สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการ(พยายาม)ซ่อมไอโฟนที่ร้านในมาบุญครองนะครับ ผมหวังว่า คนที่เป็นลูกค้าเมื่อได้อ่าน คงจะระมัดระวังตัวมากขึ้น หรือถ้าพ่อค้า(ช่าง) ได้มาอ่าน คงจะปฏิบัติกับลูกค้าให้ดีขึ้นนะครับ
วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 นะครับ อาการของไอโฟนผมคือ เมื่อใช้ๆอยู่ โทรศัพท์จะปิดและเปิดใหม่เอง แต่จะขึ้นเป็นหน้าจอสีๆอยู่หลายรอบ บางครั้งก็จะดับไปเอง หรือไม่ก็จะเปิดติดแต่เมื่อพยายามใช้งานก็จะดับลงและเริ่มเปิดตัวเองใหม่อีกครั้ง
อาการนอกจากนั้นก็คือลำโพงเสียงแตกและหน้าจอร้าว แต่ก็ยังพอใช้ได้อยู่ ผมจึงอยากมาแก้ปัญหาที่การเปิดเครื่องไม่ติดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คิดจะซ่อมจอและลำโพงเพราะยังใช้ได้อยู่
อาการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เกิดมาจากการทำหล่นหลายครั้งครับ มันคงมีอะไรข้างในรวน สะสมมานานเลยมาแสดงอาการตอนนี้
สาเหตุที่ผมนำไปซ่อมที่มาบุญครอง ก็คือผมเข้าใจว่าน่าจะเร็วกว่าการนำไปเคลมที่ศูนย์ และราคาที่ซ่อมก็น่าจะถูกกว่าซ่อมศูนย์ และด้วยความรีบร้อนเพราะต้องใช้ติดต่อธุระตลอดเวลา จึงนำไปซ่อมที่มาบุญครอง
ผมหาข้อมูลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเจอร้านที่คิดว่าน่าจะซ่อมได้ สมมุติว่าชื่อร้านอ.แล้วกัน จึงไปเดินหาร้านนี้ที่มาบุญครอง ปรากฎว่าหาไม่เจอ ก็เลยนำไปให้ร้านนึงดูเขาบอกว่าน่าจะบอร์ดเสีย
"นู่นเลยครับ ซ่อมบอร์ดร้านนู้น" พลางชี้มือไปที่ร้านหนึ่ง
เมื่อผมมองตามก็ได้พบกับร้านอ.ที่ผมหาอยู่แต่หาไม่พบ ดีใจครับ เจอร้านที่อยากซ่อมแล้วจึงรีบตรงเข้าไป พร้อมแจ้งอาการโทรศัพท์ของผม คนที่รับเรื่องเป็นเด็กในร้านคาดผ้าปิดปากและดูอาการคร่าวๆเบื้องต้นให้ผม ส่วนเจ้าของร้านกำลังซ่อมโทรศัพท์และคุยกับลูกค้าด้วยสมอลทอล์ค
มองไปรอบๆร้านก็มีอุปกรณ์เต็มไปหมด มีป้ายติดไว้ว่าถ้าโทรศัพท์ตกน้ำแล้วคิดว่าซ่อม 1 ชั่วโมงเสร็จก็ไปซ่อมร้านอื่นเถอะ มีป้ายเขียนว่าห้ามชวนคุยขณะซ่อมโทรศัพท์เพราะเสียสมาธิ ผมก็ชอบนะดูจริงใจดี ถึงแม้จะขัดๆตาเพราะเห็นช่างกำลังคุยโทรศัพท์ขณะซ่อมอยู่ก็ตาม
เมื่อช่างวางโทรศัพท์จากคนที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกค้าแล้ว ก็พักงานที่ทำอยู่มาดูโทรศัพท์ให้ผม ก็หยิบๆจับๆ ดูอาการ จากนั้นก็บอกว่าน่าจะเสียที่บอร์ด และถามผมว่า
"คิดว่าจะ ซ่อมประมาณกี่บาท?"
