หนาวนี้ถ้ายังไม่รู้จะไหน ก็ไปที่นี่ได้น้า..
ณ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน --
/// เมื่อพูดถึงอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ต้องบอกว่ากลางคืนน่ะหนาวจนสั่นสะท้านเลยทีเดียว ช่วงพีคจัดๆ อุณหภูมิอาจลดลงต่ำกว่า 5 องศา (อันนี้เคยประสบเมื่อนานมาแล้ว) ประกอบกับเป็นพื้นที่โล่งบนยอดเขา ยามลมหนาวพัดโบกล่ะก้อ ก็จะยิ่งทวีความเย็นฉ่ำเข้าไปอีก..พูดแล้วก็หนาวววว ///
+++ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ก๋อยต้องยกให้เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีวิวภูเขาสวยที่มากๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน หรืออาจเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด 1 ใน 10 ของไทยเลยก็ว่าได้..อันนี้ คหสต. สุดๆ 555 +++
ข้อมูลอุทยานฯ
ภูมิประเทศของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีความสูงชันทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ มีแนวสันเขาดอยแปรเมืองเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างจังหวัดแพร่กับจังหวัดน่าน ความสูงตั้งแต่ 120-1,726 เมตรจากระดับน้ำ มีแม่น้ำน่านเป็นแนวกันระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์กับจังหวัดน่าน มีลำธารและลำห้วยซึ่งเป็นต้นน้ำน่านอยู่หลายสาย เช่น ห้วยน้ำแหง ห้วยน้ำอูน ห้วยน้ำลี เป็นต้น
สำหรับการเดินทางไปอุทยานฯ ไปได้ 2 เส้นทาง
• ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยนตรกิจโกศล) เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่าน จากจังหวัดแพร่ ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านห้วยแก๊ต ตำบลไผ่โทนอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
• จากจังหวัดน่าน ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา - อำเภอนาน้อย ระยะทางจากอำเภอเวียงสาถึงอำเภอนาน้อย ประมาณ 35 กิโลเมตร และจากอำเภอนาน้อยเลี้ยวขวา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1216 ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร ถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=935
+++ เมื่อเดินทางถึงอุทยานฯ สิ่งแรกคือมองหาที่ทำการอุทยานฯ เพื่อติดต่อรับกุญแจบ้านพัก “ซากุระ” เราจองที่พักในระบบของกรมอุทยานฯ (บ้านซากุระจะมี 4 หลังเรียงต่อๆ กัน) เพราะเห็นว่าวิวหน้าบ้านสวยโดยที่ไม่ได้เช็ครีวิวว่ามันเหมาะเป็นที่พักสำหรับช่วงหน้าหนาวมากกว่าด้วยเหตุผลที่บ้านซากุระไม่มีหน้าต่าง ทำให้ไม่มีทางให้อากาศได้ระบายเข้า-ออก ไปช่วงหน้าร้อนถึงหน้าฝนคือจะค่อนข้างอึดอัดอยู่สักหน่อย..จะมีโอกาสปรับปรุงมั้ยน้อ..ก๋อยได้แต่หวังนะจ๊ะ +++
+++ แต่ถ้าไม่ชอบบ้านแบบนี้ บ้านพักติดแอร์สวยๆ ของอุทยานฯ ก็มีให้บริการซึ่งจะอยู่อีกฟากนึง วิวโซนนี้จะไม่ว้าวเท่ากับโซนที่ก๋อยเลือก แต่ก็ถือว่าสะดวกสบายมากกว่าบ้านซากุระแน่นอน นอกจากนี้ต้องชมว่าอุทยานฯ ที่นี่ห้องน้ำสะอาดเว่อร์แถมมีน้ำอุ่นให้ด้วย (ถูกใจวัยชรา) รับคะแนนความสะอาดไปเลย 10 แต้มจ้า +++
