ว่าง! เหงา! ไม่รู้จะทำอะไร
กระทู้นี้จึงขอนำภาพประสบการณ์สัมผัสหนาว "อุทยาน" จังหวัดน่าน มาเล่าและแบ่งปัน
อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคน..ที่อยากจะทำ..แต่ยังมีความกังวล
การได้ออกไปเปิดหูตาแม้นว่าจะเป็นสถานที่ซ้ำๆเดิมๆ บอกได้เลยว่า "ไม่เคยเบื่อ"
มีความสุขสนุกกับเส้นทางทุกครั้ง
ความเบื่อจะเกิดขึ้น เมื่อ "ไม่มีโอกาสได้ออกไป" เท่านั้น
********************
การเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์พร้อมคู่หูคนรู้ใจท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในแต่ละครั้งจะพยายามไม่ให้ซ้ำเส้นทางเดิม เพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศสองข้างทางที่มีความแตกต่าง ได้พบได้เห็นสิ่งต่างๆที่หลากหลาย
ทุกฤดูหนาว ขอบอกตามตรงชอบออกทริปเที่ยวเหนือขึ้นดอยสูงเพราะมีอากาศหนาวถึงหนาวเหน็บ (ฤดูอื่นไม่เคยไป) และ “น่าน” ก้อจะเป็นจังหวัดหนึ่งที่ปักหมุดไว้ทุกครั้ง เพราะถนนหนทางขี่ขับสบาย ขุนเขาน้อยใหญ่มีให้เห็นมากมายและสวยดี ที่สำคัญ "น่าน" เงียบสงบไม่พลุกพล่าน
"อรรถรสชีวิตในการเดินทาง"
ต้นทางไม่ต้องกล่าวถึง ขอเริ่มจากปั้ม ปตท. ทล. 11 ตรงแยกเข้าเมืองอุตรดิตถ์ ที่แวะเข้าพักรถเติมพลังคนพลังรถก้อแล้วกัน
หลังจากเรียบร้อยแล้ว จึงออกเดินทาง
แล่นมาเรื่อยๆเส้นทางเริ่มไต่ระดับตามภูมิประเทศที่สวยงาม แล้วมาถึงจุดพักรถ ชมวิว "เขาพลึง" ด้านขวา
หลังจากนั้นก้อเดินทางต่อ
เส้นทางยังคงไต่ระดับขึ้นเนิบๆ มาจนถึงแยกอำเภอเด่นชัย แล้วต่อเส้น 101 ผ่านแพร่แล้วย่างเข้าเขตเป้าหมาย "น่าน"
**เท่ห์ไม่เท่ห์ก็ช่างมัน...เอาหน่อย **
ก่อนเข้าตัวเมืองน่านแวะไหว้พระขอพร ขอให้เที่ยวสนุก มีความสุข และปลอดภัย
**วัดพระธาตุเขาน้อย**
ไหว้พระเสร็จเดินชมวิวนิดหน่อยแล้วออกเดินทาง โดยผ่านเมืองน่านแล้วต่อด้วยเส้น 1080 ถึงตลาด อ.ท่าวังผา แล่นตรงไปจะเจอแยกซ้ายเส้น 1148 เลี้ยวซ้ายแล่นไปข้างหน้าจะพบเห็นป้าย “อุทยานแห่งชาตินันทบุรี” เลี้ยวตามป้ายไปจะผ่านชุมชน พอผ่านพ้นเส้นทางจะค่อยๆไต่ระดับ สองข้างทางเริ่มเป็นป่า นานๆจะพบเห็นบ้านบ้างหลังสองหลัง และไม่เห็นอีกเลย (คันเดียวโดดๆรู้สึกหลอนนิดๆ) เอาแล้วงัย! อุตส่าห์ดั้นต้นมา ถนนดำอยู่ดีๆ ทางเข้ากลับกลายเป็นถนนแดงถนนฝุ่นหลุมบ่อ ชีวิตสองล้อต้องคิดหนัก
**ทำไมถึงทำกับฉันได้**
ครั้นจะถอยกลับก็ไม่ได้ เพราะมันจะมืดมิดกลางป่ากลางขุนเขาเสียก่อน ทางเลือกทางเดียวคือ "เดินหน้าต่อ" ความสูงยังคงไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ หนำซ้ำถนนฝุ่นถนนแดงยังไม่พอ บางช่วงเป็นป่าดิบชื้นถนนลื่นดินหนังหมู ต้องลุ้นระทึกหนักใจ พอเห็นป้าย OMG! ใจเบาขึ้น แต่น้ำหนักบรรทุกยังคงเดิม