ผมก็ตอบไปตามความจริงว่า ผมไม่ทราบ ผมเพิ่งเดินมาร้านพี่ร้านแรก ผมหาร้านพี่อยู่แต่หาไม่เจอ แล้วร้านนั้นก็บอกให้มาซ่อมร้านพี่ ซึ่งผมก็หาอยู่พอดี
"พี่คิดว่ากี่บาท?" ช่างก็ยังถามอีก แต่ผมก็คิดนะว่าคงเป็นอารมณ์ศิลปินของเขาแหละ คงมีอีโก้เพราะเป็นช่างดัง มีฝีมือ
"ลองบอกมาว่าจะซ่อมเท่าไหร่" ย้ำผมอีกครั้ง ผมก็เลยตอบไปว่า ผมไม่ทราบจริงๆ น่าจะ 2-3พันมั้ง
"โอ้ยยยยยย!!!!! ไม่ได้หรอกราคานั้น แพงกว่านั้นเยอะะะะะะ" ก็ยอมรับว่าหงุดหงิดนะครับ รู้สึกเหมือนโดนถามความรู้ที่เราไม่รู้แล้วโดนคะยั้นคะยอให้ตอบ ตอบมาเถอะไม่เป็นไรหรอก พอตอบผิดแล้วโดนด่าว่าโง่ แบบนั้นไม่มีผิด
"ขอแกะนะครับ" ช่างขอ ผมก็โอเคไม่มีปัญหา "เชิญเลยครับ" จากนั้นช่างก็แกะดูนู่นนี่นั่น บอกว่าหล่นแรงเนาะ บอร์ดงอเชียว ผมก็ตอบรับและถามกลับไปว่าต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง แต่ช่างก็ยังขอตรวจต่อไป ผมก็ยืนรอและก็เปิดคอมขึ้นมาใช้อินเตอร์เน็ตฟรีแถวนั้นเพื่อรายงานให้แฟนฟังว่าต้องซ่อมแพงแน่ๆน่าจะ 5-6พันบาท เพราะในเบื้องต้นช่างบอกแพงมาก ใจก็เริ่มคิดว่าจะซ่อมต่อดีมั้ย แต่ก็โดนรื้อแล้ว ศูนย์ไม่รับแน่นอน
"แนนเสีย" (จำไม่ได้ว่าออกเสียงว่าแนนหรือนาน แต่เข้าใจว่ามันคงแปลว่าฮาร์ดดิสก์หรือเมมโมรีของไอโฟน) "คุณต้องทิ้งไว้ แล้วพรุ่งนี้มารับ" ผมก็ถามกลับไปว่าวันนี้ไม่ได้เหรอ ผมรอได้ ดึกๆก็ได้ ช่างก็อธิบายกลับมาว่า "ไม่ได้ ผมต้องไปซื้อแนนใหม่ แล้วไปจ้างเขาเขียนโปรแกรม แล้วเอามาทดสอบ ถ้าไม่ได้ผมก็ต้องซ่อมวิธีอื่น ถ้าCPU เสียก็แย่หน่อยอาจจะซ่อมไม่ได้"
ก็ฟังดูมีเหตุผล แต่ผมก็สองจิตสองใจและถามว่าเขาจะซ่อมได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็บอกผมจะได้เอาคืน คือผมเข้าใจแหละถ้า CPU เสีย ผมไม่รู้ว่าอะไหล่มันจะมีขายในท้องตลาดทุกชิ้นหรือเปล่า หรือเขาต้องไปเอาอะไหล่มาจากซากเครื่องอื่นเหมือนอารมณ์เซียงกงของรถยนต์หรือเปล่า แต่เขาก็ตบปากรับคำว่าซ่อมได้แน่ๆ ผมก็ตกลงปลงใจที่จะซ่อม ช่างตีราคาว่า 3,500 บาทซึ่งก็ถูกกว่าที่เขาบอกตอนแรก และเขียนใบนัดรับให้และบอกให้มารับเวลานี้ในวันพรุ่งนี้ (แต่ไม่ได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรลงไปในใบรับว่านัดวันต่อไป) และผมก็ย้ำนะว่าจะไม่แพงไปกว่านี้ใช่ไหม เขาก็บอกว่าไม่มีแน่ๆ ผมก็สบายใจนะกับราคาที่ถูกกว่าที่ประเมินตอนแรก
จากนั้นผมก็กลับบ้านสบายใจ และมั่นใจว่าผมจะซ่อมได้และมารับในวันรุ่งขึ้น ในใจตอนนี้ไม่มีความคิดว่าต้องซื้อโทรศัพท์ใหม่ในสมองเลย
วันต่อมา ผมไปถึงมาบุญครองเวลา 19.14 น. ก็เดินขึ้นไปที่ร้านและพบกับช่างคนเดิม แต่วันนี้ไม่เจอเด็กร้าน เจอแต่ตัวช่างเลย เห็นกำลังซ่อมโทรศัพท์คนอื่นอยู่ก็นึกว่าของผมจะเสร็จแล้ว
"น้อง เนี่ยผมจะรอคุยกับน้องอยู่ วันนี้ทั้งวันที่ซ่อมให้แต่เครื่องน้อง ยังไม่ได้เงินสักบาทเลย ทำอยู่ทั้งวันเนี่ย ฉี่ก็ยังไม่ได้ฉี่ อั้นอยู่นานแล้ว" ผมก็งง เฮ้ย น้ำเสียงฟังแล้วแย่ๆ ไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนเมื่อวาน
