Pai Kin In Malaysia
Kuala Lumpur (4 Days 3 Nights)
Pai Kin In Malaysia, Kuala Lumpur (4 Days 3 Nights) [กระทู้เตรียมตัว] >>>>>
http://ppantip.com/topic/34756519
[DAY:1 Nasi Lemak&Petronas Twin Towers] >>>>>
http://ppantip.com/topic/34756717
[DAY:2 Central Market,Masjid Putra,Jalan Alor] >>>>>
http://ppantip.com/topic/34756847
[DAY:4 LAST DAY] >>>>>
http://ppantip.com/topic/34773787
วันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม 2559
วันนี้ตื่นกันสายกว่าเมื่อวานนิดหน่อยเนื่องจากใช้พลังงานในการเดินหนักมาก อาบน้ำเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้วก็ลงมาทานข้าวเช้ากันที่
ชั้น 4 ของโรงแรมเช่นเคย หน้าตาอาหารหลายอย่างเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมือง ไม่กล้าเสี่ยง
แต่ก็มีของที่ยืนพื้นเหมือนกันทุกวัน คือไส้กรอกไก่ และ ผักสลัด ชา นม กาแฟ ขนมปัง อย่างน้อยก็ไม่อด
ฝากชีวิตไว้กับพวกนี้แล้วกัน เติมพลังกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันเลย Go Go Go ! ! !
แพลนวันนี้เราตั้งใจ ที่จะไปวัดถ้ำบาตู (Batu Caves) เริ่มต้นกันที่ สาย3 จากสถานี Chan Sow Lin นั้งไปลงที่ PWTC
ค่ารถคนละ 2.30 RM พอถึงแล้วจะมีทางเชื่อมเดินต่อไปยัง สาย2 สถานี Putra นั้งไปลง BATU CAVES
ซึ่งทางเดินทางเชื่อมนั้นค่อนข้างไกลนิดหน่อย ค่ารถจาก Putra ไปยัง BATU CAVES คนละ 2.30 RM
ว่าแล้วเราก็นั่งรถไฟไปกันเลย พอมาลงที่ PWTC แล้ว ขั้นแรก เกิดอาการงงนิดหน่อยว่าจะต้องเดินไปทางไหน
ก็ถามๆ คนข้างๆทางมาเรื่อยๆ สรุปว่าเดินตามทางเดินยาวๆไปเลย ยาวมากกกพอลงทางเชื่อมก็จะเห็นสถานนี
แต่ก็ต้องเดินเรียบถนนไปอีกนิดหน่อย ถึงจะไกลแต่ทางเดินเขาทำดีมากมีหลังคาตลอดทางไม่ร้อนเลย
พอมาถึงสถานนี Putra มองหาตู้ซื้อตั๋วไม่มีนะจ๊ะ ต้องไปซื้อที่เจ้าหน้าที่อย่างเดียวแล้วจะได้ตั๋วเป็นกระดาษมา
ในตั๋วก็จะบอกวันที่ เวลาซื้อ ราคา สถานนีที่เราขึ้นและลง พอได้ตั๋วแล้วก็เข้าไปรอรถไฟมา ตะหงิดแรก ! ทำไมคนเยอะ จัง
เป็นเด็ดสำคัญคือ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดดูคล้ายๆคนอินเดีย เราพยามมองหานักท่องเที่ยว แทบไม่เจอเลย
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดไปเรื่อยๆ รถไฟก็มาพอดี ตะหงิดสอง ! ! เราเกือบจะเข้ารถไฟไม่ได้ คนเยอะมาก
พอๆกับสยามเวลาเร่งด่วน แต่ ! ! คนอินเดียเกือบทั้งคันเลยจ้า ยังโชคดีที่ ข้างหลังเราเป็นพี่หลั่งสองคน มีต่างชาติ
