จขกท.มีเรื่องมาขอความคิดเห็นค่ะ เนื่องจากว่า จขกท.ไม่สามารถปรึกษาใครได้แบบจริงๆจังๆเลยเพราะไม่มีใครที่เป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ จขกท.เป็นผู้ใหญ่สุดแล้วภายในบ้าน ปรกติจะเป็นคนแก้ปัญหาเองคนเดียว คิดคนเดียว ไปไหนทำอะไร ทำงานหรือเรียนหรืออะไรจะทำเองตั้งแต่อายุ 13 ค่ะ และตนยังเป็นที่ปรกษาแก่น้องๆตลอดในหลายๆเรื่อง แต่ครั้งนี้รู้สึกแย่มากๆค่ะ ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด ความรู้สึกถูกผิด น้อยใจ เสียใจ
เริ่มเรื่องนะคะจะไม่ปิดบังอีกแล้วเพราะปรกติมันเหมือนน้ำท่วมปากตลอดที่จะพูดเรื่องนี้เพราะกลัวคนจะมองแม่หรือคนในครอบครัวไม่ดีค่ะ
แม่ จขกท.มีสามีใหม่ค่ะสามีแม่คนนี้อายุห่างจากเรา 6 ปีและไม่มีความเป็นผู้นำเลยเป็นคนหัวอ่อนถูกชักจูงและถูกคนหลอกได้ง่าย
แถมยังเป็นคนที่บอกสอนไม่ได้ด้วย จะทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีจนมันล้มเหลวพังไม่เป็นท่าถึงจะคิดได้แต่ไม่สำนึกเลย
เขาเป็นช่างก่อสร้างค่ะและเราจะต่อเติมบ้านจึงให้เค้ามาทำให้ค่าจ้างคือเครื่องมือช่างทั้งหมดที่ซื้อมา เพราะเขาไม่ทำงานเลย
เราซื้อรถให้เขาเพื่อให้เอาไปขับหารายได้แต่สุดท้ายก็หยุดทำไป มาขายของกับแม่ก็อยู่ไปวันๆเทียวรับส่งแม่แต่ตนเองไม่ทำงาน
เขาบอกเขาทำบ้านเราได้เราจึงเชื่อใจไม่จ้างช่างรับเหมาแต่ผลสุดท้ายเขาทำไม่ได้เราก็ต้องเหมาบางส่วนอยู่ดี และเขาก็พยายามทำไป
แต่งานล้มเหลวเรื่อยๆและเราบอกอะไรไม่ฟังเลย เขาทำพังได้คงไม่คิดแต่คนซื้อของคือเราคราวนี้เราลงมาทำบ้านหลังนี้เราไม่ได้ทำงานเลย
เราเริ่มเคลียดเพราะมันยืดเยื้อไม่มีเงินเข้าเราและงานล้มเหลวแต่ลงเงินหมดไปแล้วจึงฝืนทำ คนทำบ้านมีน้องชาย 1 คน เรา และสามีแม่คนนี้
มาครั้งสุดท้ายที่เส้นบางๆที่เราอดทนเริ่มหมดเพราะเราบุผนังห้องด้านบนเสร็จแล้วด้วยตัวคนเดียวแบกของขึ้นลง ตอกสว่านทำเองหมดแต่เขายังทำงานเขาไม่เสร็จเลยนั่นคือแค่ปูกระเบื้อง แถมมีน้องชายเราอีกคนช่วย
เราเลยหาข้อมูลในเน็ตและบอกเขาว่าน้าทำแบบนี้งานจะเสียนะไม่มีทางเสร็จแน่ให้หยุดเถอะแต่เขาไม่หยุด
สรุปงานเสียกระเบื้อง ปูน ทรายต้องเททิ้ง เราจึงพูดขึ้นว่าทำไมต้องฝืนต้องทำแบบนี้ ที่เราปรี๊ดสุดคือเขาหัวเราะใส่เราเราเลยบอกว่ามันไม่ขำนะของซื้อมาแพงต้องมาเททิ้งซื้อใหม่คนหาเงินมันเหนื่อย แต่แม่ปกป้องเขาทุกๆทางสุดท้ายเราเห็นหนทางไม่จบแน่จึงตัดสินใจทำงานด้วย