"มันซ่อมไม่ได้เนี่ย เม็ดน้องมันมีปัญหา พี่เปลี่ยนไป2เม็ดแล้ววันนี้พี่ยังไม่ได้ซ่อมเครื่องอื่นยังไม่ได้เงินสักบาทเลย" ผมก็บอกว่า งั้นไม่เป็นไรครับ ถ้าซ่อมไม่ได้ก็เอาคืน เขาก็เงียบไปสักพักแล้วก็บอกว่า เนี่ย เครื่องผมมันเป็น 64 กิกะไบท์ มันหาซื้อไม่ได้ มันมีแต่ 16 กับ 128 ซึ่งราคาก็กระโดดไป แล้วถ้าจะเอาต้องเพิ่มเงินเป็น 5,500 บาท
"ผมเสียเวลานะพี่ พี่บอกว่าจะได้วันนี้ นัดผมมาเอาแล้วก็มาบอกว่าไม่ได้" ผมกล่าว
"คุณเสียเวลาคนเดียวเหรอ!!! ผมเสียเวลากว่าคุณอีก ผมนั่งทำเครื่องคุณทั้งวัน ไม่ได้เงินสักบาท ทำแต่ของคุณเนี่ยไม่ได้ทำให้คนอื่นเลย คนอื่นเขามาไกลกว่าคุณอีกเขายังไม่บ่นเลย!!!" แล้วก็ชี้ไปที่เครื่องนึง "เนี่ย อย่างเครื่องนี้มาจากไอ้แถวๆที่ผีดุๆอ่ะ" ช่างบอก
ผมก็เครียดนะครับ แต่ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็แกะแล้วร้านอื่นก็คงรับช่วงต่อไม่ได้แล้ว (ผมเดานะ ว่าถ้าแกะขนาดนี้แล้ว ร้านอื่นคงลำบาก) ก็เครียดนะตอนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี
เขาถามผมเรื่องว่าตอนนี้ผมมีอีมี่กับซีเรียลนัมเบอร์เครื่องไหม ผมก็บอกว่าไม่มี เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวผมหาเองพร้อมกับเรียกคนร้านตรงข้ามมาถามว่าเว็บอะไรที่ใช้หาซีเรียล
ผมก็ถามเขานะว่า ถ้าในที่สุดแล้วซ่อมไม่ได้ ผมไม่มีค่าใช้จ่ายใช่ไหม (ผมพยายามพูดช้าๆ เลือกคำที่ดีที่สุดก่อนพูด)
"น้องไปเสิร์ชเลย เอาชื่อร้านพี่ เอาเบอร์ร้านพี่ไปเสิร์ชเลย พี่ทำมาค้าขายสุจริต มีลูกค้าเพียบ ดูแลลูกค้าดีมาตลอด" ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร และบอกเขาว่าผมขอไปคิดแป้บนึงเดี๋ยวผมกลับมา แล้วก็เดินออกมาหาอินเตอร์เน็ตเพื่อเสิร์ชข้อมูล และหาตู้โทรศัพท์สาธารณะซึ่งทราบภายหลังจากยามว่า ที่มาบุญครองคืนตู้โทรศัพท์สาธารณะไปหมดแล้ว
เมื่อตัดสินใจได้ผมก็กลับไปที่ร้าน
"พี่ครับ มันจะเสร็จภายในวันนี้ใช่มั้ย ถ้าไม่ได้ผมไม่ต้องจ่ายใช่มั้ย" ผมถาม
"ใช่ น้องไปเดินเล่นรอเลยก่อนห้างปิดกลับมา ถ้าไม่ได้ไม่คิดเงิน แต่คิดว่าได้ ไม่น่ามีปัญหา" ผมจึงถามเขาต่อเรื่องซีเรียลว่าผมไม่มีซีเรียลนี่ก็ยังซ่อมได้ใช่ไหม เขาบอกได้ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมหาเอง
"ขอผมซ่อมเหอะ ผมจะได้ได้เงินด้วย เริ่มงานไปแล้ว เสียเวลา ผมซ่อม" เขาบอกกับผมแบบนี้ ผมจึงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย ผมตัดสินใจโกหกว่าต้องซ่อมภายในวันนี้เท่านั้นนะ เพราะผมต้องไปต่างประเทศ ตรงนี้ผมอาจจะผิดที่ไม่ตัดสินใจเด็ดขาดว่าถ้าซ่อมไม่ได้ จะไม่จ่าย
ผมก็ถามเขาว่าถ้าซ่อมอันนี้เสร็จ มันจะมีอะไรพังอีกไหม มันจะไหลไปอย่างอื่นต่อไหมในเครื่อง เช่นกล้อง เพราะระหว่างที่ยืนรอ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาซ่อมเพราะกล้องใช้ไม่ได้เนื่องจากเป็นผลต่อเนื่องจากการซ่อมครั้งก่อน