ร่วมขบวนไปด้วยอย่างน้อยก็อุ่นใจ ว่าไม่ได้ขึ้นผิดหรือหลงทาง ยังมันยังไม่สุดเท่านั้น พอถึงสถานนี
ออกมาจากรถไฟเท่านั้นแหละ จากที่เราอยู่ในรถไฟ ตู้เดียวว่าแน่นแล้ว มวลมหาประชาชนคนอินเดีย
พรั่งพรูออกมาจากรถไฟนับไม่ถ้วนเพื่อตรงไปอัดแน่น รวมกันอยู่ตรงทางออก เพื่อตรวจตั๋วที่ซื้อมา
หลุดออกมาจากที่ตรวจตั๋ว ในใจเราคิดว่า โอเค คงรอดแล้ว เขาคงจะอยู่แถวนี้หรือไม่ก็พึ่งเข้าเมืองมา
แล้วกลับบ้านอะไรอย่างนั้น แต่ คิดผิดอย่างแรง เพราะทุกคนต่างมีจุดหมายปลายทางมาที่เดียวกันคือ
วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) ภาพที่เห็นก็เป็นเช่นนี้แล
โดยส่วนตัวไม่ได้อะไรกับคนอินเดียนะ แต่บางที ก็เยอะเกินจนแอบกลัวนิดหน่อยคือเหมือนไม่ได้เตรียมใจมาว่าจะเจอแบบนี้
เหมือนหลงทาง เหมือน หลุดมาอยู่อินเดีย แต่คน ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อย ยิ่งรู้สึกว่า มัน Amazing มาก
ตั้งแต่ด่านแรกเลย นี่นึกว่าอยู่สวนสนุก
สองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านค้า ทั้งขนมน้ำ และของซึ่งเกือบทั้งหมด ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในอินเดียจริงๆ
ระหว่างที่กำลังตกใจกับสถานการณ์ที่กำลังเจอกับมวลมหาประชาชนคนอินเดียและเก็บภาพร้านค้าอยู่นั้น
เด็กหนุ่มคนขายก็โผสอย่างหล่อมาให้ ตกใจเข้าไปอีก แต่มันทำให้เรายิ้มออก (นึกถึงเพจ ตามติดชีวิตอินเดีย555+)
นึกในใจคนเขาไม่ได้น่ากลัวจริงๆนะ ถึงว่าโชคดีมากที่มาแค่ครั้งแรกแล้วได้มาเจอภาพบรรยากาศงานแบบนี้
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่างานอะไร รู้แต่ว่าอลังกาลมาก
มีโอกาศก็ลองไปดูเถอะ จะมีแต่คนยิ้มให้คุณ น่ารักดี
ถึงจริงๆแล้ว ดูตรงบันไดสิ เวลาปกติเยอะแบบนี้ไหม ขอไม่ขึ้นนะ คนเยอะมาก
ยืนอยู่เฉยๆมองดูคนตรงนี้นานมาก มันเป็นบรรยากาศที่เราไม่สามารถที่จะเจอได้บ่อยๆ
ถือว่าคุ้มและโชคดีมาก
ถึงแม้จะร้อนมากแต่ดูไม่เบื่อจริงๆนะ เพราะส่วนใหญ่เขาจะใส่ ส่าหรี ดูเพลิน สวยงาม
ระหว่างนั้นก็จะเห็น ชายแบก อะไรสักอย่างขึ้นลงเขาอยู่ตลอด ด้วยความสงสัยพอกลับมา
จึงลองค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและพบว่า คือ เทศกาลของชาวฮินดู มีชื่อว่า Thaipusam
ไทปูซัม คือ เทศกาลที่รำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของพระมุรุกันหรือพระขันธกุมาร และเฉลิมฉลอง
ที่พระปารวตีให้มอบหอกหรือทวนให้กับพระมุรุกันเพื่อให้พระมุรุกันสามารถที่จะพิชิตอสูรสุรปัทมัน(Soorapadman)
จริงๆแล้ววันที่จะจัดงานคือในวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงของเดือนทมิฬ ปูซัม(Pusam)คือ ดาวที่อยู่ในจุดสูงสุด