กลางคืน กลางวันลุกมาทำบ้านต่อ แต่สิ่งที่ได้ยินจากปากแม่คือแม่จะไม่ไปซื้อของตอนเช้าถ้าเขาจะไปรับเราตอนกลางคืนที่เราเลิกงานตอนเที่ยงคืน
เพราะแม่กลัวเขาเหนื่อย แต่แม่ไม่เคยถามเราว่าเราเหนื่อยไหมสักคำเลย ทุกครั้งที่เราเตือนหรือบอกสามีแม่ แม่จะขึ้นเสียงและปกป้องทุกครั้ง
ทั้งๆที่ในใจเราคุยกับน้องให้ไปรับเราจะไม่รบกวนแต่แม่ชิงพูดออกมาก่อน และสุดท้ายมันเหมือนสิ่งที่ผ่านๆมาในอดีตจะทำให้เราเสียใจลงทุกๆวัน
ทุกๆครั้งที่แม่มีสามีแม่จะรักสามีมาก มากจนลืมว่าลูกและตัวเองจะเป็นอย่างไร พ่อเลี้ยงคนเก่าเคยตีเราเกือบตายเรานอนโรงพยาบาลนานถึงสองเดือนแต่แม่ไปเยี่ยมแค่ครั้งเดียว นอนนานไม่ใช่อะไรนะคะแต่เพราะไม่มีคนมารับเรากลับเราเลยอาศัยนอนที่นั่นจนตำรวจเจ้าของเรื่องนำเรามาส่งแม่
แต่สุดท้ายแม่ก็ไปประกันพ่อเลี้ยงออกมาและเขาก็ทุบตีเราเหมือนเดิม คนก่อนหน้าก็ตีเราเกือบตายมาเหมือนกัน
แต่คนนี้ทำอะไรเราไม่ได้เพราะเราโตแล้วนั่นเอง และเรายังส่งเงินเลี้ยงดูที่บ้าน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
พูดง่ายๆส่งเงินมาเลี้ยงผัวแม่คนนี้ด้วยนั่นเอง เราน้อยใจมากๆทั้งๆที่บ้านที่ทำเราไม่ได้อยู่เลย และสุดท้ายเราจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพ
เราเลิกทำปล่อยไปเพราะเราเหนื่อย ทำงานทั้งกลางวันกลางคืนแต่เปล่ามีคนเห็นใจเลย
แต่วันนี้เราออกจากห้องมาเจอแม่แบกปูนแบกของตากแดดเราเลยปรี๊ดว่าทำไมให้แม่มาทำแบบนี้ แม่ 50 กว่าแล้วนะ
ทั้งๆที่เราบอกแค่ก่อปูนกันตรงนี้แล้วก็ทำกัน้องขออย่าให้แม่เราลำบากแต่น้องขอหยุดเพราะไปหาแฟนเราจึงไม่รู้ว่าแม่ออกมาทำแบบนี้
เพราะเรามีเงื่อนไขว่าต้องก่อหลังบ้านติดประตูเสร็จเราถึงจะให้เครื่องมือไม่เสร็จเราไม่ให้ ปูนที่ให้ก่อประมาน 4 ตรม.ที่เหลือจะหาเงินมาจ้างช่างทำเอง
สุดท้ายเขาก็ด่ากับเราและเถียงกับเราและเป็นฝ่ายขึ้นกูกับเรา และแม่ก็ตะโกนปกป้องเขาทุกทางจนสิ่งที่เราเก็บในใจเพราะกลัวแม่เสียใจ
และคิดว่าเราจะกลับแล้วจะเอาความคิดนี้กลับไประเบิดออกมา เราบอกแม่ว่าเวลาเขาอยู่กับเราสองต่อสองเขาไม่เคยแสดงท่าทีเหมือนพ่อเลี้ยง
เรียกเราลูกหรืออะไรแบบนั้นแบบต่อหน้าแม่ บางครั้งเราแต่งตัวสวยๆเขาก็พูดกับเราเหมือนคนรักด้วยซ้ำ แถมที่สำคัญคือเขาเป็นเอดส์ด้วย
เขาโกหกแม่และมาอยู่กับแม่เรา แรกๆที่เรารู้เรื่องทะเลาะกับแม่จนบ้านแทบแตกแต่สุดท้ายเราก็ยอมเพราะแม่รักเขาเหลือเกิน