"ร้านผมทำมาหากินสุจริต ไม่ทำอย่างนั้นกับลูกค้าแน่นอน!!!!" คือผมหมายความว่ามันนะมีอะไรพังต่อเนื่องไหม ไม่ได้จะบอกว่าเขาโกงซะหน่อย
ก็โอเค แพลนไว้ว่าจะไปนั่งสตาร์บัค ซื้อเน็ต แชทคุยกับแฟนเพื่อรายงานว่าจะกลับบ้านดึก
ต่อมาเวลา 21.25 ผมเห็นว่าห้างใกล้จะปิดแล้ว จึงเดินลงมาจากสตาร์บัค
พอมาถึงร้าน
"เนี่ยซ่อมไม่ได้!!! ต้องทิ้งไว้ก่อน!!! ซีเรียลก็ไม่มี"
ผมก็ขึ้นเลยแล้วก็เริ่มโวยวายว่า อ้าว นัดแล้วไม่เป็นนัด ผมเสียเวลา ซ่อมไม่ได้ก็ไม่บอกทำไมให้มารอ ทำไมบอกให้มารับตอนร้านจะปิด
"นี่ผมช่วยคุณนะในการซ่อมครั้งนี้ ซีเรียลก็ไม่มีให้ ผมต้องมานั่งหาเอง" ผมก็โวยกลับไปว่าไหนบอกว่าหาเองได้ เขาก็บอกว่า "โอ้ย!!!! ถ้าหาเองได้ผมรวยไปแล้ว ไม่มานั่งเปิดร้านแบบนี้หรอก" ผมก็เถียงว่าก็เมื่อกี๊บอกว่าจะหาได้ จากนั้นเขาก็เริ่มบอกว่า เนี่ย เขาช่วยผมสารพัด เขาต้องลงทุนไปซ่อมไปซื้ออะไหล่ให้ผมเสียเงินไปแล้ว เงินก็ไม่ได้
"ผมไม่ได้บอกว่าจะซ่อมได้สักหน่อย!!! แค่ต้องลองดู!!!! คุณตัดสินใจให้ผมลองเอง!!!" ช่างกล่าว
"แถมคุณยังมาพูดจาดูถูกช่างแบบพวกผมอีก" เขาตะโกนใส่ผม ซึ่งก่อนหน้านั้นผมตะโกนใส่เขาก่อน แต่ผมก็ถามว่าผมไปดูถูกพี่ตอนไหน เขาก็บอกว่าตอนที่ผมถามว่าซ่อมอันนี้เสร็จแล้วต้องซ่อมอะไรต่ออีกไหม ซึ่งผมก็บอกว่าผมสาบานเลยว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมกลัวว่ามันจะเสียต่อเนื่อง ไม่ได้หาว่าโกงอะไรเลย
"ผมไม่อยากซ่อมให้คุณเลย นี่ถือว่าผมช่วยคุณมากนะ คุณยังมาพูดจะกับผมแบบนี้อีก ซีเรียลก็ไม่มีให้ ให้ผมมานั่งหาเอง"
"งั้นผมไม่ซ่อมแล้ว เอากลับ" ผมบอกเขาไปแบบนั้น พร้อมกับความสิ้นหวังเพราะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้คือผมต้องเสียไอโฟนเครื่องนี้ไปแน่ๆแล้ว เพราะข้างในคงเละ แล้วร้านอื่นก็คงจับต้นชนปลายไม่ถูกหลังจากนี้
"ถ้าประกอบคืนแล้ว ผมไม่รับซ่อมแล้วนะ ไปหาช่างเก่งๆของคุณเลย ให้เขาซ่อมให้ ผมไม่ซ่อม ผมช่วยคุณมาเยอะแล้ว พอแล้ว ผมไม่อยากยุ่ง" คือมันอาจจะไม่ใช่คำพูดแบบนี้ แต่คีย์เวิร์ดมันประกอบไปด้วยคำว่า "ผมช่วยคุณ" "ผมไม่รับ" "ไปหาช่างเก่งๆ" "ผมไม่อยากยุ่ง" อะไรทำนองนี้ 100% แต่ก็มีพูดนะ ว่าถ้าช่างคนอื่นซ่อมไม่ได้ ให้โทรมาหาเขา เดี๋ยวเขาบอกวิธีให้
ก็มีบ้างที่เขาพยายามพูดดีๆกับผม ว่าผมน่าจะลองหาเครื่องใหม่ใช้สำรอง แล้วทิ้งเครื่องนี้ไว้กับเขา เขาจะซ่อมให้ แต่ก็ยังไม่วาย มีคำพูดทำนองว่า นี่ทำไมไม่มีโทรศัพท์สำรอง ใครๆเขาก็มีกันทั้งนั้นแหละ
ตลอดเวลาที่ทำการซ่อมทั้ง2วัน ก็จะมีลูกค้าคนอื่นมายืนอยู่ แล้วเขาก็จะพูดทำนองว่าปกติเขาจะให้เครื่องเขากับลูกค้าไปยืมก่อน แต่คราวนี้เครื่องมันหมด แล้วเวลาให้ลูกค้ายืมไป มักจะถูกยึด เอาไปเลยไม่เอามาคืน ทิ้งเครื่องตัวเองไว้
