว่าเทพีผู้โกรธแค้นเพราะไม่ได้ครอบครองผลแอปเปิ้ลทองคำตามท้องเรื่อง คือ อโฟรไดซ์ และ เฮร่า ซึ่งก็หมายถึง วันทนีย์ กับ รวิวรรณ สองเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดนั่นเอง
อโฟรไดซ์ วันทนีย์ เธอขึ้นชื่อเรื่องความงาม อโฟไดซ์ก็คือเทพีแห่งความงาม เธอเป็นดาราซึ่งลงท้ายด้วยการเป็นนกน้อยในกรงทองของผู้มีชื่อคนหนึ่ง กว่าจะรู้ว่าประกายทองวิบวับที่เห็นนั้นคือกรงที่ขังให้สิ้นอิสรภาพ ทั้งเนื้อตัวร่างกายและจิตใจก็ยับเยินจนเกินทน สยมภู ... ชื่อนี้บันดาลให้เธอหลุดจากกรงทองเป็นนกบินได้อย่างเสรีอีกครั้ง แต่ไม่เพียงเท่านั้นหรอกเขายังมีอำนาจ มีเงินทอง มีรูปลักษณ์ และ เสน่ห์ที่ดึงดูดใจ เธอต้องการทุกอย่างนั้น ต้องการจะตักตวงทุกสิ่งที่ว่ามา หากไม่เคยคิดจะเรียนรู้ว่าภายใต้ท่าทางยโสโอหังเปี่ยมด้วยอำนาจและความเด็ดขาดมีอะไรซ่อนอยู่ และ เมื่อไม่เข้าใจ เธอก็เสนอได้อย่างที่เธอเคยชิน อย่างที่เธอเคยเสนอมาแล้วกับการเป็นนกน้อยในกรงทองคราวนั้น ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งสยมภูต้องการ
เธอมองไม่เห็นและไม่ยอมรับว่าที่ทางของเธอสำหรับสยมภูคืออะไร และ อยู่ตรงไหน แม้เมื่อเขาปล่อยเธอไปเพื่อพยายามจะทำทุกสิ่งให้ถูกต้อง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เธอยึดติดกับเขา ส่วนเขาก็พยายามให้เธอหลุดจากวงจรชีวิต เมื่อครั้งที่หนึ่งไม่สำเร็จก็มีครั้งที่สอง เมื่อครั้งที่สองไม่สำเร็จก็มีครั้งที่สาม ความเห็นใจของสยมภูเปลี่ยนเป็นความรำคาญ ความหวังของวันทนีย์กลายเป็นความรักระคนแค้น แล้วก็ลงท้ายด้วยวลีเดิม ๆ "ถ้าฉันไม่ได้ใครก็ต้องไม่มีใครได้" เธอจึงทำทุกทาง เมื่อดีไม่ได้ก็ร้ายเสีย ... เพื่อให้เขาหันกลับมา แต่อนิจจาแม้แลกด้วยชีวิต ... คนที่ไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่ อยู่ดี
เฮร่า รวิวรรณ เธอขึ้นชื่อเรื่องเล่ห์กลและความฉลาด ผู้หญิงเข้มแข็งที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสยมภูปรุ๊ป ก้าวเข้ามาอย่างผู้ชายอกสามศอกคนหนึ่งและเคียงข้างสยมภูในฐานะ "มือขวา" ผู้หญิงที่ภาคภูมิอย่างรวิวรรณย่อมเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง และ สิ่งที่เหมาะที่ดีที่สุดนั้นจะเป็นอะไรไปได้นอกจากผู้ชายชื่อสยมภู เหมือนกับเฮร่าผู้อยู่ในฐานะเทพีเหนือเทพีทั้งปวง ... ผู้หญิงคนนี้มั่นใจในศักยภาพของตนเองว่าอยู่เหนือผู้หญิงคนใด ดังนั้นสยมภูควรจะเลือกเธอ เพราะเธอนั้นสามารถจะนำพาความยิ่งใหญ่ให้กับเขาได้มากกว่านี้ สร้างทรัพย์สมบัติให้เขามากกว่านี้ ทว่าอีโก้ของเธอจึงถูกบดขยี้ไม่เหลือชิ้นดี เมื่อคนที่สยมภูเลือก แอปเปิ้ลทองคำกลับลอยเลื่อนไปใส่มือเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีคุณสมบัติใด ๆ เทียบเธอได้แม้ซักกระผีก
แต่ผู้หญิงอย่างเธอน่ะหรือจะคุกเข่าอ้อนวอนขอ ? ไม่มีทางอยู่แล้ว เธอได้แต่แอบมองในเงามืด วางแผนต่าง ๆ นานา ที่กลับกลายเป็นว่ามันได้ผลชั่วครั้งชั่วคราว ความผิดหรือเล่า ตกไปอยู่กับสยมภูที่เธอเชื่อว่าอยู่ความลุ่มหลง ความคิดพื้นฐานอาจจะเหมือนกับวันทนีย์ถ้าฉันไม่ได้ใครก็ต้องไม่ได้ แต่เมื่อเฮร่าเป็นเทพเจ้าแห่งสตรี จึงไม่ควรมีผู้หญิงคนใดมีชัยเหนือนาง รวิวรรณจึงไม่ได้ดำเนินการแค่เพียงให้ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ตัวสยมภูแต่อย่างเดียว แต่คนที่ปฏิเสธเธอก็จะต้องได้รับผลแห่งการปฏิเสธนั้น ก็แล้วแต่ว่าจะชดใช้ด้วยชีวิต หรือ จะคลานเข้ามาอ้อนวอนขอให้เธอยกโทษให้
ไม่มีใครมองว่าสยมภูคิดเช่นไรและต้องการอะไร ทั้งสองคน "รู้" แค่ความต้องการของตัวเอง และ คิดจะตักตวงในสิ่งที่ตนต้องการแค่เพียงเท่านั้น ทั้งคู่ต่างคิดว่าตนนั้นดีที่สุดสำหรับสยมภู จึงพยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้สยมภูกลับมา มีเพียงแต่กวางเท่านั้นที่ไม่ได้มีความพยายามอย่างที่ว่า เธอไม่เข้าใจหลายการกระทำของสยมภู และ หลายครั้งที่การหวังดีทำให้ตัวเองเดือดร้อน แต่เธอไม่แคร์ สิ่งที่เธอแคร์คือไม่ว่าสยมภูจะอยู่กับใคร ที่ไหน ขอให้มีความสุข และ ถ้าเขาไม่มีใครเธอก็พร้อมให้เขาพักพิงไม่ว่าในฐานะเพื่อน หรือ คนรัก ก็แล้วแต่สยมภู
ว่ากันไปแล้วสิ่งที่สยมภูทำในช่วงแรก ๆ ไม่ต่างอะไรกับวันทนีย์ และ รวิวรรณ ความรักสำหรับเขาสดใหม่ เขาตักตวงและดื่มกินมันด้วยความกระหาย จนมองข้ามอะไรบางอย่างที่สำคัญ ความรักไม่ครอบครอง และ ไม่ยอมถูกครอบครอง ความรักไม่ใช่เรื่องยื่นหมูยื่นแมว ความรักควรต้องตอบด้วยความรักเท่านั้น สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มอย่างไรและจะจบอย่างไรอยากแล้วที่จะคาดเดา เพราะมันประกอบด้วยหลายการกระทำของหลายคนและหลายปัจจัย