เราทำใจยอมรับได้และถึงขนาดให้เขาไปงานแต่งเรากับสามีที่กรุงเทพเลยทีเดียว พาไปซื้อสูทอย่างดีหลายพันเพราะเรารักแม่
แต่มาครั้งนี้มันหมดหนทางแล้ว เราบอกอะไรแม่ไม่เชื่อเลยสักอย่างขนาดเราตะโกนด่ากับเขาขนาดนั้น เขาขึ้นกูก่อนที่เราจะขึ้นกลับ
แต่พอเขาบอกเปล่าแม่ก็เชื่อทันที เขาชี้หน้าด่าแสดงท่าทีจะเข้ามาทำร้ายเราพอเราบอกแม่และเขาปฏิเศษแม่เชื่อเขาทันที
เราจุกในลำคอเหมือนหายใจไม่ออกน้องๆต่างก็เลือกเข้าข้างและเชื่อใจเรา
สามียิ่งแล้วใหญ่พาลเกลียดแม่เราไปแล้วในตอนนี้เขาจะขับรถมารับกลับกรุงเทพ และคงยากที่เขาจะต่อกับแม่เราติดแล้ว
ความจริงแล้วยังมีอดีตอีกมากที่แม่ทำกับเราเพราะสามีแม่ แต่เราเล่าแค่นี้กับสามีเราบอกทุกอย่าง
แต่ตอนนี้เราห่วงเค้า เค้ามีโรคประจำตัวตอนนี้ที่นี่หนาวมากเค้าจะห่มผ้ายังไง กินยังไง ญาติฝั่งนั้นก็ไม่ค่อยถูกกับแม่
สร้อยทองที่ซื้อให้ แหวน กำไล ไม่นานแม่ต้องขายกินแน่ ถ้าของหมดเค้าจะเป็นยังไงต่อไป
แต่จะให้ทำใจเอาคนๆนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านอีกเราก็ทำใจยากเหลือเกินก่อนหน้าเราไม่เคยมาอยู่กับแม่นานขนาดนี้เลย
นี่แค่สองเดือนกว่ายังเป็นแบบนี้
วอนเถอะค่ะผู้ใหญ่ที่อายุเยอะแ้ลว หรือมีคนที่ได้ฟังในฐานะคนนอกคิดอย่างไรที่เราเป็นคนแบบนี้ที่ปล่อยแม่ไป
เราควรจัดการอย่างไรต่อไป เรารู้สึกทุกข์ใจในตอนนี้จนบางครั้งเรา
พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
เป็นลูกอกตัญญู ทะเลาะกับแม่จนแม่หนีออกจากบ้าน
เริ่มเรื่องนะคะจะไม่ปิดบังอีกแล้วเพราะปรกติมันเหมือนน้ำท่วมปากตลอดที่จะพูดเรื่องนี้เพราะกลัวคนจะมองแม่หรือคนในครอบครัวไม่ดีค่ะ
แม่ จขกท.มีสามีใหม่ค่ะสามีแม่คนนี้อายุห่างจากเรา 6 ปีและไม่มีความเป็นผู้นำเลยเป็นคนหัวอ่อนถูกชักจูงและถูกคนหลอกได้ง่าย
แถมยังเป็นคนที่บอกสอนไม่ได้ด้วย จะทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีจนมันล้มเหลวพังไม่เป็นท่าถึงจะคิดได้แต่ไม่สำนึกเลย
เขาเป็นช่างก่อสร้างค่ะและเราจะต่อเติมบ้านจึงให้เค้ามาทำให้ค่าจ้างคือเครื่องมือช่างทั้งหมดที่ซื้อมา เพราะเขาไม่ทำงานเลย
เราซื้อรถให้เขาเพื่อให้เอาไปขับหารายได้แต่สุดท้ายก็หยุดทำไป มาขายของกับแม่ก็อยู่ไปวันๆเทียวรับส่งแม่แต่ตนเองไม่ทำงาน
เขาบอกเขาทำบ้านเราได้เราจึงเชื่อใจไม่จ้างช่างรับเหมาแต่ผลสุดท้ายเขาทำไม่ได้เราก็ต้องเหมาบางส่วนอยู่ดี และเขาก็พยายามทำไป