แล้วก็พูดจิกๆกัดๆผมให้เพื่อนเขาหรือคนที่มายืนคอยซ่อมฟัง ว่าเนี่ย "ซ่อมเครื่องนี้ทั้งวัน อั้นฉี่ทั้งวันเพราะห้องน้ำอยู่ชั้น1 ซ่อมเครื่องผมเงินก็ไม่ได้ เงินก็เสียต้องไปซื้ออะไหล่ ต้องไปจ้างเขาเขียนโปรแกรมมา2รอบ ไม่คุ้ม" "นี่คนอื่นนะเขารอผมได้ คนนี้โทรมาบอกว่าพี่ซ่อมเลย ผมไปต่างประเทศเดี๋ยวผมมาเอาเดือนหน้า ผมนี่สบายใจมากที่ซ่อมเครื่องให้คนนู้น"
ยังมีคำพูดแบบ "อย่าให้ผมด่าคุณบ้างนะ ผมสงสาร ผมเป็นคนพูดตรงนะ"
คือบอกตรงๆโคตรรรรรอายเลยยยยยย ยืนรอแล้วโดนจิกโดนกัดแบบนั้น
"โอ้ยนี่คิดถึงลูกมาก ไม่ได้โทรหาลูกเลย วันนี้ซ่อมแต่เครื่องนี้ ไม่ได้ทำเครื่องอื่นเลย"
พอประกอบเสร็จ ผมก็รับซากกลับมา กล่าวขอบคุณและเดินจากมา
สำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะซ่อมไอโฟนที่ศูนย์หรือที่ร้านครับ
วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 นะครับ อาการของไอโฟนผมคือ เมื่อใช้ๆอยู่ โทรศัพท์จะปิดและเปิดใหม่เอง แต่จะขึ้นเป็นหน้าจอสีๆอยู่หลายรอบ บางครั้งก็จะดับไปเอง หรือไม่ก็จะเปิดติดแต่เมื่อพยายามใช้งานก็จะดับลงและเริ่มเปิดตัวเองใหม่อีกครั้ง
อาการนอกจากนั้นก็คือลำโพงเสียงแตกและหน้าจอร้าว แต่ก็ยังพอใช้ได้อยู่ ผมจึงอยากมาแก้ปัญหาที่การเปิดเครื่องไม่ติดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คิดจะซ่อมจอและลำโพงเพราะยังใช้ได้อยู่
อาการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เกิดมาจากการทำหล่นหลายครั้งครับ มันคงมีอะไรข้างในรวน สะสมมานานเลยมาแสดงอาการตอนนี้
สาเหตุที่ผมนำไปซ่อมที่มาบุญครอง ก็คือผมเข้าใจว่าน่าจะเร็วกว่าการนำไปเคลมที่ศูนย์ และราคาที่ซ่อมก็น่าจะถูกกว่าซ่อมศูนย์ และด้วยความรีบร้อนเพราะต้องใช้ติดต่อธุระตลอดเวลา จึงนำไปซ่อมที่มาบุญครอง
ผมหาข้อมูลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเจอร้านที่คิดว่าน่าจะซ่อมได้ สมมุติว่าชื่อร้านอ.แล้วกัน จึงไปเดินหาร้านนี้ที่มาบุญครอง ปรากฎว่าหาไม่เจอ ก็เลยนำไปให้ร้านนึงดูเขาบอกว่าน่าจะบอร์ดเสีย
"นู่นเลยครับ ซ่อมบอร์ดร้านนู้น" พลางชี้มือไปที่ร้านหนึ่ง
เมื่อผมมองตามก็ได้พบกับร้านอ.ที่ผมหาอยู่แต่หาไม่พบ ดีใจครับ เจอร้านที่อยากซ่อมแล้วจึงรีบตรงเข้าไป พร้อมแจ้งอาการโทรศัพท์ของผม คนที่รับเรื่องเป็นเด็กในร้านคาดผ้าปิดปากและดูอาการคร่าวๆเบื้องต้นให้ผม ส่วนเจ้าของร้านกำลังซ่อมโทรศัพท์และคุยกับลูกค้าด้วยสมอลทอล์ค
มองไปรอบๆร้านก็มีอุปกรณ์เต็มไปหมด มีป้ายติดไว้ว่าถ้าโทรศัพท์ตกน้ำแล้วคิดว่าซ่อม 1 ชั่วโมงเสร็จก็ไปซ่อมร้านอื่นเถอะ มีป้ายเขียนว่าห้ามชวนคุยขณะซ่อมโทรศัพท์เพราะเสียสมาธิ ผมก็ชอบนะดูจริงใจดี ถึงแม้จะขัดๆตาเพราะเห็นช่างกำลังคุยโทรศัพท์ขณะซ่อมอยู่ก็ตาม
เมื่อช่างวางโทรศัพท์จากคนที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกค้าแล้ว ก็พักงานที่ทำอยู่มาดูโทรศัพท์ให้ผม ก็หยิบๆจับๆ ดูอาการ จากนั้นก็บอกว่าน่าจะเสียที่บอร์ด และถามผมว่า
"คิดว่าจะ ซ่อมประมาณกี่บาท?"