** ถึงแล้ว..ขอเก็บเป็นที่ระลึก **
ถึงเป้าหมายก้อมองไปรอบๆไม่เห็นวี่แววนักท่องเที่ยวสักเต็นท์สองเต็นท์เลย คงมีแค่เราสองกับมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน รู้สึกวังเวง แต่บรรยากาศโดยทั่วไปก้อลบความรู้สึกนั้นออกไปได้ แล้วจึงตรงไปที่ทำการเพื่อรายงานการมาเยือน เจ้าหน้าที่มีอาการตกใจเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยปากถาม "มาได้ยังงัยเนี๊ยะ" เส้นทางมันเหมาะกับรถกระบะเท่านั้น พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าเมื่อหลายวันก่อนมีกลุ่มรถใหญ่ 10 กว่าคันที่จะขึ้นมา เกิดลื่นไถลล้มกลิ้งฝุ่นตลบระหว่างทาง ผมกะลูกน้องต้องลงไปช่วย ไม่เป็นไรเมื่อมาถึงแล้ว "นันทบุรียินดีต้อนรับ" ตามสบายนะสามารถกางเต็นท์ได้ทุกที่ที่ชอบ กลับเมื่อไหร่ให้บอกนะ ผมจะให้ลูกน้องลงไปส่ง ผมนี้อึ้ง.ทึ้ง.ไปชั่วขณะในความมีน้ำใจและห่วงใย "ขอขอบคุณ"
**ปักเต็นท์เรียบร้อย**
ก่อนตะวันลับฟ้า ก้อยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย คงมีเราแค่สองคน จึงเริ่มหุงข้าวต้มแกง (มาม่า) กับกาแฟยีนพื้นนั่งดื่มกินกันอย่างเงียบๆสุดเหงา
สำหรับบรรยากาศนะรึ ยอดเยี่ยมกระเทียมดองเลยหละ ยามค่ำคืนดวงดาวเต็มท้องฟ้า อากาศหนาวเหน็บ แล้วหลับสบายด้วยความอ่อนล้า
เช้าวันถัดมา..ก่อนกลับ
**มาดเท่ๆ...แต่แฝงด้วย...ความกังวล**
อากาศ บรรยากาศ ถูกใจเราแน่นอน เจ้าหน้าที่ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า "ดอยวาว" สวยกว่านี้หลายเท่า แต่ต้องเดินทางขึ้นทางชันไปอีกสักกครึ่งกิโลหรือหนึ่งกิโลประมาณนั้น "ครั้งหนึ่ง" เราได้แค่นี้ก้อดีแล้วหละเพราะยังต้องไปอีกหลายที่ แล้วจึงกล่าวลาสวัสดี และขอขอบคุณหัวหน้า พี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ช่วยบรรทุกสัมภาระคู่หูคนรู้ใจลงมาส่งจนถึงปากทางเข้า สำหรับเรา 1คน 1คันไร้การบรรทุกหนักก้อยังคงค่อยๆหยอดประคับประคองเจ้าสองล้อลงมาได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน หลังลงจาก "อุทยานแห่งชาตินันทบุรี" แล้ว ยังคงใช้เส้นทางเดิมมาบรรจบเส้น 1148 เลี้ยวขวาออกมาเชื่อมเส้นเดิม 1080 ซ้ายไป อ.ปัว "อุทยานแห่งชาติภูคา" เพื่อไปดูดอกชมพูภูคาเบ่งบานช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่นี่มันเดือนมกราจึงไม่ไป คงเลี้ยวขวาเข้าเมือง "น่าน" หาที่พักนอนสักคืน จะได้ชมเมือง ชมวัด ชมวิถีคนเมือง "น่าน"