++ ในเรื่องอาหารการกินนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าจะอด ร้านอาหารของอุทยานมีให้บริการทุกวันตามเวลาราชการ (ขายจนถึงเวลา 16.30 น. น่ะแหละ) ข้าวราดกะเพราคือเมนูมือวางอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นข้าวไข่เจียว มีแค่สองเมนูนี้เท่านั้น..อิอิ เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานทำกันเอง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเลิกงานช่วงก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อน..ดังนั้นเมื่อเราเกิดหิวยามวิกาลขึ้นมาก็ต้องขับลงเขาไปหากินในหมู่บ้าน เช่นเดียวกับก๋อยนี่งัย..ร้านชาวบ้าน อร่อยไม่เบา ประเภทอาหารก็แบบทางบ้านเลย น่ากินเนาะ++
++ แต่ทว่ามาขุนสถานทั้งทีก็ต้องนอนเต๊นท์จิถึงจะได้บรรยกาศการแค้มปิ้งที่แท้ทรู..กางทาร์ปมันกลางแดดเปรี้ยงๆ นี่แหละ..บอกเลยไหม้ยันบ่า..++
+++ ร้านค้าสวัสดิการที่นี่ก็มีให้บริการอย่างเช่นอุทยานอื่นๆ นะจ๊ะ เปิด-ปิดตามเวลาราชการเป๊ะ รวมถึงวันเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย..ข้อสังเกตคือที่นี่คนขึ้นมากินกาแฟและชมวิวกันเยอะพอสมควร ดูร้านค้าสวัสดิการเค้าซะก่อน คาเฟ่ชิคๆ นี่เอง..จิบกาแฟแกล้มวิวเขาอร่อยกว่าปกติเป็นร้อยเท่า วิว ณ จุดๆ นี้เอาไปอีกล้านแต้ม..+++
// การได้กินโทสครีมฉ่ำๆ บนขุนสถานนั้นบอกเลยว่า “มันดีย์มว้ากกกกกกกก”...หู้วววว ///
+++ บรรยากาศยามเย็นเมื่อดวงอาทิตย์กำลังจะจมดวง ก๋อยเลยต้องรีบเก็บภาพกันรัวๆ ท้องฟ้าจากสีส้มค่อยๆ กลายเป็นสีชมพูเข้ม จนในที่สุดดวงเดือนก็เริ่มเข้ามาประดับท้องฟ้าในยามราตรี +++
+++ ขุนสถานเลื่องชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แสงเช้าค่อยๆ โผล่มาทักทาย ลิบๆ ตรงเส้นขอบฟ้าเรื่อเรืองนั้นก็สะกดให้เรายืนละเลียดความงดงามของธรรมชาติอย่างแสนเพลินใจ..บางทีก็ไม่อยากให้ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาอีกเลย +++
-- งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาฉันใด คณะเดินทางก็ต้องลงเขากลับบ้านฉันนั้น..เตร๊งเตรงงงงเตร่งเตร้งงงงง ---
-- และสำหรับวันนี้ ก๋อยคงต้องขอบายไปก่อนจ้า --
วิวหลักล้านที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน (19-21 ส.ค.)
ข้อมูลอุทยานฯ
ภูมิประเทศของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีความสูงชันทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ มีแนวสันเขาดอยแปรเมืองเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างจังหวัดแพร่กับจังหวัดน่าน ความสูงตั้งแต่ 120-1,726 เมตรจากระดับน้ำ มีแม่น้ำน่านเป็นแนวกันระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์กับจังหวัดน่าน มีลำธารและลำห้วยซึ่งเป็นต้นน้ำน่านอยู่หลายสาย เช่น ห้วยน้ำแหง ห้วยน้ำอูน ห้วยน้ำลี เป็นต้น
สำหรับการเดินทางไปอุทยานฯ ไปได้ 2 เส้นทาง
• ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยนตรกิจโกศล) เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่าน จากจังหวัดแพร่ ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านห้วยแก๊ต ตำบลไผ่โทนอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
• จากจังหวัดน่าน ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา - อำเภอนาน้อย ระยะทางจากอำเภอเวียงสาถึงอำเภอนาน้อย ประมาณ 35 กิโลเมตร และจากอำเภอนาน้อยเลี้ยวขวา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1216 ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร ถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
อ้างอิงข้อมูลจาก https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=935