ผมก็ตอบไปตามความจริงว่า ผมไม่ทราบ ผมเพิ่งเดินมาร้านพี่ร้านแรก ผมหาร้านพี่อยู่แต่หาไม่เจอ แล้วร้านนั้นก็บอกให้มาซ่อมร้านพี่ ซึ่งผมก็หาอยู่พอดี
"พี่คิดว่ากี่บาท?" ช่างก็ยังถามอีก แต่ผมก็คิดนะว่าคงเป็นอารมณ์ศิลปินของเขาแหละ คงมีอีโก้เพราะเป็นช่างดัง มีฝีมือ
"ลองบอกมาว่าจะซ่อมเท่าไหร่" ย้ำผมอีกครั้ง ผมก็เลยตอบไปว่า ผมไม่ทราบจริงๆ น่าจะ 2-3พันมั้ง
"โอ้ยยยยยย!!!!! ไม่ได้หรอกราคานั้น แพงกว่านั้นเยอะะะะะะ" ก็ยอมรับว่าหงุดหงิดนะครับ รู้สึกเหมือนโดนถามความรู้ที่เราไม่รู้แล้วโดนคะยั้นคะยอให้ตอบ ตอบมาเถอะไม่เป็นไรหรอก พอตอบผิดแล้วโดนด่าว่าโง่ แบบนั้นไม่มีผิด
"ขอแกะนะครับ" ช่างขอ ผมก็โอเคไม่มีปัญหา "เชิญเลยครับ" จากนั้นช่างก็แกะดูนู่นนี่นั่น บอกว่าหล่นแรงเนาะ บอร์ดงอเชียว ผมก็ตอบรับและถามกลับไปว่าต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง แต่ช่างก็ยังขอตรวจต่อไป ผมก็ยืนรอและก็เปิดคอมขึ้นมาใช้อินเตอร์เน็ตฟรีแถวนั้นเพื่อรายงานให้แฟนฟังว่าต้องซ่อมแพงแน่ๆน่าจะ 5-6พันบาท เพราะในเบื้องต้นช่างบอกแพงมาก ใจก็เริ่มคิดว่าจะซ่อมต่อดีมั้ย แต่ก็โดนรื้อแล้ว ศูนย์ไม่รับแน่นอน
"แนนเสีย" (จำไม่ได้ว่าออกเสียงว่าแนนหรือนาน แต่เข้าใจว่ามันคงแปลว่าฮาร์ดดิสก์หรือเมมโมรีของไอโฟน) "คุณต้องทิ้งไว้ แล้วพรุ่งนี้มารับ" ผมก็ถามกลับไปว่าวันนี้ไม่ได้เหรอ ผมรอได้ ดึกๆก็ได้ ช่างก็อธิบายกลับมาว่า "ไม่ได้ ผมต้องไปซื้อแนนใหม่ แล้วไปจ้างเขาเขียนโปรแกรม แล้วเอามาทดสอบ ถ้าไม่ได้ผมก็ต้องซ่อมวิธีอื่น ถ้าCPU เสียก็แย่หน่อยอาจจะซ่อมไม่ได้"
ก็ฟังดูมีเหตุผล แต่ผมก็สองจิตสองใจและถามว่าเขาจะซ่อมได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็บอกผมจะได้เอาคืน คือผมเข้าใจแหละถ้า CPU เสีย ผมไม่รู้ว่าอะไหล่มันจะมีขายในท้องตลาดทุกชิ้นหรือเปล่า หรือเขาต้องไปเอาอะไหล่มาจากซากเครื่องอื่นเหมือนอารมณ์เซียงกงของรถยนต์หรือเปล่า แต่เขาก็ตบปากรับคำว่าซ่อมได้แน่ๆ ผมก็ตกลงปลงใจที่จะซ่อม ช่างตีราคาว่า 3,500 บาทซึ่งก็ถูกกว่าที่เขาบอกตอนแรก และเขียนใบนัดรับให้และบอกให้มารับเวลานี้ในวันพรุ่งนี้ (แต่ไม่ได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรลงไปในใบรับว่านัดวันต่อไป) และผมก็ย้ำนะว่าจะไม่แพงไปกว่านี้ใช่ไหม เขาก็บอกว่าไม่มีแน่ๆ ผมก็สบายใจนะกับราคาที่ถูกกว่าที่ประเมินตอนแรก
จากนั้นผมก็กลับบ้านสบายใจ และมั่นใจว่าผมจะซ่อมได้และมารับในวันรุ่งขึ้น ในใจตอนนี้ไม่มีความคิดว่าต้องซื้อโทรศัพท์ใหม่ในสมองเลย
วันต่อมา ผมไปถึงมาบุญครองเวลา 19.14 น. ก็เดินขึ้นไปที่ร้านและพบกับช่างคนเดิม แต่วันนี้ไม่เจอเด็กร้าน เจอแต่ตัวช่างเลย เห็นกำลังซ่อมโทรศัพท์คนอื่นอยู่ก็นึกว่าของผมจะเสร็จแล้ว
"น้อง เนี่ยผมจะรอคุยกับน้องอยู่ วันนี้ทั้งวันที่ซ่อมให้แต่เครื่องน้อง ยังไม่ได้เงินสักบาทเลย ทำอยู่ทั้งวันเนี่ย ฉี่ก็ยังไม่ได้ฉี่ อั้นอยู่นานแล้ว" ผมก็งง เฮ้ย น้ำเสียงฟังแล้วแย่ๆ ไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนเมื่อวาน