ระหว่างเทศกาลนี้ประเพณีนี้แสดงถึงความเชื่อผู้เข้าร่วมพิธีจะเดินไปตามระยะทางมากกว่า 3 กม. และทำพิธีบูชา
และขอบพระคุณพระเป็นเจ้าและโดยที่ผู้เข้าร่วมพิธีหลักจะแบกหรือลากกาวาดีที่ถูกออกแบบและตกแต่งอย่างงดงาม
ผู้แบกกาวาดีจะร่ายรำระหว่างที่แบกกาวาดีในระหว่างพิธีกรรมสักการะและบูชาโดยเหล่าสาวกที่ทำพิธีวิงวอน
ขอความช่วยเหลือจากพระมุรุกันโดยผ่านกาวาดีซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่แท้จริงมาโดยตลอดเป็นปกติที่เหล่าสาวก
จะตกแต่งกาวาดีที่ประดับไปด้วยดอกไม้และขนนกยูง(พาหนะของพระมุรุกัน)อย่างงดงามโดยทั่วไปผู้ที่เสนอจะแบกกาวาดี
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ต้องการให้เรื่องร้ายๆหรือภัยพิบัติต่างๆผ่านพ้นไป บางคนก็แบกก่อนแต่งงานบางคนก็แบกหลังพิธีแต่งงาน
บางคนก็แบกในช่วงที่ภรรยาตั้งครรภ์หรือกำลังจะคลอดลูก แต่ในขณะที่บางคนทำเพื่อให้ตัวเองเข้าถึงกับความรักของพระเป็นเจ้า
ภายในจิตวิญญาณของเขาเอง สุดแท้แต่ละเหตุผลของแต่ละคน แต่จริงๆแล้วก็คือการแสดงถึงความรักและภักดีสูงสุดต่อพระเป็นเจ้านั่นเอง
ขอขอบพระคุณ ข้อมูลจาก คุณเทวาเหนือเกล้า
http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=3320.0
[CR] [CR][CR] Pai Kin In Malaysia, Kuala Lumpur [DAY:3 Batu Caves(Thaipusam),Merdeka Square,KL Sentral] รูปเยอะมาก ! !
Kuala Lumpur (4 Days 3 Nights)
Pai Kin In Malaysia, Kuala Lumpur (4 Days 3 Nights) [กระทู้เตรียมตัว] >>>>> http://ppantip.com/topic/34756519
[DAY:1 Nasi Lemak&Petronas Twin Towers] >>>>> http://ppantip.com/topic/34756717
[DAY:2 Central Market,Masjid Putra,Jalan Alor] >>>>> http://ppantip.com/topic/34756847
[DAY:4 LAST DAY] >>>>> http://ppantip.com/topic/34773787
วันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม 2559
วันนี้ตื่นกันสายกว่าเมื่อวานนิดหน่อยเนื่องจากใช้พลังงานในการเดินหนักมาก อาบน้ำเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้วก็ลงมาทานข้าวเช้ากันที่
ชั้น 4 ของโรงแรมเช่นเคย หน้าตาอาหารหลายอย่างเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมือง ไม่กล้าเสี่ยง
แต่ก็มีของที่ยืนพื้นเหมือนกันทุกวัน คือไส้กรอกไก่ และ ผักสลัด ชา นม กาแฟ ขนมปัง อย่างน้อยก็ไม่อด
ฝากชีวิตไว้กับพวกนี้แล้วกัน เติมพลังกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันเลย Go Go Go ! ! !