แต่งานล้มเหลวเรื่อยๆและเราบอกอะไรไม่ฟังเลย เขาทำพังได้คงไม่คิดแต่คนซื้อของคือเราคราวนี้เราลงมาทำบ้านหลังนี้เราไม่ได้ทำงานเลย
เราเริ่มเคลียดเพราะมันยืดเยื้อไม่มีเงินเข้าเราและงานล้มเหลวแต่ลงเงินหมดไปแล้วจึงฝืนทำ คนทำบ้านมีน้องชาย 1 คน เรา และสามีแม่คนนี้
มาครั้งสุดท้ายที่เส้นบางๆที่เราอดทนเริ่มหมดเพราะเราบุผนังห้องด้านบนเสร็จแล้วด้วยตัวคนเดียวแบกของขึ้นลง ตอกสว่านทำเองหมดแต่เขายังทำงานเขาไม่เสร็จเลยนั่นคือแค่ปูกระเบื้อง แถมมีน้องชายเราอีกคนช่วย
เราเลยหาข้อมูลในเน็ตและบอกเขาว่าน้าทำแบบนี้งานจะเสียนะไม่มีทางเสร็จแน่ให้หยุดเถอะแต่เขาไม่หยุด
สรุปงานเสียกระเบื้อง ปูน ทรายต้องเททิ้ง เราจึงพูดขึ้นว่าทำไมต้องฝืนต้องทำแบบนี้ ที่เราปรี๊ดสุดคือเขาหัวเราะใส่เราเราเลยบอกว่ามันไม่ขำนะของซื้อมาแพงต้องมาเททิ้งซื้อใหม่คนหาเงินมันเหนื่อย แต่แม่ปกป้องเขาทุกๆทางสุดท้ายเราเห็นหนทางไม่จบแน่จึงตัดสินใจทำงานด้วย
กลางคืน กลางวันลุกมาทำบ้านต่อ แต่สิ่งที่ได้ยินจากปากแม่คือแม่จะไม่ไปซื้อของตอนเช้าถ้าเขาจะไปรับเราตอนกลางคืนที่เราเลิกงานตอนเที่ยงคืน
เพราะแม่กลัวเขาเหนื่อย แต่แม่ไม่เคยถามเราว่าเราเหนื่อยไหมสักคำเลย ทุกครั้งที่เราเตือนหรือบอกสามีแม่ แม่จะขึ้นเสียงและปกป้องทุกครั้ง
ทั้งๆที่ในใจเราคุยกับน้องให้ไปรับเราจะไม่รบกวนแต่แม่ชิงพูดออกมาก่อน และสุดท้ายมันเหมือนสิ่งที่ผ่านๆมาในอดีตจะทำให้เราเสียใจลงทุกๆวัน
ทุกๆครั้งที่แม่มีสามีแม่จะรักสามีมาก มากจนลืมว่าลูกและตัวเองจะเป็นอย่างไร พ่อเลี้ยงคนเก่าเคยตีเราเกือบตายเรานอนโรงพยาบาลนานถึงสองเดือนแต่แม่ไปเยี่ยมแค่ครั้งเดียว นอนนานไม่ใช่อะไรนะคะแต่เพราะไม่มีคนมารับเรากลับเราเลยอาศัยนอนที่นั่นจนตำรวจเจ้าของเรื่องนำเรามาส่งแม่
แต่สุดท้ายแม่ก็ไปประกันพ่อเลี้ยงออกมาและเขาก็ทุบตีเราเหมือนเดิม คนก่อนหน้าก็ตีเราเกือบตายมาเหมือนกัน
แต่คนนี้ทำอะไรเราไม่ได้เพราะเราโตแล้วนั่นเอง และเรายังส่งเงินเลี้ยงดูที่บ้าน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
พูดง่ายๆส่งเงินมาเลี้ยงผัวแม่คนนี้ด้วยนั่นเอง เราน้อยใจมากๆทั้งๆที่บ้านที่ทำเราไม่ได้อยู่เลย และสุดท้ายเราจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพ
เราเลิกทำปล่อยไปเพราะเราเหนื่อย ทำงานทั้งกลางวันกลางคืนแต่เปล่ามีคนเห็นใจเลย
แต่วันนี้เราออกจากห้องมาเจอแม่แบกปูนแบกของตากแดดเราเลยปรี๊ดว่าทำไมให้แม่มาทำแบบนี้ แม่ 50 กว่าแล้วนะ