"มันซ่อมไม่ได้เนี่ย เม็ดน้องมันมีปัญหา พี่เปลี่ยนไป2เม็ดแล้ววันนี้พี่ยังไม่ได้ซ่อมเครื่องอื่นยังไม่ได้เงินสักบาทเลย" ผมก็บอกว่า งั้นไม่เป็นไรครับ ถ้าซ่อมไม่ได้ก็เอาคืน เขาก็เงียบไปสักพักแล้วก็บอกว่า เนี่ย เครื่องผมมันเป็น 64 กิกะไบท์ มันหาซื้อไม่ได้ มันมีแต่ 16 กับ 128 ซึ่งราคาก็กระโดดไป แล้วถ้าจะเอาต้องเพิ่มเงินเป็น 5,500 บาท
"ผมเสียเวลานะพี่ พี่บอกว่าจะได้วันนี้ นัดผมมาเอาแล้วก็มาบอกว่าไม่ได้" ผมกล่าว
"คุณเสียเวลาคนเดียวเหรอ!!! ผมเสียเวลากว่าคุณอีก ผมนั่งทำเครื่องคุณทั้งวัน ไม่ได้เงินสักบาท ทำแต่ของคุณเนี่ยไม่ได้ทำให้คนอื่นเลย คนอื่นเขามาไกลกว่าคุณอีกเขายังไม่บ่นเลย!!!" แล้วก็ชี้ไปที่เครื่องนึง "เนี่ย อย่างเครื่องนี้มาจากไอ้แถวๆที่ผีดุๆอ่ะ" ช่างบอก
ผมก็เครียดนะครับ แต่ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็แกะแล้วร้านอื่นก็คงรับช่วงต่อไม่ได้แล้ว (ผมเดานะ ว่าถ้าแกะขนาดนี้แล้ว ร้านอื่นคงลำบาก) ก็เครียดนะตอนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี
เขาถามผมเรื่องว่าตอนนี้ผมมีอีมี่กับซีเรียลนัมเบอร์เครื่องไหม ผมก็บอกว่าไม่มี เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวผมหาเองพร้อมกับเรียกคนร้านตรงข้ามมาถามว่าเว็บอะไรที่ใช้หาซีเรียล
ผมก็ถามเขานะว่า ถ้าในที่สุดแล้วซ่อมไม่ได้ ผมไม่มีค่าใช้จ่ายใช่ไหม (ผมพยายามพูดช้าๆ เลือกคำที่ดีที่สุดก่อนพูด)
"น้องไปเสิร์ชเลย เอาชื่อร้านพี่ เอาเบอร์ร้านพี่ไปเสิร์ชเลย พี่ทำมาค้าขายสุจริต มีลูกค้าเพียบ ดูแลลูกค้าดีมาตลอด" ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร และบอกเขาว่าผมขอไปคิดแป้บนึงเดี๋ยวผมกลับมา แล้วก็เดินออกมาหาอินเตอร์เน็ตเพื่อเสิร์ชข้อมูล และหาตู้โทรศัพท์สาธารณะซึ่งทราบภายหลังจากยามว่า ที่มาบุญครองคืนตู้โทรศัพท์สาธารณะไปหมดแล้ว
เมื่อตัดสินใจได้ผมก็กลับไปที่ร้าน
"พี่ครับ มันจะเสร็จภายในวันนี้ใช่มั้ย ถ้าไม่ได้ผมไม่ต้องจ่ายใช่มั้ย" ผมถาม
"ใช่ น้องไปเดินเล่นรอเลยก่อนห้างปิดกลับมา ถ้าไม่ได้ไม่คิดเงิน แต่คิดว่าได้ ไม่น่ามีปัญหา" ผมจึงถามเขาต่อเรื่องซีเรียลว่าผมไม่มีซีเรียลนี่ก็ยังซ่อมได้ใช่ไหม เขาบอกได้ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมหาเอง
"ขอผมซ่อมเหอะ ผมจะได้ได้เงินด้วย เริ่มงานไปแล้ว เสียเวลา ผมซ่อม" เขาบอกกับผมแบบนี้ ผมจึงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย ผมตัดสินใจโกหกว่าต้องซ่อมภายในวันนี้เท่านั้นนะ เพราะผมต้องไปต่างประเทศ ตรงนี้ผมอาจจะผิดที่ไม่ตัดสินใจเด็ดขาดว่าถ้าซ่อมไม่ได้ จะไม่จ่าย
ผมก็ถามเขาว่าถ้าซ่อมอันนี้เสร็จ มันจะมีอะไรพังอีกไหม มันจะไหลไปอย่างอื่นต่อไหมในเครื่อง เช่นกล้อง เพราะระหว่างที่ยืนรอ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาซ่อมเพราะกล้องใช้ไม่ได้เนื่องจากเป็นผลต่อเนื่องจากการซ่อมครั้งก่อน
"ร้านผมทำมาหากินสุจริต ไม่ทำอย่างนั้นกับลูกค้าแน่นอน!!!!" คือผมหมายความว่ามันนะมีอะไรพังต่อเนื่องไหม ไม่ได้จะบอกว่าเขาโกงซะหน่อย
ก็โอเค แพลนไว้ว่าจะไปนั่งสตาร์บัค ซื้อเน็ต แชทคุยกับแฟนเพื่อรายงานว่าจะกลับบ้านดึก
ต่อมาเวลา 21.25 ผมเห็นว่าห้างใกล้จะปิดแล้ว จึงเดินลงมาจากสตาร์บัค
พอมาถึงร้าน