หนึ่งคืนผ่านไป มอไซค์เดินทางต่อสู่ "อุทยานศรีน่าน" เส้นทางเดิม 101 ถึง อ.เวียงสา เบี่ยงซ้ายเข้าเติมน้ำมันตุนเสบียงแล้วเลี้ยวขวาสู่เส้นทาง 1026 สนุกกับเส้นทางกว้าง คดโค้งขึ้นลงซ้ายเขาขวาเขาเพลินดี จนย่างเข้าใกล้เขตชุมชนนาน้อย สังเกตป้ายด้านซ้ายบอกทางไป "อุทยานศรีน่าน" เส้น 1083 จึงเลี้ยวเข้าไป
***ดอยเสมอดาว***
จัดข้าวเรียงของเสร็จ เริ่มออกตักตวง
หนึ่งคืนผ่านไป วันต่อมาคงเหมือนเช่นเคย เก็บสัมภาระผูกมัดเรียบร้อยออกเดินทางมุ่งสู่ "อุทยานขุนสถาน" เส้นทางเดิม พอถึงปากทางเข้าอุทยานศรีน่าน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าชุมชนนาน้อย ให้คอยสังเกตด้านขวาจะมีเส้นทางซอยไม่ใหญมาก แต่รถสามารถวิ่งผ่านเข้าออกได้ ให้เลี้ยวเข้าไปเลย เส้น 1216 สามารถไปถึง "อุทยานขุนสถาน" ได้ แต่..ทางดีบ้างหลุมบ่อบ้างในบ้างช่วง ผ่านหมู่บ้านม้งแม้วหลากหลาย ระยะทางไม่ไกลแค่ 30 กิโลเขาเอง ระหว่างทางวิวทิวทัศน์สองข้างทางสวยงามไม่ผิดหวัง แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง...แปล๊บเดียวถึง
***บรรยากาศก่อนขึ้น***
***บรรยากาศด้านบน***
***แสงแรกที่ขุนสถาน***
***ปิดท้ายด้วย...แสงกับเงา***
ขากลับขับลงมาตรงทางขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายโลดแล่นไปตามเส้นทางที่ลาดลงตลอด สองข้างทางวิวสวยงามไม่ผิดหวัง มีแปลงสะตอเบอรี่และกะเตงเล็กๆเก็บขายกันสดๆเป็นระยะๆ จวบจนมาออกที่บ้านห้วยแก็ต บรรจบ ทล. 101 เลี้ยวขวาไป "เมืองน่าน" เลี้ยวซ้ายไป "เมืองแพร่" ก้อแล้วแต่จะเลือกไป
เที่ยว "น่าน" ด้วยมอไซค์สองล้อ ขอจบไว้เพียงเท่านี้
ขอให้หลับฝันดี มั่งมีเงินทองตลอดปี..ตลอดไป
[CR] จะกี่ครั้งจะกี่หน..เที่ยวน่านนอนอุทยาน..ไม่เคยเบื่อ
ทุกฤดูหนาว ขอบอกตามตรงชอบออกทริปเที่ยวเหนือขึ้นดอยสูงเพราะมีอากาศหนาวถึงหนาวเหน็บ (ฤดูอื่นไม่เคยไป) และ “น่าน” ก้อจะเป็นจังหวัดหนึ่งที่ปักหมุดไว้ทุกครั้ง เพราะถนนหนทางขี่ขับสบาย ขุนเขาน้อยใหญ่มีให้เห็นมากมายและสวยดี ที่สำคัญ "น่าน" เงียบสงบไม่พลุกพล่าน
หนึ่งคืนผ่านไป มอไซค์เดินทางต่อสู่ "อุทยานศรีน่าน" เส้นทางเดิม 101 ถึง อ.เวียงสา เบี่ยงซ้ายเข้าเติมน้ำมันตุนเสบียงแล้วเลี้ยวขวาสู่เส้นทาง 1026 สนุกกับเส้นทางกว้าง คดโค้งขึ้นลงซ้ายเขาขวาเขาเพลินดี จนย่างเข้าใกล้เขตชุมชนนาน้อย สังเกตป้ายด้านซ้ายบอกทางไป "อุทยานศรีน่าน" เส้น 1083 จึงเลี้ยวเข้าไป