ทั้งๆที่เราบอกแค่ก่อปูนกันตรงนี้แล้วก็ทำกัน้องขออย่าให้แม่เราลำบากแต่น้องขอหยุดเพราะไปหาแฟนเราจึงไม่รู้ว่าแม่ออกมาทำแบบนี้
เพราะเรามีเงื่อนไขว่าต้องก่อหลังบ้านติดประตูเสร็จเราถึงจะให้เครื่องมือไม่เสร็จเราไม่ให้ ปูนที่ให้ก่อประมาน 4 ตรม.ที่เหลือจะหาเงินมาจ้างช่างทำเอง
สุดท้ายเขาก็ด่ากับเราและเถียงกับเราและเป็นฝ่ายขึ้นกูกับเรา และแม่ก็ตะโกนปกป้องเขาทุกทางจนสิ่งที่เราเก็บในใจเพราะกลัวแม่เสียใจ
และคิดว่าเราจะกลับแล้วจะเอาความคิดนี้กลับไประเบิดออกมา เราบอกแม่ว่าเวลาเขาอยู่กับเราสองต่อสองเขาไม่เคยแสดงท่าทีเหมือนพ่อเลี้ยง
เรียกเราลูกหรืออะไรแบบนั้นแบบต่อหน้าแม่ บางครั้งเราแต่งตัวสวยๆเขาก็พูดกับเราเหมือนคนรักด้วยซ้ำ แถมที่สำคัญคือเขาเป็นเอดส์ด้วย
เขาโกหกแม่และมาอยู่กับแม่เรา แรกๆที่เรารู้เรื่องทะเลาะกับแม่จนบ้านแทบแตกแต่สุดท้ายเราก็ยอมเพราะแม่รักเขาเหลือเกิน
เราทำใจยอมรับได้และถึงขนาดให้เขาไปงานแต่งเรากับสามีที่กรุงเทพเลยทีเดียว พาไปซื้อสูทอย่างดีหลายพันเพราะเรารักแม่
แต่มาครั้งนี้มันหมดหนทางแล้ว เราบอกอะไรแม่ไม่เชื่อเลยสักอย่างขนาดเราตะโกนด่ากับเขาขนาดนั้น เขาขึ้นกูก่อนที่เราจะขึ้นกลับ
แต่พอเขาบอกเปล่าแม่ก็เชื่อทันที เขาชี้หน้าด่าแสดงท่าทีจะเข้ามาทำร้ายเราพอเราบอกแม่และเขาปฏิเศษแม่เชื่อเขาทันที
เราจุกในลำคอเหมือนหายใจไม่ออกน้องๆต่างก็เลือกเข้าข้างและเชื่อใจเรา
สามียิ่งแล้วใหญ่พาลเกลียดแม่เราไปแล้วในตอนนี้เขาจะขับรถมารับกลับกรุงเทพ และคงยากที่เขาจะต่อกับแม่เราติดแล้ว
ความจริงแล้วยังมีอดีตอีกมากที่แม่ทำกับเราเพราะสามีแม่ แต่เราเล่าแค่นี้กับสามีเราบอกทุกอย่าง
แต่ตอนนี้เราห่วงเค้า เค้ามีโรคประจำตัวตอนนี้ที่นี่หนาวมากเค้าจะห่มผ้ายังไง กินยังไง ญาติฝั่งนั้นก็ไม่ค่อยถูกกับแม่
สร้อยทองที่ซื้อให้ แหวน กำไล ไม่นานแม่ต้องขายกินแน่ ถ้าของหมดเค้าจะเป็นยังไงต่อไป
แต่จะให้ทำใจเอาคนๆนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านอีกเราก็ทำใจยากเหลือเกินก่อนหน้าเราไม่เคยมาอยู่กับแม่นานขนาดนี้เลย
นี่แค่สองเดือนกว่ายังเป็นแบบนี้
วอนเถอะค่ะผู้ใหญ่ที่อายุเยอะแ้ลว หรือมีคนที่ได้ฟังในฐานะคนนอกคิดอย่างไรที่เราเป็นคนแบบนี้ที่ปล่อยแม่ไป
เราควรจัดการอย่างไรต่อไป เรารู้สึกทุกข์ใจในตอนนี้จนบางครั้งเรา
พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