"เนี่ยซ่อมไม่ได้!!! ต้องทิ้งไว้ก่อน!!! ซีเรียลก็ไม่มี"
ผมก็ขึ้นเลยแล้วก็เริ่มโวยวายว่า อ้าว นัดแล้วไม่เป็นนัด ผมเสียเวลา ซ่อมไม่ได้ก็ไม่บอกทำไมให้มารอ ทำไมบอกให้มารับตอนร้านจะปิด
"นี่ผมช่วยคุณนะในการซ่อมครั้งนี้ ซีเรียลก็ไม่มีให้ ผมต้องมานั่งหาเอง" ผมก็โวยกลับไปว่าไหนบอกว่าหาเองได้ เขาก็บอกว่า "โอ้ย!!!! ถ้าหาเองได้ผมรวยไปแล้ว ไม่มานั่งเปิดร้านแบบนี้หรอก" ผมก็เถียงว่าก็เมื่อกี๊บอกว่าจะหาได้ จากนั้นเขาก็เริ่มบอกว่า เนี่ย เขาช่วยผมสารพัด เขาต้องลงทุนไปซ่อมไปซื้ออะไหล่ให้ผมเสียเงินไปแล้ว เงินก็ไม่ได้
"ผมไม่ได้บอกว่าจะซ่อมได้สักหน่อย!!! แค่ต้องลองดู!!!! คุณตัดสินใจให้ผมลองเอง!!!" ช่างกล่าว
"แถมคุณยังมาพูดจาดูถูกช่างแบบพวกผมอีก" เขาตะโกนใส่ผม ซึ่งก่อนหน้านั้นผมตะโกนใส่เขาก่อน แต่ผมก็ถามว่าผมไปดูถูกพี่ตอนไหน เขาก็บอกว่าตอนที่ผมถามว่าซ่อมอันนี้เสร็จแล้วต้องซ่อมอะไรต่ออีกไหม ซึ่งผมก็บอกว่าผมสาบานเลยว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมกลัวว่ามันจะเสียต่อเนื่อง ไม่ได้หาว่าโกงอะไรเลย
"ผมไม่อยากซ่อมให้คุณเลย นี่ถือว่าผมช่วยคุณมากนะ คุณยังมาพูดจะกับผมแบบนี้อีก ซีเรียลก็ไม่มีให้ ให้ผมมานั่งหาเอง"
"งั้นผมไม่ซ่อมแล้ว เอากลับ" ผมบอกเขาไปแบบนั้น พร้อมกับความสิ้นหวังเพราะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้คือผมต้องเสียไอโฟนเครื่องนี้ไปแน่ๆแล้ว เพราะข้างในคงเละ แล้วร้านอื่นก็คงจับต้นชนปลายไม่ถูกหลังจากนี้
"ถ้าประกอบคืนแล้ว ผมไม่รับซ่อมแล้วนะ ไปหาช่างเก่งๆของคุณเลย ให้เขาซ่อมให้ ผมไม่ซ่อม ผมช่วยคุณมาเยอะแล้ว พอแล้ว ผมไม่อยากยุ่ง" คือมันอาจจะไม่ใช่คำพูดแบบนี้ แต่คีย์เวิร์ดมันประกอบไปด้วยคำว่า "ผมช่วยคุณ" "ผมไม่รับ" "ไปหาช่างเก่งๆ" "ผมไม่อยากยุ่ง" อะไรทำนองนี้ 100% แต่ก็มีพูดนะ ว่าถ้าช่างคนอื่นซ่อมไม่ได้ ให้โทรมาหาเขา เดี๋ยวเขาบอกวิธีให้
ก็มีบ้างที่เขาพยายามพูดดีๆกับผม ว่าผมน่าจะลองหาเครื่องใหม่ใช้สำรอง แล้วทิ้งเครื่องนี้ไว้กับเขา เขาจะซ่อมให้ แต่ก็ยังไม่วาย มีคำพูดทำนองว่า นี่ทำไมไม่มีโทรศัพท์สำรอง ใครๆเขาก็มีกันทั้งนั้นแหละ
ตลอดเวลาที่ทำการซ่อมทั้ง2วัน ก็จะมีลูกค้าคนอื่นมายืนอยู่ แล้วเขาก็จะพูดทำนองว่าปกติเขาจะให้เครื่องเขากับลูกค้าไปยืมก่อน แต่คราวนี้เครื่องมันหมด แล้วเวลาให้ลูกค้ายืมไป มักจะถูกยึด เอาไปเลยไม่เอามาคืน ทิ้งเครื่องตัวเองไว้
แล้วก็พูดจิกๆกัดๆผมให้เพื่อนเขาหรือคนที่มายืนคอยซ่อมฟัง ว่าเนี่ย "ซ่อมเครื่องนี้ทั้งวัน อั้นฉี่ทั้งวันเพราะห้องน้ำอยู่ชั้น1 ซ่อมเครื่องผมเงินก็ไม่ได้ เงินก็เสียต้องไปซื้ออะไหล่ ต้องไปจ้างเขาเขียนโปรแกรมมา2รอบ ไม่คุ้ม" "นี่คนอื่นนะเขารอผมได้ คนนี้โทรมาบอกว่าพี่ซ่อมเลย ผมไปต่างประเทศเดี๋ยวผมมาเอาเดือนหน้า ผมนี่สบายใจมากที่ซ่อมเครื่องให้คนนู้น"
ยังมีคำพูดแบบ "อย่าให้ผมด่าคุณบ้างนะ ผมสงสาร ผมเป็นคนพูดตรงนะ"
คือบอกตรงๆโคตรรรรรอายเลยยยยยย ยืนรอแล้วโดนจิกโดนกัดแบบนั้น
"โอ้ยนี่คิดถึงลูกมาก ไม่ได้โทรหาลูกเลย วันนี้ซ่อมแต่เครื่องนี้ ไม่ได้ทำเครื่องอื่นเลย"
พอประกอบเสร็จ ผมก็รับซากกลับมา กล่าวขอบคุณและเดินจากมา