..เรื่องนี้ ผมอยากติงสื่อนิดหนึ่งครับ ที่บอกว่า คำพิพากษาสิ้นสุด ธรรมรักษ์ไม่ผิด เพื่อไทยไม่ได้รับความเป็นธรรม..

..คดีนี้คำพิพากษา ในส่วนของธรรมรักษ์ สิ้นสุดตั้งแต่ศาลอุทรณ์ เมื่อศาลอุทรณ์ไม่เห็นฟ้องกับศาลชั้นต้น ในทางกฏหมายก็คือ
ให้ผู้ยื่นอุทรณ์ อย่างจำเลยที่ 1 คือธรรมรักษ์ เป็นผู้ชนะคดี  หรือตัดสินว่าไม่มีความผิด
และหากโจกท์ซึ่งเป็นอัยการไม่ยื่นฏีกาเพื่อโต้แย้งต่อศาลฏีกา ภายใน 30 วัน
คดีก็ถือว่าสิ้นสุดแล้วตามคำพิพากษา ของศาลอุทรณ์

ซึ่งคดีนี้ อัยการไม่ยื่นฏีกาต่อ  อาจจะด้วยเหตุผลที่ยื่นไปก็แพ้ และไม่ต้องห้ามตามกฏหมายคือ
สามารถกระทำได้ ก็เลยไม่ยื่น  แต่ถ้าหากเป็นคดีที่มีโทษสูง ๆ อัยการจะทำแบบนี้ไม่ได้ แม้แพ้ในชั้นอุทรณ์ ก็ต้องยื่นต่อในชั้นฏีกา
เพราะกฏหมายบังคับไว้.......ส่วนจำเลยอีก 4 คนก็ยื่นต่อสู้ในชั้นฏีกาต่อ ผลก็คือ ศาลฏีกายืนตามศาลอุทรณ์ แต่แก้โทษจำเลยที่ 2 ใหม่
ถือว่าคดีสิ้นสุด เมื่อวันที่อ่านคำพิพากษา ของศาลฏีกา ตัดสินอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น จำคุกก็เอาไปเข้าคุก ....

จากกรณีนี้ ผมไม่ทราบว่า สื่อทำไมต้องเอามาเล่นตอนนี้ รู้เรื่องกกหมายหรือเปล่า คำพิพากษาของส่วนพรรคไทยรักไทยขณะนั้น
ถือว่าบริสุทธิ์ ไม่ผิด หรือ ชนะ ตั้งแต่ หลัง 30 วัน ที่ศาลอุทรณ์อ่านคำพิพากษา เพราะถือว่า อัยการไม่ยื่นฏีกาตามกำหมด และไม่ได้
ขอขยายฏีกา คดีจึงถือว่าเป็นอันสิ้นสุด..ตั้งแต่หลังอ่านคำพิพากษา 30วัน.........