แพลนวันนี้เราตั้งใจ ที่จะไปวัดถ้ำบาตู (Batu Caves) เริ่มต้นกันที่ สาย3 จากสถานี Chan Sow Lin นั้งไปลงที่ PWTC
ค่ารถคนละ 2.30 RM พอถึงแล้วจะมีทางเชื่อมเดินต่อไปยัง สาย2 สถานี Putra นั้งไปลง BATU CAVES
ซึ่งทางเดินทางเชื่อมนั้นค่อนข้างไกลนิดหน่อย ค่ารถจาก Putra ไปยัง BATU CAVES คนละ 2.30 RM
ว่าแล้วเราก็นั่งรถไฟไปกันเลย พอมาลงที่ PWTC แล้ว ขั้นแรก เกิดอาการงงนิดหน่อยว่าจะต้องเดินไปทางไหน
ก็ถามๆ คนข้างๆทางมาเรื่อยๆ สรุปว่าเดินตามทางเดินยาวๆไปเลย ยาวมากกกพอลงทางเชื่อมก็จะเห็นสถานนี
แต่ก็ต้องเดินเรียบถนนไปอีกนิดหน่อย ถึงจะไกลแต่ทางเดินเขาทำดีมากมีหลังคาตลอดทางไม่ร้อนเลย
พอมาถึงสถานนี Putra มองหาตู้ซื้อตั๋วไม่มีนะจ๊ะ ต้องไปซื้อที่เจ้าหน้าที่อย่างเดียวแล้วจะได้ตั๋วเป็นกระดาษมา
ในตั๋วก็จะบอกวันที่ เวลาซื้อ ราคา สถานนีที่เราขึ้นและลง พอได้ตั๋วแล้วก็เข้าไปรอรถไฟมา ตะหงิดแรก ! ทำไมคนเยอะ จัง
เป็นเด็ดสำคัญคือ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดดูคล้ายๆคนอินเดีย เราพยามมองหานักท่องเที่ยว แทบไม่เจอเลย
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดไปเรื่อยๆ รถไฟก็มาพอดี ตะหงิดสอง ! ! เราเกือบจะเข้ารถไฟไม่ได้ คนเยอะมาก
พอๆกับสยามเวลาเร่งด่วน แต่ ! ! คนอินเดียเกือบทั้งคันเลยจ้า ยังโชคดีที่ ข้างหลังเราเป็นพี่หลั่งสองคน มีต่างชาติ
ร่วมขบวนไปด้วยอย่างน้อยก็อุ่นใจ ว่าไม่ได้ขึ้นผิดหรือหลงทาง ยังมันยังไม่สุดเท่านั้น พอถึงสถานนี
ออกมาจากรถไฟเท่านั้นแหละ จากที่เราอยู่ในรถไฟ ตู้เดียวว่าแน่นแล้ว มวลมหาประชาชนคนอินเดีย
พรั่งพรูออกมาจากรถไฟนับไม่ถ้วนเพื่อตรงไปอัดแน่น รวมกันอยู่ตรงทางออก เพื่อตรวจตั๋วที่ซื้อมา
หลุดออกมาจากที่ตรวจตั๋ว ในใจเราคิดว่า โอเค คงรอดแล้ว เขาคงจะอยู่แถวนี้หรือไม่ก็พึ่งเข้าเมืองมา
แล้วกลับบ้านอะไรอย่างนั้น แต่ คิดผิดอย่างแรง เพราะทุกคนต่างมีจุดหมายปลายทางมาที่เดียวกันคือ
วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) ภาพที่เห็นก็เป็นเช่นนี้แล
โดยส่วนตัวไม่ได้อะไรกับคนอินเดียนะ แต่บางที ก็เยอะเกินจนแอบกลัวนิดหน่อยคือเหมือนไม่ได้เตรียมใจมาว่าจะเจอแบบนี้
เหมือนหลงทาง เหมือน หลุดมาอยู่อินเดีย แต่คน ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อย ยิ่งรู้สึกว่า มัน Amazing มาก
ตั้งแต่ด่านแรกเลย นี่นึกว่าอยู่สวนสนุก
สองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านค้า ทั้งขนมน้ำ และของซึ่งเกือบทั้งหมด ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในอินเดียจริงๆ
ระหว่างที่กำลังตกใจกับสถานการณ์ที่กำลังเจอกับมวลมหาประชาชนคนอินเดียและเก็บภาพร้านค้าอยู่นั้น
เด็กหนุ่มคนขายก็โผสอย่างหล่อมาให้ ตกใจเข้าไปอีก แต่มันทำให้เรายิ้มออก (นึกถึงเพจ ตามติดชีวิตอินเดีย555+)
นึกในใจคนเขาไม่ได้น่ากลัวจริงๆนะ ถึงว่าโชคดีมากที่มาแค่ครั้งแรกแล้วได้มาเจอภาพบรรยากาศงานแบบนี้
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่างานอะไร รู้แต่ว่าอลังกาลมาก
มีโอกาศก็ลองไปดูเถอะ จะมีแต่คนยิ้มให้คุณ น่ารักดี
ถึงจริงๆแล้ว ดูตรงบันไดสิ เวลาปกติเยอะแบบนี้ไหม ขอไม่ขึ้นนะ คนเยอะมาก
ยืนอยู่เฉยๆมองดูคนตรงนี้นานมาก มันเป็นบรรยากาศที่เราไม่สามารถที่จะเจอได้บ่อยๆ
ถือว่าคุ้มและโชคดีมาก
ถึงแม้จะร้อนมากแต่ดูไม่เบื่อจริงๆนะ เพราะส่วนใหญ่เขาจะใส่ ส่าหรี ดูเพลิน สวยงาม
ระหว่างนั้นก็จะเห็น ชายแบก อะไรสักอย่างขึ้นลงเขาอยู่ตลอด ด้วยความสงสัยพอกลับมา
จึงลองค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและพบว่า คือ เทศกาลของชาวฮินดู มีชื่อว่า Thaipusam
ไทปูซัม คือ เทศกาลที่รำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของพระมุรุกันหรือพระขันธกุมาร และเฉลิมฉลอง
ที่พระปารวตีให้มอบหอกหรือทวนให้กับพระมุรุกันเพื่อให้พระมุรุกันสามารถที่จะพิชิตอสูรสุรปัทมัน(Soorapadman)
จริงๆแล้ววันที่จะจัดงานคือในวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงของเดือนทมิฬ ปูซัม(Pusam)คือ ดาวที่อยู่ในจุดสูงสุด
ระหว่างเทศกาลนี้ประเพณีนี้แสดงถึงความเชื่อผู้เข้าร่วมพิธีจะเดินไปตามระยะทางมากกว่า 3 กม. และทำพิธีบูชา
และขอบพระคุณพระเป็นเจ้าและโดยที่ผู้เข้าร่วมพิธีหลักจะแบกหรือลากกาวาดีที่ถูกออกแบบและตกแต่งอย่างงดงาม
ผู้แบกกาวาดีจะร่ายรำระหว่างที่แบกกาวาดีในระหว่างพิธีกรรมสักการะและบูชาโดยเหล่าสาวกที่ทำพิธีวิงวอน
ขอความช่วยเหลือจากพระมุรุกันโดยผ่านกาวาดีซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่แท้จริงมาโดยตลอดเป็นปกติที่เหล่าสาวก
จะตกแต่งกาวาดีที่ประดับไปด้วยดอกไม้และขนนกยูง(พาหนะของพระมุรุกัน)อย่างงดงามโดยทั่วไปผู้ที่เสนอจะแบกกาวาดี
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ต้องการให้เรื่องร้ายๆหรือภัยพิบัติต่างๆผ่านพ้นไป บางคนก็แบกก่อนแต่งงานบางคนก็แบกหลังพิธีแต่งงาน
บางคนก็แบกในช่วงที่ภรรยาตั้งครรภ์หรือกำลังจะคลอดลูก แต่ในขณะที่บางคนทำเพื่อให้ตัวเองเข้าถึงกับความรักของพระเป็นเจ้า
ภายในจิตวิญญาณของเขาเอง สุดแท้แต่ละเหตุผลของแต่ละคน แต่จริงๆแล้วก็คือการแสดงถึงความรักและภักดีสูงสุดต่อพระเป็นเจ้านั่นเอง
ขอขอบพระคุณ ข้อมูลจาก คุณเทวาเหนือเกล้า
http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=3320.0